ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 64 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 1261 - 1280 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1261 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 | ทส | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครง การระบบเครือข่ายน้ำห้วยหลวง-หนองหาน กุมภวาปี-ลำปาว-ชี-มูล และโครงการระบบเครือข่ายน้ำปากชม- ลำพะเนียง-ชี-มูล ตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2553 ตาม ที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอและรับทราบ ข้อตกลงระหว่างกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำเกี่ยวกับขอบเขต บทบาท และภารกิจของทั้ง 2 หน่วยงาน ให้นำไปพิจารณาศึกษาในรายละเอียดและนำมาเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติอีกครั้ง 2. รับทราบมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 ดังนี้ 2.1 เห็นชอบให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติกำกับ ดูแล ให้คำปรึกษา และอำนวยการจัด ประชุม The 2nd Asia-Pacific Water Summit (The 2nd APWS) ในภาพรวม และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เตรียมการจัด 2nd APWS จำนวน 4 คณะ 2.2 ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร รับเรื่องโครงการจัดการน้ำชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ในภาคอีสาน และภาคเหนือ พื้นที่นอกเขตชล ประทานโดยชุมชน อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาทบทวนใหม่ โดยนำข้อสังเกตและความเห็นของที่ประชุมไปประกอบ การพิจารณาดำเนินการ 2.3 รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ จำนวน 3 คณะ และคณะทำงาน จำนวน 1 คณะ คือ คณะอนุกรรมการติดตามและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและ หลักเกณฑ์การนำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ ชุ่มน้ำ และคณะทำงานเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... 2.4 รับทราบมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการโครงการระบบเครือข่ายน้ำ ในพื้นที่วิกฤตน้ำ จำนวน 19 พื้นที่ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ไปหารือและตกลงร่วมกันเกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ อีก 11 โครงการ รวมทั้งพิจารณาขอบเขต บทบาท ภารกิจของหน่วยงานทั้งสอง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านนโยบาย การบริหาร การก่อสร้าง และอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนใน การกำหนดภารกิจและการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน 2.5 รับทราบการจัดงานโครงการเหลืองฟ้ามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวฯ "ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ" เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ ประจำปี 2553 ในวันที่ 24 กันยายน 2553 ณ ศูนย์การค้าประตูน้ำขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2.6 รับทราบการเข้าร่วมการประชุม Singapore International Water Week (SIWW) 2010- Water Leaders Summit ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2553 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.7 รับทราบกำหนดการเข้าร่วมประชุมในงานสัปดาห์น้ำโลก ครั้งที่ 20 หรือ 2010 Stockholm World Water Week ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ละสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||
1262 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 และ 4/2553 (นัดพิเศษ) | ทส | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติการประชุมคณะ
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดังนี้ ๑. การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ คณะ กรรมการฯ ได้มีมติเรื่องต่าง ๆ จำนวน ๘ เรื่อง ประกอบด้วย ๑.๑ แผนการปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๖ (ฉบับทบทวน) ๑.๒ การรับชำระคืนเงินกู้ โครงการเงินกู้ผูกพันของกองทุนสิ่งแวดล้อม กรณีบริษัทซันเรนเดอร์ริ่ง จำกัด ๑.๓ กรอบทิศทางการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๒๓ (๔) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๕ ๑.๔ หลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัด ชลบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการ พิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครอง สิ่งแวดล้อม ๑.๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาคำคอนสตรัคชั่น ขออุทธรณ์ เพื่อทบทวนมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่ง ชาติ เรื่อง ขอกันเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อกำหนดเป็นแหล่งหินอุตสาหกรรมบริเวณเขาหนองหอย จังหวัดสุโขทัย ๑.๖ การกำหนดอัตราค่าบริการกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เทศบาล เมืองสุโขทัยธานี จังหวัดสุโขทัย เทศบาลเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เทศบาลเมืองเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เทศ บาลเมืองแม่สอด จังหวัดตาก เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา เทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เทศบาลเมือง วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลเมืองตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ๑.๗ แนวทางการจัดเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียรวมกับการจัดเก็บค่าน้ำประปา ๑.๘ แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด ๒. การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ คณะกรรมการฯ ได้มีมติเกี่ยวกับเรื่อง ประเภทโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่าง รุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ
|
|||||||||||||||||||||
1263 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภท ขนาด และวิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2553 | ทส | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภท ขนาด และ วิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2553 ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2553 (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 2. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาว่าจะสามารถออกประกาศในลักษณะเดียวกับข้อ 1 โดยให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะผู้ชำนาญการมีอำนาจใช้ดุลยพินิจในการประกาศกำหนดโครงการ หรือกิจการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงฯ ในเขตพื้นที่ เช่น พื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อุทยานแห่ง ชาติหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อให้การดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้ หรือไม่
|
|||||||||||||||||||||
1264 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายโชติ ตราชู) | ทส | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายโชติ ตราชู ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1265 | เปลี่ยนแปลงประธานในการรับรองปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | ทส | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการมอบหมายให้นายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยา
กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการรับรองปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดย ไม่มีการลงนาม และให้สามารถปรับเปลี่ยนถ้อยคำได้ตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1266 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2553 | ทส | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเรื่องต่าง ๆ จำนวน 9 เรื่อง ดังนี้
1. แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ. 2553-2556 (ฉบับทบทวน) 2. การขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะระ เกาะพระทอง จังหวัดพังงา และพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ 3. การรับรองโครงการความร่วมมือพันธมิตรสำหรับการอนุรักษ์นกอพยพและการใช้ประโยชน์ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอพยพอย่างยั่งยืนในเส้นทางการบินเอเชียตะวันออก-ออสเตรเลีย (Partnership of the Conservation of Migratory Waterbirds and Sustainable Usee of their Habitat in the East Asian-Australasian Flyway) 4. โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 4 สายชุมพร-ระนอง ของกรมทางหลวง 5. โครงการหอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ 6. การปรับปรุงร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด 7.การกำหนดมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ 8. การปรับปรุงค่ามาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากเตาเผามูลฝอย 9. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยข้อร้องเรียนโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ และปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||
1267 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่บางส่วน ในท้องที่ตำบลตบหู อำเภอเดชอุดม ตำบลโนนสวรรค์ อำเภอนาจะหลวย ตำบลยาง ตำบลยางใหญ่ ตำบลเก่าขาม ตำบลบุเปือย ตำบลสีวิเชียร ตำบลโซง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลไพบูลย์ ตำบลตาเกา และตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ออกจากป่าสงวนแห่งชาติ บางส่วน พ.ศ. .... | ทส | 16/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่ บางส่วน
ในท้องที่ตำบลตบหู อำเภอเดชอุดม ตำบลโนนสวรรค์ อำเภอนาจะหลวย ตำบลยาง ตำบลยางใหญ่ ตำบลเก่าขาม ตำบลบุเปือย ตำบลสีวิเชียร ตำบลโซง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลไพบูลย์ ตำบลตาเกา และตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ออกจากป่าสงวนแห่งชาติ บางส่วน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอได้
|
|||||||||||||||||||||
1268 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 2 | ทส | 16/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอสรุปผลการประชุม
รัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 2 ณ เกาะเจจู สาธารณรัฐเกาหลี สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างผู้แทนระดับสูง ของกระทรวงด้านสิ่งแวดล้อมและกระทรวงสาธารณสุขของ 14 ประเทศ 2. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบต่อแผนงานของคณะทำงานวิชาการระดับภูมิภาคในปี ค.ศ. 2010-2013 ของคณะทำงาน 6 สาขา และเห็นชอบให้มีการเพิ่มคณะทำงานใหม่ในสาขาที่ 7 การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (Health Impact Assessment : HIA) โดยมีสาธารณรัฐเกาหลี เป็นประธาน และเห็นชอบแผนงานในปี ค.ศ. 2010 -2013 ของคณะทำงานสาขาที่ 7 3. ที่ประชุมรับรองปฏิญญาเจจูด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยไม่มีการลงนาม และใช้เป็นกรอบการ ดำเนินงานความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก รวมทั้ง สนับสนุนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประเทศสมาชิกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้ปรับ แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างปฏิญญาฯ อาทิ การให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน รวมทั้งการมีสุขภาพดีของเด็ก การเปลี่ยนแปลงชื่อคณะทำงานวิชาการระดับภูมิภาค จากสาขาน้ำสะอาดสุขอนา มัย และการสุขาภิบาล เป็นสาขาน้ำสะอาด การสุขาภิบาลและสุขอนามัย และเสนอให้ Forum ด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก เป็นเวทีหลักที่จะเอื้ออำนวยให้เกิด ความร่วมมือการดำเนินงานในด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขให้ครอบคลุมทุกสาขา เพื่อเอื้ออำนวยให้เกิดความ ร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
1269 | ร่างปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | ทส | 16/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบสาระสำคัญในร่างปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะให้การรับ รองปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่มีการลงนาม ในการประชุมนานาชาติด้านการขน ส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 5 ในระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2553 ณ กรุงเทพมหานคร โดยสาระสำคัญ ของร่างปฏิญญาดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนารมณ์จากผู้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่ง แวดล้อม ครั้งที่ 5 ที่จะมีความร่วมมือกันในการจัดการระบบการขนส่งที่ปลอดภัย สนองตอบความต้องการ และเป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานในการรับรองปฏิญญากรุง เทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่มีการลงนาม และให้สามารถปรับเปลี่ยนถ้อยคำได้ตามความเหมาะ สม
|
|||||||||||||||||||||
1270 | แนวทางการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรทรายของประเทศ | ทส | 10/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 9
มิถุนายน 2552 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามมติในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรทรายในการปรับปรุงการ บริหารจัดการภายใต้กฎหมายและกฎระเบียบปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพ โดยให้กรมที่ดินในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะ กรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย (ทรายในแม่น้ำ) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม (ทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์ของ เอกชน) เป็นหน่วยงานหลักประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงระบบระเบียบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ตามข้อ 1 โดย 2.1 ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประมวลการปรับปรุงกฎหมายที่จะต้องรองรับการ เปลี่ยนแปลงกฎหมายปัจจุบันเพื่อให้ทรัพยากรทรายเป็นแร่ โดยไม่กระทบต่อหลักการของกฎหมายที่ใช้อ้างอิง หรือ อาจพิจารณาดำเนินการให้มีกฎหมายเป็นการเฉพาะ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรทรายในอนาคต 2.2 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลผลการศึกษาจากโครงการวางแผนการจัดการสิ่งแวดล้อมจากการ ใช้ทรัพยากรทราย ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ศึกษาไว้แล้ว ไปใช้พิจารณา ประกอบการดำเนินงานต่อไป 2.3 ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณเป็นกรณีพิเศษในการดำเนินงานตามแนวทางการ บริหารจัดการทรัพยากรทรายฯ และให้หน่วยงานหลักเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี หลังจากมีมติคณะ รัฐมนตรี |
|||||||||||||||||||||
1271 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 34 : กรณีปราสาทพระวิหาร และการเสนอขอเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 36 | ทส | 03/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1.1 รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม -3 สิงหาคม 2553 ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล 1.2 เห็นชอบให้ราชอาณจักรไทยในฐานะคณะกรรมการมรดกโลก (วาระปี ค.ศ. 2009-2013) รับเป็น เจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 36 ในปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) เพื่อแสดงบท บาทและศักยภาพความพร้อมของไทยในเวทีโลก รวมทั้งเพื่อสร้างสัมพันธภาพและความร่วมมือกับกรรมการมรดกโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านมรดกโลกจากประเทศต่าง ๆ 2. เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่อง เห็นควรจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อกำกับดูแลและติดตามการดำเนิน การในเรื่องดังกล่าวโดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ ผู้แทน จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม และสำนัก งานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น เป็นกรรมการ และอาจมีผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการด้วย ทั้งนี้ ให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณากำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะ กรรมการดังกล่าวในรายละเอียด แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
