ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 61 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 1201 - 1220 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1201 | การขออนุมัติงบประมาณในการจัดนิทรรศการงาน Yeosu International Exposition 2012 | ทส | 04/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบโครงการจัดนิทรรศการ Yeosu International Exposition 2012 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒ พฤษภาคม - ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ เมืองยอซู สาธารณรัฐเกาหลี รวมทั้งรายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. เห็นชอบให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินงานจัดนิทรรศการงาน Yeosu International Exposition 2012 ภายในวงเงินรวม ๒๙๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรับไปพิจารณาทบทวนการดำเนินงานให้เป็นไปโดยประหยัดและเหมาะสม สอดคล้องกับหัวข้อหลักในการนำเสนอ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้จัดสรรให้แล้ว จำนวน ๑๘,๕๐๙,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน ๒๗๖,๔๙๑,๐๐๐ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ต่อสำนักงบประมาณ เพื่อรองรับการดำเนินงานต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรใช้โอกาสนี้เผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผ่านโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ในด้านอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่บนพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยอาจเสนอตัวอย่างโครงการในพระราชดำริที่ประสบความสำเร็จและสามารถใช้เป็นต้นแบบของการพัฒนา (success stories) ให้ประเทศอื่น ๆ ได้ รวมถึงการนำเสนอบทบาทและผลงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมด้วย ส่วนคณะกรรมการด้านสารัตถะที่จัดตั้งขึ้นแล้ว ควรเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก (eminent person) ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมในแง่บทบาทและผลงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง เข้าร่วมในคณะกรรมการฯ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
1202 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 4 ราย 1. นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ ฯลฯ) | ทส | 28/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรธรณี ๒. นางพรทิพย์ ปั่นเจริญ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๓. นางอรพินท์ วงศ์ชุมพิศ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๔. นายชำนาญ เอกวัฒนโชตกูร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||||||||
1203 | รายงานเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ ที่สหภาพพม่าและผลกระทบต่อประเทศไทย | ทส | 28/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด ๖.๗ ริกเตอร์ ที่สหภาพพม่า และผลกระทบต่อประเทศไทย สรุปได้ ดังนี้
๑. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมื่อเวลา ๒๐.๕๕ น. วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔ เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด ๖.๗ ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่ละติจูด ๒๐.๘๗ องศาเหนือ ลองติจูด ๙๙.๙๑ องศาตะวันออก ที่ระดับความลึก ๑๐ กิโลเมตร บริเวณรัฐฉาน สหภาพพม่า โดยแผ่นดินไหวครั้งนี้ รู้สึกทั่วทั้งพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และกรุงเทพมหานคร พบผู้เสียชีวิต ๑ ราย ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อาคาร บ้านเรือน โบราณสถาน ถนน และพื้นดินแตกร้าวหลายแห่ง โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ๒. กรมทรัพยากรธรณี ได้ดำเนินการเฝ้าระวังเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด ๖.๗ ริกเตอร์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยรวบรวม วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลแผ่นดินไหวเพื่อแจ้งผ่านข้อความสั้น (SMS) ให้สื่อมวลชนและเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยทราบ และดำเนินการตรวจสอบ ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากแผ่นดินไหวจากเว็บไซต์ สื่อมวลชนและเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย รวมทั้งได้จัดทำแผนที่ประเมินความรุนแรงแผ่นดินไหว ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าที่บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายมีความรุนแรงระดับ ๖ เมอร์คัลลี่ (ต้นไม้สั่น บ้านแกว่ง สิ่งปลูกสร้างบางชนิดพัง) ในขณะที่กรุงเทพมหานครมีความรุนแรงระดับ ๔ เมอร์คัลลี่ (อาคารสูงแกว่ง คนที่สัญจรไปมารู้สึกได้) แผ่นดินไหวในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากที่สุด นอกจากนี้ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนมีพลังของประเทศ โดยติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนขนาดเล็ก และเครื่องตรวจวัดอัตราเร่งของพื้นดินในจังหวัดเชียงราย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1204 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2553 | ทส | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๖/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอ โดยที่ประชุมฯ มีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อ (ร่าง) กรอบแนวคิดและทิศทางของแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) นำเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อนำประเด็นยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ภายใต้ (ร่าง) กรอบแนวคิดฯ บรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ๒. เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อมภูมิทัศน์ ตามที่คณะอนุกรรมการจัดการสิ่งแวดล้อมด้านมลทัศน์เสนอ และให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จัดทำแผนปฏิบัติการในการจัดการสิ่งแวดล้อมภูมิทัศน์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแปลงยุทธศาสตร์ฯ ไปสู่การปฏิบัติ ๓. เห็นชอบการทบทวนการกำหนดประเภทและขนาดโครงการของหน่วยงานของรัฐที่ต้องเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าเพิ่มเติม และกลไกการดำเนินงานด้านการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการต่าง ๆ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ สผ. ตรวจสอบการกำหนดประเภทและขนาดโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับป่าอนุรักษ์เพิ่มเติมให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ จำนว ๓๔ ประเภท ก่อนนำความเห็นของคณะกรรมการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๔. เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน เกี่ยวกับการควบคุมความสูงของอาคารบริเวณรอบรัฐสภาแห่งใหม่ และให้กรุงเทพมหานครประสานกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย พิจารณาดำเนินการออกประกาศกระทรวงหรือข้อบัญญัติท้องถิ่นในการควบคุมความสูงของอาคารบริเวณโดยรอบรัฐสภาแห่งใหม่เป็นการเร่งด่วน รวมทั้งให้ สผ. ประสานกรุงเทพมหานครและกรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นและมติของคณะกรรมการฯ ๕. เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ .. (พ.ศ. ๒๕๕๓) เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ สผ. จัดทำร่างประกาศฯ เสนอประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณาลงนามต่อไป ๖. เห็นชอบต่อมาตรการเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนเรื่องน้ำมัน Euro 4 ให้กระทรวงพลังงานพิจารณาส่งเสริมให้มีการนำมาใช้ในพื้นที่มาบตาพุดก่อนกำหนดที่บังคับใช้ตามกฎหมาย (วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕) และให้กระทรวงพลังงาน โดยกรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดระยอง และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินการตามมาตรการเพิ่มเติมฯ โดยให้กรมควบคุมมลพิษประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรายงานผลการดำเนินการให้คณะกรรมการฯ ทราบทุก ๖ เดือน รวมทั้งให้ สผ. แจ้งกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สผ. เพื่อเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง และรายงานผลการดำเนินการให้คณะกรรมการฯ ทราบต่อไป ๗. เห็นชอบรายงานการศึกษาทบทวนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยรี จังหวัดอุตรดิตถ์ และให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการศึกษาทบทวนรายงานการวิเคราะห์ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กรมชลประทานรับผิดชอบในการขอจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ๘. เห็นชอบกับรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น ๔ ช่องจราจร (ระยะที่ ๒) ทางหลวงหมายเลข ๔ สายตรัง - พัทลุง ตอน บ้านนาโยงเหนือ - เขาพับผ้า (บ้านนาวง) ของกรมทางหลวง ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคม ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมกับเอกชน โดยให้กรมทางหลวงถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้กรมทางหลวงปฏิบัติตามมาตรการฯ เพิ่มเติมใน ๓ มาตรการ ได้แก่ การตัดต้นไม้ในเขตทางให้ดำเนินการเฉพาะเท่าที่จำเป็น โดยไม่ให้ตัดต้นไม้นอกเขตพื้นผิวจราจรที่จะก่อสร้าง กำกับดูแลในระหว่างจัดเตรียมพื้นที่และการก่อสร้างมิให้ขุดตักดินในเขตทางและบริเวณใกล้เคียงมาใช้ในการก่อสร้างและให้คงสภาพตามลักษณะภูมิประเทศเดิม และกำกับผู้รับจ้างออกแบบก่อสร้าง และ/หรือผู้ดำเนินการก่อสร้างให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลโครงการด้วย ๙. เห็นชอบรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย สผ. แจ้งจังหวัดกระบี่และจังหวัดพังงาเพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมต่อไป ๑๐. เห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ หินอุตสาหกรรม ชนิดหินปูนเพื่อทำปูนขาว และหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ของบริษัท สหศิลาเพิ่มพูน จำกัด คำขอประทานบัตรที่ ๑๕/๒๕๕๑ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๙ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมถลุงหรือแต่งแร่ ทั้งนี้ ให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ และให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่นำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ ไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการสั่งอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ของบริษัทฯ โดยให้ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยแร่ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1205 | สรุปผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 16 (COP16) และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 6 (CMP6) ณ เมืองแคนคูน สหรัฐเม็กซิโก | ทส | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๑๖ (The 16th United Nations Climate Change Conference : COP16) และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๖ (The 6th Session of the Conference of the Parties serving as the meeting of the Parties to the Kyoto Protocol : CMP6) ณ เมืองแคนคูน สหรัฐเม็กซิโก ระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน - ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ โดยสาระสำคัญของการประชุม COP16 ที่ประชุมเห็นชอบกับข้อตกลงที่เรียกว่า “ข้อตกลงแคนคูน” (Cancun Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือระยะยาวภายใต้อนุสัญญาฯ (Long Term Cooperative Action under the Convention : LCA) โดยมีการเจรจาในประเด็นการดำเนินการในอนาคตร่วมกันของประเทศสมาชิก ส่วนการเจรจาในภาพรวมภายใต้แผนปฏิบัติการบาหลี (Bali action Plan) ได้กำหนดเป้าหมายในการจำกัดการเพิ่มของอุณหภูมิของโลกไม่เกิน ๒ องศาเซลเซียส โดยให้มีการจัดตั้งกองทุน “Green Clemate Fune” เพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวเพื่อรับมือจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และให้สนับสนุนการดำเนินงานด้านป่าไม้แก่ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะการสนับสนุน REDD+ ไปพัฒนาโครงการในลักษณะสมัครใจ โดยไม่มีการผูกมัดใด ๆ จากประเทศพัฒนา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเกี่ยวกับการจัดตั้งกระบวนการ International Consultation and Analysis (ICA) และให้มีการดำเนินการตามมาตราการ Measurement, Reporting and Verification : MRV สำหรับการลดก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการสนับสนุนระหว่างประเทศและภายในประเทศ ส่วนผลการประชุม CMP6 ที่ประชุมมีความเห็นพ้องให้มีข้อตกลงตามพันธกรณีรอบที่สอง โดยประเทศกำลังพัฒนายืนยันให้มีการต่ออายุพิธีสารเกียวโตหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๒ และให้มีการลดก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ ๒๕ - ๔๐ ภายในปี ค.ศ. ๒๐๒๐ สำหรับปีฐานการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังคงใช้ปี ค.ศ. ๑๙๙๐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับเอกสารผลการประชุม COP 16 ได้ละเว้นการกล่าวอ้างถึงหลักการสำคัญ ๆ ของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะเรื่อง historical responsibility ซึ่งเป็นผลประโยชน์สำคัญของประเทศกำลังพัฒนา จึงเห็นควรติดตามประเด็นเหล่านี้อย่างใกล้ชิด และควรเร่งรัดการจัดตั้งสำนักงานประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้นอย่างเป็นทางการ และส่งเสริมการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในประเด็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพันธกรณีที่ไทยมีกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อสามารถร่วมกันกำหนดท่าทีของไทยในเชิงรุกทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีให้มากขึ้น เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ๓. เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานของประเทศไทยเพื่อให้เกิดการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๓.๑ เตรียมความพร้อมในการรับมือหากประเทศไทยต้องมีการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากพันธกรณีดังกล่าว เช่น ภาคการพลังงาน ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร โดยให้มีการจัดทำกรอบทิศทางและแนวทางการวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศอย่างเป็นระบบ ๓.๒ ให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility study) และศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคต่าง ๆ (Nationalily Approplate Mitigation Actions : NAMAs) เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการวางแผนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๓.๓ ให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility study) ของการดำเนินโครงการ REDD+ ในประเทศไทย ๓.๔ ให้มีการใช้ประโยชน์จากกลไก The ASEAN Working Group on Climate Change : AWGCC ในการผลักดันการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับภูมิภาคให้เป็นรูปธรรม โดยให้มีการจัดประชุมคณะทำงานดังกล่าวเพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับภูมิภาค ๓.๕ เร่งรัดการจัดตั้งสำนักงานประสานการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้เป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน ๔. เห็นชอบในหลักการการจัดตั้งสำนักงานประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้เป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน โดยให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ เรื่อง การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
