ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1305 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 26081 - 26100 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง | วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 26081 | รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | สว | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภารายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ในภาพรวม สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้กำหนดแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๓,๓๘๔ เรื่อง ดำเนินการได้ จำนวน ๔,๔๙๓ เรื่อง และกำหนดเงินงบประมาณ จำนวน ๑,๕๘๘.๔๔๕๓ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๑,๒๐๕.๐๔๓๖ ล้านบาท แบ่งเป็น ๒ ผลผลิต ได้แก่ ๑. ผลผลิตที่ ๑ การให้บริการสนับสนุนเพื่อการดำเนินงานในด้านนิติบัญญัติ กำหนดแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๒,๕๖๐ เรื่อง/ครั้ง ดำเนินการได้ จำนวน ๒,๖๖๖ เรื่อง/ครั้ง และกำหนดเงินงบประมาณ จำนวน ๗๖๖.๙๔๑๐ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๔๖๔.๑๕๔๐ ล้านบาท ๒. ผลผลิตที่ ๒ การพัฒนาองค์กรเพื่อให้งานด้านนิติบัญญัติเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ กำหนดแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๘๒๔ เรื่อง ดำเนินการได้ จำนวน ๑,๘๒๗ เรื่อง/ครั้ง และกำหนดเงินงบประมาณ จำนวน ๘๒๑.๕๐๔๓ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๗๔๐.๘๘๙๖ ล้านบาท 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26082 | รายงานประจำปี 2555 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | สสป | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๕ ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ (ตุลาคม ๒๕๕๔-กันยายน ๒๕๕๕) จำนวน ๑๗๔,๒๘๘,๙๐๐ บาท มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปทั้งสิ้น จำนวน ๑๕๓,๑๖๓,๗๙๔.๔๖ บาท เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี จำนวน ๑๐,๘๐๔,๑๖๐.๐๐ บาท งบประมาณคงเหลือ จำนวน ๑๐,๓๒๐,๙๔๕.๕๔ บาท ๒. การเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อคณะรัฐมนตรี ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เสนอความเห็นและข้อเสนอแนะ จำนวนทั้งสิ้น ๔๙ เรื่อง (ข้อมูล ณ วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๕) จำแนกตามหมวด ๕ หมวด ได้แก่ กลุ่มด้านเศรษฐกิจ จำนวน ๑๐ เรื่อง กลุ่มด้านสังคม จำนวน ๑๘ เรื่อง กลุ่มด้านการบริหารราชการแผ่นดิน จำนวน ๑๑ เรื่อง กลุ่มด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน ๓ เรื่อง และกลุ่มด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพลังงาน จำนวน ๗ เรื่อง ทั้งนี้ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับการตอนบสนองจากฝ่ายบริหาร โดยได้มีผลการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการ ตลอดจนได้มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติคณะรัฐมนตรีแล้ว จำนวน ๓๙ เรื่อง และเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและยังไม่ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรี จำนวน ๑๐ เรื่อง 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26083 | รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | สผ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ในภาพรวม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๗,๗๑๕ ครั้ง/เรื่อง/ราย/ระบบ ดำเนินการได้ จำนวน ๑๙,๙๐๐ ครั้ง/เรื่อง/ราย/ระบบ และกำหนดเงินงบประมาณ จำนวน ๗,๔๒๕.๑๙๓ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๒,๖๒๐.๑๒๘ ล้านบาท แบ่งเป็น ๔ ผลผลิต ได้แก่ ๑. ผลผลิตที่ ๑ การสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจของสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภา ทั้งในประเทศและด้านต่างประเทศ กำหนดแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๔๕๐ ครั้ง/เรื่อง ดำเนินการได้ จำนวน ๔๕๑ ครั้ง/เรื่อง และกำหนดเงินงบประมาณ จำนวน ๓,๕๖๖.๑๑๕ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๑,๑๐๖.๒๐๓ ล้านบาท ๒. ผลผลิตที่ ๒ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนกระบวนการด้านนิติบัญญัติ กำหนดแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๕,๐๖๑ ราย/ครั้ง/ระบบ ดำเนินการได้ จำนวน ๑๔,๗๙๒ ราย/ครั้ง/ระบบ และกำหนดเงินงบประมาณ จำนวน ๒,๐๒๘.๘๑๙ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๑,๓๔๗.๐๖๙ ล้านบาท ๓. ผลผลิตที่ ๓ การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน กำหนดแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๒,๒๐๓ เรื่อง/โครงการ ดำเนินการได้ จำนวน ๔,๖๕๗ เรื่อง/โครงการ และกำหนดเงินงบประมาณ จำนวน ๔๐๘.๖๑๓ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๑๓๔.๗๕๗ ล้านบาท ๔. ผลผลิตที่ ๔ โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยกำหนดวงเงินงบประมาณตามแผนการปฏิบัติงาน จำนวน ๑,๔๒๑.๖๔๖ ล้านบาท ดำเนินการได้ จำนวน ๓๒.