ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1309 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 26161 - 26180 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง | วันที่มีมติ | |||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 26161 | การแต่งตั้งนางกานดา วัชราภัย ผู้แทนไทยด้านสิทธิสตรีในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC) ให้ดำรงตำแหน่งต่ออีก 1 วาระ | พม | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนางกานดา วัชราภัย ดำรงตำแหน่งผู้แทนไทยด้านสิทธิสตรีในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ASEAN Commission on the Promotion and Protection of the Rights of Women and Children : ACWC) อีก ๑ วาระ เป็นระยะเวลา ๓ ปี (ระหว่างวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๐) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ | ||||||||||||||||||
| 26162 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ร่างพระราชบัญญัติสวนป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | นร | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสวนป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน 
 | ||||||||||||||||||
| 26163 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 4 ราย) (1. นายชาญวิทย์ ทระเทพ ฯลฯ) | สธ | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน ๒ ราย และผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน ๒ ราย รวม ๔ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียนและทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายชาญวิทย์ ทระเทพ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ๒. นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง ๓. นายสุริยะ วงศ์คงคาเทพ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง ๔. นายสมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 
 | ||||||||||||||||||
| 26164 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (จัดตั้งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ)] | นร | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (จัดตั้งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน 
 | ||||||||||||||||||
| 26165 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย) | อก | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ 
 | ||||||||||||||||||
| 26166 | การรับรองแถลงการณ์ของรัฐมนตรีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกว่าด้วยการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ฉลาดด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแถลงการณ์ของรัฐมนตรีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกว่าด้วยการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ฉลาดด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ก่อนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแจ้งองค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (The Asia-Pacific Telecommunity : APT) ว่าประเทศไทยร่วมให้การรับรองแถลงการณ์ฯ ดังกล่าวต่อไป โดยสาระสำคัญของแถลงการณ์ฯ ระบุถึงแนวทางในการร่วมมือในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในด้านต่าง ๆ ที่มีความสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ นโยบายที่เอื้อให้เกิดความเจริญเติบโตด้าน ICT และเศรษฐกิจดิจิทัลที่ฉลาดอย่างยั่งยืน สังคมที่ปลอดภัยและมั่นคงด้วยการใช้ ICT ความเชื่อมั่นในการใช้ ICT การสร้างระบบนิเวศน์ทาง ICT ที่ยั่งยืนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงนวัตกรรม การสร้างขีดความสามารถและการพัฒนาองค์กร และการเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการพัฒนาด้าน ICT ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการจัดให้มีความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกทั้งในด้านการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการแก้ปัญหาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (cybersecurity) การสร้างความตระหนักให้กับผู้ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ในเรื่องของคลื่นรังสี EMF การสร้างระบบนิเวศน์ทาง ICT ที่ยั่งยืนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงนวัตกรรม การเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการพัฒนาด้าน ICT และการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ฉลาดด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปพิจารณาดำเนินการด้วย | ||||||||||||||||||
| 26167 | การลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจในการตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย | กค | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย (Non-legal Binding) จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบเบื้องต้นของการดำเนินการของธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank : AIIB) และการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ จะยังไม่มีผลผูกพันประเทศนั้น ๆ ในการเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นของ AIIB จนกว่าจะมีการลงนามในร่างความตกลงเพื่อการจัดตั้ง AIIB ๑.๒ อนุมัติการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรพิจารณาถึงสัดส่วนหุ้นและเงินลงทุนตามขนาดเศรษฐกิจและความพร้อมของประเทศ โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อมเทียบกับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งเห็นควรผลักดันให้มีการพิจารณาเกณฑ์การกำหนดอำนาจและสิทธิในการออกเสียงที่นอกเหนือจากสัดส่วนเงินร่วมลงทุนที่อิงกับขนาดเศรษฐกิจ (GDP) เท่านั้น ไปพิจารณาด้วย | ||||||||||||||||||
