หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มี
คำสั่งเมื่อวันที่  29  กันยายน  2549   เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 37,967,000 บาท
ให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินงานในโครงการควบคุมโรคไข้หวัดนก  ได้แก่  โครงการปรับปรุงห้องผู้ป่วย
พิเศษเป็นห้องแยกโรคผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศในโรงพยาบาลชุมชน  จำนวน  21,790,000  บาท  โครงการ
ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ และสร้างความมั่นใจในบริการของสถานบริการสาธารณสุข  จำนวน
14,000,000  บาท  และโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขเคาะประตูบ้านต้านไข้หวัดนก  จำนวน 2,177,000
บาท  ส่วนค่าใช้จ่ายของโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขเคาะประตูบ้านต้านไข้หวัดนก เฉพาะที่เป็นการอบรม
อาสาสมัครสาธารณสุขและจัดทำเอกสาร จำนวน 7,823,000 บาท  เนื่องจากเป็นรายการที่ซ้ำกับรายการที่
ได้รับอนุมัติงบกลาง จากนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2549 จึงไม่สมควรสนับสนุนเพิ่มเติม  นอกจาก
นี้ กรณีการเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ  งบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่
กระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรงบประมาณไปแล้ว  ในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการป้องกันแก้ไข
โรคไข้หวัดนกและการเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งกรมควบคุมโรคขอปรับแผน
ดำเนินการ   โดยเปลี่ยนแปลงงบดำเนินงาน  รายการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่   เป็นงบดำเนินงาน
โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของกรมสุขภาพจิต  สมควรให้ดำเนินการตามขั้นตอน   โดยให้กรม
ควบคุมโรคส่งคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549  งบกลาง   รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ
กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  จำนวน  20,000,000  บาท   ที่หมดความจำเป็นแล้วให้สำนักงบประมาณก่อน  เพื่อ
สำนักงบประมาณจะได้จัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้แก่กรมสุขภาพจิต  ตามที่มีความจำเป็นและประสงค์จะใช้
จ่ายงบประมาณต่อไป  และสำหรับกรณีของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณ  จากงบ
ดำเนินงาน  จำนวน  10,000,000  บาท  ไปเป็นงบลงทุน  นั้น  เป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการสามารถ
ดำเนินการได้ตามระเบียบว่ด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 ข้อ 24 และข้อ 33

           หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มีคำสั่ง
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2549  อนุมัติตามที่สำนักพระราชวังเสนอการจ้างบริษัท พี.เอส.เจ.คอนซัลแทนท์ จำกัด
ทำการปรับปรุงซ่อมแซมพระราชวังสนามจันทร์ในการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย ระบบไฟฟ้า ระบบโทร
ศัพท์ ระบบไฟส่องอาคาร ฯลฯ ในวงเงิน 72,881,842.25 บาท

             หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีคำสั่ง
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2549  อนุมัติตามที่ประธานคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองโครงการพัฒนาจังหวัดแบบ
บูรณาการสำหรับโครงการเร่งด่วนและจำเป็นของจังหวัดเสนอโครงการปรับปรุงชุมชนที่อยู่อาศัยและพัฒนาคุณ
ภาพชีวิต (การเคหะแห่งชาติ) วงเงิน 333,723,700 บาท และโครงการขุดลอกคูคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล (นทพ.บก.ทหารสูงสุด) วงเงิน 55,023,000 บาท

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในการ
เบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการผู้มีสิทธิได้รับรถประจำ
ตำแหน่งที่กระทรวงการคลังได้ปรับปรุงแล้ว (หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.6/16849 ลง
วันที่ 4 กันยายน 2549)

