ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 70 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 1381 - 1400 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1381 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยอินทนนท์ บางส่วน ในท้องที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง ตำบลสันติสุข ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... | ทส | 11/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยอินทนนท์ บางส่วน ใน
ท้องที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง ตำบลสันติสุข ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยอินทนนท์ บางส่วน ในท้องที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ประมาณ 315 ไร่ 3 งาน 80 ตารางวา ออกจากการเป็น อุทยานแห่งชาติ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1382 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2552 | ทส | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะ
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เสนอมติการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 โดยมีเรื่องที่สำคัญรวม 9 เรื่อง ดังนี้ 1. (ร่าง) กรอบนโยบายและแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จากการพัฒนาทรัพยากรแร่ 2. แผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2552-2556) 3. การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543 เรื่อง ทะเบียนรายนามพื้นที่ชุ่มน้ำที่มี ความสำคัญระดับนานาชาติ และระดับชาติของประเทศไทย และมาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ 4. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้ม ครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... 5. ผลกระทบด้านมลพิษทางเสียงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 6. การกำหนดมาตรฐานระดับเสียงของรถยนต์สามล้อ 7. การกำหนดมาตรฐานความสั่นสะเทือนโดยทั่วไปเพื่อป้องกันผลกระทบต่ออาคาร 8. ความเห็นต่อรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาชลประทานอุตรดิตถ์ จังหวัด อุตรดิตถ์ 9. รายงานความก้าวหน้าของการกำหนดให้ท้องที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด และพื้นที่บริเวณใกล้ เคียง เป็นเขตควบคุมมลพิษ
|
||||||||||||||||||||||||
1383 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... และในบริเวณพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ จังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2546 และในบริเวณพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2547 รวม 2 ฉบับ | ทส | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศรวม 4 ฉบับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครอง สิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตอนุรักษ์ และเขตควบคุมอาคาร โดยแบ่งพื้นที่การใช้บังคับออกเป็น 4 บริเวณ ได้แก่ บริเวณที่ 1 คือ พื้นที่บนแผ่นดินที่อยู่ในบริเวณสุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี หาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะ พีพี เป็นต้น บริเวณที่ 2 พื้นที่เกาะพีพีดอน บริเวณที่ 3 พื้นที่ในเกาะต่าง ๆ และบริเวณที่ 4 พื้นที่น่านน้ำทะเล ภายในบริเวณที่กำหนด โดยกำหนดห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารให้เป็นอาคารประกอบกิจการ บางประเภทที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดการห้ามกระทำหรือประกอบกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการ เปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ และกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครอง สิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้ม ครองสิ่งแวดล้อม โดยครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัด เพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นเขตควบคุมมลพิษและเขตอนุรักษ์ โดย แบ่งพื้นที่การใช้บังคับใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมออกเป็น 7 บริเวณ คือ พื้นที่บนแผ่นดิน พื้นที่ในบริเวณที่วัด จากแนวชายฝั่งออกไปในทะเลระยะ 3,000 เมตร และพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี 22 สิงหาคม 2543 โดย กำหนดห้ามก่อสร้าง ดัดแปลงหรือเปลี่ยนการใช้อาคารให้เป็นอาคารประกอบกิจการบางประเภทที่อาจมีผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดการห้ามกระทำหรือประกอบกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ และ กำหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) 3. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้น ที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2546 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนด เขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตร การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2546 ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้น ไป 4. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้น ที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอ ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2547 มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพ ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอ ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2547 ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วัน ที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
