ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1307 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 26121 - 26140 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง | วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 26121 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (เพิ่มเติม) | กร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงินทั้งสิ้น ๑๒๗,๗๗๙,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน ๑๓ โครงการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เสนอ ทั้งนี้ ให้ กปร. แจ้งหน่วยงานผู้ปฏิบัติเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณและขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ | |||||||||||||||||||||||||||
| 26122 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางประนอม คำเที่ยง) | สธ | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางประนอม คำเที่ยง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26123 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 5 ราย 1. นายอนุสันต์ เทียนทอง ฯลฯ) | พม | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายอนุสันต์ เทียนทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสมคิด สมศรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางอุษา หงส์กาญจนกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางเสาวนีย์ โขมพัตร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26124 | การจัดทำ Financing Agreement (FA) ของโครงการ EU-ASEAN Migration and Border Management Programme ll | ตช | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างข้อตกลงทางการเงิน (Financing Agreement : FA) ของโครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปในโครงการความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียนเรื่องการอพยพและการบริหารจัดการพรมแดน ระยะที่ ๒ (EU-ASEAN Migration and Border Management Programme II) และให้ความยินยอมให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนามในร่างข้อตกลงทางการเงินดังกล่าว ทั้งนี้ โครงการ EU-ASEAN Migration and Border Management Programme II เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปที่คงค้างภายใต้แผนงานงบประมาณความร่วมมืออาเซียน-สหภาพยุโรป พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๖ (EU-ASEAN Multi-Annual Indicative Programme-MIP 2011-2013) มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามและดำเนินงานร่วมกับองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ในเรื่องระบบข้อมูลข่าวสารตลอด ๒๔ ชั่วโมง/๗ วัน (I-24/7) และการขยายกรอบความร่วมมือให้ครอบคลุมประเทศสมาชิกอาเซียนประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม ตลอดจนการศึกษาระบบ ASEAN Visa โดยใช้ประสบการณ์ในการจัดทำ Schengen Visa ของสหภาพยุโรปเป็นแบบอย่าง กำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการ ๗๒ เดือน นับตั้งแต่ข้อตกลงฯ มีผลใช้บังคับ และมีงบประมาณรวมจำนวน ๓,๔๐๐,๐๐๐ ยูโร โดยฝ่ายสหภาพยุโรปจะให้เงินสนับสนุนทั้งหมด ในส่วนของอาเซียนไม่ต้องร่วมออกค่าใช้จ่ายและไม่ต้องให้การสนับสนุนทางการเงินแต่อย่างใด ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||
| 26125 | ร่างยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล (พ.ศ. 2558 - 2562) | นร08 | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องและรักษาอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน สิทธิอธิปไตย และขอบเขตของชาติทางทะเลจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพในการแสวงหาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อปกป้อง รักษา ฟื้นฟูทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมทั้งส่งเสริมการเข้ามามีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล ๖ ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) การพัฒนาศักยภาพความมั่นคงของชาติทางทะเล (๒) การคุ้มครองการใช้ประโยชน์จากทะเล (๓) การสร้างความสงบเรียบร้อย และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทะเล (๔) การสร้างความสมดุลและยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเล (๕) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ องค์ความรู้และความตระหนักรู้ความสำคัญของทะเล และ (๖) การบริหารจัดการผลประโยชน์ของชาติทางทะเลขององค์กรของรัฐ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับไปดำเนินการปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ฯ ให้เป็นแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล โดยให้มีระยะเวลาของแผนดังกล่าวเป็นปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๔ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนความมั่นคงฯ ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้ปรับปรุงเรียบร้อยแล้วไปใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนงาน/โครงการรองรับแผนดังกล่าวต่อไป ๒. โดยที่แผนความมั่นคงฯ ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับภารกิจด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาตินำแผนความมั่นคงฯ ที่ได้ปรับปรุงเรียบร้อยแล้วเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และให้นำแผนความมั่นคงฯ ดังกล่าวเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปด้วย เนื่องจากแผนความมั่นคงฯ ดังกล่าวมีผลผูกพันกับการออกกฎหมาย การงบประมาณ การจัดตั้งหน่วยงาน รวมทั้งการปฏิบัติงานของหลายองค์กร ๓. เนื่องจากการรักษาความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญ จึงให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติจัดทำแผนปฏิบัติการประจำและแผนการใช้จ่ายงบประมาณด้านความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล เพื่อส่งให้สำนักงบประมาณใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||