๐๙๙ ล้านบาท 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26084 | แผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง 2557 ของกระทรวงคมนาคม และ เรื่อง มาตรการเตรียมความพร้อม และรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง 2557 ของกระทรวงมหาดไทย | มท | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง ๒๕๕๗ ประกอบด้วย แผนการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ได้แก่ บริการการขนส่งสาธารณะโดยการจัดรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การจัดเที่ยวรถขาไป-ขากลับของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) การจัดขบวนรถและเพิ่มตู้โดยสารของการรถไฟแห่งประเทศไทย และการจัดเที่ยวบินภายในประเทศในเส้นทางหลักให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสารของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การอำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายถนนและด้านข้อมูลการจราจร รวมทั้งแผนงานบริหารด้านความปลอดภัยใน ๔ มาตรการ คือ มาตรการยานพาหนะและสถานีขนส่ง/ท่ารถประจำทาง ขสมก./สถานีรถไฟ/สถานีรถไฟฟ้า มาตรการถนน/ทางพิเศษ/สะพาน มาตรการท่าอากาศยาน/สนามบินและเครื่องบิน มาตรการการขนส่งและการจราจรทางน้ำ ตลอดจนมาตรการด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยและโคมควัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. เห็นชอบมาตรการเตรียมความพร้อม และรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ๒๕๕๗ ได้แก่ การเข้มงวด กวดขัน การพิจารณาออกใบอนุญาตหรือต่ออายุใบอนุญาตให้ทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าดอกไม้เพลิง รวมทั้งตรวจสอบสถานที่เก็บ ทำ หรือค้าดอกไม้เพลิง การตรวจตราอาคารสถานที่ โป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยสารที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที การป้องกันและระมัดระวังเพื่อมิให้เกิดอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง หรือการปล่อยโคมลอย การจัดให้มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำ การเข้มงวด กวดขันปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน การจัดชุดเจ้าหน้าที่ สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้าดอกไม้เพลิงปฏิบัติตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ รวมทั้งเข้มงวด กวดขันให้พื้นที่จัดงานเทศกาลวันลอยกระทงเป็นสถานที่ซึ่งห้ามจำหน่ายสุรา ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก โดยให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการที่จะจัดงานต่าง ๆ ให้มีการเตรียมการรักษาความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ อันอาจจะเกิดขึ้นให้รอบคอบรัดกุม รวมทั้งให้ทราบถึงความผิดและบทลงโทษตามกฎหมายในกรณีที่ปล่อยปละละเลยให้มีกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย ทั้งนี้ ในการดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงดังกล่าว ให้ประสานงานกับกระทรวงกลาโหมเพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาร่วมดำเนินการด้วยตามความจำเป็นและเหมาะสม ๔. ให้ทุกหน่วยงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้ใส่ชุดผ้าไทยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงเพื่อแสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยด้วย | |||||||||||||||||||||||||||
| 26085 | ขอความเห็นชอบพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ 7 และชุดที่ 8 ของการเปิดตลาดการค้าบริการสาขาการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการให้สัตยาบันพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๗ การเปิดตลาดการค้าบริการ สาขาการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน และให้นำพิธีสารดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบเพื่อการมีผลใช้บังคับของพิธีสารต่อไป และเมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบแล้ว มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการมอบสัตยาบันสารของพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๗ ให้แก่เลขาธิการอาเซียนเพื่อรับทราบการให้สัตยาบันพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๗ ๒. เห็นชอบและอนุมัติการลงนามพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๘ การเปิดตลาดการค้าบริการ สาขาการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลงนาม ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลงนามพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๘ ทั้งนี้ เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงนามในพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๘ แล้ว ให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนการให้สัตยาบันต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||
| 26086 | ข้อเสนอให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยประสานงานหลักของไทยกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก | พณ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยประสานงานหลักของไทยกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization : WIPO) แทนกระทรวงการต่างประเทศ ๑.