1272 | การรับรองข้อตกลงการเป็นพันธมิตรสำหรับการอนุรักษ์นกอพยพและการใช้ประโยชน์ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอพยพอย่างยั่งยืนในเส้นทางการบินเอเชียตะวันออก - ออสเตรเลีย (Partnership for the Conservation of Migratory Waterbirds and the Sustainable Use of their Habitats in the East Asian - Australasian Flyway) | ทส | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีมติดังนี้ 1.1 เห็นชอบในการรับรองข้อตกลงการเป็นพันธมิตรสำหรับการอนุรักษ์นกอพยพและการใช้ประโยชน์ ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอพยพอย่างยั่งยืนในเส้นทางการบินเอเชียตะวันออก-ออสเตรเลีย 1.2 มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานประสานงานกลางโครงการความร่วมมือพันธมิตรสำหรับการอนุรักษ์นก อพยพ และการใช้ประโยชน์ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอพยพอย่างยั่งยืนในเส้นทางการบินเอเชียตะวันออก-ออสเตรเลีย (Partnership for the Conservation of Migratory Waterbirds and the Sustainable Use of their Habitats in the East Asian-Australasian Flyway) 1.3 เห็นชอบตามความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการเสนอพื้นที่ชุ่มน้ำที่มี ความสำคัญระดับนานาชาติของประเทศไทยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2543 และวันที่ 3 พฤศจิกา ยน 2552 เป็นพื้นที่เครือข่ายอนุรักษ์นกอพยพตามโครงการความร่วมมือฯ 2. เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดังนี้ 2.1 การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของโครงการความร่วมมือฯ เป็นความสมัครใจในการดำเนินงานและไม่มี การจ่ายเงินบริจาค 2.2 พันธกิจที่สำคัญ คือ การเสนอพื้นที่เข้าเป็นเครือข่ายนกอพยพ การอนุรักษ์นกอพยพและถิ่นที่อยู่ อาศัย คือ พื้นที่ชุ่มน้ำด้วยการใช้ประโยชน์ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอย่างยั่งยืนภายในประเทศของตนโดยทางโครงการ ความร่วมมือฯ อาจสนับสนุนงบประมาณดำเนินงานผ่านทางองค์กรพัฒนาเอกชนหรือหน่วยงานในพื้นที่ 2.3 โครงการอนุรักษ์นกอพยพและการใช้ประโยชน์ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอพยพอย่างยั่งยืนในเส้นทาง การบินเอเชียตะวันออก-ออสเตรเลียจะมีส่วนสนับสนุนเจ้าหน้าที่องค์กรที่เข้าร่วมเป็นภาคีและประชาชนในพื้นที่ให้ มีความรู้ และเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของแหล่งที่อยู่อาศัยของนกอพยพ มีการสร้างกลไกการทำงานร่วม กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้มีการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัย คือ พื้นที่ชุ่มน้ำโดยมีการใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด และ กำหนดให้พื้นที่แห่งนั้นเป็นพื้นที่อนุรักษ์ 2.4 โครงการความร่วมมือฯ จะช่วยสนับสนุนการดำเนินการภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำและ อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีลำดับที่ 110 เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2541 โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานประสานงานกลาง |
|||||||||||||||||||||
1273 | ปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) | ทส | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ให้คณะรัฐมนตรีทราบ ตาม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณ สุข และกระทรวงมหาดไทย (จังหวัดสระบุรี) ดำเนินการตรวจสอบ ติดตามการประกอบกิจการของบริษัทฯ ในส่วนที่ เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเกี่ยวกับน้ำเสียและกลิ่นเนื่องจากยังมีปัญหาข้อร้องเรียน อยู่มาก |
|||||||||||||||||||||
1274 | ร่างปฏิญญาเจจูด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในการประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 2 | ทส | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบต่อสาระสำคัญในร่างปฏิญญาเจจูด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Jeju Declaration on Environ ment and Health) ก่อนที่จะให้การรับรองร่างปฏิญญาเจจูฯ โดยไม่มีการลงนามในการประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัย และสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 2 (The Second Ministerial Forum on Environment and Health in South-East and East Asian Countries) ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 ณ เกาะเจจู สาธารณรัฐเกาลี และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาให้การรับรองปฏิญญาเจจูฯ และให้สามารถปรับเปลี่ยนถ้อยคำได้ตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรให้ มีการศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดตั้งศูนย์การวิจัยและฝึกอบรมด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปฏิบัติการ ของฝ่ายเลขานุการของเวทีการประชุมและคณะทำงานต่าง ๆ ไปพิจารณาดำเนินการ 2. เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้พิจารณาให้การรับรองปฏิญญาเจจูฯ เพียงผู้เดียว เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดภารกิจสำคัญทำให้ไม่สามารถเดินทางไปเข้า ร่วมในการประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมฯ ได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมเสนอเพิ่มเติม |