1206 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง การดำเนินการของรัฐต่อการคิดค่าความเสียหายจากประชาชนในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน | ทส | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) รับความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง การดำเนินการของรัฐต่อการคิดค่าความเสียหายจากประชาชนในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ไปพิจารณาในรายละเอียดรวมกับเรื่องข้อเสนอเพื่อการปฏิรูป ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (เรื่อง ข้อเสนอเพื่อการปฏิรูป) แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
1207 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ (เพิ่มเติม) (นายฐากร ตัณฑสิทธิ์) | ทส | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ มีนาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1208 | การทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง | ทส | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. ให้คงคณะกรรมการไว้ จำนวน ๑๐ คณะ ได้แก่ ๑.๑ คณะกรรมการอำนวยการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ ๕๐ ๑.๒ คณะกรรมการบริหารโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ ๕๐ ๑.๓ คณะกรรมการกองทุนโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ ๕๐ ๑.๔ คณะกรรมการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ ๕๐ ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ๑.๕ คณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ๑.๖ คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติ ๑.๗ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ๑.๘ คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ๑.๙ คณะกรรมการกำหนดราคา ค่าขนย้าย ค่ารื้อย้าย อาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ยืนต้น พืชล้มลุก ๑.๑๐ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ โดยเพิ่มผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นกรรมการด้วย ๒. ยกเลิกคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ เนื่องจากโครงการได้สิ้นสุดการดำเนินงานตามระยะเวลาที่กำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||
1209 | รายงานสถานการณ์น้ำในรอบสัปดาห์ (วันที่ 8 - 14 มีนาคม 2554) | ทส | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสถานการณ์น้ำในรอบสัปดาห์ (วันที่ ๘ - ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔) สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์น้ำในภาพรวม สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณร้อยละ ๕๙ อยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับเขื่อนที่มีปริมาณน้ำมาก โดยมีน้ำมากกว่าร้อยละ ๘๑ คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนลำตะคอง เขื่อนกระเสียว เขื่อนประแสร์ และเขื่อนบางลาง ส่วนเขื่อนที่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย โดยมีน้ำน้อยกว่าร้อยละ ๓๐ คือ เขื่อนทับเสลา เขื่อนปราณบุรี และเขื่อนแก่งกระจาน ในส่วนของสภาพน้ำในแม่น้ำสายสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งเป็นระดับปกติในฤดูร้อน ๒. สถานการณ์ภัยแล้ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (ภัยแล้ง) จำนวน ๔๒ จังหวัด สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ ได้จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำและช่วยเหลือภัยแล้งในพื้นที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค ๑ - ๑๐ ตั้งอยู่ที่จังหวัดลำปาง สระบุรี หนองคาย ขอนแก่น นครราชสีมา ปราจีนบุรี ราชบุรี สงขลา พิษณุโลก และสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์น้ำ โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภค - บริโภค และจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำและสนับสนุนชุดประปาเคลื่อนที่เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งของหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้และกรมควบคุมมลพิษ ได้เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องและกำลังคน เพื่อช่วยเหลือด้านน้ำอุปโภค - บริโภค และการเกษตรบางส่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