1384 | นางสาวปริศนา อุดมรัตน์ ขอต่ออายุหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพระพุทธบาทและป่าพุแค เพื่อทำเหมืองแร่หินปูน เพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ตามประทานบัตรที่ 19918/13774 และที่ 19919/13773 ท้องที่จังหวัดสระบุรี | ทส | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบผ่อนผันให้นางสาวปริศนา อุดมรัตน์ เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพระพุทธ บาทและป่าพุแค เพื่อทำเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ตามประทานบัตร ที่ 19918/13774 เลขที่ 19919/13773 ท้องที่จังหวัดสระบุรี ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้ผู้ขออนุญาตปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาต รวมทั้งดำเนินการตาม เงื่อนไขเพิ่มเติม ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2546 อย่างเคร่งครัด ไปดำเนิน การต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1385 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ทส | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศ จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครอง สิ่งแวดล้อม ในท้องที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคือ กำหนดเขตพื้นที่และ มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมโดยครอบคลุมพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ให้เป็นเขตควบคุม มลพิษ เขตผังเมืองรวม และเขตอนุรักษ์ โดยแบ่งพื้นที่การใช้บังคับออกเป็น 2 บริเวณคือ พื้นที่บนแผ่นดินใหญ่รวมพื้น ที่เกาะ และพื้นที่ส่วนที่เป็นทะเล โดยกำหนดห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารให้เป็นอาคารประกอบ กิจการบางประเภทที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดห้ามกระทำหรือประกอบกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อ การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ รวมทั้งกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวด ล้อมเบื้องต้น (IEE) 2. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครอง ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เป็นเขตควบคุมอาคารตามพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระ ราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2534 โดยแบ่งพื้นที่เพื่อการบังคับใช้มาตรการ ออกเป็น 9 บริเวณ โดยกำหนดห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารให้เป็นอาคารประกอบกิจการบาง ประเภทที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดห้ามกระทำหรือประกอบกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการเปลี่ยน แปลงของระบบนิเวศน์ รวมทั้งกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE)
|
||||||||||||||||||||||||
1386 | ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2552 | ทส | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 15
กรกฎาคม 2552 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีผลการประชุมสรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการศึกษา สำรวจ ออกแบบโครงการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 รวมทั้งให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการสำรวจและพัฒนา แหล่งน้ำบาดาลตามที่ได้เสนอของบประมาณภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (SP 2) รอบที่ 2 โดยกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถปรับปรุงรายละเอียดให้เหมาะสม และให้เสนอขอแปรญัตติงบประมาณ ปี พ.