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานความคืบหน้าการดำเนิน
การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน
โดยสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 18 กันยายน 2549  ยังคงมีพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอ่าง
ทอง พิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ สำนักงบ
ประมาณได้จัดสรรงบประมาณในการฟื้นฟูบูรณะความเสียหายจากอุทกภัยแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้น 2,323,648,063
บาท  สำหรับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่จังหวัดน่าน  ได้แก่
การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เสียชีวิต  บาดเจ็บ  สูญหาย  และการดูแลด้านสุขภาพ   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และญาติผู้สูญหายในพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่จังหวัดน่านครบ
แล้ว ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ว่างงานและผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอยหรือผู้ประกอบการ
รายย่อย ได้มีการจ้างแรงงานผู้ตกงานเพื่อประกอบบ้าน ตัดต้นไม้ ขุดลอกคูคลอง  ฯลฯ  โดยดำเนินการจ้างงาน
ไปแล้วจำนวน 40,927 คน จากจำนวนผู้ตกงานจำนวน 49,365 คน จัดฝึกอบรมเพื่อสร้างอาชีพใหม่และพัฒนา
ฝีมือแรงงานให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่ประสงค์จะเปลี่ยนอาชีพที่เคยประกอบอยู่เดิม  หรือพัฒนาฝีมือแรงงานให้ดี
ขึ้น ซึ่งมีการฝึกอบรมไปแล้วจำนวน 2,713 คน โดยในพื้นที่จังหวัดน่านได้ให้ความช่วยเหลือลักษณะเดียวกันโดย
มีเป้าหมายช่วยเหลือผู้ว่างงานทั้งสิ้น  7,415  คน   ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ  และการให้ความช่วยเหลือด้าน
การเกษตรและการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ  ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วจำนวน  13,689  ราย   และ
จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรที่ประกอบอาชีพด้านการประมงจำนวน  1,674  ราย และเกษตรกรที่ประกอบ
อาชีพด้านปศุสัตว์จำนวน 218 ราย  นอกจากนี้  ยังได้มีการพัฒนาฟื้นฟูที่ดินและที่ดินที่ถูกตะกอนทับถมจำนวน
7,755 ไร่ รวมทั้งฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ โดยเตรียมพื้นที่ปลูกป่า  การปรับปรุงพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ฯลฯ
สำหรับในพื้นที่จังหวัดน่านมีเกษตรกรประกอบอาชีพเกษตร อาชีพประมง และอาชีพปศุสัตว์ ได้รับความเสียหาย
จำนวน  34,188  ราย  การให้ความช่วยเหลือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะใช้เงินทดรองราชการของกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ   ส่วนการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอยู่ระหว่างสำรวจความเสีย
หายในพื้นที่  นอกจากนี้  ยังมีความคืบหน้าการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย   การช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ได้รับผล
กระทบ การช่วยเหลือส่วนราชการที่ได้รับความเสียหาย และการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและการโยธา

              คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ อนุมัติให้ยกเว้นการดำเนินการตามแนวทาง
ปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการภายในกรม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม
2549 เป็นกรณีพิเศษ สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในกรมศุลกากร  เพื่อรองรับ
การปฏิบัติงาน  ณ  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ   รวมทั้งอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรม
ศุลกากร  กระทรวงการคลัง  พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  ปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายใน
กรมศุลกากร ในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็น  2  สำนักงาน คือ สำนักงานตรวจของผู้โดยสารท่า
อากาศยานสุวรรณภูมิ  และสำนักงานตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้  ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เมื่อได้จัดตั้งสำนักงานแห่ง
ใหม่เพื่อให้บริการทางศุลกากรขึ้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว  กรมศุลกากรจะต้องเร่งดำเนินการทาง
ศุลกากร เกี่ยวกับสินค้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการของสำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ  (ดอนเมือง)
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว    และให้ยุบสำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ  (ดอนเมือง)  ภายในกำหนด  6
เดือน นับแต่วันเปิดทำการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กันยายน 2549

