ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 39 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 761 - 780 จากข้อมูลทั้งหมด 124195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
761 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ในการบริการแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่เป็นการเฉพาะราย พ.ศ. .... | กษ. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไข ในการบริการแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่เป็นการเฉพาะราย พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกค่าบริการในการขอรับบริการแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่
ให้สามารถรับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
และยกเลิกเงื่อนไขการห้ามผู้รับบริการเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ จ่าย แจก
หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่แก่บุคคลที่ ๓
แต่ยังคงมีเงื่อนไขการห้ามจำหน่ายให้กับบุคคลที่ ๓ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ดังนี้ (๑)
ควรกำหนดเงื่อนไข กรณีเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ จ่าย แจก
หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของแผนที่
ควรได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดกับหน่วยงานได้ (๒) ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานแผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่
และการใช้งานดังกล่าวที่ไม่ขัดต่อประโยชน์ส่วนรวม โดยอาจมีการออกมาตรการเพิ่มเติม
เช่น ควรมีการขอหลักฐานและผลการศึกษาที่สามารถเปิดเผยได้หลังการใช้งานเพื่อการศึกษาวิจัย
ควรมีการคิดค่าธรรมเนียมการใช้งานข้อมูลในเชิงธุรกิจเหมือนเดิม
ควรมีการออกประกาศชนิดแผนที่ภาพถ่ายตลอดจนรายชื่อระวางที่จำเป็นจะต้องดำเนินการ
เป็นต้น และ (๓)
ควรมีเงื่อนไขหรือมีข้อจำกัดในการใช้งานในกรณีที่แผนที่หรือข้อมูลทางแผนที่ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือเป็นพื้นที่อ่อนไหว
และควรกำหนดรูปแบบการให้บริการให้มีความชัดเจนและมีช่องทางหลากหลาย ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
762 | ขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินงานก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้า 22 kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี 4 ถึงจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตามโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 และงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า 115 kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี 4 ถึงสถานีไฟฟ้าบริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกาญจนบุรี | มท. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ เรื่อง
ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง
และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก
และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ
(ลุ่มน้ำชายแดน) เพื่อดำเนินงานก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้า ๒๒ kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี ๔ ถึงจุดผ่านแดนถาวร บ้านพุน้ำร้อน
ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ตามโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ ๒ และงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า
๑๑๕ kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี ๔
ถึงสถานีไฟฟ้าบริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกาญจนบุรี ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นด้วยกับแผนงานก่อสร้างดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
รับความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย กระทรวงคมนาคม เห็นควรให้โครงการนำมาตรการการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
พร้อมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และการดำเนินการก่อสร้างใด
ๆ ในเขตทางหลวงจะต้องขออนุญาตจากกรมทางหลวงตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางเป็นสำคัญ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง
การดำเนินโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า หากมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
ให้พิจารณาใช้จ่ายจากเงินรายได้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
763 | การนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก | ทส. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้
๑.๑ เห็นชอบเอกสารนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม
อัตลักษณ์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ภายใต้ชื่อ “Phra Prang of Wat Arun Ratchawararam :
The Masterpiece of Krung Rattanakosin” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น
(Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก
๑.๒
เห็นชอบให้ประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกลงนามในเอกสารนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม
“พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ภายใต้ชื่อ “Phra Prang of
Wat Arun Ratchawararam : The Masterpiece of Krung Rattanakosin” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น
(Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส
สาธารณรัฐฝรั่งเศส
๑.๓ มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาตินำเสนอเอกสารการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม
“พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ภายใต้ชื่อ “Phra Prang of
Wat Arun Ratchawararam : The Masterpiece of Krung Rattanakosin” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก
ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘
เห็นควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘ หรือโอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ
แล้วแต่กรณี ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเท่าที่จำเป็น
โดยคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน ความประหยัด ความคุ้มค่า
ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่จะได้รับ
การบูรณาการของหน่วยงานหลักและหน่วยงานสนับสนุนและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
764 | ร่างแถลงการณ์ร่วมของการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย - สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 5 | กต. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
765 | รายงานผลการดำเนินงานและขอขยายเวลาการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง | กษ. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรลูกหนี้ธนาคารของรัฐ
๔ แห่ง ๒.
