ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 64 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 1261 - 1280 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1261 | แนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบเหตุดินทรุดตัวและรอยแยก บ้านสันติคีรี หมู่ที่ 1 ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย | ทส | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบเหตุดินทรุดตัวและรอยแยก บ้านสันติคีรี หมู่ที่ ๑ ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. พื้นที่ประสบเหตุ ๑.๑ มอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีประสานสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดเชียงรายและองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก เพื่อดำเนินการสำรวจและออกแบบโครงสร้างป้องกันดินทรุดตัวและรอยแยก โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน (ระยะเวลา ๒ เดือน) ๑.๒ มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก และจังหวัดเชียงราย จัดทำระบบป้องกันดินทรุดตัวและรอยแยก โดยการเพิ่มเสถียรภาพของลาดดิน และป้องกันมิให้น้ำผิวดินและน้ำใต้ดินไหลเข้าสู่พื้นที่ประสบเหตุ (ระยะเวลา ๖ เดือน) ๒. พื้นที่เฝ้าระวัง ๒.๑ มอบหมายให้จังหวัดเชียงราย และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก สนับสนุนให้เจ้าของที่ดิน กำหนดระดับความเสี่ยงของพื้นที่ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันเหตุดินทรุดตัวและรอยแยกผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และติดตามตรวจสอบพฤติกรรมการคืบตัวของลาดดินและพัฒนาการของรอยแยก ๒.๒ มอบหมายให้จังหวัดเชียงราย และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก สนับสนุนให้เจ้าของที่ดิน ผู้ครอบครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำระบบป้องกันเหตุดินทรุดตัวและรอยแยก ๓. พื้นที่ชุมชนดอยแม่สลอง ๓.๑ มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดและประกาศเขตเสี่ยงภัยดินถล่ม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนดอยแม่สลองทั้งหมด ๓.๒ มอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีกำหนดลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสม และมาตรการป้องกันเหตุดินทรุดตัวและรอยแยก พร้อมทั้งติดตามตรวจสอบพฤติกรรมการคืบตัวของลาดดินด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ ๓.๓ มอบหมายหน่วยงานที่กำกับดูแลพื้นที่สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควบคุมและดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||
1262 | แต่งตั้งข้าราชการการเมืองสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ) | ทส | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้การแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1263 | การดำเนินงานตามมาตรา 67 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เกี่ยวกับการกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 | ทส | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรา ๖๗ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เกี่ยวกับการกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้แจ้งผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กรณีการกำหนดโครงการหรือกิจการที่ดำเนินการในพื้นที่อ่อนไหว เป็นโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง นั้น ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติชุดต่าง ๆ พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา ๖๗ วรรคสองฯ ในส่วนที่ยังมีประเด็นความไม่ชัดเจนในเรื่องพื้นที่และประเภทโครงการหรือกิจการ ซึ่งจะนำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
1264 | การรับรอง Paracas Declaration | ทส | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับรองปฏิญญาปาราคัส (Paracas Declaration) โดยสาระสำคัญของร่างปฏิญญาปาราคัสเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองด้านสิ่งแวดล้อมในเรื่องมหาสมุทรและความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล การส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรม และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในมหาสมุทร โดยสร้างความตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการบริหาร จัดการอย่างยั่งยืน และเน้นการให้ความร่วมมือระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก การส่งเสริมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก การส่งเสริมความร่วมมือเพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า แนวทางการเจรจาและร่วมรับรองปฏิญญาปาราคัสดังกล่าวจะต้องมีความสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกับบทบัญญัติของกฎหมาย รวมทั้งร่างกฎหมายต่าง ๆ ของไทยเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเสนอเป็นกฎหมายต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||
1265 | มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มสมรรถนะอากาศยานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มสมรรถนะอากาศยาน