| 26168 | การโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ของกระทรวงอุตสาหกรรม | อก | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกรายการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารศูนย์บริการร่วมกระทรวงอุตสาหกรรม อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา รายการผูกพันปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ จำนวน ๑๙๔,๖๓๔,๘๐๐ บาท ๑.๒ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรรายการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารศูนย์บริการร่วมกระทรวงอุตสาหกรรม อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา จำนวน ๒๙,๑๙๖,๐๐๐ บาท และเงินเหลือจ่ายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน ๑๔๐,๙๔๖,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้นจำนวน ๑๗๐,๑๔๒,๐๐๐ บาท มาโอนเปลี่ยนแปลง เพื่อดำเนินโครงการที่มีความพร้อมและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนภาคใต้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๘ ที่บัญญัติว่า รายจ่ายที่กำหนดไว้สำหรับส่วนราชการใดจะโอนหรือนำไปใช้สำหรับส่วนราชการอื่นมิได้ รวมทั้งปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน และทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการต่อไป | ||||||||||||||||||
| 26169 | ขออนุมัติปรับเปลี่ยนวงเงินค่าก่อสร้าง และขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก - หล่มสัก ตอน 2C (Package D) | คค | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติปรับเปลี่ยนวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น ๔ ช่องจราจร (ระยะที่ ๒) ทางหลวงหมายเลข ๑๒ พิษณุโลก-หล่มสัก ตอน 2C (Package D) เพิ่มจาก เดิม ๖๔๔,๗๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท เป็น ๗๒๙,๖๑๘,๐๐๐.๐๐ บาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๘๔,๙๑๘,๐๐๐.๐๐ บาท โดยจำแนกเป็นเงินงบประมาณ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จำนวน ๔๓,๘๙๔,๘๑๑.๖๐ บาท และเงินนอกงบประมาณ [เงินกู้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank - ADB)] จำนวน ๔๑,๐๒๓,๑๘๘.๔๐ บาท ซึ่งมีความจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการทางวิศวกรรมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแข็งแรงของพื้นที่ เนื่องจากสภาพพื้นที่โครงการมีการเปลี่ยนแปลงไปอันเป็นผลมาจากปัจจัยทางธรรมชาติ ๑.๒ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาดำเนินการของผู้รับจ้าง ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ให้กรมทางหลวงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไป ๓. ในการก่อสร้างสายทางต่าง ๆ ให้กระทรวงคมนาคมถือปฏิบัติตามข้อสั่งการเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง รายงานผลการบริหารราชการแผ่นดินและการผลักดันนโยบายของคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ) ด้วย | ||||||||||||||||||
| 26170 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ ให้เสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน นั้น เนื่องจากได้รับการประสานจากรองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติอื่น ซึ่งควรที่จะพิจารณาในคราวเดียวกัน ดังนั้น เพื่อความรอบคอบและสมบูรณ์ในการเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงขอชะลอการบรรจุระเบียบวาระร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... ไว้ก่อน และเมื่อมีความพร้อมแล้วจะได้แจ้งให้ทราบเพื่อบรรจุระเบียบวาระไปในคราวเดียวกัน ๒. รับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖/๒๕๕๗ วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ และครั้งที่ ๑๗/๒๕๕๗ วันศุกร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ และเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๓ ฉบับ คือ ๒.๑ ร่างพระราชบัญญัติสวนป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๒ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงพาณิชย์) ๒.๓ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (จัดตั้งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ) 
 | ||||||||||||||||||
| 26171 | การรับรองเอกสารผลการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 (ASEM 10) | กต | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงของประธานสำหรับการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ ๑๐ (10th Asia-Europe Meeting-ASEM 10) ซึ่งเป็นเอกสารแถลงสรุปผลลัพธ์การประชุม ASEM 10 โดยประธานการประชุมผู้นำ ASEM มีสาระสำคัญเป็นการแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสมาชิก ASEM ในภูมิภาคเอเชียกับยุโรป ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม รวมทั้งสะท้อนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญระหว่างประเทศ ๑.๒ อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยหรือผู้แทนรับรองร่างถ้อยแถลงของประธานฯ ๑.๓ หากมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำของร่างเอกสารถ้อยแถลงของประธานฯ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ก่อนจะมีการรับรองเอกสารดังกล่าว ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) เกี่ยวกับด้านต่างประเทศ ด้วย | ||||||||||||||||||
| 26172 | ขอให้ความเห็นชอบต่อเอกสารถ้อยแถลงของประธานและเอกสารสารัตถะประกอบการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเซีย - ยุโรป ครั้งที่ 6 | วธ | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงของประธานสำหรับการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ ๖ (The 6th Asia-Europe Culture Ministers’ Meeting - ASEM CMM 6) ซึ่งเป็นเอกสารแถลงสรุปผลการประชุม ASEM CMM 6 โดยประธานการประชุม ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมระหว่างสมาชิก ASEM ในภูมิภาคเอเชียกับยุโรป รวมทั้งสะท้อนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญระหว่างประเทศทางด้านวัฒนธรรม และเอกสารสารัตถะประกอบการประชุม ASEM CMM 6 คือ ร่างถ้อยแถลงสำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อใช้กล่าวในการประชุมเต็มคณะของการประชุม ASEAN CMM 6 และเอกสารเพื่อนำเสนอกรณีศึกษาของประเทศไทยระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “เมืองสร้างสรรค์ (Creative Cities)” ของการประชุม ASEM CMM 6 ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยรับรองร่างถ้อยแถลงของประธานฯ ๑.๓ หากมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำของร่างถ้อยแถลงของประธาน ตลอดจนเอกสารสารัตถะประกอบการประชุม ASEM CMM 6 ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ก่อนจะมีการรับรองเอกสารดังกล่าว ให้กระทรวงวัฒนธรรมสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) เกี่ยวกับด้านต่างประเทศ รวมทั้งให้จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวประเทศไทยและสินค้าไทยประเภทต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์ เช่น เครื่องทองสุโขทัย อัญมณี และผลิตภัณฑ์ OTOP ไปเผยแพร่ด้วย | ||||||||||||||||||
| 26173 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ) | กค | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ) รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ | ||||||||||||||||||
| 26174 | ขอความเห็นชอบแนวทางการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาทุกภาคส่วน และเตรียมการส่งความช่วยเหลือของไทยไปยังแอฟริกาตะวันตก | สธ | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบสถานการณ์และความคืบหน้ามาตรการเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการ อาทิ ติดตามสถานการณ์จากองค์การอนามัยโลกและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง คัดกรองผู้เดินทางที่มีประวัติเดินทางกลับมาจากประเทศที่เกิดโรค เฝ้าระวัง สอบสวนโรคในผู้ป่วยที่สงสัยติดเชื้อ จัดหาชุดพร้อมอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เตรียมความพร้อมด้านศักยภาพของการรักษาพยาบาลทั้งในด้านสถานที่และจัดการฝึกอบรมให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในด้านการรักษาพยาบาล เตรียมความพร้อมร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยในการตรวจทางห้องปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล จัดให้มีการซ้อมแผนสำหรับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในทุกระดับ จัดทำแผนเตรียมความพร้อมแบบบูรณาการทุกภาคส่วนสำหรับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นต้น ๑.๒ เห็นชอบและมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางมาตรการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาทุกภาคส่วน ใน ๓ สถานการณ์ ได้แก่ ๑.๒.๑ สถานการณ์ที่ ๑ ยังไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศไทย รวมถึงพบผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลาเดินทางมาจากต่างประเทศ เป้าหมายคือ (๑) เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและการตอบสนองต่อโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาเต็มรูปแบบในประเทศที่ยังไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา รวมทั้งประเทศที่มีเขตติดต่อกับประเทศที่มีการระบาดและมีศูนย์กลางการขนส่งระหว่างประเทศ ภายใน ๑ เดือน และ (๒) สามารถตรวจจับการระบาดตั้งแต่แรกเริ่ม (Early detection) ๑.๒.๒ สถานการณ์ที่ ๒ กรณีพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศไทยแต่ยังไม่พบการแพร่กระจายเชื้อในประเทศ เป้าหมายคือ สามารถควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างรวดเร็ว (Rapid Containment) โดยสามารถหยุดการระบาดภายใน ๘ สัปดาห์ หลังจากพบผู้ป่วยรายแรก ๑.๒.