ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 1463 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
201 | การพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) กับระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (e-LAAS) | กค | 28/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแนวทางการพัฒนาการเชื่อมโยงระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMS Thai) กับระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (e-LAAS) และมอบหมายให้กรมบัญชีกลางและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินการพัฒนาระบบตามแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูล โดยให้คณะกรรมการติดตามและกำกับดูแลการดำเนินการพัฒนาระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (New GFMIS Steering Committee) กำกับติดตามการดำเนินการและรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวจะต้องมีความครอบคลุมทุกแหล่งเงินและการรายงานผลการเบิกจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐในภาพรวม โดยแสดงถึงความเชื่อมโยงกับงบประมาณรายจ่ายที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการด้านการงบประมาณ การเงิน และการคลังของประเทศในภาพรวม ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
202 | รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2562 | มท | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทย เพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการ “คืนคลองสวยทั่วไทย สุขใจเที่ยวท้องถิ่น” ได้ดำเนินการตามเป้าหมายแล้ว จำนวน ๗๖ จังหวัด มีคูคลองที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นคลองต้นแบบระดับจังหวัด จำนวน ๑๐๔ แห่ง เช่น คลองบางกล่ำ จังหวัดสงขลา คลองแม่มอก จังหวัดสุโขทัย และคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จังหวัดปทุมธานี เป็นต้น ๒. โครงการ “ห้องน้ำท้องถิ่นสะอาดและปลอดภัย” ได้ดำเนินการตามเป้าหมายแล้ว จำนวน ๗๖ จังหวัด มีห้องน้ำสาธารณะที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่พัฒนา/ปรับปรุงแล้ว จำนวน ๓๓,๒๗๖ แห่ง จากจำนวน ๔๐,๙๙๑ แห่ง เช่น ห้องน้ำศูนย์บริการร่วมแบบเบ็ดเสร็จเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ห้องน้ำสวนสาธารณะเกาะลำพู จังหวัดสุราษฎร์ธานี และห้องน้ำภายในสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลวังโมกข์ จังหวัดพิจิตร เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
203 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จำนวน 4 ฉบับ | มท | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการมอบหมายให้ส่วนราชการรับชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำความตกลงมอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการรับชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนได้ และกำหนดอัตราส่วนลดหรือค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บภาษีที่ส่วนราชการรับชำระไว้แทน ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ที่ให้จัดเก็บภาษีตามมาตรา ๓๗ (๔) แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่นที่จำเป็นในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่นที่จำเป็นในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงการผ่อนชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดจำนวนงวดและจำนวนเงินภาษีขั้นต่ำที่มีสิทธิผ่อนชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการในการผ่อนชำระภาษี ๒. ให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงกำหนดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ โดยกรณีที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพนั้น ควรพิจารณากำหนดระยะเวลาของการไม่ใช้ประโยชน์ในปีที่ผ่านมาไว้ด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
204 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | กค | 07/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ ทุนหมุนเวียน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน ๘,๓๕๑ หน่วยงาน จากทั้งหมด ๘,๔๒๐ หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๑๘ โดยมีหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินภายในระยะเวลาตามมาตรา ๗๐ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๗๒ หน่วยงาน และหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงิน จำนวน ๖๙ หน่วยงาน รวมทั้งข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับการจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐ ได้แก่ (๑) ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งส่งข้อมูลรายงานการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดตามมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และ (๒) ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดให้ความสำคัญ ควบคุม กำกับดูแล หน่วยงานภายใต้สังกัดส่งรายงานการเงินของหน่วงยงานภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถส่งรายงานการเงินให้กระทรวงการคลังได้ตามกำหนด หน่วยงานต้องรายงานเหตุผล หรือปัญหาอุปสรรคต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดทราบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการจัดทำรายงานครั้งถัดไป หากกระทรวงการคลังจะได้จัดทำบทวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เช่น มีประเด็นหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายด้านใดที่รัฐบาลพึงระมัดระวังในอนาคต ก็จะเป็นประโยชน์ตามเจตนารมณ์ที่กำหนดตามมาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งส่งข้อมูลรายงานการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดตามมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดให้ความสำคัญ ควบคุม กำกับดูแลหน่วยงานภายใต้สังกัดให้ส่งรายงานการเงินของหน่วยงานภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถส่งรายงานการเงินให้กระทรวงการคลังได้ตามกำหนด หน่วยงานต้องรายงานเหตุผลหรือปัญหาอุปสรรคต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดและกระทรวงการคลังทราบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