เห็นชอบให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑
ธันวาคม ๒๕๖๗
ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนหนี้ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรถูกต้องครบถ้วนแล้ว
และเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non -
Performing Loan : NPLs) ภายในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๓. เห็นชอบให้ธนาคารของรัฐทั้ง ๔ แห่ง
คิดดอกเบี้ยและเบิกจ่ายเงินชดเชยเงินต้นครึ่งหลัง (ร้อยละ ๕๐)
ที่พักไว้ทั้งจำนวนของเกษตรกร จำนวน ๑๖,๗๙๔ ราย และที่แจ้งเพิ่มเติมภายหลังที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ได้ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ทั้งนี้ ให้ธนาคารของรัฐ ๔ แห่ง ต้องควบคุมกรอบวงเงินที่ได้รับจัดสรรของแต่ละธนาคาร
โดยไม่เกินกรอบวงเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน ๑๕,๔๘๑.๖๖ ล้านบาท
ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ๔. เห็นชอบให้ขยายเวลาการดำเนินโครงการฯ
ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๘ โดยให้ระยะเวลาในการดำเนินโครงการสิ้นสุดลงภายใน ๑๕๐
วัน นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ทั้งนี้
ต้องเป็นเกษตรกรที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒
มีนาคม ๒๕๖๕ และ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ที่มาแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ
ภายในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๘ โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ ๔.๑
ให้เกษตรกรและสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)
ส่งมอบเอกสารแบบแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ (ปคน.๑) (ปคน.๒) และแบบ (ผค.๑/๔) ให้สถาบันเจ้าหนี้ให้แล้วเสร็จ
ภายใน ๑๒๐ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ๔.๒
ให้สถาบันเจ้าหนี้ดำเนินการทำสัญญาให้แล้วเสร็จ ภายใน ๑๕๐ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ๔.๓
ในกรณีที่เกษตรกรไม่สามารถทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ได้แล้วเสร็จ ภายใน ๑๕๐ วัน
เช่น ติดปัญหาเรื่องหลักประกัน
หรืออยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายหรืออยู่ระหว่างการดำเนินการของส่วนราชการ
ให้ขยายระยะเวลาการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารออกไปอีกแต่ไม่เกิน ๑๕๐ วัน
นับแต่วันที่ศาล มีคำสั่ง หรือคำพิพากษาถึงที่สุด หรือวันที่ได้รับแจ้งผลการดำเนินการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ๔.๔
มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับธนาคารของรัฐทั้ง ๔ แห่ง นำมติคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบการขยายเวลาข้างต้นตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลังไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์
แนวทาง และขั้นตอนการดำเนินการตามโครงการฯ ในแต่ละส่วนให้มีความชัดเจน เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการฯ
ตลอดจนจัดทำรายละเอียดข้อมูลจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ
และภาระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยของเกษตรกรแต่ละรายให้ชัดเจน เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินโครงการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรสนับสนุนให้เกษตรกรจัดทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความพร้อมของเกษตรกรในการผลิตสินค้าเกษตร
ผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสและช่องทางการตลาดที่ชัดเจน
พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนและผลักดันให้เกษตรกรดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้
เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมีความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ
ตลอดจนการเสริมสร้างวินัยด้านการเงินให้กับเกษตรกร
เพื่อป้องกันปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคตอีก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
766 | รายงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | 08/04/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
พ.ศ. ๒๕๕๙ ของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ สรุปได้ ดังนี้ (๑) ปี ๒๕๖๖
ผลการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ พ.ศ.
