ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1308 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 26141 - 26160 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง | วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 26141 | แผนการดำเนินงานโครงการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ปี พ.ศ. 2558 | คค | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานสรุปแผนการดำเนินงานโครงการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบด้วย การพัฒนารถไฟทางคู่ การพัฒนารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การพัฒนาทางหลวงสายหลัก การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ การเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการขนส่งทางอากาศ และการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในเรื่องการนำโครงการต่าง ๆ ในแผนไปประมวลในแผนปฏิบัติการที่จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และการพิจารณาจ้างหรือเพิ่มสัดส่วนการจ้างที่ปรึกษาที่เป็นนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญชาวไทยในโครงการที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง หรือจ้างที่ปรึกษาโครงการด้วย ๓. ในการดำเนินโครงการตามแผนดังกล่าว ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบราชการ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๑ และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รวมทั้งหากโครงการใดเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาด้วย ๔. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการนำระบบตั๋วร่วม (e-ticket) มาใช้ในการเชื่อมการเดินทางของประชาชนที่สัญจรโดยเรือโดยสาร รถไฟฟ้า และรถประจำทาง และให้คำนึงถึงการให้บริการแก่ผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงระบบบริการขนส่งสาธารณะ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการใช้บริการของผู้พิการและผู้สูงอายุด้วย ๕. ให้กระทรวงคมนาคมประสานงานกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อจัดเตรียมแผนพัฒนากำลังคนด้านคมนาคมขนส่งให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศด้วย 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26142 | ผลการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ครั้งที่ 3 | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบผลการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ครั้งที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๑-๔ กันยายน ๒๕๕๗ ณ กรุงอาปีอา รัฐเอกราชซามัว โดยมีนายมนัสวี ศรีโสดาพล รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ กลุ่มประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กได้ผลักดันให้ข้อตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ในปี ๒๕๕๘ ตั้งอยู่บนหลักการความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่าง และเรียกร้องให้วาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ คำนึงถึงความเปราะบางและความต้องการของประเทศหมู่เกาะ สำหรับกลุ่มประเทศผู้ให้ อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เยอรมนี มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การแก้ไขปัญหาที่คล้ายกับประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก อาทิ การสูญเสียพื้นดินชายฝั่ง การลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยพิบัติ การปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ การเสริมสร้างระบบสาธารณสุข และการป้องกันโรคไม่ติดต่อ และให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อการพัฒนาและการเสริมสร้างขีดความสามารถแก่ประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก ๑.๒ ที่ประชุมฯ ได้รับรองเอกสาร Samoa Pathway โดยไม่มีการแก้ไข ซึ่งยืนยันเจตนารมณ์ทางการเมืองของรัฐสมาชิกและหุ้นส่วนในการดำเนินการให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก ซึ่งที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ สมัยที่ ๖๙ จะให้การรับรองต่อไป ๑.๓ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับการรับมือต่อภัยพิบัติธรรมชาติของไทยอันเป็นปัญหาร่วมกับประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก พร้อมทั้งย้ำบทบาทของไทยในการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการรองรับภัยพิบัติและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเกษตรอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การแปรรูปปลาทูน่า การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นต้น นอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีและผู้แทนระดับสูงจาก ๖ ประเทศ ได้แก่ เซนต์คิตส์และเนวิส เกรเนดา เซเชลส์ เบลีซ ฟิจิ และแอนติกาและบาร์บูดา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ชี้แจงพัฒนาการในการปฏิรูปการเมืองของไทย และรณรงค์การสมัครรับเลือกตั้งของไทยในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (วาระปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐) สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (วาระปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑) และสมาชิกสภาบริหารสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (วาระปี ๒๕๕๘-๒๕๖๑) ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กในเรื่องต่าง ๆ ที่ไทยมีศักยภาพและเป็นที่สนใจร่วมกัน เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมการประมง เป็นต้น 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26143 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อรองรับการเปิดทำการศาลจังหวัดฮอด รวม 3 ฉบับ | ศย | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อรองรับการเปิดทำการศาลจังหวัดฮอด รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการศาลจังหวัดฮอด พ.ศ. .... โดยกำหนดให้เปิดทำการศาลจังหวัดฮอด ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ พ.