ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง | วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 61 | การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐ | กค. | 18/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติจำหน่ายหนี้เป็นสูญของโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่     ๑.๑
โครงการส่งเสริมการปลูกชาจีนในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย ลูกหนี้ค้างชำระ จำนวน
๑๖๘ ราย วงเงินรวม ๘,๕๑๙,๓๔๖.๒๕
บาท     ๑.๒
โครงการความร่วมมือไตรภาคี (ปลูกไผ่กิมซุ่ง) จังหวัดกาญจนบุรี ลูกหนี้ค้างชำระ จำนวน
๒๘๓ ราย วงเงินรวม ๑๗,๒๙๘,๗๕๙.๗๓
บาท ส่วนโครงการเลี้ยงวัวกลุ่มโล๊ะไม้อ้อในพื้นที่นิคมเศรษฐกิจพอเพียง
อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ลูกหนี้ค้างชำระ จำนวน ๔๑ ราย วงเงินรวม ๒,๐๐๗,๑๔๑.๗๓ บาท
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการจำหน่ายหนี้เป็นสูญ ตามหน้าที่และอำนาจ
ตามนัยมติสภาบริหารคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ (เรื่อง ขออนุมัติจำหน่ายบัญชีลูกหนี้ค่าจำหน่ายสลากของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและขออนุมัติในหลักการเรื่องจำหน่ายหนี้เงินและทรัพย์สินออกจากบัญชี) ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรพิจารณาถึงความจำเป็นและเหมาะสมในการดำเนินโครงการ
อาทิ การบริหารจัดการโครงการด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงสภาพพื้นที่ให้เหมาะสม ศักยภาพและโอกาสด้านการผลิต
การตลาด เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
มีการจัดทำแผนและติดตามประเมินผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
กำหนดแนวทางการบริหารจัดการด้านการเงินให้ครอบคลุม รวมทั้งเสริมสร้างองค์ความรู้ในการดำเนินโครงการและการบริหารจัดการด้านการเงินให้แก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกร
ตลอดจนถอดบทเรียนจากการดำเนินการที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลดภาระการดำเนินงานของกองทุน
ภาระต่องบประมาณในอนาคต และลดปัญหาหนี้สูญที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดให้มีการวิเคราะห์และจัดทำแนวทางป้องกันและจัดการความเสี่ยง
รวมทั้งการติดตามความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถป้องกันและดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของเกษตรกร
และส่งผลต่อเนื่องให้ต้องมีการขอจำหน่ายหนี้สูญให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ๓. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการรับเงิน
การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การจัดหาผลประโยชน์ การจัดการและการจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนพัฒนาสหกรณ์
พ.ศ. ๒๕๕๐ และมติสภาบริหารคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ (เรื่อง
ขออนุมัติจำหน่ายบัญชีลูกหนี้ค่าจำหน่ายสลากของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและขออนุมัติในหลักการเรื่องจำหน่ายหนี้เงินและทรัพย์สินออกจากบัญชี)
ในส่วนของการกำหนดวงเงินการจำหน่ายหนี้เป็นสูญเกินกว่า ๕ ล้านบาท
ที่ต้องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
ขอจำหน่ายหนี้สูญตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญในกองทุนหรือเงินทุนในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ของสหกรณ์ประมงเกาะลันตา จำกัด) ให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 62 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 ครั้งที่ 1 | กค. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๑ โดยในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๓
มกราคม ๒๕๖๘ โดยการปรับปรุงแผนฯ มีสาระสำคัญ เช่น (๑)
การปรับเพิ่มวงเงินกู้โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ
จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทยส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้แก่ผู้รับจ้างได้เพิ่มขึ้น
(๒) การปรับลดวงเงินกู้โครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร (ปีการผลิต ๒๕๕๔/๒๕๕๕
และปีการผลิต ๒๕๕๕/๒๕๕๖) จำนวน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท
เนื่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้รับเงินงบประมาณเพื่อชำระคืนเงินต้นแล้ว
และ (๓) การปรับเพิ่มวงเงินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลที่จะครบกำหนด ในปีงบประมาณ
๒๕๖๙ - ๒๕๗๒ จำนวน ๗๗,๘๙๐.๐๒ ล้านบาท เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรกำกับ ติดตาม
และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า ประหยัด
เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแท้จริง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าการบริหารจัดการหนี้สาธารณะในระยะต่อไป
จะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเงินโลกที่ยังมีแนวโน้มของความผันผวนอยู่ในเกณฑ์สูง