205 | ร่างกฎกระทรวงการรับฟังความเห็นของประชาชนสำหรับโครงการระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ พ.ศ. .... | พน | 07/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงการรับฟังความเห็นของประชาชน สำหรับโครงการระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดให้มีการรับฟังความเห็นของประชาชนสำหรับโครงการระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ เพื่อประโยชน์แก่การป้องกันหรือระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหายหรืออันตรายที่จะมีผลกระทบต่อบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น การเข้าพื้นที่โครงการเพื่อเตรียมการก่อนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน การแก้ไขข้อความในส่วนของบันทึกหลักการและเหตุผลจากคำว่า “รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕” เป็น “รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ” และการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า กรมธุรกิจพลังงานควรเปิดช่องทางในการสื่อสารกับประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำไปปรับปรุงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
206 | ขอยกเว้นหลักเกณฑ์ตามข้อ 7 (2) แห่งกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 เพื่อการสำรวจปิโตรเลียม การผลิตปิโตรเลียม การเก็บรักษา การขนส่ง หรือกิจการอันเกี่ยวเนื่องกับการสำรวจหรือผลิตปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม | พน | 30/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ยกเว้นหลักเกณฑ์ตามข้อ ๗ (๒) แห่งกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. ๒๕๕๘ แก่บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๓/๒๕๔๖/๖๐ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเป็นผู้ยื่นขออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าเพื่อการสำรวจ ผลิต เก็บรักษา ขนส่ง หรือกิจการอันเกี่ยวเนื่องกับการสำรวจหรือผลิตปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมต่อกรมป่าไม้ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานอัยการสูงสุดที่เห็นว่า (๑) การผลิตปิโตรเลียมบนพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินจะดำเนินการผลิตได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๖๐ (๒) พื้นที่ขออนุญาตดังกล่าวต้องดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ จัดทำแผนที่และเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรับฟังความเห็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนจึงจะทราบได้ว่าสามารถพิจารณาอนุญาตได้ตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. ๒๕๕๘ รวมทั้งการพัฒนาปิโตรเลียมจะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการหรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ด้วย และ (๓) พื้นที่ที่จะพิจารณาอนุญาตจะต้องไม่เป็นพื้นที่ป่าที่มีสภาพป่าไม้สมบูรณ์ พื้นที่ที่ควรรักษาไว้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า หรือพื้นที่ที่มติคณะรัฐมนตรีกำหนดหลักเกณฑ์ห้ามใช้ประโยชน์ไว้เป็นการเฉพาะตามข้อ ๑๒ ของกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานกำกับดูแลให้ผู้รับสัมปทานในเรื่องนี้ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอนตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมในการอนุมัติ/อนุญาต ตลอดจนกำกับดูแลการดำเนินการของผู้รับสัมปทานในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือแนวทางปฏิบัติที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
207 | ผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 2 และความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายภายในประเทศตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท | ทส | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญานิมามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ สมาพันธรัฐสวิส และความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายภายในประเทศตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท โดยที่ประชุมฯ ได้มีการพิจารณาและมีมติเห็นชอบและรับรองประเด็นต่าง ๆ เช่น การให้ภาคีจัดส่งแหล่งกำเนิดที่ปล่อยปรอทสู่ดินและน้ำให้สำนักเลขาธิการอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอทเป็นผู้รวบรวม การจัดทำร่างรายการกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีผลต่อการปล่อยปรอทสู่ดินและน้ำภายในประเทศ เพื่อใช้เป็นมาตรการในการกักเก็บชั่วคราวของปรอทอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินการของกลไกทางการเงิน การคงความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกและองค์การแรงงานระหว่างประเทศด้านสุขภาพต่อไป และการจัดส่งข้อมูลการปลดปล่อยปรอทจากกิจกรรมการเผาในที่โล่งให้กับสำนักเลขาธิการฯ เป็นต้น โดยในส่วนของไทยมีประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาดำเนินการ ได้แก่ (๑) การออกกฎหมายระดับอนุบัญญัติที่เหลือตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะฯ (๒) การนำแนวทางการกักเก็บชั่วคราวของปรอทอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่ของเสียปรอทมาปรับใช้ในทางปฏิบัติสำหรับไทย และ (๓) การติดตามความคืบหน้าของการจัดทำแนวทางต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยปรอทสู่สิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น การปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะฯ และขับเคลื่อนการดำเนินงานภายในประเทศให้เป็นไปตามมติข้อตัดสินใจของการประชุมฯ ควรให้ความสำคัญทั้งในด้านการผลิต การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักของผู้บริโภค รวมทั้งการจัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับมอบหมายเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับภารกิจที่จะต้องดำเนินการและขับเคลื่อนร่วมกันต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงมหาดไทยดำเนินงานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในส่วนที่เกี่ยวข้องตามพันธกรณีของอนุสัญญานิมามาตะฯ และขับเคลื่อนการดำเนินการภายในประเทศให้เป็นไปตามมติข้อตัดสินใจของการประชุมฯ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะฯ อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
