ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 38 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 741 - 760 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
741 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
พ.ศ. ๒๕๔๒
โดยปรับปรุงกลไกและมาตรการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษทางอาญาและแก้ไขบทกำหนดโทษสำหรับความผิดที่ไม่ร้ายแรงให้มีเพียงโทษปรับสถานเดียว
รวมทั้งปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
โดยให้ส่งความเห็นของกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
742 | หนังสือสัญญาการรับเงินอุดหนุน (Grant Agreement) ภายใต้โครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน ด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Thai-German Cooperation on Energy, Mobility, and Climate: TGC-EMC) ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit: GIZ) | ทส. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหนังสือสัญญาการรับเงินอุดหนุน (Grant Agreement) ภายใต้โครงการความร่วมมือไทย - เยอรมัน
ด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Thai - German Cooperation on Energy, Mobility, and Climate : TGC - EMC)
ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (Deutsche Gesellschaft
fur Internationale Zusammenarbeit : GIZ) และให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในหนังสือสัญญาการรับเงินอุดหนุนฯ โดยหนังสือสัญญาการรับเงินอุดหนุนฯ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวงเงินสนับสนุนทั้งหมดไม่เกิน ๔.๔ ล้านยูโร (ประมาณ ๑๕๖.๕๗
ล้านบาท) โดยมีระยะเวลาการให้เงินสนับสนุนระหว่างวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖ - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๗๐
รวมถึงกำหนดเงื่อนไขการรับเงินสนับสนุน เช่น การยื่นขอเบิกจ่ายเงินและรายงานต่าง ๆ
ต่อ GIZ การมอบสิทธิให้ GIZ ใช้ผลลัพธ์ของโครงการ
เงื่อนไขการระงับการให้เงินสนับสนุน เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหนังสือสัญญาการรับเงินอุดหนุน (Grant
Agreement) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณ รวมถึงข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด
(หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ด่วนที่สุด ที่ อส ๐๐๐๖/๑๖๐๓ ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์
๒๕๖๗) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญาด้วยความรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดการชำระคืนเงินอุดหนุนดังกล่าว
กรณีผู้รับสัญญาไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าการจัดสรรเงินกองทุนควรพิจารณาตามหลักเกณฑ์
ความรับผิดชอบที่เท่าเทียมในระดับที่แตกต่างกันด้วย เพื่อบรรเทาปัญหาในระยะยาวในทุกมิติและหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขหนังสือสัญญาดังกล่าวให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ |
||||||||||||||||||||||||||||||
743 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 เรื่อง การทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน | กษ. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบทบทวนมติคณะรัฐมนตรี วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๒
เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ เรื่อง
การทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน
และให้ใช้ข้อเสนอแนวทางการพัฒนาโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ
และสำนักงบประมาณ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงพาณิชย์ เห็นควรให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการอาหารเสริม
(นม) โรงเรียน
ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมด้านการบริหารจัดการฟาร์มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อาทิ ให้ความรู้ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตน้ำนมโคที่มีคุณภาพ
รวมถึงลดต้นทุนการเลี้ยงโคนมได้อย่างยั่งยื่น กระทรวงศึกษาธิการ เห็นควรมีการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์นมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
(อย.) กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อให้นักเรียนได้บริโภคอาหารเสริม (นม) โรงเรียน
ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนในการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและภูมิคุ้มกันโรค |
||||||||||||||||||||||||||||||
744 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ชนิดเหนี่ยวนำสามเฟสต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ
ชนิดเหนี่ยวนำสามเฟสต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมอเตอร์เหนี่ยวนำสามเฟส
: ประสิทธิภาพต่ำ มาตรฐานเลขที่ มอก. ๘๖๗ - ๒๕๕๐
โดยเป็นการยกเลิกมาตรฐานเดิมและกำหนดมาตรฐานใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก.