รวมทั้งแรงกดดันทางการคลังที่เพิ่มขึ้นตามภาระหนี้รัฐบาลจากการดำเนินนโยบายขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง
และผลจากการกู้เงินเพื่อดูแลแก้ไขผลกระทบจากวิกฤติโควิด-๑๙
ซึ่งจะต้องบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมิให้กระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
ตลอดจนเป็นข้อจำกัดต่อกรอบงบประมาณสำหรับการพัฒนาประเทศในระยะต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 63 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร | กค. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพและยกระดับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล นำไปสู่การพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนของประเทศที่ชะลอตัว
โดยการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นไทยและส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่ากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสร้างกลไกหรือมาตรการระยะสั้นและระยะยาว
เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ESG
ปรับตัวและเตรียมรับมือกับมาตรฐาน ESG ให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ
และสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 64 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนตามมาตรฐานเลขที่
มอก. ๑๓๙๐ - ๒๕๖๐
โดยเป็นการยกเลิกมาตรฐานเดิมและกำหนดมาตรฐานใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก.
๑๓๙๐ - ๒๕๖๖ เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการทำและการใช้งานปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 65 | ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง | นร.07 | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์
๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) ในส่วนที่สำคัญ เช่น (๑) ยกเลิกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่หน่วยรับงบประมาณจะได้รับในแต่ละปีงบประมาณในอัตราไม่เกินร้อยละ
๖๐ ในปีที่ ๑ ไม่เกินร้อยละ ๔๐ ในปีที่ ๒ ไม่เกินร้อยละ ๒๐ ในปีที่ ๓
และไม่เกินร้อยละ ๑๐ ในปีที่ ๔ โดยกำหนดใหม่ให้สัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่หน่วยรับงบประมาณจะได้รับในแต่ละปีงบประมาณเป็นไปตามที่สำนักงบประมาณกำหนด
(๒) ยกเลิกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่จะขออนุมัติผูกพันข้ามปีงบประมาณจะต้องได้รับจัดสรรงบประมาณในปีแรก
เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒๐ โดยกำหนดใหม่ให้สัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่จะขออนุมัติผูกพันข้ามปีงบประมาณจะต้องได้รับจัดสรรงบประมาณในปีแรกไม่ต่ำกว่าร้อยละ
๑๕ และ (๓) ปรับปรุงข้อความบางประการของหลักเกณฑ์ข้ออื่น ๆ
เพื่อให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เช่น ๑) ยกเลิกการกำหนดให้การผูกพันงบประมาณที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษนอกเหนือไปจากหลักเกณฑ์ที่กำหนด
จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน และ ๒) การปรับถ้อยคำ จากเดิม ส่วนราชการเปลี่ยนเป็น
หน่วยรับงบประมาณ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 66 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อว. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีซึ่งจัดตั้งโดยพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยเปลี่ยนระบบโครงสร้างการบริหารงานและสถานะของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีที่เป็นส่วนราชการให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่เป็นส่วนราชการ
แต่มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ (สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ) เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการที่เป็นอิสระ
มีความคล่องตัว มีธรรมาภิบาล และสอดคล้องกับการปฏิรูปการอุดมศึกษา สามารถจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
และร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
พ.ศ. ๒๕๔๘ (ยกเลิกการเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
พ.ศ. ๒๕๔๘) เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ
รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
โดยให้ส่งความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 67 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ชนิดเหนี่ยวนำสามเฟสต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 03/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ
ชนิดเหนี่ยวนำสามเฟสต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมอเตอร์เหนี่ยวนำสามเฟส
: ประสิทธิภาพต่ำ มาตรฐานเลขที่ มอก. ๘๖๗ - ๒๕๕๐
โดยเป็นการยกเลิกมาตรฐานเดิมและกำหนดมาตรฐานใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก.