208 | มาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดสตูล | กค | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดสตูลไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกันกับมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในภาคใต้ ที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุพิจารณาแล้วในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ ไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำมาตรการนี้ไปใช้บังคับในการจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยอนุโลมด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
209 | (ร่าง) Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2573 | ทส | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบ (ร่าง) Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๓ เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายการบริหารจัดการขยะพลาสติกในภาพรวมของประเทศ สำหรับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติกแบบบูรณาการของหน่วยงานเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ตาม (ร่าง) Roadmap โดยตั้งเป้าหมายในการลดและเลิกใช้พลาสติกบางประเภทภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เช่น พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเลิกใช้พลาสติกประเภทถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) และหลอดพลาสติก ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ รวมทั้งมีการกำหนดหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงานตาม (ร่าง) Roadmap ในทุกภาคส่วน และกำหนดกลไกต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน เช่น สร้างความรู้ ความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือการดำเนินงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุง (ร่าง) Roadmap และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๗๓ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ [เรื่อง (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ] ก่อนเสนอไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณากลั่นกรองตามขั้นตอนของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี) ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และข้อเสนอแนะของกระทรวงพลังงานและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น (๑) ควรให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการสำหรับโครงการที่มีการลงทุนสูงให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒) หากจะให้ (ร่าง) Roadmap มีความสอดคล้องกับทิศทางของการหารือในเวทีระหว่างประเทศและมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอาจพิจารณาเพิ่มมิติของการบริหารจัดการขยะด้วย (๓) ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการสำหรับโครงการที่มีการลงทุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ (๔) มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ/ปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๓ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง) Roadmap และให้นำแผนปฏิบัติการดังกล่าวเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
210 | รายงานผลการดำเนินการโครงการ "1 อปท. 1 ถนนท้องถิ่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม" | มท | 09/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงกร “๑ อปท. ๑ ถนนท้องถิ่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ที่รับทราบการจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ มีแนวทางการดำเนินการ สรุปได้ ดังนี้ (๑) การคัดเลือกถนนที่มีความยาวระยะทางไม่น้อยกว่า ๕๐๐ เมตร กว้าง ๓-๖ เมตร ๑ สายทาง และเป็นถนนซึ่งเป็นที่รู้จัก หรือเป็นสถานที่สำคัญ และอยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (๒) การจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อพัฒนา ปรับปรุง ดูแล และรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณถนน ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาครัฐ เอกชน และประชาชน และ (๓) ผลการดำเนินโครงการฯ ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ โดยมีเป้าหมายดำเนินการ ๗,๘๕๑ สายทาง (อปท. ละ ๑ สายทาง) ดำเนินการแล้ว ๕,๔๔๘ สายทาง และอยู่ระหว่างดำเนินการ ๒,๔๐๓ สายทาง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
211 | รายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | กค | 02/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งแสดงผลการประเมินความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลกระทบของเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน นโยบายของรัฐบาล และผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐที่อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังของรัฐบาล และแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยแบ่งออกเป็น ๖ ภาคส่วนที่สำคัญ ได้แก่ ภาครัฐบาล ภาคกองทุนนอกงบประมาณ ภาครัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ภาคสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ภาคองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคการเงิน โดยมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อภาระทางการคลังของรัฐบาลใน ๔ มิติ ได้แก่ ภาระแบบชัดเจนโดยตรง ภาระแบบชัดเจนที่เป็นภาระผูกพัน ภาระโดยนัยแบบโดยตรง และภาระโดยนัยที่เป็นภาระผูกพัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