ศ. .... โดยนำคดีแขวงที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอกัลยาณิวัฒนามาอยู่ในเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ และเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจของศาลแขวงเชียงใหม่ในบางท้องที่ที่ทับซ้อนกับศาลจังหวัดฮอด ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. ๒๕๒๐ บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นในบางท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกำหนดให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัดฮอด สำหรับคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงซึ่งเกิดขึ้นในท้องที่อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภออมก๋อย และอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26144 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ....) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26145 | ร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... | อก | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการนำกฎหมายว่าด้วยแร่ และกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่มาบัญญัติไว้ในฉบับเดียวกัน และปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เช่น การบริหารจัดการทรัพยากรแร่ หลักเกณฑ์การอนุญาตและการควบคุมกำกับดูแลการทำเหมือง การส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการแร่ กลไกการรองรับในการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและการกำหนดวิธีการจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่ เป็นต้น ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ที่อาจมีผลกระทบต่อแหล่งต้นน้ำและแหล่งน้ำใต้ดิน กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำหรือป่าน้ำซึมซับ เพื่อรักษาระบบนิเวศและความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำธรรมชาติ และให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานศาลยุติธรรม เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการออกใบอาชญาบัตรและประทานบัตรควรกำหนดให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นทั้งจำนวน การดำเนินการศึกษาถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของการทำเหมืองแร่แต่ละประเภทเพื่อเป็นแนวทางในการออกประกาศกฎกระทรวงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของการทำเหมืองแร่ประเภทต่าง ๆ การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนให้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น ๑ เอ เป็นพื้นที่ห้ามมิให้ใช้ประโยชน์ในการทำเหมืองแร่ การผลักดันให้เกิดการพัฒนาเหมืองสีเขียวอย่างเป็นรูปธรรม โดยสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติ รวมถึงสนับสนุนให้ภาคเอกชนนำแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมและหลักการของผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายมาใช้ในการประกอบธุรกิจ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26146 | การแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ปนช.) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๕๙/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้ ๑. องค์ประกอบ ๑.๑ คณะที่ปรึกษา (๑) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่ปรึกษา/กรรมการ (๒) นายพีระศักดิ์ พอจิต ที่ปรึกษา/กรรมการ (๓) นางโฉมศรี อารยะศิริ ที่ปรึกษา/กรรมการ (๔) นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ ที่ปรึกษา/กรรมการ (๕) พลโท เยาวดนัย ภู่เจริญยศ ที่ปรึกษา/กรรมการ ๑.๒ คณะกรรมการ (๑) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานกรรมการ (๒) นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง (๓) พลเอก สกล ชื่นตระกูล รองประธานกรรมการ คนที่สอง (๔) นายกิตติ วะสีนนท์ กรรมการ (๕) พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ กรรมการ (๖) ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษธำรง ทัศนาญชลี กรรมการ (๗) รองศาสตราจารย์ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ กรรมการ (๘) พลเอก โปฎก บุนนาค กรรมการ (๙) พันตำรวจโท พงษ์ชัย วราชิต กรรมการ (๑๐) นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ กรรมการ (๑๑) พลตำรวจเอก วัชรพล ประสานราชกิจ กรรมการ (๑๒) นายวิทวัส บุญญสถิตย์ กรรมการ (๑๓) นายสมพล พันธุ์มณี กรรมการ (๑๔) นายสุธรรม พันธุศักดิ์ กรรมการ (๑๕) นางเสาวณี สุวรรณชีพ กรรมการ (๑๖) พลอากาศเอก อาคม กาญจนหิรัญ กรรมการ (๑๗) พลโท อำพน ชูประทุม กรรมการ (๑๘) นางฐะปะณีย์ อาจารวงศ์ กรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๑.๓ ผู้แทนจากส่วนราชการ (๑) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ (๒) ผู้แทนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรรมการ ๑.๔ ฝ่ายเลขานุการ (๑) ผู้อำนวยการสำนักประสานงานการเมือง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (๒) ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานการเมือง ๑ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (๓) เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน ๒ คน ๒. อำนาจหน้าที่ ๒.๑ พิจารณาดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความราบรื่นและเหมาะสม ๒.๒ ประสานงานกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้มีความเข้าใจที่สอดคล้องกันในเรื่องหรือญัตติใดๆ ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ การเสนอร่างกฎหมายและดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกัลงานด้านนิติบัญญัติให้ดำเนินการอย่างราบรื่น ๒.๓ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานและมีมติเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบหรือเห็นชอบแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ มติของคณะกรรมการต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือของนายกรัฐมนตรีหรือมติคณะรัฐมนตรี ๒.๔ เชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และจัดส่งเอกสารข้อมูลให้แก่คณะกรรมการ ๒.๕ ให้ประธานกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือปฏิบัติงานในเรื่องต่างๆ ของคณะกรรมการได้ตามความจำเป็น ๒.