ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 67 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 1321 - 1340 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1321 | การลงนามให้สัตยาบันในข้อตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ | ทส | 26/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1.1 ให้ประเทศไทยให้สัตยาบันในข้อตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทาง ชีวภาพ และให้นำเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป 1.2 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ให้ต่อไป 2. สำหรับค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ ฯ ประมาณ 100,000 ยูโร หรือเป็นเงิน 4,500,000 บาท ซึ่งประเทศสมาชิกสามารถแบ่งจ่ายสมทบได้นั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบเงินอุดหนุน รายการเงินอุดหนุนศูนย์ อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ จำนวน 1,550,000 บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน 2,950,000 บาท ให้ ตั้งงบประมาณต่อเนื่องในปีถัดไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1322 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2552 | ทส | 26/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยา
กรน้ำแห่งชาติเสนอสรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการจัดงานวันน้ำโลก ในภาคต่าง ๆ ทั้ง 4 ภาค ใช้ชื่อโครงการ "คุณภาพน้ำ คุณภาพชีวิต : ความท้าทาย และโอกาส" เนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแห่งชาติและวันน้ำโลก และให้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการเพื่อช่วยในการจัดงาน โดยรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกรรมการไปพิจารณาดำเนินการด้วย 2. ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วย งานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. .... และรวบรวมความคิดเห็นนำเสนอ ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อเสนอไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 3. ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ รวบรวมจำนวนหมู่บ้านที่ยังไม่มีระบบประปา พร้อมทั้งให้จัดลำดับ ความสำคัญที่ต้องดำเนินการเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นข้อ มูลในการพิจารณา ทั้งนี้ หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดที่ไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับระบบประปาหมู่บ้าน ได้ ให้เสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบให้หน่วยงานที่มีความพร้อมเข้ามาสนับ สนุนการดำเนินการ และหากไม่มีงบประมาณดำเนินการจะได้พิจารณาหาแหล่งงบประมาณ 4. ที่ประชุมมีมติรับทราบเกี่ยวกับโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และมอบ ให้กรมชลประทานรับไปศึกษาเพิ่มเติมและพิจารณาว่าจะสามารถนำโครงการดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการดำเนิน การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบได้อย่างไร พร้อมทั้งนำเสนอเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระ ยาทั้งระบบของกรมชลประทานในการประชุมครั้งต่อไป 5. ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานสรุปการเกิดอุทกภัยในปี พ.ศ. 2552 และผลการดำเนินงานของคณะ อนุกรรมการติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมความพร้อมด้านอุทกภัย 6. ที่ประชุมมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 253/2552 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 เรื่องแต่งตั้งผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่ง ชาติเพิ่มเติม 7. ที่ประชุมมีมติรับทราบมติคณะรัฐมนตรีและการดำเนินงานตามมติที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากร น้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2552 และให้กระทรวงมหาดไทยติดตามการดำเนินการของแต่ละจังหวัดในเรื่องห้ามไม่ให้ มีการปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ชุ่มน้ำ และตรวจสอบการดำเนินการก่อสร้างอาคารวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย ราชภัฏในพื้นที่ชุ่มน้ำจังหวัดพิษณุโลก 8. ที่ประชุมมีมติรับทราบและเห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ นำเสนอเรื่องที่หน่วยงานต่าง ๆ ขอความ เห็นจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติในระหว่างที่ไม่มีการประชุม ให้เสนอประธานกรรมการ ฯ พิจารณา สั่งการหรือให้ความเห็น และนำมาเสนอคณะกรรมการ ฯ ทราบในการประชุมครั้งต่อไป 9. ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานรายละเอียดโครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกัก น้ำจังหวัดระยอง โดยให้กรมชลประทานดำเนินการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ครอบ คลุมเพิ่มเติมทั้งลุ่มน้ำก่อนดำเนินการก่อสร้างโครงการ 10. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและหลัก เกณฑ์การนำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ 11. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานจัดประชุมของคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้น ฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงฟื้นฟูบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร และให้ประธานอนุกรรมการอนุ รักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำติดตามการดำเนินงานมานำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป 12. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการจัดสรรน้ำสำหรับภาคการใช้น้ำด้าน ต่าง ๆ 13. ที่ประชุมมีมติมอบให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ รับไปพิจารณาการจัดทำตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1323 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 11 (11th ASEAN Ministerial Meeting on the Environment - AMME) และ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 8 (8th ASEAN+3 Environment Ministers Meeting) | ทส | 26/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอรายงานสรุปผลการประชุม
รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 11 (11th ASEAN Ministerial Meeting on the Environment- AMME) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 8 (8th ASEAN+3 Environment Ministers Meet ing) ระหว่างวันที่ 26-30 ตุลาคม 2552 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. การประชุมรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 11 ที่ประชุม ฯ ให้การรับรองหลักการกล ไกของอาเซียนในการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบการทิ้งน้ำเสียและของเสียจากเรือบรรทุกน้ำมันลงสู่ทะเลอย่าง ผิดกฎหมาย และเห็นชอบ TOR ของ ASEAN Climate Change Initiative และการจัดตั้งคณะทำงานอาเซียนด้านการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Working Group on Climate Change) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาค อย่างใกล้ชิดและตอบสนองต่อความพยายามของโลกในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งเห็นชอบต่อ ร่างฉบับสุดท้าย China-ASEAN Cooperation Strategy on Environmental Protection และขอให้สำนักเลขาธิการ อาเซียนส่งร่าง ฯ ที่ได้รับความเห็นชอบแล้วให้จีนและสามารถให้การรับรองต่อไปโดยวิธี ad-referendum นอกจาก นี้ที่ประชุม ฯ ได้พิจารณาและรับรอง Singapore Resolution on Environmental Sustainability and Climate Change 2. การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 8 ที่ประชุม ฯ มีความเห็นเกี่ยวกับการแสวงหา รูปแบบเพื่อให้ความร่วมมือมีความก้าวหน้าภายใต้กรอบความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียน+3 โดยมีพื้นฐานความ สนใจร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียน+3 มีความก้าวหน้า และเป็นการเพิ่มคุณค่าของโครง การความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียน+1 ที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และรับทราบว่าญี่ปุ่นเสนอความร่วม มือ 3 สาขา ได้แก่ สุขอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เกิดจาก Persistent Organic Pollutants-POPs และปรอท การจัดการ ของเสียอันตราย การใช้กระบวนการ 3R และสิ่งแวดล้อมศึกษา รวมทั้งข้อเสนอโครงการเสริมสร้างสมรรถนะด้าน อนุกรมวิธานและระบบการจัดการสำหรับการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่ง ยืน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1324 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2552 | ทส | 26/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติการประชุมคณะกรรม
การสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2552 โดยมีเรื่องที่สำคัญรวม 9 เรื่อง ดังนี้ 1. ข้อเสนอแนวทางการสนับสนุนงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรุงเทพมหานคร ด้านการจัดการน้ำเสียชุมชนและการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน 2. โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกและถมทะเลระยะที่ 1 บริเวณปากคลองปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล 3. โครงการทางพิเศษสุวรรณภูมิ (โครงการ M1) 4. โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานพังงา ตำบลเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา 5. โครงการเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด คำขอประทานบัตรที่ 1/2548 ร่วมแผนผังโครงการทำเหมืองเดียวกันกับคำขอประทานบัตรที่ 2/2548 ถึง 19 /2548 รวม 19 แปลง ตั้งอยู่ที่ตำบลที่วัง ตำบลชะมาย และตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 6. การกำหนดมาตรฐานค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในบรรยากาศโดยทั่วไป 7. มาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียซึ่งมีสาร 1,2-ไดคลอโรอีเทนและสารไวนิลคลอไรด์จาก อุตสาหกรรมเคมี 8. มาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน 9. การแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่มาบตาพุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1325 | หนังสือแสดงท่าทีของไทยต่อ Copenhagen Accord | ทส | 26/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการหนังสือแสดงท่าทีของไทยต่อ Copenhagen Accord ตามที่กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงการ ต่างประเทศดำเนินการปรับปรุงถ้อยคำในหนังสือแสดงท่าที ฯ ดังกล่าว ให้เหมาะสมและเป็นไปในทางบวกมากยิ่ง ขึ้น ก่อนจัดส่งไปยังสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1326 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลดและนำของเสียมาใช้ประโยชน์ พ.ศ. .... | ทส | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลดและนำของเสียมาใช้ประโยชน์ พ.ศ. .... ตาม