๒๕๖๐ - ๒๕๗๐ มีจำนวน ๒๒ ตัวชี้วัดผ่านเป้าหมาย จำนวน ๑๔ ตัวชี้วัด เช่น
ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา มีความรู้ด้านเพศวิถีศึกษาและทักษะชีวิตที่มีคุณภาพ
ร้อยละความพึงพอใจของวัยรุ่นที่ได้รับบริการสุขภาพที่เป็นมิตร เป็นต้น
ไม่ผ่านเป้าหมาย จำนวน ๗ ตัวชี้วัด เช่น
ร้อยละของพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีทักษะการสื่อสารทางเพศ การเลี้ยงดูบุตรหลานร้อยละของการตั้งครรภ์ในหญิงอายุน้อยกว่า
๒๐ ปี เป็นต้น และยังไม่ถึงรอบการเก็บข้อมูล จำนวน ๑ ตัวชี้วัด ได้แก่ ร้อยละของวัยรุ่นที่ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง
(๒) การดำเนินการทางกฎหมาย ได้แก่ ๑) การดำเนินงานคุ้มครองสิทธิวัยรุ่นมีระบบการช่วยเหลือ
เช่น สายด่วน ๑๖๖๓ แอปพลิเคชัน TEEN CLUB เป็นต้น ซึ่งมีผู้รับบริการให้คำปรึกษากรณีตั้งครรภ์กลุ่มหญิงอายุต่ำกว่า
๒๐ ปี จำนวน ๖,๓๑๙ ราย ๒)
การร้องเรียนกรณีตั้งครรภ์ในกลุ่มอายุน้อยกว่า ๒๐ ปี มีจำนวน ๑๕๒ ราย
ส่วนใหญ่เป็นการถูกปฏิเสธการยุติตั้งครรภ์จำนวนทั้งสิ้น ๑๔๔ ราย ๓)
การดำเนินการทางคดีผู้เสียหายกรณีถูกละเมิดสิทธิ ในกลุ่มอายุน้อยกว่า ๒๐ ปี
ไม่ประสงค์จะต่อสู้หรือเรียกร้องสิทธิใด ๆ
แต่เลือกวิธีการให้แนวทางหรือบริการทดแทน และ (๓) ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอ
และแนวทางการพัฒนาภารกิจสำคัญของแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๐ เช่น การขับเคลื่อนแผนระดับนโยบายยังพัฒนาให้เกิดการบูรณาการ ควรพัฒนาวิธีการสร้างความเข้าใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานทั้งภาครัฐและเอกชน
เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
767 | มติการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 | นร.13 | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
768 | (ร่าง) ข้อเสนอการกำหนดโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันเพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ | สกช. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบ (ร่าง)
ข้อเสนอการกำหนดโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันเพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ
ซึ่งประกอบด้วย (๑) ขอให้รัฐกำหนดราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันทั้งทะลายของโรงงาน
โดยกำหนดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มดิบไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๘
เป็นมาตรฐานราคากลางในการรับซื้อ และ (๒)
ขอให้รัฐกำหนดโครงสร้างราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันทั้งทะลายของโรงงาน
โดยให้ใช้สูตรมาตรฐานในการคำนวณราคาปาล์มทะลายสดแบบคุณภาพสัมพันธ์ ร้อยละ ๑๘-๒๒
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว
๒.
มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับ (ร่าง)
ข้อเสนอการกำหนดโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันเพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งมีความเห็นสอดคล้องกันว่า
เห็นควรมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา
เนื่องจากมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาศึกษา วิเคราะห์ติดตามสถานการณ์ กลั่นกรอง
และเสนอมาตรการและแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
769 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงสถานที่ฝึกซ้อม/แข่งขัน (กีฬาทางน้ำ) ภายในสนามกีฬาหัวหมาก เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) จากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กก. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๓๒๐,๒๖๘,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสถานที่ฝึกซ้อม/แข่งขัน
(กีฬาทางน้ำ) ภายในสนามกีฬาหัวหมาก
เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๓๓
พ.ศ. ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ ๑๓ พ.ศ. ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕)
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ
ที่ นร ๑๗๑๓/๓๖๕๗ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๘) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓) และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ขอให้การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดประกอบ เพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดทำแผนบริหารจัดการปรับปรุงสถานที่อย่างรัดกุมและมีขั้นตอนการดำเนินงานที่ชัดเจน
ตลอดจนต้องมีการกำกับและควบคุมการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานแล้วเสร็จก่อนการแข่งขัน
และเปิดใช้งานได้ตามกำหนดแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณสนามแข่งขันให้ครอบคลุมการพัฒนากีฬาทางน้ำในทุกมิติ
โดยเฉพาะการกำหนดนโยบายและแผนการสนับสนุนงบประมาณที่ชัดเจนสำหรับพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมกีฬาระดับนานาชาติ
รองรับกิจกรรมกีฬาและนันทนาการที่มีความหลากหลาย รวมทั้งพัฒนาแนวทางความร่วมมือกับภาคเอกชนในการประชาสัมพันธ์และสร้างรายได้เพื่อให้การดำเนินงานด้านการกีฬามีความยั่งยืนและก่อให้เกิดประโยชน์ทางตรงต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศได้มากขึ้นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
770 | การจัดทำโครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง) ของกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) | พม. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
771 | ขอรายงานสรุปผลการดำเนินงานของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ในห้วงวันที่ 1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567 | สกมช. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
ในห้วงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ รวมทั้งสิ้น ๑,๘๒๗ เหตุการณ์ โดยศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
ได้ดำเนินการติดตาม วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