ศ. 2553 2. ที่ประชุมมีมติเรื่อง การโอนกิจการบางอย่างให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในส่วนที่เกี่ยวกับ ระบบ ดังนี้ 2.1 จัดทำระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคในภาพรวมของประเทศโดย มีกรมทรัพยากรน้ำเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ 2.2 จัดทำแผนการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในภาพรวมของประเทศทั้งระบบ ได้แก่ การสำรวจออกแบบ ก่อสร้าง การปรับปรุงซ่อมแซม ดูแล และบำรุงรักษา รวมทั้งการบริหารจัดการ โดยให้กรม ทรัพยากรน้ำเสนอของบประมาณดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2.3 ให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ท้องถิ่นในการจัดหาแหล่งน้ำในพื้นที่หา น้ำยาก โดยพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลและจัดทำระบบประปาหมู่บ้าน 2.4 ให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ เสนอเรื่องขอทบทวนการถ่ายโอนภารกิจที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและปรับปรุง ซ่อมแซมระบบประปาให้คณะกรรมการกระจายอำนาจ ฯ พิจารณา ในกรณีที่ อปท. ไม่สามารถดำเนินการได้หรือ ดำเนินการได้แต่ไม่มีประสิทธิภาพ ให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการแทน
|
||||||||||||||||||||||||
1387 | การเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุม AWG-LCA ครั้งที่ 7 และ AWG-KP ครั้งที่ 9 (Bangkok Climate Change Talks 2009) | ทส | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ประเทศไทย โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเจ้า ภาพร่วมในการจัดประชุม AWG-LCA ครั้งที่ 7 และ AWG-KP ครั้งที่ 9 (Bangkok Climate Change Talks 2009) ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน-9 ตุลาคม 2552 โดยนายก รัฐมนตรีเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมในวันแรก 2. อนุมัติวงเงินงบประมาณ จำนวน 5,000,000 บาท จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุมดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||
1388 | รายงานผลการประชุม UNEP High-level Ministerial Conference on Strengthening Transboundary Freshwater Governance | ทส | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุม UNEP High-level Ministerial Conference on Strengthening
Transboundary Freshwater Governance ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักเลขาธิการสิ่ง แวดล้อมแห่งสหประชาติ (United Nations Environment Program : UNEP) จัดการประชุมดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 20 22 พฤษภาคม 2552 โดยสาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาแผนการดำเนินงานกรุงเทพ ฯ และตกลงรับรอง "แผนการดำเนินงานกรุงเทพ ฯ" เพื่อให้มีการนำไปดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการ บริหารจัดการน้ำพรมแดนในแต่ละภูมิภาค โดยที่ประชุมขอให้รัฐบาลชาติต่าง ๆ ตระหนึกถึงข้อเสนอแนะที่ได้รับจาก การประชุมระดับรัฐมนตรีในครั้งนี้ ที่ปรากฏอยู่ใน Chair''s Summary และทำงานร่วมกับ UNEP และหุ้นส่วนอื่น ๆ ในการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะดังกล่าว รวมทั้งทบทวนและพิจารณาการประชุมของสหประชาชาติ เรื่อง Non- Navigational Uses of International Watercourses และร่างสนธิสัญญาน้ำบาดาลข้ามพรมแดน กับให้ UNEP จัด เวทีการหารือสำหรับลุ่มน้ำพรมแดน เพื่อช่วยให้มีการปรับปรุงความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้มีการแลก เปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างองค์กรลุ่มน้ำโดยการจัดเวทีครั้งแรกจะจัดในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2554 และให้ UNEP ส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อมในกรอบกฎหมายน้ำในทุกระดับและให้เกิดความสมานฉันท์ในระดับลุ่ม น้ำพรมแดน ตลอดจนเกิดการพัฒนากรอบความร่วมมือด้านการบริหารจัดการระบบนิเวศน้ำลุ่มน้ำพรมแดน กับให้ UNEP ส่งเสริมมิติด้านสิ่งแวดล้อมของชั้นน้ำบาดาลในระดับวิชาการและระดับการเมือง เพื่อสนับสนุนความพยายาม ของกรรมาธิการกฎหมายนานาชาติ UNESCO และอื่น ๆ นอกจากนี้ ให้ UNEP UNESCO และองค์กรนานาชาติที่ เกี่ยวข้องส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสานในระดับลุ่มน้ำพรมแดน
|
||||||||||||||||||||||||
1389 | นายวัฒนา ธำรงสัตย์ ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาวฝั่งซ้ายและป่าแม่กกฝั่งขวา เพื่อทำเหมืองแร่หินปูนและหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้าง ตามประทานบัตรที่ 16319/14023 ท้องที่จังหวัดเชียงราย | ทส | 21/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติผ่อนผันให้นายวัฒนา ธำรงสัตย์ เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย และป่าแม่กกฝั่งขวา เพื่อการทำเหมืองแร่หินปูนและหินอุตสาหกรรม เพื่อการก่อสร้าง ตามประทานบัตรที่ 16319 /14023 ท้องที่จังหวัดเชียงราย เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีแนวทางหรือมาตรการดำเนินการภายหลังสิ้นสุดอายุประทานบัตร เพื่อให้ ผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติจะต้องดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ป่าให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ กำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วน
