ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 37 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 721 - 740 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
721 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อว. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีซึ่งจัดตั้งโดยพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยเปลี่ยนระบบโครงสร้างการบริหารงานและสถานะของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีที่เป็นส่วนราชการให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่เป็นส่วนราชการ
แต่มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ (สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ) เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการที่เป็นอิสระ
มีความคล่องตัว มีธรรมาภิบาล และสอดคล้องกับการปฏิรูปการอุดมศึกษา สามารถจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
และร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
พ.ศ. ๒๕๔๘ (ยกเลิกการเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
พ.ศ. ๒๕๔๘) เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ
รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
โดยให้ส่งความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
722 | ร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [เพิ่ม (ฆ/4) ว่าด้วยการค้นหาและช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางน้ำ] (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 และวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568) | ปสส. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๘
ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
723 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายนัคราพิพัฒน์ ในท้องที่เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... | คค. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ ในท้องที่เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ
เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ
จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้ามหานคร
สายนัคราพิพัฒน์ ในท้องที่เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ
เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
พ.ศ. .... โดยให้ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชบัญญัตินี้
และให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนภายในระยะเวลา ๔ ปี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
724 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 และวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568) | ปสส. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๘ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
725 | การประชาสัมพันธ์ศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย | นร. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการเดินทางไปร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
(Internationale Tourismus-Borse Berlin : ITB Berlin 2025) ณ กรุงเบอร์ลิน
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในระหว่างวันที่ ๓ - ๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นเทศกาลส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีผู้ประกอบการจากทั่วโลกเข้าร่วมงานเพื่อแสดงศักยภาพที่เป็นจุดแข็งของแต่ละประเทศทั้งในด้านโรงแรม
สถานที่ท่องเที่ยว สายการบิน สินค้า และบริการต่าง ๆ ในส่วนของประเทศไทยได้เข้าร่วมงานเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปี ๒๕๖๘ นี้ เป็นปี “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025”
ที่เน้นการส่งเสริม Soft Power ซึ่งเป็นจุดขายหลักของประเทศไทยและได้รับความร่วมมือจากทั้งภาคเอกชน
ภาคประชาชน รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยวต่าง ๆ รวม ๑๖๐ ราย โดยรัฐบาลได้ผลักดันให้ผู้ประกอบการเมืองน่าเที่ยว
(Hidden Gems Cities)ใน ๑๘ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่
แม่ฮ่องสอน น่าน สุโขทัย แพร่ ลำปาง สตูล ตรัง นครศรีธรรมราช หนองคาย อุดรธานี เลย
นครพนม จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี และสระแก้ว
ได้มีโอกาสเจรจาธุรกิจกับผู้แทนบริษัทนำเที่ยวต่าง ๆ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ซึ่งเป็นจุดเด่นของแต่ละจังหวัดที่แตกต่างกัน
ตอบโจทย์นักเดินทางที่ต้องการค้นหาจุดหมายใหม่และเชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว
ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทนำเที่ยวชั้นนำจากหลายประเทศ
เป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการเข้าสู่เวทีเจรจาธุรกิจสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยผลจากการเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำต่างประเทศในครั้งนี้สามารถประมาณการการจัดทำสัญญาซื้อขายเบื้องต้นได้ประมาณ
๗๐,๓๓๓ ราย ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริป (trip) ประมาณ ๖๒,๒๗๓ บาท สร้างรายได้ให้แก่ประเทศเบื้องต้นประมาณ
๔,๓๘๐ ล้านบาท ทั้งนี้ ในระยะเวลาอีก ๓ - ๖ เดือน
ภายหลังเสร็จสิ้นงาน
คาดว่าจะมีการเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำจากต่างประเทศเพิ่มเติมอีก
ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยติดตามผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวข้างต้นและเร่งรัดประชาสัมพันธ์เผยแพร่ศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ทั่วถึงและต่อเนื่องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
726 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐบัลแกเรียประจำประเทศไทย (นายศิวะศิษฐ์ เลาหพงศ์ชนะ) | กต. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายศิวะศิษฐ์ เลาหพงศ์ชนะ (Mr. Sivasit Laohapongchana) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐบัลแกเรียประจำประเทศไทย
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมประเทศไทย สืบแทน นายสมบัติ เลาหพงศ์ชนะ (Mr. Sombat
Laohapongchana) ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
727 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (1. นายประยูร อินสกุล ฯลฯ รวม 13 คน) | กค. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
รวม ๑๓ คน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๘
มีนาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายประยูร อินสกุล รองประธานกรรมการ ๒. นางภัทรพร วรทรัพย์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๓. นายพชร อนันตศิลป์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๔. นายพีรพันธ์ คอทอง กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ๕. นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ กรรมการ (ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์) ๖. นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ กรรมการ
(ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) ๗. นางวิเรขา สันตะพันธุ์ กรรมการ (ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย) ๘. นางนิภา ไพโรจน์ กรรมการ (ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น) ๙. นายกษาปณ์ เงินรวง กรรมการ ๑๐. นายจรูญเดช เจนจรัสสกุล กรรมการ ๑๑. นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง กรรมการ ๑๒. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง กรรมการ ๑๓. นายพิสุทธิ์ จันทรสุรินทร์ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
728 | ผลการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในเยาวชน | ศธ. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง
ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในเยาวชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สรุปได้ว่า กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องการแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในเยาวชนที่มีความร้ายแรงถึงขั้นบาดเจ็บและเสียชีวิต
โดยกระทรวงศึกษาธิการได้มีการจัดการเรียนการสอน ในรายวิชาแนะแนว
ซึ่งครอบคลุมขอบข่ายการแนะแนวด้านการศึกษา การแนะแนวอาชีพ และการแนะแนวด้านส่วนตัวและสังคม
เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัยให้นักเรียนอยู่ในสังคมที่ดี ลดปัญหาการใช้ความรุนแรงในเยาวชน
และมีการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมครูทั้งรูปแบบ Online และ Onsite สร้างความรู้
ความเข้าใจให้ครูมีทักษะด้านจิตวิทยาเด็กขั้นพื้นฐาน และทักษะการวิเคราะห์
ช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ
รวมถึงได้ดำเนินงานร่วมกับสถานศึกษาพัฒนาเครือข่ายป้องกันปัญหาพฤติกรรมและการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนสร้างความรู้
ความเข้าใจ และพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง
โดยมีโปรแกรม บำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนด้วยเทคนิคการบำบัดปรับพฤติกรรมที่ช่วยให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับสู่ครอบครัวและดำรงชีวิตในสังคมต่อไปได้อย่างปกติสุข
และไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
729 | รายงานประจำปี 2566 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ | อว. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๖ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.) ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การผลักดันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG) ในภาพประเทศ
การขับเคลื่อนระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมเขตเศรษฐกิจระเบียงพิเศษภาคตะวันออก (EECi)
ของประเทศ และการดำเนินงานกลุ่มแผนงานด้านบริหารและส่งเสริมเขตนวัตกรรมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ
และเกษตรชุมชน เป็นต้น และรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของ สวทช.
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า งบการเงินของ สวทช.
ดังกล่าวมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
730 | การเสนอรายงานประจำปี 2566 ของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ | กห. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๖ ของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
(สทป.) ซึ่งประกอบด้วย ๑) ด้านการศึกษา ค้นคว้า วิจัย
และพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
เช่น โครงการวิจัยและพัฒนาองค์ประกอบพื้นฐานระบบยานไร้คนขับ ระยะที่ ๒ ๒)
ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม หน่วยงานอื่นของรัฐ
และเอกชน ๓) ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการฝึกอบรม การค้นคว้า วิจัย การเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการและพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
๔) ด้านการประสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
กับหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และ ๕)
ด้านการเป็นศูนย์ความรู้ด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ให้แก่กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานของรัฐ เพื่อใช้ในการกำหนดนโยบายและแผนการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
รวมทั้งรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบกระแสเงินสด
ซึ่งผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบรับรองแล้ว โดยเห็นว่างบการเงินของ สทป. ดังกล่าวมีความถูกต้องตามที่สมควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
731 | ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. .... | นร.05 | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง
พ.ศ. .... (ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๘)
ตามแนวทางการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
732 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 9 | คค. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๗ ณ
นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยผลการประชุมมีสาระสำคัญ
เช่น ๑) รับทราบความคืบหน้าของการกลับมาดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
“ระยะแรก” ในการออกใบอนุญาตการขนส่งทางทางถนน (Permit)
และเอกสารนำเข้าชั่วคราว (TAD) ความสำเร็จของการทดลองเดินรถ
(Trial Run) ๒) การขยายพิธีสาร ๑ ของความตกลง GMS
CBTA (เส้นทางและจุดผ่านแดน) โดยกำหนดเป้าหมายการเจรจากำหนดเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ
และจุดข้ามแดนเพิ่มเติม ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ เพื่อจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเปิดเส้นทางฯ
และ ๓) แผนดำเนินงาน GMS CBTA ปี ๒๕๖๗ - ๒๕๗๑
โดยเป็นการขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการแลกเปลี่ยนข้อมูลการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและการค้า
รวมทั้งที่ประชุมคณะกรรมการร่วมฯ ได้ให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ยังคงไว้ซึ่งสาระสำคัญตามที่ได้รับความเห็นชอบและอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติม เช่น เพิ่มถ้อยคำเกี่ยวกับการตระหนักถึงปัญหาอุปสรรคของการขนส่ง
การมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา และปรับแก้ไขหน่วยงานที่มีอำนาจของแต่ละประเทศ
จากเดิม “หน่วยงานด้านการขนส่งและศุลกากร” เป็น “หน่วยงานด้านการขนส่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”
และการปรับเปลี่ยนถ้อยคำให้มีความเหมาะสมและกระชับมากยิ่งขึ้น อาทิ
การรวมหัวข้อย่อยเกี่ยวกับรายงานจำนวนใบอนุญาตการขนส่งทางถนน และ TAD กับปริมาณการขนส่ง (จำนวนเที่ยวและประเภทการขนส่ง) ที่ได้ทำการเดินรถจริง