| 26126 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านข้อมูลข่าวสารของราชการ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทางคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายไพโรจน์ อาจรักษา) | นร04 | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายไพโรจน์ อาจรักษา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านข้อมูลข่าวสารของราชการ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26127 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง | พณ | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องชุดใหม่ จำนวน ๗ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายสุทธิพร จีระพันธุ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเกษตร ๒. นายมนู เลียวไพโรจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอุตสาหกรรม ๓. นางอุบล มลิลา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจ ๔. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าระหว่างประเทศ ๕. นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบัญชีและการเงินการคลัง ๖. นางฉวีวรรณ จันทนภุมมะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ๗. นางภาณุมาศ สิทธิเวคิน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26128 | ขออนุมัติให้ข้าราชการได้รับสิทธิประโยชน์รถประจำตำแหน่งหรือเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง | นร04 | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวม ๑๒ อัตรา ได้แก่ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๗/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ จำนวน ๕ ราย คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๘/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ จำนวน ๑ ราย คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๙/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ จำนวน ๔ ราย และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๑/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ จำนวน ๒ ราย ซึ่งเคยมีสิทธิได้รับรถประจำตำแหน่งหรือเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง ให้ได้รับสิทธิรับรถประจำตำแหน่งหรือเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งนับตั้งแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เห็นควรให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และหรือโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม ภายใต้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ก่อน และหากไม่เพียงพอ ก็ให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์รถประจำตำแหน่งหรือเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งดังกล่าว จะต้องดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26129 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ | ทก | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางเจริญศรี มิตรภานนท์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตรวจสอบการเงินและบัญชี ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ แทนนางจารุพร ไวยนันท์ ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ ตามนัยมาตรา ๑๖(๔) และมาตรา ๑๔ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26130 | ขออนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงอุตสาหกรรมและ ทรัพยากรพื้นฐาน รัฐบาลแห่งรัฐสุลต่านบรูไนดารุสซาลาม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร | กษ | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรพื้นฐาน รัฐบาลแห่งรัฐสุลต่านบรูไนดารุสซาลาม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร ๑.๒ อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะมีการลงนาม หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๑.๓ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ไม่ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ [เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)] ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการให้คณะทำงานร่วมด้านการเกษตร (Joint Agricultural Working Group : JAWG) ที่จะจัดตั้งตามมาตรา ๖ มีผู้แทนรัฐบาลไทยที่ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัย เนื่องจากนักวิจัย นักวิชาการ และการดำเนินงานวิจัยที่เกี่ยวข้องด้านเกษตรและอาหารของประเทศไทยมีอยู่ทั้งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในส่วนที่เกี่ยวกับด้านต่างประเทศ | |||||||||||||||||||||||||||
| 26131 | การยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตานำเข้าสำหรับน้ำตาลทรายดิบจากอ้อยภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN-Korea Free Trade Agreement : AKFTA) | พณ | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการยกเลิกภาษีและการยกเลิกโควตานำเข้าน้ำตาลทรายดิบจากอ้อยตามพิกัดอัตราศุลกากร (ปี ๒๐๑๒) ๑๗๐๑.๑๓.๐๐ และ ๑๗๐๑.๑๔.๐๐ โดยการโอนย้ายสินค้าดังกล่าวจากสินค้าอ่อนไหวเป็นสินค้าปกติและมีอัตราภาษีร้อยละ ๐ ทันที และแก้ไขข้อผูกพันอัตราภาษีของไทยตามพิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN-Korea Free Trade Agreement : AKFTA) ๑.๒ มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดำเนินการตามข้อ ๑.๑ อาทิ ออกประกาศหรือปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อรองรับการยกเลิกภาษีและยกเลิกโควตานำเข้าสินค้าน้ำตาลทรายดิบจากอ้อยภายใต้ AKFTA ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว พร้อมทั้งแจ้งผลการดำเนินการให้กระทรวงพาณิชย์ทราบ เพื่อดำเนินการแจ้งต่อสาธารณรัฐเกาหลีเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ผู้ประกอบการไทยรักษาคุณภาพ มาตรฐานและปริมาณการผลิตน้ำตาลทรายดิบจากอ้อยให้อยู่ในระดับสากลหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า รักษาขีดความสามารถและขยายสัดส่วนในตลาดต่อไป นอกจากนี้ ควรเร่งผลักดันการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกอ้อย (Zoning) ให้มีการเพาะปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสม และสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยี เครื่องมือ เครื่องจักรเข้ามาช่วยในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น และลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานและประสิทธิภาพแรงงานต่ำ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาพันธุ์อ้อยที่ให้ผลผลิตและมีคุณภาพสูงที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงแข่งขันในอุตสาหกรรมน้ำตาลของไทยในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย | |||||||||||||||||||||||||||