212 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... | สว | 26/03/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตว่า การสร้างความร่วมมือของเครือข่ายป่าชุมชนเพื่อการดูแลรักษาป่ามีความจำเป็น และคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัดควรอนุญาตให้คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนยืนยันการใช้แผนจัดการป่าชุมชนเดิมได้ หากแผนเดิมยังมีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นแผนได้ในระยะต่อไป เพื่อเป็นการลดภาระของประชาชน รวมถึงควรคำนึงถึงพื้นที่ป่าชุมชนที่มีซากดึกดำบรรพ์มิให้ได้รับความเสียหายจากการใช้ประโยชน์ภายในพื้นที่ป่าชุมชนด้วย นอกจากนี้ ควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมป่าไม้ได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือประชาชนในการจัดทำแผนจัดการป่าชุมชนด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
213 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2561 (เพิ่มเติม) | ทส | 05/03/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ (เพิ่มเติม) เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๕ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน ๒ เรื่อง ๑.๑ โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) ระยะที่ ๑ และระยะที่ ๒ ของการเคหะแห่งชาติ ๑.๒ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ของการไฟรถแห่งประเทศไทย ๒. เรื่องเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด จำนวน ๓ เรื่อง ๒.๑ รายงานความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณในการจัดการขยะมูลฝอยภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ๒.๒ รายงานการติดตามประเมินผลแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ๒.๓ แนวทางการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการอุดหนุนงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการฯ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
214 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 26/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเห็นควรแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และควรให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ รวมทั้งเตรียมการออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับกระบวนการสอบสวนและวินิจฉัยเพื่อใช้บังคับกับกระบวนการสอบสวนและวินิจฉัยผู้บริหารและสมาชิกสภาเมืองพัทยา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
215 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 26/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และได้ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการในการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยหรือขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ออกหลักเกณฑ์ วิธีการให้โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากมูลฝอยจ่ายเงินหรือประโยชน์ตอบแทนแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยออกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเกี่ยวกับการคัดแยก เก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย และกำหนดหลักเกณฑ์ให้โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากมูลฝอยจ่ายเงินหรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว ส่วนข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดการของเสียอันตรายและของเสียไม่อันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะได้รับไปพิจารณาดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
216 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... | สว | 18/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... โดยกระทรวงการคลังได้ดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้แก่ การกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโดยคำนึงถึงความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการดังกล่าว การจัดทำหลักเกณฑ์สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมตามมาตรา ๓๗ วรรคสอง และยกร่างกฎหมายลำดับรองตามมาตรา ๘ มาตรา ๕๕ และมาตรา ๕๖ เพื่อยกเว้นหรือบรรเทาภาระภาษีตามความจำเป็นและความเหมาะสม การกำหนดแผนงานในการจัดส่งข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบออนไลน์ รวมถึงการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของหน่วยงานดังกล่าว โดยให้กรมที่ดิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดแนวทางการจัดส่งข้อมูลหรือแนวทางดำเนินการระหว่างหน่วยงาน และสำรวจข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อแจ้งกรมธนารักษ์ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดโครงการประชาสัมพันธ์ข่าว การอบรม และการจัดทำสื่อวีดิทัศน์ และอื่น ๆ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองท้องถิ่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
217 | รายงานการติดตามผลการบริหารจัดการขยะติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร01 | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการติดตามผลการบริหารจัดการขยะติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วยรายงานสถานการณ์ในภาพรวม และอุปสรรคในการดำเนินงาน พร้อมทั้งข้อเสนอของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๑ เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการจัดการขยะติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เช่น การจัดทำแผนแม่บทการจัดการขยะติดเชื้อ (Master Plan) การออกกฎกระทรวง หลักเกณฑ์ และวิธีการเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการขยะติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การป้องกันการลักลอบนำขยะติดเชื้อออกนอกระบบ การจัดทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เป็นแหล่งกำเนิดขยะติดเชื้อ การจัดทำคู่มือในการดำเนินงานการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ และการจัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น เห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาปรับปรุงแผนการบริหารจัดการขยะติดเชื้อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิบัติการการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ พร้อมทั้งให้ทำการบำบัดขยะติดเชื้อก่อนขนส่งไปกำจัดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคในระหว่างขนส่ง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