๘๖๖ เล่ม ๓๐ (๑๐๑)-๒๕๖๑ เพื่อให้รองรับการพัฒนาเทคโนโลยีการทำและการใช้งานภายในประเทศอย่างทั่วถึง
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
745 | เอกสารผลลัพธ์ของการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ครั้งที่ 15 และการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (JDS) ครั้งที่ 6 ระดับรัฐมนตรี ระหว่างไทยกับมาเลเซีย | กต. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมฯ ได้แก่ (๑)
บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ครั้งที่ ๑๕
(๒) บันทึกการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (JDS)
ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ครั้งที่ ๖ และ (๓)
แผนยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (JDS
Strategic Plan) ค.ศ. ๒๐๒๔ - ๒๐๒๗ เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ
ได้ดำเนินการตามผลลัพธ์ของการประชุมฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรติดตามและประเมินผลการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะในประเด็นความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน
และโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนที่จำเป็นต้องเร่งรัดการดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
พร้อมทั้งสื่อสารผลการดำเนินงานให้สาธารณชนทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
746 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... | สคก. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนาม
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
747 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนดอนแสลบ จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... | มท. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนดอนแสลบ
จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค
บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยได้มีการกำหนดแผนผังและการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตผังเมืองรวมจำแนกออกเป็น ๗
ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะกำหนดลักษณะกิจการที่ให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินแต่ละประเภทนั้น
ๆ อีกทั้งได้กำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแผนผังแสดงที่โล่ง แผนผังแสดงโครงการคมนาคมและขนส่ง
และแผนผังแสดงโครงการกิจการสาธารณูปโภค ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และกระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เห็นว่าการใช้ประโยชน์ในที่ดินประเภทต่าง ๆ
ควรใช้ประโยชน์ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของที่ดินประเภทนั้น ๆ และควรคำนึงถึง กฎ
ระเบียบที่เกี่ยวข้องในการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
อีกทั้งการดำเนินการใด ๆ ในพื้นป่าไม้ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||
748 | การขอรับสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง โครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | กษ. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร
๓ (น้ำแข็งแห้ง) จำนวน ๔ แห่ง วงเงินงบประมาณ ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
749 | แนวทางการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 และการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2568 | ปสส. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมร่วมกันของรัฐสภาและการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
เกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๕
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ
วันพุธที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๘ และระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒
ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๘
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
750 | ข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเพื่อบูรณาการจัดการความเสียหายจากช้างป่าและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม | สม. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเพื่อบูรณาการจัดการความเสียหายจากช้างป่าและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม ๒.
มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
751 | เรื่องสืบเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ของนายกรัฐมนตรี | นร. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
สืบเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เพื่อติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การพนันออนไลน์
การหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และภาคเอกชนในการดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์
การตัดสายสื่อสารข้ามแดน ตลอดจนการปรับลดระดับความสูงและกำลังส่งของเสาสัญญาณโทรศัพท์
ส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าวบรรเทาลงได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวบรรลุผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงขอมอบหมายการดำเนินการเพิ่มเติม
ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนไทย
- กัมพูชา เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนและลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของประชาชน
รวมทั้งการลักลอบนำเข้า - ออก สิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ด้วย ทั้งนี้
ให้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนในพื้นที่ที่มีความชัดเจนว่าเป็นจุดเสี่ยง
เป็นจุดล่อแหลม เป็นช่องทางธรรมชาติ และต้องไม่เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันเป็นลำดับแรก
โดยขอให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงกลาโหมประสานงานในการดำเนินการในเรื่องนี้กับฝ่ายกัมพูชาด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลัง
(กรมศุลกากร) พิจารณาความจำเป็นในการจัดหาเครื่องเอกซเรย์สินค้ามาใช้ในด่านศุลกากรในพื้นที่ชายแดนไทย
- กัมพูชา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า -
ออกสิ่งผิดกฎหมายข้ามชายแดนให้มากยิ่งขึ้น ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงกลาโหม
หน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาความจำเป็นและเหมาะสมในการดำเนินการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(CCTV) เพิ่มเติมบริเวณแนวชายแดนไทย -
กัมพูชา
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
752 | มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับการบริหารราชการหรือข้าราชการ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 | นร.05 | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการคงมติของคณะรัฐมนตรีชุดเดิมที่เกี่ยวกับการบริหารราชการหรือข้าราชการ
จำนวน ๑๔ มติ ตามมาตรา ๑๓
แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘
เพื่อถือปฏิบัติต่อไป ประกอบด้วย ๑) มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการบริหารราชการ จำนวน
๑๒ มติ และ ๒) มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับข้าราชการ จำนวน ๒ มติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
753 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์) | นร.04 | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์
เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
754 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวอัจฉรา รอดเกิด) | สธ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอัจฉรา รอดเกิด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ
(ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
755 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที) | กต. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมการกงสุล
ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
756 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (1. นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ฯลฯ รวม 6 คน) | อว. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ
รวม ๖ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ประธานกรรมการ ๒. นายชิดชนก เหลือสินทรัพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายเกรียงไกร เธียรนุกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นางสาวสิริวรรณ พงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)
รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ที่เห็นว่าคณะกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำชุดเดิมได้ครบวาระแล้ว
การดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการครั้งนี้จึงไม่เกิดผลกระทบต่อการบริหารงาน ทั้งนี้
การสรรหาฯ ในครั้งต่อไป องค์การมหาชนต้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดและรอบคอบ
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
757 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา (1. พลโท นุกูล นรฉันท์ ฯลฯ รวม 6 คน) | กษ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา
รวม ๖ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. พลโท นุกูล นรฉันท์ ประธานกรรมการ ๒. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข กรรมการอื่น (ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ๓. นางธาราพร สิงหพันธุ์
มหิทธาฟองกุล กรรมการอื่น (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๔. นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ กรรมการอื่น ๕. นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ กรรมการอื่น ๖. นายศิริพงษ์ รัสมี กรรมการอื่น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
758 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก
เนื่องจากประกาศใช้เกิน ๕ ปี
และเพื่อให้มาตรฐานมีความทันสมัยสอดคล้องกับการทำและการใช้งานในปัจจุบันและเป็นการส่งเสริมมาตรการทดแทนปูนเม็ด
รวมทั้งเป็นการสอดรับนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก พ.ศ. ๒๕๖๗
ซึ่งมีสาระเป็นการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาตรฐานเลขที่
มอก. ๒๕๙๔ - ๒๕๖๗ นั้น
จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
โดยประกาศดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๗
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยสอดคล้องกับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ซึ่งเป็นการกำหนดให้นำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้บังคับกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกจะต้องไม่มีผลใช้บังคับก่อนวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
759 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ 2 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | กกต. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ
เขตเลือกตั้งที่ ๒ แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน
๔๕ วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง (ภายในวันที่ ๓ เมษายน
๒๕๖๘) และจัดทำร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ
เขตเลือกตั้งที่ ๒ แทนตำแหน่งที่ว่าง
โดยจะประกาศกำหนดหน่วยเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ๒๕
วัน ก่อนวันเลือกตั้ง (ภายในวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๘) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
760 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ญัตติเพื่อพิจารณาแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ของคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร | ศธ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง
ญัตติเพื่อพิจารณาแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
ของคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลและแก้ไขปัญหาสถานะของเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร
หรือไม่มีสัญชาติไทยตามมติคณะรัฐมนตรี (๒๐ เมษายน ๒๕๖๘) และมติคณะรัฐมนตรี (๒๖ มกราคม
๒๕๖๔) เรียบร้อยแล้ว
และได้จัดทำคู่มือและแนวทางปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
(ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗)
เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้แก่หน่วยงานในพื้นที่และสถานศึกษา
รวมถึงมีการจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนและให้บริการสายด่วน ๑๕๗๙ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้คำแนะนำและคำปรึกษาให้กับครูและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|