๖ ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26147 | แผนการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | คค | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบแผนการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ โครงการที่พร้อมดำเนินการก่อสร้าง ๑ โครงการ คือ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง ๑๐๖ กิโลเมตร วงเงิน ๑๑,๒๗๒.๓๔ ล้านบาท ๑.๒ โครงการที่อยู่ระหว่างนำเสนอขออนุมัติโครงการ จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง ๑๘๕ กิโลเมตร วงเงิน ๒๖,๐๐๗ ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง ๑๖๗ กิโลเมตร วงเงิน ๑๗,๒๙๒ ล้านบาท ๑.๓ โครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคมของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมกับเอกชน ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จำนวน ๓ โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง ๑๔๘ กิโลเมตร วงเงิน ๒๔,๘๔๒ ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง ๑๓๒ กิโลเมตร วงเงิน ๒๙,๘๕๕ ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง ๑๖๕ กิโลเมตร วงเงิน ๒๐,๐๓๘ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในเรื่องการนำโครงการต่าง ๆ ในแผนไปประมวลในแผนปฏิบัติการที่จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และการพิจารณาจ้างหรือเพิ่มสัดส่วนการจ้างที่ปรึกษาที่เป็นนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญชาวไทยในโครงการที่มีการจัดซื้อจัดจ้างหรือจ้างที่ปรึกษาโครงการด้วย ๓. ในการดำเนินโครงการตามแผนดังกล่าว ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบราชการ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๑ และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รวมทั้งหากโครงการใดเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาด้วย 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26148 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ....) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26149 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์) | ทก | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กลุ่มที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26150 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายให้ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26151 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายนพดล กรรณิกา) | รง | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายนพดล กรรณิกา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26152 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน | พน | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วย ตามลำดับ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายพรชัย รุจิประภา) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช) 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26153 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ศาสตราจารย์ สิทธิชัย โภไคยอุดม) | นร04 | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ศาสตราจารย์ สิทธิชัย โภไคยอุดม ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26154 | มอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ | พม | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรี จำนวน ๒ ราย เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ตามลำดับ ดังนี้ ๑. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ๒. พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26155 | แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและผู้ตรวจการแผ่นดิน | นร | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า ข้อเสนอแนะเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดบ้าง แล้วนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะไปพิจารณาแล้วเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ๒. เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งผลการพิจารณามาแล้ว ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำบันทึกนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหรือผู้ตรวจการแผ่นดิน (แล้วแต่กรณี) และผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการให้เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26156 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการศาลแขวงสระบุรี ในจังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | ศย | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการศาลแขวงสระบุรี ในจังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... โดยกำหนดให้มีศาลแขวงสระบุรี ในจังหวัดสระบุรี และให้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนในท้องที่ดังกล่าวให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว ประหยัด เสมอภาค และเป็นธรรม ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26157 | รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ประจำปี พ.ศ. 2556 | อื่นๆ | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑.๑ การสำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์ทางวิชาการ วิจัยและสนับสนุนการวิจัย จำนวน ๙ เรื่อง ประกอบด้วย โครงการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสถานภาพสตรี จำนวน ๓ เรื่อง โครงการจ้างเหมาผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๒ เรื่อง โครงการศึกษาตามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของ คปก. จำนวน ๒ เรื่อง และโครงการการศึกษาเกี่ยวกับแรงงานอาเซียน จำนวน ๒ เรื่อง ๑.๒ การเสนอความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะ ต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา เกี่ยวกับแผนการให้มีกฎหมายการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ร่างกฎหมาย โดยพิจารณาจากการศึกษาวิจัยทางวิชาการ ภาพรวมของกฎหมาย บริบทของสังคมและประเทศ ความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ จำนวนรวมทั้งสิ้น ๒๕ เรื่อง เป็นความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ/พระราชบัญญัติ จำนวน ๑๘ เรื่อง ความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน ๓ เรื่อง เป็นความเห็นต่อกฎหมายรอง จำนวน ๒ เรื่อง และความเห็นต่อกลุ่มของกฎหมายในเรื่องนั้น ๆ จำนวน ๒ เรื่อง ๑.