1210 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (จำนวน 7 ราย 1.นายศิริ เกวลินสฤษดิ์ ฯลฯ) | ทส | 14/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ จำนวน ๗ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิลำดับที่ ๑ - ๖ ให้แต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ครบวาระให้มีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี ส่วนลำดับที่ ๗ แต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ถึงแก่อนิจกรรมให้มีวาระการดำรงตำแหน่งถึงวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ (เท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายศิริ เกวลินสฤษดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายที่ดิน ๒. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดที่ดินตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ๓. นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวางผังเมือง ๔. นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๕. นายพจน์ สุขมหา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายที่ดิน ๖. นายพยุง นพสุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรป่าไม้และการใช้รูปถ่ายทางอากาศ ๗. นายโชติ ตราชู ผู้ทรงคุณวุฒิด้านน้ำบาดาล (แต่งตั้งแทนนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช)
|
|||||||||||||||||||||||||||
1211 | การเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Climate Change Talks, Bangkok) | ทส | 14/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ประเทศไทย โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Climate Change Talks, Bangkok) ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ องค์การสหประชาชาติ กรุงเทพฯ ตามวันและเวลาที่สำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำหนด (ในระหว่างวันที่ ๓๐ มีนาคม - ๘ เมษายน ๒๕๕๔) ๒. เห็นชอบหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้ยกร่างขึ้น และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนดังกล่าว (Host Country Agreement)
|
|||||||||||||||||||||||||||
1212 | การปรับปรุงซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย | ทส | 08/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติยให้กระทรวงมหาดไทยรับเรื่อง การปรับปรุงซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ไปประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อมูลและเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยังไม่ได้ดำเนินการหรืออยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเองเป็นลำดับแรก และหากมีความจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ก็ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณตามโครงการช่วยเหลือฟื้นฟูความเสียหายจากภัยพิบัติด้านอุทกภัยของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยให้เสนอขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
1213 | บริษัท สหศิลาเพิ่มพูล จำกัด ขอเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพระพุทธบาทและป่าพุแค เพื่อขอรับโอนประทานบัตรเหมืองแร่ประทานบัตรที่ 24828/13873 ท้องที่จังหวัดสระบุรี | ทส | 01/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบผ่อนผันและขยายระยะเวลาให้บริษัท สหศิลาเพิ่มพูล จำกัด เข้าทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เอ็ม เป็นการเฉพาะราย จนถึงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดอายุประทานบัตรของผู้ขอรายนี้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้บริษัท สหศิลาเพิ่มพูล จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ของบริษัทฯ ในคราวการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ อย่างเคร่งครัด และให้กำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมในเรื่องการมีส่วนร่วมและการยอมรับของประชาชนและท้องถิ่น รวมทั้งมีมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ซึ่งเป็นข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1214 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (จำนวน 9 ราย 1. นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ฯลฯ) | ทส | 01/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ชุดใหม่ จำนวน ๙ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ มีนาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานกรรมการ ๒. นายสมชัย อภิวัฒนพร กรรมการ ๓. นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา กรรมการ ๔. นายบุญนำ นิกรเทศ กรรมการ ๕. นายสุวิทย์ วิชชาวุธ กรรมการ ๖. นายวรสิทธิ์ เติมจิตรอารีย์ กรรมการ ๗. นายอำนาจ เดชะ กรรมการ ๘. ร้อยตรี กฤษฎา การุญ กรรมการ ๙. นางอุไร ร่มโพธิหยก กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง
|
|||||||||||||||||||||||||||
1215 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ (เพิ่มเติม) (นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์) | ทส | 01/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ มีนาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1216 | ขอแก้ไขข้อความการระบุกลุ่มเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน (การแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า 13 นิคมสหกรณ์) | ทส | 22/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบการขอแก้ไขข้อความการระบุกลุ่มเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน (การแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า ๑๓ นิคมสหกรณ์) ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เสนอเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.