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดย รับข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของกระทรวงคมนาคมด้านความปลอดภัย การจัดองค์กรด้านการบิน และการกำกับดูแล ในด้านการบินพลเรือนซึ่งเป็นข้อเสนอแนะการปรับปรุงโครงสร้างและการเพิ่มประสิทธิภาพการบินไปพิจารณา ด้วย โดย 1. การจัดหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มสมรรถนะของอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ จำนว น 9 เครื่อง ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนการจัดหาอากาศยานตามแผนแม่บทการใช้ การจัดหา และการบำรุงอากาศยาน ปี พ.ศ. 2547 ให้สำนัก งบประมาณพิจารณาจัดสรรสนับสนุนให้ตามความเหมาะสมตามลำดับความจำเป็นเร่งด่วน และสอดคล้องกับ สถานะทางการเงินการคลังของประเทศต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. การขอคงตำแหน่งนักบิน ช่างเครื่องบิน และช่างวิทยุการบิน กรณีการเกษียณอายุราชการ ขยาย อัตรากำลังตามจำนวนอากาศยานที่จัดหาเพิ่ม ให้กระทรวงคมนาคมเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริหารพนัก งานราชการพิจารณาต่อไป ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. 3. การพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการบินและซ่อมบำรุงอากาศยาน (การใช้สนามบินร่วม) ให้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ท่าอากาศยานใน ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 4. เห็นชอบในหลักการการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการ บริหารทรัพยากรด้านการบิน และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำรายละเอียดขององค์ ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวมาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
1266 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 11 ราย 1. นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ฯลฯ) | ทส | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 11 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1. นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษฏ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. นางนิศากร โฆษิตรัตน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4. นายจตุพร บุรษพัฒน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรน้ำ 5. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 6. นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7. นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 8. นายสุรพล ปัตตานี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9. นายประวิม วุฒิสินธุ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 10. นายสุวิทย์ รัตนมณี ดำรงตำแหน่งรองอธิบดี กรมป่าไม้ 11 นายประณีต ร้อยบาง ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
|
|||||||||||||||||||||
1267 | กรอบการเจรจาเพื่อให้ความเห็นชอบในหลักการต่อร่างพิธีสารเสริมว่าด้วยการรับผิดและการชดใช้ของพิธีสารคาร์ตาเฮนาว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ | ทส | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบกรอบการเจรจาร่างพิธีสารเสริมว่าด้วยการรับผิดและการชดใช้ของพิธีสารคาร์ตาเฮนา ว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ ตามความเห็นของคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลาย ทางชีวภาพแห่งชาติ (กอช.) ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2553 2. เห็นชอบในหลักการต่อร่างพิธีสารเสริมว่าด้วยการรับผิดและการชดใช้ของพิธีสารคาร์ตาเฮนา ว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งจะมีการพิจารณาในการประชุมสมัชชาภาคีพิธีสารคาร์ตาเฮนาว่าด้วย ความปลอดภัยทางชีวภาพ สมัยที่ 5 ในระหว่างวันที่ 11-15 ตุลาคม 2553 ณ เมืองนาโงยา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้สำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพสามารถนำร่างพิธีสารเสริมฯ ดังกล่าว เปิดให้ภาคีพิธีสารคาร์ตาเฮนาฯ พิจารณาลงนามรับรอง (adoption) ได้ตามกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ คือ ใน ช่วงระหว่างวันที่ 7 มีนาคม 2554-6 มีนาคม 2555
|
|||||||||||||||||||||
1268 | กรอบการเจรจาในการรับรองพิธีสารนาโงยาว่าด้วยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรม และการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ประโยชน์ทรัพยากรพันธุกรรมอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม | ทส | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. ให้รับรองพิธีสารนาโงยาว่าด้วยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมและการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น จากการใช้ประโยชน์ทรัพยากรพันธุกรรมอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม ในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วย ความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 10 โดยให้ดำเนินการตามกรอบการเจรจาในการรับรองพิธีสารนาโงยาว่า ด้วยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมฯ 2. ให้นำเสนอกรอบการเจรจาดังกล่าว เพื่อขอรับความเห็นชอบจากรัฐสภา ตามมาตรา 190 ของรัฐ ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
1269 | ขอความเห็นชอบโครงการเร่งเสริมความยั่งยืนของระบบการจัดการพื้นที่คุ้มครอง (Catalyzing Sustainability of Thailand's Protected Areas System : CATSPA) | ทส | 21/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบโครงการเร่งเสริมความยั่งยืนของระบบการจัดการพื้นที่คุ้มครอง (Catalyzing Sustainability of Thailand''s Protected Areas System : CATSPA) ซึ่งได้มีการคัดเลือกพื้นที่นำร่องเพื่อดำเนินการ จำนวน 5 พื้น ที่ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่ง ชาติคลองลาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชลงนามเข้าร่วมโครงการฯ ร่วมกับผู้แทน UNDP (United Nations Development Programme) ประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบ ประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่า ในการดำเนินงานตาม โครงการฯ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจะต้องสนับสนุนงบประมาณที่ไม่อยู่ในรูปของเงินสด เป็น ระยะเวลา 4 ปี มูลค่า 14.