๘๖๖ เล่ม ๓๐ (๑๐๑)-๒๕๖๑ เพื่อให้รองรับการพัฒนาเทคโนโลยีการทำและการใช้งานภายในประเทศอย่างทั่วถึง
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 68 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... | สคก. | 03/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนาม
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 69 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 25/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก
เนื่องจากประกาศใช้เกิน ๕ ปี
และเพื่อให้มาตรฐานมีความทันสมัยสอดคล้องกับการทำและการใช้งานในปัจจุบันและเป็นการส่งเสริมมาตรการทดแทนปูนเม็ด
รวมทั้งเป็นการสอดรับนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก พ.ศ. ๒๕๖๗
ซึ่งมีสาระเป็นการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาตรฐานเลขที่
มอก. ๒๕๙๔ - ๒๕๖๗ นั้น
จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
โดยประกาศดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๗
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยสอดคล้องกับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ซึ่งเป็นการกำหนดให้นำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้บังคับกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกจะต้องไม่มีผลใช้บังคับก่อนวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 70 | การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ และการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเอง ลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ | สคทช | 25/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร
กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ บริเวณที่ ๑ - ๕ ได้แก่ ๑)
พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ๒)
พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนวนอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำลี ๓) พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
๔) พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และ ๕) พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านซึ่งได้จัดที่ดินให้ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
(กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช) เร่งรัดดำเนินการแก้ไขแผนที่แนบท้ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับแนวทางการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ
ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอในครั้งนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน
๑๘๐ วัน ๓.
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบ
และเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เห็นว่าการดำเนินการต้องเป็นไปตามระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และคำนึงถึงการสร้างสมดุลการใช้ประโยชน์ที่ดินและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วย 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 71 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบอร์ดจ่ายไฟฟ้าประสงค์ให้ใช้งานโดยบุคคลทั่วไปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบอร์ดจ่ายไฟฟ้าประสงค์ให้ใช้งานโดยบุคคลทั่วไปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมชุดประกอบสวิตช์เกียร์และเกียร์ควบคุมไฟฟ้าแรงดันต่ำ
เนื่องจากประกาศใช้เกิน ๕ ปี และเพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการและมาตรฐานระหว่างประเทศ
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 72 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2567 | กค. | 04/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน
(กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. ๒๕๖๗ สรุปได้ ดังนี้ ๑)
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ ๑ - ๓ เป็นเป้าหมายนโยบายการเงินด้านเสถียรภาพราคาสำหรับระยะปานกลางและสำหรับปี
๒๕๖๗ ๒) ในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๗
เศรษฐกิจไทยโดยรวมขยายตัวและระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ ๑ และ ๒ อยู่ที่ร้อยละ -๐.๗๙ และ ๐.๗๘
ตามลำดับ ซึ่ง กนง. ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป มีแนวโน้มทยอยเพิ่มขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมายในไตรมาสที่
๔ ปี ๒๕๖๗ และ ๓) การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี
๒๕๖๗ เช่น (๑) กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ ๒.๕๐ (๒)
ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากสิ้นปี ๒๕๖๖ กนง. เห็นควรให้ติดตามพัฒนาการในตลาดการเงินและผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเลี่ยน
และ (๓) กนง. สนับสนุนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน
และเห็นว่ากระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ควรเกิดขึ้นต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการที่สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้
เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 73 | มาตรการป้องกันความเสี่ยงต่อการทุจริตในกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ | มท. | 04/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการเรื่อง
มาตรการป้องกันความเสี่ยงต่อการทุจริตในกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ
ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการฯ
และผลการดำเนินการและความเห็นในภาพรวม เช่น ๑) ให้กรมที่ดินเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาลดขั้นตอน
ระยะเวลาเกี่ยวกับกระบวนการอนุญาตที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน ๒)
กรมที่ดินอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอนุญาตให้ดูดทราย
พ.ศ. ๒๕๔๖ และ ๓) ให้จังหวัดแต่งตั้งคณะทำงานตรวจตรา ควบคุมดูแล
รับเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อควบคุมดูแลให้การดำเนินการดูดทรายเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนดโดยเคร่งครัด
ประกอบกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๓๒ บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีหน้าที่และอำนาจเสนอมาตรการความเห็น
และข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีและเมื่อคณะรัฐมนตรีได้รับแจ้งมาตรการฯ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้ว
หากเป็นกรณีที่ไม่อาจดำเนินการได้ ให้แจ้งปัญหาและอุปสรรคต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป ทั้งนี้
ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 74 | การปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองการลงทุนภายใต้ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ | กต. | 04/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙
สิงหาคม ๒๕๔๖ เรื่อง
การพิจารณาให้ความเห็นชอบการให้ความคุ้มครองการลงทุนภายใต้ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง
ๆ เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองการลงทุนภายใต้ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ
ตามที่คณะกรรมการด้านการคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศเสนอ และรับทราบผลการดำเนินการของคณะกรรมการด้านการคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๖ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองการลงทุนภายใต้ความตกลงฯ
ให้มีความชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น
และเป็นประโยชน์ในการพิจารณาท่าทีสำหรับการเจรจาความตกลงฯ
ทั้งที่อยู่ระหว่างดำเนินการและที่มีแผนจะเจรจาต่อไปในอนาคต ตามที่คณะกรรมการด้านการคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการด้านการคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองการลงทุนใหม่นี้ให้แก่ส่วนราชการ
หน่วยงานของรัฐ รวมทั้งภาคเอกชน ให้ถูกต้องและทั่วถึง เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติในการจัดทำความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 75 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ให้ยางรถใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... | พณ. | 04/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
เรื่อง
ให้ยางรถใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรการควบคุมการนำเข้ายางรถที่ใช้แล้ว
โดยยกเลิกการควบคุมการนำเข้ายางรถที่ใช้งานแล้วหรือยางรถที่หล่อดอกใหม่ รวมถึงเศษ
เศษตัดและของที่ใช้ไม่ได้ที่เป็นยางรถชนิดที่ใช้กับรถบัสหรือรถบรรทุก
เพื่อลดความซ้ำซ้อนของกฎหมาย และปรับปรุงการอ้างอิงพิกัดอัตราศุลกากร
โดยกำหนดให้อ้างอิงรหัสสถิติด้วยเพื่อความชัดเจนในการดำเนินพิธีการศุลกากร เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าการอ้างบทอาศัยอำนาจในร่างประกาศฯ
ควรให้ตัดการอ้างวรรคหนึ่งของ มาตรา ๕ ออก และระบุเป็น มาตรา ๕ (๑) (๒) (๓) (๖)
และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า
พ.ศ. ๒๕๒๒ เนื่องจากตามมาตรา ๕ ไม่มีอนุมาตราในวรรคอื่น และตัดวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างประกาศฯ
ออก เนื่องจากเป็นเนื้อหาที่ไม่ต้องระบุไว้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
 ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าเพื่อลดความซ้ำซ้อนของกฎหมายควบคุมการนำเข้ายางรถใช้แล้วของกระทรวงพาณิชย์
และ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมควรหารือร่วมกันเพื่อกำหนดให้ยางรถที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักรและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 76 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... | นร.09 | 04/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมประชาสัมพันธ์
สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของกรมประชาสัมพันธ์
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนาม และประกาศในราชกิจกิจจานุเบกษาต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 77 | ผลการพิจารณารายงานผลการศึกษา เรื่อง การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร | สงป. | 28/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานผลการศึกษา
เรื่อง การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของคณะกรรมาธิการการศึกษาจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสำนักงบประมาณได้พิจารณาข้อสังเกตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สรุปได้ ดังนี้ (๑) การพิจารณาปรับปรุงกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการงบประมาณ
เนื่องจากความล่าช้าของงบประมาณประจำปี
กฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการงบประมาณในปัจจุบันสามารถรองรับให้มีการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงไปแล้ว
ไปพลางก่อนได้ (๒) การทบทวนแผนและเป้าหมายระดับชาติ
รวมทั้งตัวชี้วัดเพื่อให้สามารถบรรลุผลได้จริง
ปัจจุบันสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติได้ดำเนินการปรับปรุงแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเพื่อให้สามารถสะท้อนการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