เป็นหัวข้อย่อยเดียวกัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
733 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน 12 เดือน ที่ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | กค. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน ๑๒ เดือน ที่ดำเนินการในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวนรวม ๑,๒๒๔,๑๐๘.๙๘
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๓.๕๖
ของวงเงินที่ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
734 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายปัญญา ชูพานิช) | คค. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
นายปัญญา ชูพานิช ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ต่อไปอีก ๑ ปี
(ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๙
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
735 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการ Maha Songkran World Water Festival 2025 | กก. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน ๑๕๓,๐๓๔,๗๐๐ บาท
เพื่อดำเนินโครงการ Maha Songkran World Water Festival 2025
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๓/๓๐๕๔ ลงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดประกอบ เพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน รวมทั้งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณากำหนดกลไกในการขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยคำนึงถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ความประหยัด ความคุ้มค่า ผลสัมฤทธิ์ หรือประโยชน์ที่จะได้รับ
ตลอดจนสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
736 | ขออนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน | กษ. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ
เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน และกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบฯ
โดยมีงบประมาณค่าใช้จ่ายในการชดเชยเรือประมง จำนวน ๙๒๓ ลำ วงเงิน ๑,๖๒๒,๖๐๕,๓๐๐ บาท โดยขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัดต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการดังกล่าว
โดยให้กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุม กำกับ
ดูแลให้การดำเนินการนำเรือประมงออกนอกระบบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
737 | ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี สมัยที่ 69 (Commission on the Status of Women-CSW69) | พม. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี สมัยที่ ๖๙ จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ ๑)
ร่างปฏิญญาทางการเมืองเนื่องในโอกาสครบรอบ ๓๐ ปี ของการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องสตรี
ครั้งที่ ๔ มีสาระสำคัญ เช่น การยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐในการปฏิบัติตามปฏิญญาปักกิ่งและแผนปฏิบัติการเพื่อความก้าวหน้าของสตรี
การปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ
และ ๒) ร่างแผนงานระยะหลายปีของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี มีสาระสำคัญเป็นการระบุประเด็นที่คณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีให้ความสำคัญและจะมีการทบทวนต่อไป
ในปี ค.ศ. ๒๐๒๖ - ๒๐๒๙ โดยครอบคลุมในประเด็นต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนให้สตรีมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
การส่งเสริมให้สตรีเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการขจัดกฎหมายที่เลือกปฏิบัติซึ่งถือเป็นการย้ำเจตจำนงและความมุ่งมั่นของไทยในการร่วมมือกับนานาชาติในการเสริมสร้างความเข้มแข็งต่อประเด็นการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมพลังสตรีระดับโลก
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี
สมัยที่ ๖๙ (Commission on the Status of Women - CSW69) ให้การรับรอง (adopt) ร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ระหว่างวันที่
๑๐ - ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
738 | ร่างปฏิญญาสำหรับการประชุมรัฐภาคีสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons-TPNW) ครั้งที่ 3 (Third Meeting of States Parties–3MSP) | สมช. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาสำหรับการประชุมรัฐภาคีสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
(Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons - TPNW) ครั้งที่ ๓ (Third Meeting of States
Parties - 3MSP) และให้เอกอัครราชทูต
คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมฯ
หรือผู้แทน ร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐภาคีสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
เช่น ๑)
เพื่อกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดสิ้นไปและดำเนินการตามสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ
๒) สนับสนุนและมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ และ ๓)
ร่วมมือกับทุกภาคส่วน และดำเนินการภายใต้กรอบต่าง ๆ
รวมทั้งสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Treat on the
Non-Proliferation Nuclear Weapons : NPT) เพื่อไปสู่จุดหมายดังกล่าว
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
739 | รายงานประจำปี 2566 ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา | ศธ. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๖ ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ซึ่งมีผลการดำเนินงาน
ดังนี้ ๑) จำแนกตามแผนงานยุทธศาสตร์ เช่น โครงการพัฒนาสถาบันคุรุพัฒนาเป็นราชวิทยาลัยวิชาชีพชั้นสูงสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาราชวิทยาลัยครูแห่งแผ่นดิน
และโครงการนวัตกรรมการพัฒนาจรรยาบรรณวิชาชีพครูผ่านการเรียนรู้ด้วยบอร์ดเกม (Board Game) และ ๒) ผลการดำเนินงานจำแนกตามพันธกิจต่าง
ๆ เช่น พัฒนามาตรฐานวิชาชีพ และกำกับ ดูแลการประกอบวิชาชีพ พัฒนาวิชาชีพ
และส่งเสริมครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ ประสาน ส่งเสริม
การศึกษา และวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
พัฒนาระบบบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินการทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่คุรุสภาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
740 | ร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ มาตรา ๑๒ (๑๑) ทั้งอนุมาตรา โดยแก้ไขปรับปรุงการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ใหญ่บ้าน
ในกรณีที่เคยเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิดตามที่กฎหมายกำหนด และกำหนดการกระทำความผิดตามกฎหมายและฐานความผิดตามบัญชี
ก และบัญชี ข ท้ายพระราชบัญญัติฯ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|