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการสนับสนุนในรูปบุคลากรที่ได้รับงบประมาณปกติเพื่อ ร่วมปฏิบัติงานในโครงการ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อประสิทธิผลการปฏิบัติภารกิจปกติของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และอาจมีผลให้ต้องจ้างบุคลากรเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว และในการกำหนดพื้นที่โครง การศึกษา 5 พื้นที่นำร่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชดำเนินการบริหารจัด การอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมรดกโลกอยู่แล้วจึงควรพิจารณาพื้นที่คุ้มครองหรืออุทยานแห่งชาติแห่งอื่นที่เปิด ให้มีการเข้าใช้ประโยชน์อยู่แล้วแต่ยังมีปัญหาด้านการบริหารจัดการเช่นเดียวกับพื้นที่นำร่อง เพื่อให้โครงการฯ มี ส่วนในการขจัดอุปสรรคและผลักดันการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการ พื้นที่อนุรักษ์ของประเทศอย่างมีรูปธรรม นอกจากนี้ การดำเนินโครงการฯ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ Agreemen between the UN Special Fund and the Government of Thailand Concerning Assistance from the Special Fund อย่างเคร่งครัด โดยโครงการฯ ต้องดูแลความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองทรัพยากรพันธุกรรมและ ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ดำเนินงานให้เป็นไปอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
1270 | การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 6 | ทส | 14/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา
ของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ ๖ และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมพิจารณาให้การรับรองเอกสารดังกล่าวตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ ดังนี้ ๑. Draft Ministerial Declaration on Environment and Development ๒. Draft Astana “Green Bridge Initiative : Europe-Asia-Pacific Partnership for Implementation of “Green Growth” ๓. Draft the Regional Implementation Plan for Sustainable Development in Asia and the Pacific (๒๐๑๑-๒๐๑๕)
|
|||||||||||||||||||||
1271 | แผนแม่บทการพัฒนาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ | ทส | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของอุทยานแห่ง ชาติเขาใหญ่ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่หน่วยงานต่าง ๆ สร้างไว้ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เริ่มทรุดโทรม สภาพไม่ปลอดภัย และมีผังบริเวณไม่เหมาะสมต่อการจัด การอุทยานแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวง มหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าแผน แม่บทการพัฒนาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เน้นการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นหลัก เห็นควรเพิ่มเติมแนวทางการดำเนินงานให้ครอบคลุมมิติการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาให้ครบทั้งด้านการอนุรักษ์ และป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ และการปรับปรุงระเบียบปฏิบัติที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา รวมทั้งปัญหาพื้น ที่ทับซ้อนของแนวเขตอุทยานฯ และควรมีแผนบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ทุกด้าน คือ ด้านการอนุรักษ์สภาพ ธรรมชาติ การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อยใจ และการศึกษาค้นคว้าวิจัยทางธรรมชาติให้ชัดเจนในแผนแม่บทฯ นอก จากนี้ ให้นำเรื่องของความสามารถในการรองรับการท่องเที่ยวของพื้นที่อุทยานฯ มาเป็นหลักในการวิเคราะห์และ พิจารณาในการวางแผนดำเนินการ รวมทั้งระบุผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้รับหลังจากการดำเนินการไว้ในแผนแม่บทฯ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย 2. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัด การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและการฟื้นฟูสภาพภูมิทัศน์และระบบนิเวศบริเวณทางหลวงหมาย เลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 2-ต่อเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 [เรื่อง โครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงหมายเลข 2090 และเรื่อง รายงานผล กระทบและความเสียหายกรณีการตัดไม้จากการดำเนินการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์)] ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว |
|||||||||||||||||||||
1272 | การลักลอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จังหวัดพิษณุโลก | ทส | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบความก้าวหน้าของผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้ในเขตป่า สงวนแห่งชาติ จังหวัดพิษณุโลก และเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ ตามที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1.1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนร่วมหรือรู้เห็น หรือเป็น ตัวการในการกระทำผิดอย่างเคร่งครัด โดยให้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีออกนอกพื้นที่ และกำชับ เจ้าหน้าที่ในสังกัดมิให้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสนับสนุนการกระทำผิดเกี่ยวกับการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าอย่างเด็ดขาด 1.2 กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัด กำนัน ผู้ ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมิให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้น ที่ที่รับผิดชอบ เข้มงวดกวดขัน และเร่งรัดการดำเนินคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว 1.3 หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรกำชับเจ้าหน้าที่ ให้สนับสนุน ส่งเสริมเฉพาะพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ สิทธิครอบครอง และพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมาย เท่านั้น 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ เห็นว่า ด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจและของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางเข้า-ออกพื้นที่ป่า รวมทั้งจุดผ่าน ต่าง ๆ ควรมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา และควรให้ฝ่ายทหารเข้าร่วมดำเนินการ ด้วยเพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