เพื่อให้ความช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน รับมือ
และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตามที่คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
772 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน | พน. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ประกอบด้วย ๑.๑
การกำกับกิจการพลังงาน เช่น ๑)
เห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับโครงการขยายเขตไฟฟ้าไปยังพื้นที่เกาะ
๒) จัดทำโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง/ขยะอุตสาหกรรม/ที่เป็นผลพลอยได้จากการกำจัดมูลฝอย
และ ๓) ปรับปรุงวิธีการอุดหนุนอัตราค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่มีรายได้น้อยโดยกำหนดคุณสมบัติผู้ที่สมควรได้รับการช่วยเหลือบนพื้นฐานระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมแทนการกำหนดคุณสมบัติด้วยปริมาณการใช้ไฟฟ้า ๑.๒
การบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เช่น ๑) อนุมัติจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการชุมชนในพื้นที่ที่
สกพ. ประกาศกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่มีสิทธิได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ จำนวน ๘,๔๗๒ โครงการ วงเงิน ๔,๘๔๓.๐๗
ล้านบาท และ ๒) จัดสรรเงินเพื่อการศึกษาวิจัย จำนวน ๒ โครงการ วงเงิน ๖.๒๔ ล้านบาท
ประกอบด้วย โครงการอุปกรณ์แชร์พลังงานสำหรับระบบไฟฟ้าที่ใช้พลังงานหมุนเวียนแบบผสมและโครงการศึกษาและเสนอร่างหลักเกณฑ์การนำน้ำทิ้งจากโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพไปใช้ประโยชน์
โดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ๒. รายงานสถานะทางการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
773 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวณฐิณี สงกุมาร และนางสาวจิตตา กิตติเสถียรนนท์) | นร.12 | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวณฐิณี สงกุมาร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ
(นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ ๒. นางสาวจิตตา กิตติเสถียรนนท์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ
(นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
774 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสมุทรปราการและศาลแรงงานจังหวัดระยอง พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ศย. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานศาลยุติธรรมถอนร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสมุทรปราการและศาลแรงงานจังหวัดระยอง
พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ตามที่เสนอได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
775 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... | คค. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗
และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗
และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา
๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันศุกร์ที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๘ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา
ของวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๘ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางบนทางหลวงพิเศษในช่วงเทศกาลดังกล่าว
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม
โดยกรมทางหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กำหนดมาตรการหรือแนวทางในการบริหารจัดการจราจรและดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
และพิจารณาใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับเอกชนที่ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อแจ้งเตือนอุบัติเหตุบนถนน
อันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของประชาชนให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว
และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
776 | ร่างกฎกระทรวง ที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2550 รวม 9 ฉบับ | ดศ. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง
ที่อาศัยอำนาจตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. ๒๕๕๐ รวม ๙ ฉบับ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑.๑
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. ....
เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น รายได้ ค่าใช้จ่าย ภาวะหนี้สิน
ทรัพย์สิน ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างภาวะการทำงานของประชากร
พ.ศ. ....
เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและคุณลักษณะของกำลังแรงงานในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ๑.๓
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างการย้ายถิ่นของประชากร พ.ศ. .... เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการย้ายถิ่นของประชากร ๑.๔
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างอนามัยและสวัสดิการ พ.ศ. .... เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล
เช่น การได้รับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล การรับบริการทันตกรรม ๑.๕
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. ....
เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ ภาวะสุขภาพ
และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับผู้สูงอายุ ๑.๖
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. ....
เป็นการสำรวจตัวอย่างเกี่ยวกับคุณลักษณะของครัวเรือน พัฒนาการของทารก สุขภาพของแม่
พัฒนาการของเด็ก ๑.๗
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชากร พ.ศ. ....
เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น พฤติกรรมการสูบบุหรี่
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ๑.๘
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและลักษณะต่าง
ๆ ของประชากรที่มีงานทำแต่ไม่ได้รับความคุ้มครอง ๑.๙.