๑ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๔ ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย คือ “สมาชิกผู้เช่าที่ดินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า” เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เรียกร้องการแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า ๑๓ นิคมสหกรณ์ ต่อเนื่องมาโดยตลอด และสอดคล้องกับการดำเนินการของคณะกรรมการศึกษาแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า ๑๓ นิคมสหกรณ์ อีกทั้งการพิจารณาให้สิทธิจะได้เฉพาะสมาชิกนิคมสหกรณ์การเช่าที่ดินตามข้อมูลบัญชีรายชื่อสมาชิกนิคมสหกรณ์การเช่าที่ดินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) เท่านั้น ๑.๒ ขอขยายระยะเวลาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๔ ที่มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการศึกษาแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิฯ ดำเนินการสำรวจและจัดทำข้อมูลรายละเอียดในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีก่อนสิ้นเดือนกุมภาพัน์ ๒๕๕๔ ออกไปอีก ๑ เดือน ๒. ทั้งนี้ ยังให้คงข้อความการระบุกลุ่มเป้าหมาย “สมาชิกผู้เช่าที่ดินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า“ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๔ |
|||||||||||||||||||||||||||
1217 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (กรณีอำเภอหัวหินและอำเภอปราณบุรี) | ทส | 22/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการตามโครงการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (กรณีอำเภอหัวหินและอำเภอปราณบุรี) สรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมตรวจสอบควบคุมเฝ้าระวังการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย ใช้งบประมาณจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ๒. กิจกรรมการติดตาม ประเมินผล อำนวยการ และประชาสัมพันธ์ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย ใช้งบประมาณจำนวน ๒๕๐,๐๐๐ บาท ๓. กิจกรรมจัดสร้างและวางปะการังเทียม ได้ดำเนินการก่อสร้างหล่อแท่งคอนกรีต (ปะการังเทียม) เสร็จเรียบร้อย และอยู่ในขั้นตอนการวางปะการังเทียมในพื้นที่เป้าหมาย ใช้งบประมาณจำนวน ๒๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยจ้างบริษัท แสงวิชัยวัสดุก่อสร้าง จำกัด จัดวางปะการังเทียมในอำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ๔. กิจกรรมทำความสะอาดบ้านปลา ดำเนินการที่ท่าเทียบเรือประมงหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และที่สวนสน กลุ่มประมงเรือเล็กปากคลองปราณ อำเภอปราณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ใช้งบประมาณจำนวน ๒๕๐,๐๐๐ บาท ๕. กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ดำเนินการที่ท่าเทียบเรือประมงหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และที่สวนสน กลุ่มประมงเรือเล็กปากคลองปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ใช้งบประมาณจำนวน ๒๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ๖. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ พบว่าการให้ความเห็นชอบและอนุญาตตามกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล่าช้า โดยการอนุญาตเปลี่ยนแปลงแก้ไขที่จับสัตว์น้ำตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ และการอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมประมง และกรมเจ้าท่า ตามลำดับ อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาต ในส่วนของกองทัพเรือได้ให้ความเห็นชอบจุดพิกัดเรียบร้อยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
1218 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา) | ทส | 22/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
1219 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ดังนี้
๑. เพิ่มเติมให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นรองประธานกรรมการคนที่ ๒ เนื่องจากมีภารกิจรับผิดชอบด้านกิจการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศในภาพรวม ๒. เพิ่มเติมกรรมการโดยตำแหน่งอีกห้าตำแหน่ง คือ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปลัดกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามภารกิจที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน ๓. เพิ่มเติมให้ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคนที่ ๒
|
|||||||||||||||||||||||||||
1220 | ขออนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 12 การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 11 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ ๑๒ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+๓ ครั้งที่ ๑๑ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาและสถานที่จัดประชุม ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมตามข้อ ๑ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำรายละเอียดและเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามความเหมาะสมและจำเป็น ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|