1273 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 | ทส | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครง การระบบเครือข่ายน้ำห้วยหลวง-หนองหาน กุมภวาปี-ลำปาว-ชี-มูล และโครงการระบบเครือข่ายน้ำปากชม- ลำพะเนียง-ชี-มูล ตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2553 ตาม ที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอและรับทราบ ข้อตกลงระหว่างกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำเกี่ยวกับขอบเขต บทบาท และภารกิจของทั้ง 2 หน่วยงาน ให้นำไปพิจารณาศึกษาในรายละเอียดและนำมาเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติอีกครั้ง 2. รับทราบมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 ดังนี้ 2.1 เห็นชอบให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติกำกับ ดูแล ให้คำปรึกษา และอำนวยการจัด ประชุม The 2nd Asia-Pacific Water Summit (The 2nd APWS) ในภาพรวม และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เตรียมการจัด 2nd APWS จำนวน 4 คณะ 2.2 ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร รับเรื่องโครงการจัดการน้ำชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ในภาคอีสาน และภาคเหนือ พื้นที่นอกเขตชล ประทานโดยชุมชน อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาทบทวนใหม่ โดยนำข้อสังเกตและความเห็นของที่ประชุมไปประกอบ การพิจารณาดำเนินการ 2.3 รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ จำนวน 3 คณะ และคณะทำงาน จำนวน 1 คณะ คือ คณะอนุกรรมการติดตามและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและ หลักเกณฑ์การนำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ ชุ่มน้ำ และคณะทำงานเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... 2.4 รับทราบมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการโครงการระบบเครือข่ายน้ำ ในพื้นที่วิกฤตน้ำ จำนวน 19 พื้นที่ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ไปหารือและตกลงร่วมกันเกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ อีก 11 โครงการ รวมทั้งพิจารณาขอบเขต บทบาท ภารกิจของหน่วยงานทั้งสอง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านนโยบาย การบริหาร การก่อสร้าง และอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนใน การกำหนดภารกิจและการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน 2.5 รับทราบการจัดงานโครงการเหลืองฟ้ามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวฯ "ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ" เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ ประจำปี 2553 ในวันที่ 24 กันยายน 2553 ณ ศูนย์การค้าประตูน้ำขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2.6 รับทราบการเข้าร่วมการประชุม Singapore International Water Week (SIWW) 2010- Water Leaders Summit ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2553 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.7 รับทราบกำหนดการเข้าร่วมประชุมในงานสัปดาห์น้ำโลก ครั้งที่ 20 หรือ 2010 Stockholm World Water Week ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ละสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||
1274 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 และ 4/2553 (นัดพิเศษ) | ทส | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติการประชุมคณะ
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดังนี้ ๑. การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ คณะ กรรมการฯ ได้มีมติเรื่องต่าง ๆ จำนวน ๘ เรื่อง ประกอบด้วย ๑.๑ แผนการปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๖ (ฉบับทบทวน) ๑.๒ การรับชำระคืนเงินกู้ โครงการเงินกู้ผูกพันของกองทุนสิ่งแวดล้อม กรณีบริษัทซันเรนเดอร์ริ่ง จำกัด ๑.๓ กรอบทิศทางการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๒๓ (๔) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๕ ๑.๔ หลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัด ชลบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการ พิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครอง สิ่งแวดล้อม ๑.๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาคำคอนสตรัคชั่น ขออุทธรณ์ เพื่อทบทวนมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่ง ชาติ เรื่อง ขอกันเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อกำหนดเป็นแหล่งหินอุตสาหกรรมบริเวณเขาหนองหอย จังหวัดสุโขทัย ๑.๖ การกำหนดอัตราค่าบริการกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เทศบาล เมืองสุโขทัยธานี จังหวัดสุโขทัย เทศบาลเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เทศบาลเมืองเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เทศ บาลเมืองแม่สอด จังหวัดตาก เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา เทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เทศบาลเมือง วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลเมืองตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ๑.๗ แนวทางการจัดเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียรวมกับการจัดเก็บค่าน้ำประปา ๑.๘ แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด ๒. การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ คณะกรรมการฯ ได้มีมติเกี่ยวกับเรื่อง ประเภทโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่าง รุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ
|
|||||||||||||||||||||