๓ สถานการณ์ที่ ๓ กรณีพบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศไทย เป้าหมายคือ (๑) หยุดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศไทย ภายใน ๖-๙ เดือน และป้องกันการแพร่ระบาดระหว่างประเทศ และ (๒) ลดการเสียชีวิต และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ๑.๓ เห็นชอบให้จัดความช่วยเหลือของประเทศไทยด้านเงินช่วยเหลือ วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น และด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ โดยระดมความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ๑.๓.๑ เงินช่วยเหลือเพื่อสมทบในกรอบที่องค์การสหประชาชาติประมาณการไว้ โดยขอรับการสนับสนุนจากงบกลางของรัฐบาลตามความเหมาะสมและจัดการระดมเงินบริจาคเพิ่มเติมภายในประเทศผ่านองค์กรต่าง ๆ เช่น รัฐบาล สภากาชาดไทย ภาคเอกชน ๑.๓.๒ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นที่ผลิตได้ในประเทศ เช่น อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย น้ำยาฆ่าเชื้อโรค วัสดุวิทยาศาสตร์สำหรับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ๑.๓.๓ การสนับสนุนด้านนโยบายทางการเมือง เช่น นโยบายการต่อสู้กับการระบาดของโรค สนับสนุนการยกเลิกมาตรการห้ามการเดินทางและการค้าระหว่างประเทศ ๑.๓.๔ ความช่วยเหลือด้านคมนาคมขนส่งทางอากาศ ทั้งการขนส่งสิ่งของและผู้โดยสาร ๑.๓.๕ จัดส่งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งบุคลากรสาขาอื่น ๆ ในขั้นต้น ตั้งเป้าหมายที่จะจัดหาชุดละจำนวน ๓๕ คน โดยส่งไปร่วมปฏิบัติงานในประเทศใกล้เคียงกับประเทศที่มีการระบาด เพื่อร่วมจัดการฝึกอบรมหรือประสานงานเตรียมความพร้อมแก่บุคลากรของประเทศเหล่านี้เพื่อรับมือการระบาดหรือร่วมปฏิบัติงานในศูนย์ประสานความช่วยเหลือของสหประชาชาติ หรือเห็นควรส่งไปปฏิบัติงานในประเทศที่มีการระบาด คือ สาธารณรัฐกินี สาธารณรัฐไลบีเรีย และสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน โดยมีเวลาปฏิบัติงานชุดละ ๑ เดือน จำนวน ๓ ชุด ใช้งบประมาณฝ่ายไทยสำหรับค่าใช้จ่ายพื้นฐานของบุคลากรดังกล่าว เป็นเงิน ๕๔,๘๔๐,๐๐๐ บาท ๒. ในส่วนของการจัดส่งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขไปให้ความช่วยเหลือในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา นั้น ในชั้นนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดเตรียมความพร้อมและซักซ้อมความรู้ความเข้าใจของบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง รอบคอบ และมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลาให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง รอบคอบ และมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อจากโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาก่อน โดยอาจศึกษาข้อมูลและประสบการณ์การดำเนินงานขององค์กรหรือประเทศที่มีการรับมือกับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กรมควบคุมโรค (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น | ||||||||||||||||||
| 26175 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ..... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงพาณิชย์)] | นร | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงพาณิชย์) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน 
 | ||||||||||||||||||
| 26176 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมการอุทธรณ์ฎีกา) | ศย | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในส่วนการฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ เพื่อจำกัดคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา โดยให้ศาลฎีกามีอำนาจอนุญาตให้ฎีกาได้เมื่อเห็นว่าปัญหาตามฎีกานั้นเป็นปัญหาซึ่งเกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะหรือเป็นปัญหาสำคัญอื่นที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป | ||||||||||||||||||
| 26177 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้อง ในคดีระหว่าง มูลนิธิชีววิถี ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ฟ้องคดีคณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวัตถุอันตราย จำนวน 4 คน | อส | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๓๗๘/๒๕๕๗ ระหว่าง มูลนิธิชีววิถี ที่ ๑ กับพวกรวม ๒ คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๓ คน ผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ 
 | ||||||||||||||||||
| 26178 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6) ในคดีระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 1,075 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ระงับการให้บริการการขึ้น-ลงของเครื่องบินทุกประเภท และขอให้ศาลพิพากษาให้ดำเนินการเพื่อประกาศให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ และการกำหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดดังกล่าว รวมทั้งร่วมกันชำระค่าเสียหายทางละเมิด | นร05 | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๓๑๗, ๑๓๑๘, ๑๓๑๙, ๑๓๒๐, ๑๓๒๑, ๑๓๒๒, ๑๓๒๓, ๑๓๒๔, ๑๓๒๕, ๑๓๒๖, ๑๓๒๗, ๑๓๒๘, ๑๓๒๙, ๑๓๓๐, ๑๓๓๑, ๑๓๓๒, ๑๓๓๓, ๑๓๓๔, ๑๓๓๕, ๑๓๓๖, ๑๓๓๗, ๑๓๓๘, ๑๓๓๙, ๑๓๔๐, ๑๓๔๑/๒๕๕๗  รวม ๒๕ คดี ระหว่าง ผู้ฟ้องคดีทั้ง ๒๕ คน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงที่ ๖ และให้ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๑ จ่ายค่าชดเชยตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖ (คณะรัฐมนตรี) เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม  ๒๕๕๐ ให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ ๑๔ (คดีหมายเลขแดงที่ ๑๓๓๐/๒๕๓๗) เป็นเงิน ๑๙๒,๙๑๗.๕๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องคดีเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ 