ร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างความพิการ พ.ศ. .... เป็นการสำรวจตัวอย่างเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความพิการข้อมูลพื้นฐานทางประชากรและสวัสดิการจากภาครัฐ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงแรงงาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เห็นว่าร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างประชากรสูงอายุในประเทศไทย
พ.ศ. .... ควรทบทวนบทนิยาม คำว่า “ผู้สูงอายุ” ให้สอดคคล้องกับมาตรา ๓
แห่งพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ และร่างกฎกระทรวงการสำรวจตัวอย่างความพิการ
พ.ศ. .... ควรเพิ่มบทนิยาม คำว่า “คนพิการ” ให้สอดคล้องกับมาตรา ๔
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐
และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
และหน่วยงานสามารถนำข้อมูลจากการสำรวจไปดำเนินการวางแผนพัฒนาระบบสวัสดิการสังคมที่เหมาะสมได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
รวมถึงการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลในระบบสารสนเทศของประเทศ
เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการต่อไป กระทรวงแรงงาน เห็นว่าการเปลี่ยนถ้อยคำ จาก “แรงงานนอกระบบ”"
เป็น “แรงงานอิสระ” เป็นการสอดคล้องกับลักษณะหรือสภาพการทำงานที่แท้จริงของแรงงานประเภทนี้
๒.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย ที่เห็นควรมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บข้อมูล
เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินการ ควรคำนึงถึงความแตกต่างของชุมชน วิถีชีวิต วัฒนธรรม
และภูมิปัญญาของบริบทในแต่ละพื้นที่
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด ควรเพิ่มบทนิยาม คำว่า “ครัวเรือนสถาบัน”
“เด็ก” “การสูบบุหรี่” “แรงงานนอกระบบ” และควรเพิ่มเติมอายุขั้นต่ำของ “สมาชิกในครัวเรือน”
ที่มีอายุมากพอและเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับครัวเรือน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
777 | บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งเนปาล | กก. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งเนปาล
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือผู้แทน
เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งเนปาล
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว
ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล สถิติ และประสบการณ์การดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
รวมถึงสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในสาขาการท่องเที่ยวและการบริการ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ชาวเนปาลให้ความสนใจ
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาตามรอยวัฒนธรรมและความเชื่อ
และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการผจญภัย
ซึ่งเป็นจุดแข็งการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่สามารถดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวชาวเนปาลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและทำกิจกรรมในประเทศไทยมากขึ้น
และควรมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้ประโยชน์จากการพัฒนาความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้มีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ตลอดจนมีการติดตามและประเมินผลความร่วมมือดังกล่าว
เพื่อนำผลที่ได้ไปต่อยอดสู่การขยายความร่วมมือในด้านอื่น ๆ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
778 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568) | ปสส. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘
ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....
ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
779 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 | ปสส. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ๑)
ร่างพระราชบัญญัติโอนที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะในท้องที่ตำบลดงเย็น
อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ. .... ๒)
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒
ครั้งที่ ๒๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๘ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒๙ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ
วันพฤหัสบดีที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๘ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
780 | การเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและมีความสำคัญ | นร. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายชูศักดิ์ ศิรินิล) ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลรายงานว่า
ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ประชุมได้มีมติ ๑. เห็นชอบบัญชีร่างพระราชบัญญัติที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและมีความสำคัญเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็ว
(Fast-track) ชุดที่ ๒ ได้แก่ ๑.๑
ร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. .... (กระทรวงการคลัง) ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ
พ.ศ. .... (กระทรวงแรงงาน) ๑.๓
ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระทรวงพาณิชย์) ๑.๔
ร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. .... (กระทรวงยุติธรรม) ๑.๕
ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ....
(กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๑.๖
ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๑.๗
ร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระทรวงการคลัง) ๑.๘
ร่างพระราชบัญญัติสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. .... (กระทรวงการคลัง) ๑.๙
ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. .... (กระทรวงพลังงาน) ๑.๑๐
ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม พ.ศ. .... (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) ๑.๑๑
ร่างพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... (กระทรวงพาณิชย์) ๑.๑๒
ร่างพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระทรวงอุตสาหกรรม) ๑.๑๓ ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. ....
(กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ๑.๑๔
ร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน พ.ศ. .... (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) รวม ๑๔ ฉบับ
และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสนอร่างพระราชบัญญัติในความรับผิดชอบโดยเร็วตามกรอบเวลา ๒.
เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดียาเสพติด พ.ศ. ....
ซึ่งเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและมีความสำคัญเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็ว
(Fast-track) ชุดแรก
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วเห็นว่า
ยังไม่มีความจำเป็นต้องตรากฎหมายดังกล่าว
คณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลจึงเห็นควรให้ถอดร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวออกจากบัญชีร่างพระราชบัญญัติที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและมีความสำคัญเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็ว
(Fast track) ชุดแรกก่อน
|