|
||||||||||||||||||||||||
1390 | ไทยได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิก CSD สมัยประชุมที่ 19 - 21 | ทส | 21/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานว่า ที่ประชุมคณะ
มนตรีเศรษฐกิจและสังคม (Economic and Social Council : ECOSOC) เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2552 ได้จัดการ เลือกตั้งองค์กรย่อยจำนวน 19 องค์กรภายใต้ ECOSOC ซึ่งประเทศไทยได้รับการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการให้ดำรง ตำแหน่งสมาชิก CSD สมัยประชุมที่ 19-21 โดยมีกำหนดเริ่มดำรงตำแหน่งภายหลังการประชุม CSD สมัยที่ 18 ในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010) และครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013)
|
||||||||||||||||||||||||
1391 | โครงการแก้ไขปัญหาความขาดแคลนน้ำในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | ทส | 09/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติดำเนินงานแก้ไขปัญหาความขาดแคลนน้ำในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามใน 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ ที่จำเป็นเร่งด่วนต้องให้ความช่วยเหลืออีก 12 แห่ง ตามแนวทางปฏิบัติงานโครงการสำรวจและพัฒนาแหล่ง น้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และมอบหมาย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นผู้ดำเนินการ 2. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 16,620,000 บาท ให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาความ ขาดแคลนน้ำในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จำเป็นเร่งด่วนต้องให้ความช่วยเหลืออีก 12 แห่ง |
||||||||||||||||||||||||
1392 | รายงานผลการดำเนินการ กรณีชุมนุมประท้วงปิดถนนพหลโยธินเพื่อให้ปิดบ่อฝังกลบกากอุตสาหกรรมของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) จังหวัดสระบุรี | ทส | 30/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถอนเรื่อง รายงาน
ผลการดำเนินการ กรณีชุมนุมประท้วงปิดถนนพหลโยธินเพื่อให้ปิดบ่อฝังกลบกากอุตสาหกรรมของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) จังหวัดสระบุรี คืนไปได้ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งสรุปผลการดำเนินการเรื่องนี้ รวมทั้งความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นปัจจุบัน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1393 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 16/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการ
เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และ ให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ 1.1 เพิ่มกรรมการโดยตำแหน่งอีก 3 ตำแหน่ง คือ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สาร ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ 1.2 กำหนดตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษา เพิ่มเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการ ฯ ตามจำนวนที่ ประธานกรรมการเห็นสมควร 2. กำหนดให้นำวาระการดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามระเบียบ ฯ ข้อ 5 และข้อ 6 มาใช้บังคับกับการดำรงตำแหน่งของกรรมการที่ปรึกษาในคณะกรรมการ ฯ โดยอนุโลม
|
||||||||||||||||||||||||
1394 | รายงานการเจรจาเรื่อง แพนด้ากับกระทรวงป่าไม้แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และการพัฒนาสวนสัตว์ | ทส | 16/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. รับทราบผลการเจรจาความร่วมมือไทย-จีน ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงป่าไม้และสัตว์ป่าของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2552 โดยมีประเด็นการเจรจาเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาแพนด้า ไทย-จีน อย่างถาวร เพื่อก่อให้เกิดการวิจัยของแพนด้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งกรอบความร่วมมือด้าน ทรัพยากรธรรมชาติ และ State Forestry Administraqtion ซึ่งให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อพิจารณาจัดทำ กรอบความร่วมมือที่จะดำเนินงานวิจัย การแลกเปลี่ยนนักวิชาการ และการจัดฝึกอบรมสัมมนาร่วมกัน 2. รับทราบแผนการพัฒนาสวนสัตว์และการขยายสวนสัตว์ ที่องค์การสวนสัตว์ดำเนินการเพื่อรองรับงาน การศึกษา งานวิจัย โดยองค์การสวนสัตว์ได้พัฒนาสวนสัตว์ที่มีอยู่แล้ว 5 แห่ง คือ สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขา เขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา และสวนสัตว์สงขลา และได้ขยายสวนสัตว์แห่งใหม่อีก 6 แห่ง คือ สวน สัตว์อุบลราชธานี สวนสัตว์ราชบุรี สวนสัตว์นครสวรรค์ สวนสัตว์สุโขทัย สวนสัตว์สุรินทร์ อุทยานสัตว์ป่าอีสานตอน บน ขอนแก่น-อุดรธานี โดยการพัฒนาและขยายสวนสัตว์ ขอให้พิจารณามอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ พิจารณาให้การสนับสนุนแผนการลงทุนการดำเนิน งานในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดำเนินงานบรรลุเป้าหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1395 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายวิชาญ ทวิชัย) | ทส | 03/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวิชาญ ทวิชัย ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรทางทะเลและ
ชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
1396 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีของ World Water Forum ครั้งที่ 5 | ทส | 03/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1.1 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศแบบองค์รวม มีการบูรณา การหน่วยงานและกิจกรรมในระบบลุ่มน้ำ รวมทั้งกำหนดนโยบายการจัดการทรัพยากรน้ำ โดยการมีส่วนร่วมของ ประชาชน ทั้งนี้ ให้พิจารณาน้ำ อาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อมให้เกี่ยวโยงกันอย่างเป็นระบบ ตลอดจนมีการ เฝ้าระวังเตือนภัยจากน้ำ โดยการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล 1.2 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันการก่อสร้างและปรับปรุงซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน และระบบ สุขาภิบาลทุกหมู่บ้านให้บรรลุ Millennium Development Goals ของสหประชาชาติ เพื่อสนองตอบความต้องการ น้ำอุปโภค-บริโภค และระบบสุขาภิบาล 1.3 ให้สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณการดำเนินการภายใต้แผนการลงทุนพัฒนาและบริหาร จัดการน้ำและการชลประทาน ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้แล้วเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 เพื่อดำเนินการเป็นรูป ธรรมในการปฏิบัติต่อไป 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายการจัดการทรัพยา กรน้ำทั้งระดับชาติและระดับลุ่มน้ำ ควรคำนึงถึงปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องและภาคประชาชนเพื่อให้การจัดการทรัพยากรน้ำเป็นระบบและยั่งยืน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการดำเนินงาน ด้านการป้องกันและลดผลกระทบตามมาตรการด้านโครงสร้างและไม่ใช้โครงสร้าง เนื่องจากการลงทุนเพื่อป้องกันมี ความคุ้มค่ามากกว่าการลงทุนเพื่อบรรเทาปัญหาจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น และให้ความสำคัญกับการจัดการทรัพยากร น้ำภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกที่จะมีผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อมิติเศรษฐกิจ สังคมและ สิ่งแวดล้อม โดยใช้คนเป็นศูนย์กลางในการจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย 3. ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติรวบรวมข้อมูลรายละเอียด ปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการบริหาร จัดการน้ำในภาพรวม รวมทั้งในส่วนที่ได้มีการโอนกิจการบางอย่างให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปดำเนินการ ด้วย เช่น กิจการประปาที่มีปัญหาเกี่ยวกับการซ่อมแซมท่อประปาที่ชำรุด พร้อมทั้งจัดทำแนวทางแก้ไขปัญหาแล้วให้ นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1397 | มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย | ทส | 03/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 1.1 มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอัน ตราย ประกอบด้วย 1.1.1 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย 1.1.2 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการขนส่ง 1.1.3 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผู้ประกอบการบำบัดกำจัดหรือรีไซเคิล 1.1.4 มาตรการสนับสนุน 1.2 ให้กระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวพร้อมทั้งให้คณะ อนุกรรมการประสานการจัดการสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรมประสานและติดตามการดำเนินการตามมาตรการ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีต่อไป 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบ ด้วยกระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ และสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการนำมาตรการด้านภาษีเข้ามาสนับสนุนเพื่อ สร้างแรงจูงใจและตอบแทนให้ผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยอาจมีการลดหย่อนภาษีให้ตามปริมาณของเสียบำบัด ในแต่ละปี และเห็นควรมีเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายอย่างเพียงพอ มีความ รู้ ความชำนาญเป็นอย่างดี และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งมีการบูรณาการแนวปฏิบัติและผลที่จะได้รับจากมาตรการ ฯ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนิน การ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1398 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ในท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... | ทส | 03/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี
ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ในท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... ที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ มี สาระสำคัญคือ เพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ในท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ประมาณ 14 ไร่ 32 ตารางวา ออกจากการเป็น อุทยานแห่งชาติ ตามที่กำหนดไว้โดยพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขา บ่อแร่ และป่าห้วยเขยง ในท้องที่ตำบลไล่โว่ ตำบลหนองลู ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี และตำบลชะแล ตำบล ปิล๊อก ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2534 และให้ดำเนินการ ต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1399 | ผลการประชุม G77 Ministerial Forum on Water ครั้งที่ 1 | ทส | 03/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอผลการประชุม G77 Ministerial Forum
on Water ครั้งที่ 1 ณ รัฐสุลต่านโอมาน ระหว่างวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์ 2552 โดยมีผู้แทนจากกระทรวงการต่าง ประเทศ ณ เอกอัครราชทูตไทย ประจำรัฐสุลต่านโอมาน เข้าร่วมการประชุมแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยผลการประชุม ฯ ได้มีการหารือถึงปัญหาและยุทธศาสตร์การจัดการน้ำในกลุ่มประเทศ กำลังพัฒนา โดยจัดทำ Muscat Declaration on Water ซึ่งมีข้อสรุปและข้อเสนอแนะ 21 ข้อ และนำข้อเสนอดังกล่าว หารือในการประชุม 5th World Water Forum ระหว่างวันที่ 16-22 มีนาคม 2552 ณ นครอิสตันบูล และมีมติเกี่ยว กับการแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัด การแหล่งน้ำที่มีพื้นที่ทับซ้อนหลายประเทศ เสริมสร้างศักยภาพและอำนาจต่อรองของประเทศสมาชิกเพื่อให้บริการ ด้านคำปรึกษาทางเทคนิต ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความสามารถ รวมทั้งแนววิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด และบท เรียนที่ประเทศต่าง ๆ ได้รับจากการดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับแหล่งน้ำ สุขอนามัย และการบริหารจัดการสิ่งแวด ล้อม เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุม ฯ เน้นเรื่องการส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับน้ำและสุขอนามัย ภายใต้กรอบสหประชาชาติ
|
||||||||||||||||||||||||
1400 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 17 และการประชุมหารือร่วมกับธนาคารโลก | ทส | 03/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอสรุปผลการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิ
การว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 17 [Intergovernmental Preparatory Meeting for the 17th Session of the United Nations Commission on Sustainable Development (CSD 17)] ระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2552 และการประชุมหารือร่วมกับธนาคารโลก ระหว่างวันที่ 12-17 พฤษภาคม 2552 ของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะ สรุปได้ดังนี้ 1. ผลการประชุม CSD 17 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเอกสารทางเลือกนโยบายและมาตรการทางปฏิบัติ เพื่อเร่งรัดการปฏิบัติในเรื่องเกษตรกรรม การพัฒนาชนบท ที่ดิน ความแห้งแล้ง การแปรสภาพเป็นทะเลทราย และ แอฟริกา (Policy options and practical measures to expedite implementation in agriculture, rural development, land, drought, desertification and Africa) 2. ผลการหารือร่วมกับธนาคารโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้นำ เสนอผลการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างประเทศเรื่อง The International Workshop on "A Forgotte Crisis : Arrest ing Wildlife Depletion in Asia through Strengthened Regional Cooperation and Effective Partnerships" ระหว่าง วันที่ 10-12 เมษายน 2552 โดยแจ้งต่อที่ประชุมเชิงปฏิบัติการ ฯ ให้ทราบว่าไทยพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระดับรัฐมนตรีในกลุ่มประเทศที่ร่วมต่อต้านการคุกคามเสือ (Tiger range states) เพื่อสืบต่อผลการประชุมเชิงปฏิบัติ การ ฯ และประกาศให้ปี พ.ศ. 2553 เป็นปีแห่งการรณรงค์เรื่องเสือ หรือ "Year of the Tiger" รวมทั้งได้กล่าวถึงวัตถุ ประสงค์ของกองหมู่บ้านและการจัดการน้ำแบบบูรณาการในประเทศไทย ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้มีการประสานงาน กันอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องกองทุนหมู่บ้านและการจัดการน้ำแบบบูรณาการ
|
.....