| 26132 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยาง (จำนวน 3 ราย 1. นายวิมล จันทรโรทัย ฯลฯ) | กษ | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยางแทนผู้ที่สำนักงานอัยการสูงสุดไม่อนุมัติให้เป็นกรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยาง และแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมเพื่อให้องค์ประกอบครบถ้วน รวมจำนวน ๓ คน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป และให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่าวาระที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว ดังนี้ ๑. นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรรมการอื่นที่แต่งตั้งจากบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) แทนนางสาวนารี ตัณฑเสถียร ๒. นายศุภชัย บานพับทอง อดีตกรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยาง (กรรมการอื่นที่แต่งตั้งจากบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) ๓. นายอรุณ เลิศวิไลย์ อดีตกรรมการบริหารกิจการขององค์การสวนยาง กรรมการอื่น 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26133 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26134 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวม 2 ฉบับ) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๒ ฉบับ คือ ๑. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดความผิดเกี่ยวกับเพศ) ๒. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดนิยามคำว่า “เจ้าพนักงาน”) 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26135 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวม 3 ฉบับ) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๓ ฉบับ คือ ๑. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถานบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. .... 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26136 | รัฐบาลฮังการีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (นายเปเตอร์ ยาค็อบ) | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเปเตอร์ ยาค็อบ (Mr. Peter Jakab) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฮังการีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเดแนช โทมอย (Mr. Denes Tomaj) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26137 | รัฐบาลไอร์แลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (นายเบร็นดัน รอเจอรส์) | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเบร็นดัน รอเจอรส์ (Mr. Brendan Rogers) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งไอร์แลนด์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเดคลัน เคลลี (Mr. Declan Kelly) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26138 | แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า | ทส | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า จำนวน ๗ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ ๒. นายภราเดช พยัฆวิเชียร ๓. นายบวรเวท รุ่งรุจี ๔. รองศาสตราจารย์ บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย ๕. รองศาสตราจารย์ ศิริวรรณ ศิลาพัชรนันท์ ๖. รองศาสตราจารย์ โรจน์ คุณเอนก ๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ยงธนิศร์ พิมลเสถียร 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26139 | สรุปผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | วท | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเข้าร่วมประชุมประจำปี STS forum ครั้งที่ ๑๑ [The 11th Annual Meeting of the Science and Technology in Society (STS) forum] การประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (The Science and Technology Ministers’ Roundtable Meeting) และการประชุมหารือกับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๓-๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับผู้นำระดับสูงและผู้กำหนดนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม นักธุรกิจ และสื่อมวลชนชั้นนำจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ประมาณ ๑,๐๐๐ คน จาก ๑๐๐ ประเทศ โดยได้พบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงและเยี่ยมชมหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศญี่ปุ่น เพื่อขยายความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยกับญี่ปุ่น ได้แก่ การพบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงของ Miraikan National Museum of Emerging Science and Innovation, Honda Research Institute (HRI) การพบปะหารือกับ Minister of Education, Culture, Sports, Science and Technology (MEXT) ของญี่ปุ่น ประธานของ Japan Science and Technology Agency (JST) และผู้บริหารระดับสูงของ Nidec Corporation Japan (NCJ) พร้อมกันนี้ ยังได้พบปะหารือกับนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยในประเทศญี่ปุ่น และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับ Advanced Industrial Science and Technology (AIST) ๒. ประโยชน์ที่ได้รับจากการเดินทางไปราชการ ได้แก่ ได้ขยายความร่วมมือทางด้านนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ และผู้นำองค์กรจากทั่วโลก ได้ขยายความร่วมมือกับผู้นำและองค์กรรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในประเทศไทยให้ขยายฐานการผลิตที่เน้นการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมระดับสูงเพิ่มขึ้นด้วย 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26140 | การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทยและการลดหย่อนค่าใช้จ่าย ของผู้ขายเป็นกรณีเฉพาะ | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุญาตให้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งใช้เป็นตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๓๖ ตารางวา ๑.๒ เห็นชอบให้ลดหย่อนภาระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินรายนี้ ในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ เป็นการเฉพาะ ๑.๓ เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย มีสาระสำคัญคือ ลดหย่อนและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนในกรณีนี้ในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ ในส่วนที่เจ้าของที่ดินมีหน้าที่ต้องชำระ ๑.๔ เห็นชอบในหลักการต่อการลดอัตราหรือยกเว้นค่าอากรแสตมป์และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย เพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรและกำหนดในรายละเอียดต่อไป ๒. ให้ส่งร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา และเมื่อกระทรวงการต่างประเทศได้หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ แล้วจึงจะสามารถดำเนินการต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||
					.....
									
			