๒ ให้คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ประจำอยู่ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ทำหน้าที่ประสานงานกับ WIPO แทนคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และแต่งตั้งให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำ WTO เป็นผู้แทนไทยใน WIPO แทนเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ซึ่งจะช่วยให้การมีส่วนร่วมและแสดงบทบาทเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ มีความสอดคล้อง และสนับสนุนซึ่งกันและกัน ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ อาทิความคิดเห็นในประเด็นด้านกฎหมายเกี่ยวกับข้อเสนอที่จะให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ประสานงานหลักกับ WIPO โดยดำเนินงานผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา แทนกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งดำเนินงานผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เป็นกรณีการโอนภารกิจระหว่างหน่วยงาน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงงานและบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานตามนโยบายและความเหมาะสม ไม่ใช่เป็นกรณีการยุบรวมหรือยกเลิกหน่วยงานที่จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของหน่วยงานในต่างประเทศ จึงเป็นประเด็นด้านนโยบายที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมายภายในหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26087 | ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี 2557 (ช่วงประสบภัยเดือนกรกฎาคม 2556 ถึงเดือนสิงหาคม 2557) | กษ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการให้ใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๗ จำนวน ๒๖ จังหวัด รวม ๑๐ ภัย ได้แก่ อุทกภัย ภัยแล้ง วาตภัย อัคคีภัย ภัยอากาศแปรปรวน ศัตรูพืชระบาด ภัยหนาว ภัยฝนทิ้งช่วง ภัยพายุและคลื่นลมแรง และปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำ เกษตรกรจำนวน ๑๒,๘๖๐ ราย ประกอบด้วย ด้านพืช เกษตรกรจำนวน ๑๒,๗๙๔ ราย และด้านประมง เกษตรกรจำนวน ๖๖ ราย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว ภายในกรอบวงเงิน ๑๕๔,๘๒๓,๗๔๑ บาท โดยให้กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมประมง ตรวจสอบเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาให้ครบถ้วน สมบูรณ์ ถูกต้องตามข้อเท็จจริงก่อน แล้วจึงขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง และให้ถือว่าคำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณของกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมงเป็นคำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทั้งนี้ ให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งพัฒนาระบบประกันภัยทางการเกษตรให้มีความคุ้มครองครอบคลุมภัยพิบัติด้านการเกษตรและเกษตรกรทุกกลุ่ม และการจ่ายเงินให้เกษตรกร การจัดทำฐานข้อมูลเกษตรกร จะต้องมีการจัดทำทะเบียนอย่างถูกต้อง ไม่รั่วไหล รวมทั้งมีการควบคุมให้โปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ในการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ให้กระทรวงมหาดไทยสำรวจพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติให้ถูกต้อง รอบคอบ และประกาศให้ครอบคลุมพื้นที่ที่เกิดความเสียหายจริงเท่านั้น ๓. กรณีเกิดภัยพิบัติในครั้งต่อไป ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดสำรวจความเสียหายและดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยพิบัติให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการแก้ไขปัญหาอุทกภัย) โดยให้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องก่อนเป็นลำดับแรก และหากไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณกรณีดังกล่าว จึงขอรับการจัดสรรเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติเพิ่มเติมต่อไป ๔. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||
| 26088 | ขอความเห็นชอบและอนุมัติการลงนามร่างพิธีสาร 2 ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามร่างพิธีสาร ๒ ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลงนาม ๑.๒ นำร่างพิธีสาร ๒ ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันพิธีสารดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้เมื่อประเทศไทยมอบสัตยาบันสารของพิธีสารดังกล่าวให้แก่เลขาธิการอาเซียน ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลงนามร่างพิธีสาร ๒ ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันพิธีสารดังกล่าวแล้ว ๑.๔ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการมอบสัตยาบันของพิธีสาร ๒ ดังกล่าว ให้แก่เลขาธิการอาเซียนเพื่อรับทราบการให้สัตยาบันพิธีสาร ๒ ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงนามร่างพิธีสารดังกล่าวแล้ว ๒. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงนามในร่างพิธีสาร ๒ ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว ให้นำพิธีสารดังกล่าวเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนการให้สัตยาบันต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางการบินอินเดีย-มัณฑะเลย์-กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการบินของไทยและเพิ่มโอกาสให้สายการบินสามารถสร้างเสริมเครือข่ายการบินเชื่อมโยงจุดต่าง ๆ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับแผนการบินและพัฒนาการด้านบริการเดินอากาศ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26089 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | วท | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ด้านต่างประเทศด้วย | |||||||||||||||||||||||||||