218 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2560 | นร09 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประจำปี ๒๕๖๐ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเป็นประเด็นข้อหารือเกี่ยวกับคำสั่งทางปกครอง หลักการมีส่วนได้เสียและหลักความเป็นกลางในการพิจารณาทางปกครอง การอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง การก้ไข การเยียวยา และการเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง ตลอดจนการนับระยะเวลาตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ๒. ผลการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เช่น (๑) จัดวิทยากรของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (๒) เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของประชาชนให้กับประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ และ (๓) สัมมนาร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง รวมทั้งรับทราบปัญหาอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ เช่น (๑) ควรมีการศึกษาและทบทวนปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเฉพาะในส่วนที่พระราชบัญญัตินี้ยังมิได้บัญญัติไว้ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติที่ยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ และ (๒) ควรมีการจัดให้มีการอบรมบุคลากรในภาครัฐเพื่อพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักกฎหมายปกครองให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
219 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง นโยบายและแนวทางการส่งเสริมให้มวลชนมีการออกกำลังกายและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกีฬา ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง นโยบายและแนวทางการส่งเสริมให้มวลชนมีการออกกำลังกายและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกีฬา โดยมีผลการดำเนินการรวม ๕ ประเด็น คือ (๑) ส่งเสริมและสนับสนุน ด้านการผลิตผู้นำการออกกำลังกายและกีฬา กรมพลศึกษาได้จัดอบรมครูสอนพลศึกษาที่ไม่มีวุฒิพลศึกษาเพื่อเข้ารับการอบรมผู้นำการออกกำลังกายที่ถูกต้องในสถานศึกษาและในชุมชน (๒) ส่งเสริมและสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการออกกำลังกายกิจกรรมกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อสร้างเสริมและพัฒนาอย่างถูกต้อง ให้กรมพลศึกษาเป็นศูนย์กลางข้อมูลองค์ความรู้ด้านการออกกำลังกายกิจกรรมกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อสร้างเสริมและพัฒนาอย่างถูกต้อง (๓) ส่งเสริมและสนับสนุนด้านสมรรถภาพทางกายเยาวชนและประชาชน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานสมรรถภาพทางกายเยาวชนและประชาชนของกรมพลศึกษาไปใช้ในการประเมินผล (๔) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มวลชนมีการออกกำลังกาย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมกีฬา ให้แต่ละหน่วยงานกำหนดนโยบายหรือส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมทางกาย/กิจกรรมการออกกำลังกายแก่ประชาชนบุคลากรในหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง และต้องมีการติดตามและรายงานผล และ (๕) ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมและสถานที่สำหรับการออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬาตามความเหมาะสมสำหรับชุมชน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับกรมพลศึกษาตรวจสอบและติดตามสถานะความพร้อมของสถานที่สำหรับออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬา และสรุปผลการจัดเก็บข้อมูลสถานที่สำหรับการออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬาตามความเหมาะสมสำหรับชุมชนทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
220 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา (จำนวน 14 คน 1. ศาสตราจารย์ประสาท สืบค้า ฯลฯ) | ศธ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา รวม ๑๔ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๒ มกราคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์ประสาท สืบค้า ประธานกรรมการ ๒. ศาสตราจารย์เกียรติคุณกิตติชัย วัฒนานิกร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ศาสตราจารย์ชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. รองศาสตราจารย์บัณฑิต ทิพากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. ศาสตราจารย์ปานสิริ พันธุ์สุวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. รองศาสตราจารย์ไพโรจน์ ภัทรนรากุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัฐชาติ มงคลนาวิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. ศาสตราจารย์ศันสนีย์ ไชยโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๙. ศาสตราจารย์สมชาย วงศ์วิเศษ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑๐. ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑๑. รองศาสตราจารย์สุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑๒. รองศาสตราจารย์พรชัย เทพปัญญา กรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑๓. รองศาสตราจารย์ประสบศรี อึ้งถาวร กรรมการผู้แทนองค์กรวิชาชีพ ๑๔. นายธนู กุลชล กรรมการผู้แทนองค์กรเอกชน
|
.....