|||||||||||||||||||||
1275 | ขออนุมัติงบประมาณสนับสนุนการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 34 | ทส | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1.1 ในหลักการให้ดำเนินการโน้มน้าว (Lobby) ประเทศภาคีสมาชิกในอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ให้เห็นด้วยกับราชอาณาจักรไทยว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารก่อให้เกิดปัญหาข้อขัดแย้งและการกระทบ กระทั่งอย่างรุนแรงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา จึงควรชะลอการพิจารณาแผนการจัดการ พื้นที่ (Management Plan) ปราสาทพระวิหารของราชอาณาจักรกัมพูชาไปก่อน จนกว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องแนว เขตระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชาจะเสร็จสิ้น โดยให้ประสานงานกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการดังกล่าว 1.2 เห็นชอบอนุมัติวงเงินงบประมาณ 10,000,000 บาท สำหรับผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่จะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2553 ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เสนอให้ มีการหารือเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณา ท่าทีไทยอย่างรอบด้านและรอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของไทย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยในส่วนของค่า ใช้จ่ายในการเข้าร่วมประชุม ฯ ให้ใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงินไม่เกิน 10,000,000 บาท ตามที่เสนอ โดยขอทำความตกลง ในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
1276 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) | ทส | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ไม่มีผู้ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตาม มาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (13 กรกฎาคม 2553) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
1277 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (เพิ่มเติม) (พลตำรวจตรี ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ และนายอภิชัย ชวเจริญพันธ์) | ทส | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรม
ป่าไม้ เพิ่มเติม จำนวน 2 คน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1. พลตำรวจตรี ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ 2. นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์
|
|||||||||||||||||||||
1278 | รายงานการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 15 (CITES CoP15) | ทส | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอรายงานการประชุม
ภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Conference of the Parties to the CITES Convention) ครั้งที่ 15 (CoP15) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-25 มีนาคม 2553 ณ เมืองโดฮา รัฐกาตาร์ โดยมีนายภิมุข สิมะโรจน์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้า คณะผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม โดยมีสาระสำคัญของการประชุมสรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมรับทราบบทบาทการเป็นผู้นำของประเทศไทยในการอนุรักษ์เสือโคร่ง โดยการเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียด้านการอนุรักษ์เสือโคร่ง ครั้งที่ 1 (The 1st Asia Ministerial Conference on Tiger Conservation : The 1st AMC) ระหว่างวันที่ 27-30 มกราคม 2553 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งผลจากการ ประชุมได้บรรลุข้อตกลงและประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการอนุรักษ์เสือโคร่ง (Hua Hin Declaration) และรับ ทราบถึงมาตรการของประเทศไทยในการควบคุมการค้างาช้างภายในประเทศและการรณรงค์หยุดการลักลอบนำ งาช้างและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้างออกนอกประเทศ 2. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการเพิ่มมาตรการในการอนุรักษ์เสือโคร่งและสัตว์อื่น ๆ ในกลุ่ม Asian Big Cat โดยเพิ่มมาตรการการรายงานการค้าเสือ และควบคุมการเพาะพันธุ์เสือในปริมาณที่เหมาะสมต่อการอนุรักษ์ เสือในธรรมชาติเท่านั้น 3. ที่ประชุมลงมติไม่รับข้อเสนอของประเทศแทนซาเนียและแซมเบียในการขอลดบัญชีช้างแอฟริกา จาก บัญชี 1 ลงมาเป็นบัญชี 2 เพื่อสามารถค้าช้างและงาช้างระหว่างประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย 4. ที่ประชุมลงมติไม่รับข้อเสนอในการขอขึ้นบัญชี Blue Fin Tuna ในบัญชี 1 ตามที่กลุ่มประเทศยุโรป และอเมริกาสนับสนุน เนื่องจากเห็นว่ามีประชากรลดลงอย่างรวดเร็วและใกล้สูญพันธุ์ 5. ที่ประชุมลงมติไม่รับข้อเสนอในการขอขึ้นทะเบียนปลาฉลาม จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ฉลามหัวค้อน หยัก (Sphyrna lewini) ฉลามหัวค้อนยักษ์ (Sphyrna mokarran) ฉลามหัวค้อนดำ (Sphyrna zygaena) และ ฉลามครีบด่าง (Carcharhinus longimanus) ในบัญชี 2 ของอนุสัญญาไซเตส 6. ที่ประชุมมีมติไม่รับการขอขึ้นทะเบียนสัตว์บัญชี 1 ที่ได้จากการเพาะพันธุ์เพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ (นก กระตั้วและนกแก้วมาคอว์) 7. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการแก้ไขแนวทางการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสัตว์บัญชี 1 ที่ได้จากการเพาะพันธุ์ เพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ ตามที่เลขาธิการ CITES เสนอ 8. ที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการด้านพืช ที่ให้ทบทวนคำอธิบายแนบท้ายของพืชตระกูล Cactaceae และ Orchidaceae ที่มีอยู่เดิมว่า สามารถควบคุมการค้าชนิดพันธุ์พืชตามรูปแบบที่มีในตลาดได้หรือไม่ โดยพิจารณาการค้าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของ Cibotium barometz, Cistanche deserticola, Dionea muscipula และ Euphorbia spp. ซึ่งผลการประชุมเห็นชอบให้แก้ไขคำอธิบายแนบท้ายโดยยกเว้นผลิตภัณฑ์สำเร็จ รูปที่มีส่วนผสมของ Euphobia antisyphylitica (Candellilar wax) ออกจากการควบคุมของอนุสัญญา 9. ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม CoP 16 ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นใน ปี พ.ศ. 2556
|
|||||||||||||||||||||
1279 | การจัดทำโครงการ Linking communities in Southeast Asia to forestry-related voluntary carbon markets | ทส | 29/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1.1 การจัดทำเอกสารโครงการ Linking communities in Southeast Asia to forestry-related voluntary carbon markets ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางวิชาการของ Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO ภายใต้โครงการ TCP/RAS/3210 (D) จัดทำขึ้นโดย FAO สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก มีวัตถุ ประสงค์ เพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการพัฒนาศักยภาพของประเทศทั้งใน ระดับชาติและระดับภูมิภาคในด้านตลาดคาร์บอน (carbon markets) และจัดทำแนวทางและระบบสารสนเทศเพื่อช่วย ให้ชุมชนสามารถพัฒนาโครงการด้านป่าไม้สำหรับการเข้าสู่ตลาดคาร์บอน 1.2 ให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้ลงนามเอกสารโครงการฯ ดังกล่าว และเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ให้ กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) เพื่อให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้แทนรัฐบาลลงนามใน ความตกลงดังกล่าวต่อไป 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เห็นควรให้ กรมป่าไม้เชื่อมโยงองค์ความรู้รวมถึงประสบการณ์ที่จะได้รับภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการกับ FAO ภายใต้โครงการ Linking communities in Southeast Asia to forestry-related voluntary carbon markets กับมาตรการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกจากการทำลายป่า และการเสื่อมสภาพของป่าในประเทศกำลังพัฒนา (Reducing Emissions from Deforestation and Degradation in Developing Countries : REDD+) ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดภายใต้ กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ด้วย โดยกรมป่าไม้อาจศึกษาแนว ทางความเป็นไปได้ติดตามพัฒนาการ และร่วมมือ/แลกเปลี่ยนข้อมูลกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพืช เพื่อ ประโยชน์ในการประมวลท่าทีสำหรับผลักดันและรักษาผลประโยชน์ของไทยในเวทีการประชุมระหว่างประเทศดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||
1280 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2553 | ทส | 29/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่
22 มกราคม 2553 จำนวน 2 เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1. คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบร่างรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2552 และมอบหมาย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ไปปรับปรุงแก้ไขรายงานดังกล่าวให้มีความถูกต้องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และนำเสนอ คณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป รวมทั้งให้สำนักงานนโยบายฯ รับข้อเสนอของคณะกรรมการฯ เพื่อใช้เป็นแนวทางใน การจัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2553 ต่อไป 2. คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการทางด่วนสายทาง พิเศษศรีรัช-ดาวคะนอง ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณา รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคม ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมกับเอกชน ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2552 และให้การทางพิเศษฯ นำความเห็นของคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
|
.....