 | ||||||||||||||||||
| 26179 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... | พณ | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึง พืช ผลไม้ พืชหมัก ผลไม้หมัก สาร สารสกัด หรือสิ่งอื่นใด ที่ใช้เป็นแหล่งกำเนิดควันหรือละอองไอน้ำ ซึ่งนำเข้ามาพร้อมกันเพื่อใช้กับอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับบทอาศัยอำนาจ ควรระบุเป็น “บทอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) และมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. ๒๕๒๒”เพื่อให้การระบุบทอาศัยอำนาจเป็นไปโดยชัดเจนและครบถ้วน รวมทั้งพิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดให้ “บารากู่” รวมถึงยาสูบ ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย ๒๔๐๓.๑๑.๐๐ ซึ่งเป็นพิกัดของยาสูบที่สามารถนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้หากได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ อีกครั้งหนึ่ง และควรกำหนดมาตรการทางกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีการจำหน่ายและโฆษณาบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าภายในประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รับไปกำกับ ดูแล ติดตามและตรวจสอบการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการนำบารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมอันจะก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพ อนามัย สังคม และความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนต่อไปด้วย ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภครับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปดำเนินการกำหนดมาตรการทางกฎหมายเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีการจำหน่ายและโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าบารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าภายในประเทศด้วย | ||||||||||||||||||
| 26180 | รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส 2 ปี 2557 และรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนสิงหาคม 2557 | อก | 14/10/2557 | |||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส ๒ ปี ๒๕๕๗ และรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ มีค่า ๑๖๕.๒ ลดลงจากเดือนมิถุนายน ๒๕๕๗ (๑๖๘.๙) ร้อยละ ๒.๒ และลดลงจากเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ (๑๗๔.๒) ร้อยละ ๕.๒ โดยอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ๒๕๕๗ ได้แก่ ยานยนต์ Hard Disk Drive น้ำตาล เบียร์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เป็นต้น และอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ได้แก่ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำตาล รถจักรยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ๑.๒ อัตราการใช้กำลังการผลิต ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ อยู่ที่ระดับร้อยละ ๖๐.๑ ลดลงจากเดือนมิถุนายน ๒๕๕๗ (ร้อยละ ๖๐.๖) และลดลงจากเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ (ร้อยละ ๖๔.๕) โดยอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนมิถุนายน ๒๕๕๗ ได้แก่ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม แปรรูปผักและผลไม้ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ โทรทัศน์สี เป็นต้น และอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ได้แก่ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เม็ดพลาสติก อุปกรณ์ทางทัศนศาสตร์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น ๑.๓ เศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำคัญในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร การผลิตและส่งออกคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เริ่มกระเตื้องขึ้นบ้างและค่าเงินบาทที่ทรงตัวในระดับเดียวกันกับเดือนก่อน ส่วนการจำหน่ายสินค้าในประเทศคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและประชาชนกลับมาจับจ่ายเพิ่มขึ้น สำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๘๔ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๒๗ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อุตสาหกรรมไฟฟ้าจะลดลงร้อยละ ๑.๐๒ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ๒. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่าในการจัดทำรายงานภาวะเศรษฐกิจของปีปัจจุบันไม่ควรนำไปเปรียบเทียบกับภาวะเศรษฐกิจของปีที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีสถานการณ์ไม่ปกติ แต่อาจเปรียบเทียบกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เห็นความแตกต่างและใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป 
 | ||||||||||||||||||
					.....
									
			