1275 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภท ขนาด และวิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2553 | ทส | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภท ขนาด และ วิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2553 ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2553 (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 2. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาว่าจะสามารถออกประกาศในลักษณะเดียวกับข้อ 1 โดยให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะผู้ชำนาญการมีอำนาจใช้ดุลยพินิจในการประกาศกำหนดโครงการ หรือกิจการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงฯ ในเขตพื้นที่ เช่น พื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อุทยานแห่ง ชาติหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อให้การดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้ หรือไม่
|
|||||||||||||||||||||
1276 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายโชติ ตราชู) | ทส | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายโชติ ตราชู ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1277 | เปลี่ยนแปลงประธานในการรับรองปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | ทส | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการมอบหมายให้นายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยา
กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการรับรองปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดย ไม่มีการลงนาม และให้สามารถปรับเปลี่ยนถ้อยคำได้ตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1278 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2553 | ทส | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเรื่องต่าง ๆ จำนวน 9 เรื่อง ดังนี้
1. แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ. 2553-2556 (ฉบับทบทวน) 2. การขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะระ เกาะพระทอง จังหวัดพังงา และพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ 3. การรับรองโครงการความร่วมมือพันธมิตรสำหรับการอนุรักษ์นกอพยพและการใช้ประโยชน์ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอพยพอย่างยั่งยืนในเส้นทางการบินเอเชียตะวันออก-ออสเตรเลีย (Partnership of the Conservation of Migratory Waterbirds and Sustainable Usee of their Habitat in the East Asian-Australasian Flyway) 4. โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 4 สายชุมพร-ระนอง ของกรมทางหลวง 5. โครงการหอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ 6. การปรับปรุงร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด 7.การกำหนดมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ 8. การปรับปรุงค่ามาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากเตาเผามูลฝอย 9. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยข้อร้องเรียนโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ และปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||
1279 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่บางส่วน ในท้องที่ตำบลตบหู อำเภอเดชอุดม ตำบลโนนสวรรค์ อำเภอนาจะหลวย ตำบลยาง ตำบลยางใหญ่ ตำบลเก่าขาม ตำบลบุเปือย ตำบลสีวิเชียร ตำบลโซง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลไพบูลย์ ตำบลตาเกา และตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ออกจากป่าสงวนแห่งชาติ บางส่วน พ.ศ. .... | ทส | 16/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่ บางส่วน
ในท้องที่ตำบลตบหู อำเภอเดชอุดม ตำบลโนนสวรรค์ อำเภอนาจะหลวย ตำบลยาง ตำบลยางใหญ่ ตำบลเก่าขาม ตำบลบุเปือย ตำบลสีวิเชียร ตำบลโซง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลไพบูลย์ ตำบลตาเกา และตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ออกจากป่าสงวนแห่งชาติ บางส่วน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอได้
|
|||||||||||||||||||||
1280 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 2 | ทส | 16/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอสรุปผลการประชุม
รัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 2 ณ เกาะเจจู สาธารณรัฐเกาหลี สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างผู้แทนระดับสูง ของกระทรวงด้านสิ่งแวดล้อมและกระทรวงสาธารณสุขของ 14 ประเทศ 2. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบต่อแผนงานของคณะทำงานวิชาการระดับภูมิภาคในปี ค.ศ. 2010-2013 ของคณะทำงาน 6 สาขา และเห็นชอบให้มีการเพิ่มคณะทำงานใหม่ในสาขาที่ 7 การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (Health Impact Assessment : HIA) โดยมีสาธารณรัฐเกาหลี เป็นประธาน และเห็นชอบแผนงานในปี ค.ศ. 2010 -2013 ของคณะทำงานสาขาที่ 7 3. ที่ประชุมรับรองปฏิญญาเจจูด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยไม่มีการลงนาม และใช้เป็นกรอบการ ดำเนินงานความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก รวมทั้ง สนับสนุนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประเทศสมาชิกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้ปรับ แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างปฏิญญาฯ อาทิ การให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน รวมทั้งการมีสุขภาพดีของเด็ก การเปลี่ยนแปลงชื่อคณะทำงานวิชาการระดับภูมิภาค จากสาขาน้ำสะอาดสุขอนา มัย และการสุขาภิบาล เป็นสาขาน้ำสะอาด การสุขาภิบาลและสุขอนามัย และเสนอให้ Forum ด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก เป็นเวทีหลักที่จะเอื้ออำนวยให้เกิด ความร่วมมือการดำเนินงานในด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขให้ครอบคลุมทุกสาขา เพื่อเอื้ออำนวยให้เกิดความ ร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เป็นต้น
|
.....