(๓) การปรับปรุงกรอบอัตรากำลังบุคลากรภาครัฐ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณตามแผนงานบุคลากรภาครัฐแก่หน่วยรับงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้
อาจมีกลไกการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ
(๔) การเพิ่มรายได้ภาครัฐใหม่และการพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการกำหนดกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี
การจัดโครงการรับชำระค่าภาษีอากรเพิ่ม ณ จุดเดียว (One Stop Service) สำหรับผู้ประกอบการที่เสียภาษีอากรสำหรับการนำเข้าของ
หรือส่งของออกไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
ให้สามารถดำเนินการชำระค่าภาษีอากรที่ขาดให้ครบถ้วนได้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๔-๓๐ กันยายน ๒๕๖๙ เป็นระยะเวลา ๕ ปี และ (๕) การให้ความสำคัญกับงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญกับการถ่ายโอนภารกิจและเพิ่มงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดยพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสมและความแตกต่างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละรูปแบบ
รวมถึงได้มีการจัดทำแบบเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการจัดทำคำของบประมาณเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกรายการ
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 78 | รายงานการพัฒนาระบบราชการ ประจำปี 2566 | นร.12 | 28/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพัฒนาระบบราชการประจำปี ๒๕๖๖
ซึ่งประกอบด้วยผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาระบบราชการและข้อมูลผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่
๑) การปรับปรุงบทบาทภารกิจและโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ ๒) การยกระดับบริการภาครัฐ
๓) การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐ
รวมถึงได้ตั้งเป้าความท้าทายของการพัฒนาระบบราชการและแนวทางดำเนินการต่อไป เช่น
การปรับภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางบริการภาครัฐให้สามารถให้บริการแบบครบวงจรในมุมมองของผู้รับบริการอย่างแท้จริงเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐใช้ประโยชน์ในการพัฒนาหน่วยงานต่อไป
ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 79 | ความก้าวหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย และผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 31 | คค. | 28/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค
ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย
และผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน
ครั้งที่ ๓๑ โดยมีสาระสำคัญ เช่น ความก้าวหน้าการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ
- หนองคาย ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพฯ -
นครราชสีมา มีการก่อสร้างแล้วเสร็จ ๒ สัญญา (ช่วงกลางดง - ปางอโศก และสีคิ้ว -
กุดจิก) อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ๑๐ สัญญา และอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง ๒ สัญญา
ในส่วนของงานจ้างออกแบบรายละเอียด (สัญญา ๒.๑) ผู้รับจ้างฝ่ายจีนได้ออกแบบแล้วเสร็จ
งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้าง (สัญญา ๒.๒)
มีการเบิกจ่ายงานจ้างไปแล้วทั้งหมด ๑,๙๐๑.๓๘ ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗)
งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟ และจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา
๒.๓) ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ตรวจรับงานแล้วเมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ การจัดตั้งองค์กรกำกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบ
ส่วนการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน)
ได้มีการจัดตั้งเรียบร้อยแล้ว ระยะที่ ๒ ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย
ปัจจุบันออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ โดยอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และการเชื่อมต่อทางรถไฟช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์ การปรับปรุงสะพานมิตรภาพเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าด้วยน้ำหนักกดเพลา๒๐
ตัน/เพลา กรมทางหลวงได้ดำเนินการศึกษาความสามารถในการรับน้ำหนักเรียบร้อยแล้ว และสำนักงบประมาณได้อนุมัติงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเสริมกำลังสะพานมิตรภาพ การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่
ปัจจุบันได้ข้อตกลงว่าไทยและลาวจะร่วมลงทุนค่าใช้จ่ายร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย
ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 80 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข (โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 28/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน ๑,๘๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรให้ดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานข้างต้น
โดยเฉพาะสภาพความแออัดหรือปัญหาการใช้งานในอาคารสำนักงานเดิมอย่างเป็นรูปธรรม
และความเร่งด่วนของโครงการเมื่อเปรียบเทียบกับการปรับปรุงอาคารสถานที่ของหน่วยบริการสาธารณสุข
เพื่อให้การลงทุนด้านสาธารณสุขของประเทศเกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด 
 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