๓ การให้คำปรึกษาและสนับสนุนการดำเนินการในการร่างกฎหมายของประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีการดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎหมายของภาคประชาชนและสนับสนุนการร่างกฎหมายของภาคประชาชน จำนวน ๒๙ ฉบับ อยู่ในขั้นรอลงมติในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑ ฉบับ อยู่ในกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๗ ฉบับ อยู่ระหว่างรอนายกรัฐมนตรีพิจารณาให้คำรับรอง จำนวน ๑๒ ฉบับ และอยู่ในกระบวนการตรวจสอบเอกสาร จำนวน ๙ ฉบับ ๑.๔ การออกระเบียบและประกาศ คปก. เกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไป การบริหารงานบุคคล การงบประมาณ การเงินและทรัพย์สิน ฯลฯ จำนวนรวม ๑๐ ฉบับ ๒. การติดตามการดำเนินงานและประเมินผลการดำเนินการของ คปก. ๒.๑ ตามเป้าหมาย นโยบาย และแผนโครงการและมาตรการ กำหนดตัวชี้วัด คือ ร่างกฎหมายที่มีการเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนการให้มีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย จำนวน ๑๘ เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน ๒๔ เรื่อง เกินกว่าเป้าหมายตามตัวชี้วัดที่วางไว้ ๒.๒ การติดตามสถานภาพของร่างกฎหมายที่ คปก. ได้ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะทั้งต่อร่างกฎหมาย/แนวทางการพัฒนากฎหมาย/กฎหมายที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย จำนวน ๕๘ เรื่อง เสนอในปี ๒๕๕๕ จำนวน ๓๓ เรื่อง และเสนอในปี ๒๕๕๖ จำนวน ๒๕ เรื่อง ๒.๓ ผลการดำเนินการจากความเห็นและข้อเสนอแนะฯ ที่ คปก. ได้ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา พบว่า ๒.๓.๑ มีการตราเป็นกฎหมายโดยการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จำนวนทั้งสิ้น ๑๑ ฉบับ เป็นพระราชบัญญัติ จำนวน ๑๐ ฉบับ เป็นระเบียบ จำนวน ๑ ฉบับ โดยนำเอาความเห็นและข้อเสนอแนะของ คปก. ไปใช้ในบางมาตราในบางฉบับ ๒.๓.๒ มีการชะลอการออกกฎกระทรวง จำนวน ๑ ฉบับ ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอแนะของ คปก. ๒.๓.๓ ร่างกฎหมายที่ผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติ/อยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติ แต่ในที่สุดไม่มีการตราเป็นกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ได้ จำนวน ๕ ฉบับ เป็นร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๓ ฉบับ และเป็นร่างรัฐธรรมนูญ (แก้ไขมาตรา ...) จำนวน ๒ ฉบับ อันสอดคล้องกับความเห็นของ คปก. ที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาสาระของกฎหมายดังกล่าว 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26158 | ยกเลิกการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (เฉพาะราย) และแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พลตรี วิทูล บัณฑิตย์) | นร04 | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๔๙/๒๕๕๗ เรื่อง ยกเลิกการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (เฉพาะราย) ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ โดยยกเลิกการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง เฉพาะราย พันเอก (พิเศษ) วิทูล บัณฑิตย์ ลำดับที่ ๒๕ ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๐๕/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ และเห็นชอบการแต่งตั้ง พลตรี วิทูล บัณฑิตย์ ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26159 | ร่างความตกลงอาเซียนว่าด้วยบทบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ASEAN Agreement on Medical Device Directive) | สธ | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและอนุมัติการลงนามความตกลงอาเซียนว่าด้วยบทบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ASEAN Agreement on Medical Device Directive) ๑.๒ มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามในความตกลงฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในความตกลงฯ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มอบหมายให้ผู้ลงนามเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจตามสถานการณ์ ตามความเหมาะสมที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยต่อไป ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามความตกลงฯ ๑.๔ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือแจ้งการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ เมื่อประเทศไทยได้ลงนามและดำเนินการตามกระบวนการภายในเสร็จสิ้นแล้ว ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับสาระสำคัญของความตกลงฯ มีการใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะบังคับ แสดงถึงความมุ่งหมายที่จะก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ กรณีจึงเข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และโดยที่ร่างความตกลงฯ เป็นการปรับมาตรฐานและการตรวจสอบรับรองเครื่องมือแพทย์ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศสมาชิกเพื่อให้เกิดความสอดคล้อง อันเป็นการอำนวยความสะดวกต่อการค้าเสรี จึงเป็นหนังสือสัญญาเกี่ยวกับการค้าเสรีตามมาตรา ๒๓ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญฯ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาซึ่งกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างกว้างขวางที่ต้องเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อขอความเห็นชอบตามมาตรา ๒๓ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26160 | การจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองสุพรรณบุรี | ศป | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองสุพรรณบุรี โดยใช้ที่ดินที่ได้รับบริจาคจากเอกชน จำนวน ๒๐ ไร่ ตำบลสนามชัย อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงานศาลปกครองดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
					.....
									
			