| 26090 | (ร่าง) บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและหญิงและการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ | พม | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (ร่าง) บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและหญิงและการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ มีสาระสำคัญเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ในภาพรวม ประกอบด้วย ความร่วมมือด้านการป้องกัน การคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ การปราบปรามการค้ามนุษย์ การส่งกลับประเทศ และการคืนสู่สังคม ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ในนามรัฐบาลไทย และอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามที่อ้างถึงในการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ เห็นชอบให้สามารถปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำใน (ร่าง) บันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญได้ก่อนการลงนามโดยหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ๒. เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและหญิงและการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์แล้ว ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เร่งดำเนินการจัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้รายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย | |||||||||||||||||||||||||||
| 26091 | การดำเนินการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา | รง | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่ได้รับอนุญาตทำงานชั่วคราวจากศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในกิจการประมง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา) และให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับและกำกับดูแลให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้อง โปร่งใส และไม่แสวงประโยชน์ใด ๆ และหากมีกรณีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ เช่น การเรียกเก็บเงินจากแรงงานต่างด้าวที่ผ่านเข้าออกด่านตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น ให้ดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด ๓. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างเคร่งครัด เช่น กรณีที่สถานประกอบการลักลอบหรือมีส่วนรู้เห็นในการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ควรพิจารณาใช้มาตรการปิดสถานประกอบการเป็นการชั่วคราวด้วย | |||||||||||||||||||||||||||
| 26092 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารการทูต ระดับสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายปสันน์ เทพรักษ์) | นร04 | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายปสันน์ เทพรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป โดยให้กำหนดชื่อในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้ง โดยยังคงตำแหน่งในสายงานเดิม และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อื่นที่ได้รับอยู่เดิม ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26093 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) (นายสุพศิน สุเมธิวิทย์) | นร05 | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุพศิน สุเมธิวิทย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26094 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงพลังงาน) (นางพวงทิพย์ ศิลปศาสตร์) | พน | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางพวงทิพย์ ศิลปศาสตร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26095 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (จำนวน 3 ราย) (1. นายนเร เหล่าวิชยา ฯลฯ) | กก | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑. นายนเร เหล่าวิชยา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายภาษิต พุ่มชูศรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายชาญวิทย์ ผลชีวิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26096 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม) (จำนวน 3 ราย) (1. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ฯลฯ) | ยธ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ๒. นายวีระยุทธ สุขเจริญ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ๓. นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26097 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการอาชีวศึกษาแทนตำแหน่งที่ว่าง | ศธ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสุวรรณี คำมั่น ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนากำลังคน ในคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26098 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 22 ราย) (1. นายธานี ธัญญาโภชน์ ฯลฯ) | มท | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน ๔ ราย และผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ จำนวน ๑๘ ราย รวม ๒๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายธานี ธัญญาโภชน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายยุทธนา วิริยะกิตติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายวรวิทย์ สายสุพัฒน์ผล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายอำนวย ตั้งเจริญชัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดกระบี่ ๖. นายวงศศิริ พรหมชนะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดชุมพร ๗. นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดตราด ๘. นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครปฐม ๙. นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดบึงกาฬ ๑๐. นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปัตตานี ๑๑. นายประยูร รัตนเสนีย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพังงา ๑๒. นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์ ๑๓. นายศักดิ์ สมบุญโต ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดแพร่ ๑๔. นายชยาวุธ จันทร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดมหาสารคาม ๑๕. นายสามารถ วราดิศัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดยะลา ๑๖. นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดระนอง ๑๗. นายณรงค์ อ่อนสอาด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดลำพูน ๑๘. นายปัญญา งานเลิศ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสมุทรสงคราม ๑๙. นายปิติ แก้วสลับสี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสุโขทัย ๒๐. นายสุชาติ นพวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดหนองคาย ๒๑. นายสุทธินันท์ บุญมี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอำนาจเจริญ ๒๒. นายสมชาย เลิศพงศ์ภากรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอุทัยธานี 
 | |||||||||||||||||||||||||||
| 26099 | เอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 22 และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 26 | กต | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๒ มีสาระสำคัญระบุผลการดำเนินการตามเป้าหมายต่าง ๆ ภายใต้ประเด็นสำคัญของเอเปคประจำปี ๒๕๕๗ ได้แก่ การก้าวสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคผ่านการดำเนินการด้านต่าง ๆ การส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีนวัตกรรม การปฏิรูปเศรษฐกิจ และการเจริญเติบโต รวมทั้งการส่งเสริมความเชื่อมโยงอย่างครอบคลุมและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีรับรองเอกสารดังกล่าว ๑.๒ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงเอเปคในโอกาสก่อตั้งเอเปคครบ ๒๕ ปี มีเนื้อหาสำคัญคือ ชื่นชมผลการดำเนินงานและพัฒนาการที่ผ่านมาของเอเปค เน้นย้ำเจตนารมณ์ทางการเมืองและความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานในปัจจุบันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และแสดงวิสัยทัศน์ ข้อริเริ่ม และแผนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของเอเปคในอนาคต อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีรับรองเอกสารดังกล่าว ๑.๓ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๖ ที่ระบุถึงความคืบหน้าของความร่วมมือที่มีความสำคัญ อาทิ การผลักดันการเจรจารอบโดฮา การจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก การบรรลุเป้าหมายโบกอร์ การส่งเสริมการเข้าร่วมในห่วงโซ่คุณค่าโลก การพัฒนาความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ การส่งเสริมเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ การพัฒนานวัตกรรม การสร้างการเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม การพัฒนาเมือง และการสร้างความเชื่อมโยงภูมิภาค รวมถึงให้การรับรองเอกสารข้อเสนอแนะและข้อริเริ่มในสาขาความร่วมมือด้านต่าง ๆ ของเอเปค รวมทั้งสิ้น ๑๔ ฉบับ และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมรับรองเอกสารดังกล่าว ๑.๔ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างเอกสารทั้งสามฉบับดังกล่าวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) เกี่ยวกับด้านต่างประเทศด้วย | |||||||||||||||||||||||||||
| 26100 | (ร่าง) กรอบข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพและทรัพยากรพันธุกรรมอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม | ทส | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยืนยันความเห็นเดิมของประเทศไทย ที่จะไม่ดำเนินการเกี่ยวกับ (ร่าง) กรอบข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพและทรัพยากรพันธุกรรมอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม เนื่องจากประเทศสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่ประสงค์จะเป็นภาคีของพิธีสารนาโงยาว่าด้วยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมและการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินงานระดับโลกที่ครอบคลุมการดำเนินงานด้านการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์อยู่แล้ว และเพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนของกฎหมาย โดยสมาชิกอาเซียนอาจพิจารณารายละเอียดการดำเนินงานของพิธีสารนาโงยาฯ เพิ่มเติมต่อเนื่องร่วมกันเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกอาเซียน ๑.๒ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขความเห็น ตามข้อ ๑.๑ ที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้พิจารณา โดยไม่ต้องนำกลับมาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาใหม่ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเสนอร่างกฎหมายเพื่อการคุ้มครองดูแลทรัพยากรชีวภาพที่มีความหลากหลายของประเทศไทยตามขั้นตอนให้ครบถ้วนต่อไป ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณานำองค์ความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาใช้เป็นข้อมูลในการศึกษา วิจัยและพัฒนาเพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นรูปธรรมต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||
					.....
									
			