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายไปพิจารณารวมกับ ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ของกระทรวงการคลัง โดยให้ เชิญผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมพิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1327 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2551 2550 และ 2549 | ทส | 12/01/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอรายงานของผู้สอบ
บัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 2550 และ 2549 ดังนี้ 1. งบแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 4,998,245,479.40 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน รวม 40,660,872.41 บาท รวมสินทรัพย์ 5,038,906,351.81 บาท หนี้สินหมุนเวียนรวม 6,460,830.99 บาท รวมสินทรัพย์สุทธิ 5,032,445,520.82 บาท 2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการดำเนินงาน 1,122,563,743.55 บาท มีค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงาน 96,111,570.87 บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม 1,026,452,172.68 บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1328 | ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ | ทส | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอว่า ได้ดำเนินการปรับปรุง
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางใน การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน อย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ในข้อ 3 และ ข้อ 6 ให้ถูกต้องตามพระ ราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่ง ชาติ ในการประชุมครั้งที่ 6/2552 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 เรียบร้อยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1329 | ปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ | ทส | 22/12/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ปี พ.ศ. 2553 เป็นปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย เพื่อเป็นการ ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ ปี ค.ศ. 2010 หรือ พ.ศ. 2553 เป็นปีสากลแห่ง ความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อกระตุ้นให้ประชากรทุกกลุ่มและทุกสาขาอาชีพตระหนักในคุณค่าความสำคัญของ ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน และเห็นชอบต่อแผนปฏิบัติการปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่ครอบคลุมการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างยั่งยืนทุกด้าน ตลอดจนเป็นจุดนำที่สนับสนุนการสร้างความรู้รักสามัคคีปรองดองให้แก่คนในชาติ โดยใช้กิจ กรรมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นตัวเชื่อม และให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณ ให้แก่หน่วยงานในสังกัดสามารถดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ฯ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์เผยแพร่เพื่อสร้างความรู้และความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุ รักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ อยู่ในพื้นที่และมีความเกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งความเห็นของสำนักงบ ประมาณ ที่ควรเร่งผลักดันและขับเคลื่อนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามนโยบายมาตรการ และแผน การอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2551-2555 และข้อสังเกตของเลขาธิ การคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการแบ่งปันผลประโยชน์ และการเข้าถึงทรัพยา กรทางชีวภาพของประชาชน การจัดเก็บข้อมูลและจดทะเบียนความหลากหลายทางชีวภาพชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในส่วนของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1330 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในท้องที่อำเภอท่าปลา และอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนางพญา ตำบลน้ำหมัน ตำบลท่าปลา ตำบลจริม ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา และตำบลบ้านด่านนาขาม ตำบลขุนฝาง ตำบลวังดิน อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ | ทส | 22/12/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม
ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในท้องที่อำเภอท่าปลา และอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัด อุตรดิตถ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองใน ท้องที่อำเภอท่าปลา และอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. 2528 โดยยกเลิกแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา และปรับปรุงแนวเขตนิคมสร้างตนเองตามพระราชกฤษฎีกา ฯ เสียใหม่ให้ถูกต้อง เพื่อจัดให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จากการสร้างเขื่อนสิริกิตติ์ให้ได้รับสิทธิโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายที่ได้รับการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนางพญา ตำบลน้ำหมัน ตำบลท่าปลา ตำบลจริม ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา และตำบลบ้านด่านนาขาม ตำบลขุนฝาง ตำบลวังดิน อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ 862 (พ.ศ. 2522) ออก ตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และกำหนดเขตป่าสงวนแห่งชาติเสียใหม่ ในท้องที่ตำบล นางพญา ตำบลน้ำหมัน ตำบลท่าปลา ตำบลจริม ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา และตำบลบ้านด่านนาขาม ตำบล ขุนฝาง ตำบลวังดิน อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายในแนวเขตที่เพิกถอนตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1331 | รายงานสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ International Workshop A Forgotten Crisis : "Arresting Wildlife Depletion in Asia through Strengthened Regional Cooperation and Effective Partnerships" | ทส | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการประชุมเชิง
ปฏิบัติการ International Workshop A Forgotten Crisis : "Arresting Wildlife Depletion in Asia through Streng thened Regional Cooperation and Effective Partnerships" ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-12 เมษายน 2552 ที่จังหวัด ชลบุรี สรุปได้ดังนี้ ที่ประชุมได้มีการจัดทำร่างประกาศเจตนารมณ์ เพื่อการต่อต้านอาชญากรรมเกี่ยวกับสัตวป่าและ พืชป่าในภูมิภาคเอเชีย (Draft Manifesto on Combating Wildlife Crime in Asia) โดยผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียนำไปสู่การปฏิบัติ และได้หารือและกำหนดแนวทางที่จะเพิ่มและขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับ ต่าง ๆ เพื่อการร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านสัตว์ป่าและพืชป่าในภูมิภาค รวมทั้งการขยาย ความร่วมมือของเครือข่าย ASEAN-WEN ไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ (SA-WEN) และขยายเป็นเครือข่ายในภูมิภาคเอเชีย (Asia-WEN) นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องการอนุรักษ์เสือ (Year of Tiger Summit 2010) โดย ประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีของประเทศในเอเชียเรื่อง การอนุรักษ์เสือ โดยมีกำหนด จัดเตรียมการประชุมในช่วงปลายปี พ.ศ. 2552
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1332 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมการรับจ้างให้บริการบำบัดน้ำเสียและการควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย พ.ศ. .... | ทส | 08/12/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมการรับจ้างให้บริการบำบัดน้ำเสียและ
การควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาต คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต การควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การสั่งพักใช้และ เพิกถอนใบอนุญาต รวมทั้งการเสียค่าธรรมเนียมการขอและการออกใบอนุญาตเป็นผู้รับจ้างให้บริการบำบัดน้ำเสีย หรือเป็นผู้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย 2. กำหนดอัตราค่าบริการบำบัดน้ำเสียที่ผู้รับจ้างให้บริการบำบัดน้ำเสียจะเรียกเก็บ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1333 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมนัดพิเศษ เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ทส | 01/12/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมนัดพิเศษ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ ซึ่งจัดขึ้นที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2552 สรุปได้ดังนี้ ที่ประชุม ฯ ได้ ร่วมกันพิจารณาถึงความก้าวหน้าการเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเห็นควรร่วมมือกันเพื่อให้ ผลการเจรจาที่กรุงโคเปนเฮเกน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7-18 ธันวาคม 2552 ประสบความสำเร็จ แต่ยังมีข้อกังวลว่า การเจรจาดังกล่าวจะไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยเฉพาะการไม่บรรลุข้อตกลงของแผนปฏิบัติการบาหลี (Bali Action Plan) ที่รับรอง ณ เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในปี พ.ศ. 2550 นอกจากนี้ ที่ประชุม ฯ ได้มีการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่า จะทำอย่างไรจึงจะสามารถสนับสนุนกระบวนการเจรจาที่ต้องการให้มีการแก้ปัญหา ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งระยะกลางและระยะยาว รวมทั้งความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ต่ออาเซียนเพื่อทำความเข้าใจต่อข้อตกลงของประเทศพัฒนาแล้วในเรื่องเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือน กระจก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเงิน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเสริมสร้าง ขีดความสามารถ พร้อมทั้งได้ตกลงร่วมกันว่าจะร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านกรอบการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาเซียน (ASEAN Climate Change Initiative : ACCI) และคณะทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาเซียน (ASEAN Working Groupon Climate Change : AWGCC) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องเพื่อดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1334 | ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2552 | ทส | 01/12/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เสนอผลการประชุมคณะ
กรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2552 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาและ รับทราบเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้ 1. เรื่อง สถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมรับอุทกภัย 2. เรื่อง มติคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ครั้งที่ 1/2552 3. เรื่อง แผนยุทธศาสตร์การบริหารองค์กรจัดการลุ่มน้ำ 4. เรื่อง การจัดทำแผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการ 5. เรื่อง ข้อเสนอจากการประชุมหารือผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 6. เรื่อง รายงานผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์การ นำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ 7. เรื่อง รายงานผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้น ที่ชุ่มน้ำ 8. เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2552 เมื่อ วันที่ 15 กรกฎาคม 2552 9. เรื่อง สรุปผลการสัมมนาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำแบบบูรณาการ 10. เรื่อง การจัดประชุม Asia Pacific Water Forum
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1335 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 5 ราย 1. นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ ฯลฯ) | ทส | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 5 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้น ไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1. นายศิริพงษ์ หังสพฤกษ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรน้ำ 3. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช 4. นางนิศากร โฆษิตรัตน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5. นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1336 | ขออนุมัติจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมนัดพิเศษ เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ทส | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 1.1 เห็นชอบให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพในการ จัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมนัดพิเศษ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในระหว่างวันที่ 28- 29 พฤศจิกายน 2552 ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1.2 เห็นชอบอนุมัติวงเงินงบประมาณ จำนวน 3,500,000 บาท โดยมอบให้สำนักงบประมาณ และ กระทรวงการคลังพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อ สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว 2. ในส่วนของงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ให้กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1337 | การดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ทส | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอขอแก้ไขเป้าหมาย การลดก๊าซเรือนกระจกในเอกสารท่าทีและกรอบการเจรจาของประเทศไทย ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสห ประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties : COP) ณ กรุงโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก แนบท้ายหนังสือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด่วนที่สุด ที่ ทส 1014/ 2856 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 ข้อ 1.1 จาก "... ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40" เป็น "... อยู่ระหว่างร้อยละ 25- 40" และข้อ 2.2.2 จาก "... ซึ่งอาจไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ..." เป็น "... ซึ่งอาจไม่น้อยกว่าร้อยละ 25-40 ..." และ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแถลงเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภา 2. กรณีที่หน่วยงานใดจะต้องไปประชุมหรือเจรจาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ให้ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1338 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 1 สิงหาคม 2543 เรื่อง ทะเบียนรายนามพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ และระดับชาติของประเทศไทย และมาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ | ทส | 03/11/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 4 พฤษภา คม 2552 เรื่อง การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2543 เรื่อง ทะเบียนรายนามพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความ สำคัญระดับนานาชาติ และระดับชาติของประเทศไทย และมาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ตามที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ ที่เห็นควรศึกษาและพัฒนาปรับปรุงกฎหมายด้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งระบบโดยบูรณาการเรื่องที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน เช่น ทรัพยากรป่าไม้ การจัด การพื้นที่ชุ่มน้ำ การจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำ และการควบคุมมลพิษ เป็นต้น การสร้างความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์ จากการขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต การติดตามประเมินผลการดำเนินการ ตามมาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงเพิ่มเติม ทะเบียนรายนามพื้นที่ชุ่มน้ำ รวมทั้งมีมาตรการด้านการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำที่ถูกบุกรุกทำลายทั้งระบบเพื่อให้เกิดการ ใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างยั่งยืนโดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานระดับท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ และการ กำหนดหน่วยงานรับผิดชอบตามมาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ ควรศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวด ล้อมกับความมั่นคงของรัฐ และความไม่มั่นคงของประชาชน ความขัดแย้งจากการแย่งชิงและการใช้สอยทรัพยากรสิ่ง แวดล้อมต่าง ๆ ในพื้นที่ในสภาวะของการมีทรัพยากรจำกัด ขาดแคลน และมีสภาพเสื่อมโทรมลง รวมถึงการรณรงค์ ให้ความรู้ ทำความเข้าใจ และสร้างจิตสำนึกของประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในพื้นที่เพื่อให้เกิดความร่วมมือ ในการฟื้นฟู เฝ้าระวัง มีการประเมินความรู้สึกและความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการดำเนินการตามมติดังกล่าว ไปพิจารณา หากสมควรปรับปรุงมาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำประการใดให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1339 | การดำเนินการโครงการออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ | ทส | 03/11/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการศึกษาสำรวจเพื่อ ประเมินสภาพเชิงวิศวกรรม ความเสียหาย และมูลค่าของความเสียหายของสิ่งก่อสร้างภายใต้โครงการออกแบบ รวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ และนำผลการดำเนินการ ดังกล่าว ไปใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาเสนอความเห็นต่อรัฐสภาเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินโครง การออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการต่อไป ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. อนุมัติค่าใช้จ่ายในการศึกษาสำรวจเพื่อประเมินความเสียหายดังกล่าว จำนวน 15 ล้านบาท จาก งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้กรมควบคุมมลพิษขอทำความตกลงในราย ละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 3. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วย ดังนี้ การดำเนินการระบบบำบัดน้ำเสียตามโครงการ ฯ ต้องมีการวางระบบป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับระบบ นิเวศน์ จึงเห็นควรดำเนินการศึกษาสำรวจเพื่อประเมินผลกระทบทางด้านสุขภาพ (Health Impact Assessment : HIA) และการประเมินความเสียหายและมูลค่าของความเสียหายของสิ่งก่อสร้างภายใต้โครงการ ฯ ควรจำแนก ความเสียหายออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป และความเสียหายจากการ ถูกลักทรัพย์ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1340 | รายงานผลการสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นกรรมการมรดกโลกของราชอาณาจักรไทย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ในฐานะรองประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกและหัวหน้าคณะผู้แทนไทย | ทส | 03/11/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการเลือกตั้งกรรมการมรดกโลก (World Heritage Committee) วาระปี ค.ศ. 2009 -2013 ในวันที่ 26 ตุลาคม 2552 แทนตำแหน่งที่ว่างจำนวน 12 ที่นั่ง สรุปได้ดังนี้ 1.1 ที่นั่งสำรอง จำนวน 1 ที่นั่ง สำหรับกลุ่มประเทศที่ไม่มีแหล่งมรดกโลก คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1.2 ที่นั่งสำรอง จำนวน 1 ที่นั่ง สำหรับกลุ่มประเทศที่ไม่เคยเป็นกรรมการมรดกโลก ประเทศที่ได้รับ เลือก คือ สหพันธรัฐรัสเซีย 1.3 การเลือกตั้งทั่วไป (General Election) สำหรับที่นั่งอีก 10 ที่นั่ง ที่มีประเทศที่ลงคะแนนเลือกตั้ง และเป็นบัตรดี 140 คะแนน ซึ่งประเทศที่ได้รับการเลือกตั้งต้องได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง คือ 71 คะแนน มีประเทศที่ได้ รับการเลือกตั้ง 5 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ (104 คะแนน) กัมพูชา (83 คะแนน) ไทย (82 คะแนน) แอฟริกาใต้ (78 คะแนน) และฝรั่งเศส (73 คะแนน) และได้มีการลงคะแนนรอบที่ 2 อีก 5 ที่นั่ง ซึ่งประเทศที่ได้รับเลือกเรียง ลำดับตามคะแนนที่ได้รับสูงสุด คือ เอธิโอเปีย (69 คะแนน) เม็กซิโก (56 คะแนน) เอสโตเนีย (55 คะแนน) อิรัก (52 คะแนน) และ มาลี (46 คะแนน) 2. เห็นชอบในหลักการสำหรับค่าใช้จ่ายที่เหลือจากการจัดกิจกรรมรณรงค์ขอเสียงสนับสนุนในการสมัคร เป็นกรรมการในคณะกรรมการมรดกโลกของราชอาณาจักรไทยที่ได้รับอนุมัติไว้แล้ว เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่ เกี่ยวข้องกับกิจการมรดกโลกต่อไป
|
.....