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอให้พลตำรวจโท นิสสัย บุญศิริ ลาออกจาก
ราชการตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล  รุ่นที่ 6 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้
เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปดำเนินการให้ถูกต้อง สอดคล้องกับข้อกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย   สำหรับกรณีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล
เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอาญา   เนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสามารถเข้าร่วม
โครงการ ฯ ได้นั้น ให้สำนักงาน ก.พ. รับเรื่องนี้ไปพิจารณาความเหมาะสมในภาพรวมของข้าราชการทั้งหมด เพื่อ
ให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอดังนี้ อนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541  สำหรับการดำเนินการของรายการปรับปรุงสนามกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์  ระยะที่
1  ของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์  วงเงิน 74,256,500 บาท  รายการก่อสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วม (แก้มลิง)
ช่วงที่ 1 ของเทศบาลนครนครสวรรค์  วงเงิน 80,000,000 บาท  รายการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านรองรับ
การปรับปรุงพระราชวังจันทน์ ของเทศบาลจังหวัดพิษณุโลก  วงเงิน 74,000,000 บาท  และรายการก่อสร้าง
ถนนลาดยางพร้อมทางเท้าและท่อระบายน้ำ สายทางคุระบุรี-ตะกั่วป่า  ระยะทางประมาณ  1.270  กิโลเมตร
ของเทศบาลตำบลคุระบุรี จังหวัดพังงา วงเงิน 26,662,000 บาท รวม  4  รายการ และอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพัน
ข้ามปีงบประมาณ ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 23 วรรค
สี่ ประกอบด้วย รายการที่กล่าวไปแล้วข้างต้น 4 รายการ และรายการปรับปรุงถนนต่อเนื่องจากถนนเทศบาล
บำรุง (เนื่องในปีกาญจนาภิเษก) ของเทศบาลเมืองพังงา วงเงิน  24,806,000  บาท  รวมทั้งรายการขององค์
การบริหารส่วนจังหวัดพังงา จำนวน 3 รายการ  (รายการปรับปรุงและก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านท่าอยู่-
บ้านย่านสะบ้า ตำบลท่าอยู่ และตำบลคลองเคียน  อำเภอตะกั่วทุ่ง  วงเงิน  25,502,000  บาท  รายการปรับ
ปรุงถนนสายเขากล้วยบ้านราชเหนือ ตำบลทุ่งมะพร้าว  ตำบลบางทอง  วงเงิน  28,454,000  บาท  รายการ
ปรับปรุงถนนสายบ้านปากเกาะ-บ้านนอกนา หมู่ที่ 2, 3, 4  และ  5  ตำบลเกาะคอเขา  วงเงิน 36,734,000
บาท) และรายการปรับปรุงศูนย์กลางแสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ของเทศบาลเมือง
แม่สอด วงเงิน 22,320,000 บาท รวม 8 รายการ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติราย
งานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบน (หนองคาย หนองบัวลำภู เลย และอุดรธานี) ซึ่งจากการติดตามผลการดำเนินงานจนถึงเดือนกรกฎา
คม 2549  มีผลการดำเนินการจำแนกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้ เรื่องที่ได้รับรายงานความก้าวหน้า มีจำนวน 10
เรื่อง คือ (1) การจัดตั้งร้านค้าปลอดอากรในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงสะพานมิตรภาพ (2) ฟื้นฟูบูรณะพิพิธภัณฑ
สถานแห่งชาติบ้านเชียง  ในส่วนของงานปรับปรุงหลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน งานก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์และตก
แต่งภายใน งานจัดแสดงและวางแผนบริหารจัดการ  และงานอำนวยการ (3) การลดภาษีนำเข้ามะเขือเทศ (4)
การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการ  SMEs  (5) การจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี  (6)  การปรับปรุงเส้นทางจราจรในพื้นที่กลุ่มจังหวัด  (7)  การยกระดับท่าอากาศยานจังหวัด
อุบลราชธานี  (8)  การพัฒนาลุ่มน้ำและการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรของกลุ่มจังหวัด  (9)  การขุดลอกลำน้ำ
เลย  และ (10) การส่งเสริมการปลูกสบู่ดำทดแทนการปลูกข้าวโพด  และเรื่องที่ไม่ได้รับรายงานความก้าวหน้า
มีจำนวน  2  เรื่อง  คือ  โครงการกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง  และการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำแผนแม่บท
การพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัด ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเร่งดำเนินการแล้วรายงานสำนักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นประจำทุก 6 เดือน

            คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบมติคณะกรรม
การสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2549 ครั้งที่ 2/2549  และครั้งที่ 3/2549  รวมทั้งเห็นชอบมติคณะกรรมการ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2549 เมื่อวันที่  28  สิงหาคม  2549  ที่มีมติเห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรม
ชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานดูแลการอนุรักษ์พื้นที่บางกะเจ้าให้เป็นพื้นที่สีเขียว  แทนคณะกรรมการสิ่งแวด
ล้อมแห่งชาติ  และการปรับปรุงประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง  กำหนดเขตพื้นที่และ
มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2546  และกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2535)
ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ  พ.ศ. 2535    เฉพาะบริเวณเกาะ
พีพีดอน โดยปรับความสูงของอาคารในประกาศกระทรวง ฯ  และให้สามารถก่อสร้างโรงแรมได้ในกฎกระทรวง ฯ
และอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง  ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณ
ภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนด
เขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม  ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่  พ.ศ. ....   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรม
การแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี ดังนี้ นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับ
มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยา
กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวม
4 ท่าน เป็นรองประธานกรรมการ มีกรรมการ 36 ท่าน  ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้ง  2  ท่าน และข้าราชการจาก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  หรือกระทรวงสาธารณสุข  หรือ
กระทรวงอุตสาหกรรม  1  คน  สลับเปลี่ยนหมุนเวียนตามที่ประธาน ฯ มอบหมาย  เป็นกรรมการและเลขานุการ
และข้าราชการจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  หรือกระทรวง
สาธารณสุข หรือกระทรวงอุตสาหกรรม 3 คน  สลับเปลี่ยนหมุนเวียนตามที่ประธาน ฯ มอบหมาย เป็นกรรมการ
และผู้ช่วยเลขานุการ ส่วนอำนาจหน้าที่มีดังนี้ คณะกรรมการ ฯ มีหน้าที่เสนอนโยบายและแผนยุทธศาสตร์การจัด
การสารเคมีแห่งชาติ เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง และพัฒนา
ระเบียบ  ข้อบังคับ   กฎหมายให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมของประเทศที่
เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และหน้าที่อื่นอีก 4 ประการ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอ
เรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรม
การแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี ดังนี้ นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับ
มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยา
กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวม
4 ท่าน เป็นรองประธานกรรมการ มีกรรมการ 36 ท่าน  ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้ง  2  ท่าน และข้าราชการจาก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  หรือกระทรวงสาธารณสุข  หรือ
กระทรวงอุตสาหกรรม  1  คน  สลับเปลี่ยนหมุนเวียนตามที่ประธาน ฯ มอบหมาย  เป็นกรรมการและเลขานุการ
และข้าราชการจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  หรือกระทรวง
สาธารณสุข หรือกระทรวงอุตสาหกรรม 3 คน  สลับเปลี่ยนหมุนเวียนตามที่ประธาน ฯ มอบหมาย เป็นกรรมการ
และผู้ช่วยเลขานุการ ส่วนอำนาจหน้าที่มีดังนี้ คณะกรรมการ ฯ มีหน้าที่เสนอนโยบายและแผนยุทธศาสตร์การจัด
การสารเคมีแห่งชาติ เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง และพัฒนา
ระเบียบ  ข้อบังคับ   กฎหมายให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมของประเทศที่
เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และหน้าที่อื่นอีก 4 ประการ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอ
เรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี
เกี่ยวกับการเสนอร่างกฎหมาย รวม 20 มติ  และเห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎหมาย และให้ส่วน
ราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ถือปฏิบัติต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริต
คอร์รัปชั่น รอบเดือนมกราคม 2549  ของหน่วยงานระดับกระทรวง  22  หน่วยงาน ดังนี้ ข้อ 1 การส่งเสริมให้
มีการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตั้งแต่เยาว์วัย และตลอดจนทุกช่วงชีวิตให้แก่เยาวชนและประชาชน  มีหน่วยงาน
ระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ 21 หน่วยงาน ข้อ 2 การส่งเสริมการมีส่วน
ร่วมที่เข้มแข็งของภาคประชาชนในทุกระดับ มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา  และ
ข้อเสนอแนะ 18 หน่วยงาน ข้อ 3 การปรับปรุงกฎระเบียบในการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ของทางราชการ มีหน่วย
งานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ 19 หน่วยงาน ข้อ 4 การสร้างกลไกข้อ
มูลข่าวสารให้เกิดความโปร่งใส  มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ
20  หน่วยงาน  ข้อ  5  รัฐต้องสนับสนุนองค์กรภาคประชาชน และองค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ให้มีความเข้มแข็ง มีอิสระ  รวมทั้งมีบุคลากรที่เพียงพอกับการทำหน้าที่
ตรวจสอบสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน  ปัญหา  และข้อ
เสนอแนะ  16  หน่วยงาน  ข้อ 6  การตัดสินใจลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์
ของประเทศชาติเป็นสำคัญ มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน  ปัญหา  และข้อเสนอแนะ 9
หน่วยงาน  และข้อ 7  รัฐต้องพัฒนาการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย  มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผล
การดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ 16 หน่วยงาน

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
เสนอขอเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ  รายการอาคารศูนย์การ
ศึกษา 1 หลัง ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์  จาก 400,000,000 บาท  เป็นเงิน 493,500,000
บาท โดยวงเงินส่วนที่เพิ่มใช้เงินนอกงบประมาณสมทบ จำนวน 93,500,000 บาท และขยายระยะเวลาก่อ
หนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2552  โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
18 สิงหาคม 2541 (เรื่อง  การปรับปรุง  แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปี
งบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 (เรื่อง การพิจารณา
ทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด  ตามมติคณะรัฐมนตรีในการ
ประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่) ในส่วนของหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินโครงการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์
จำนวน  2  รายการ  (รายการปรับปรุงถนนสาย บร. 3029 บ้านโนนดินแดง-บ้านไทยสามัคคี และรายการ
ปรับปรุงถนนสาย  บร. 3069  บ้านโคกไม้แดง-บ้านศรีสง่า)  จากเดิม  กรมทางหลวงชนบท  เป็น  องค์การ
บริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอผลการเยือนสาธารณรัฐอาเซอร์
ไบจานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 17-21 มิถุนายน 2549 เพื่อเข้าร่วมการประชุม
ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศขององค์การการประชุมอิสลาม  (Islamic Conference of Foreign Ministers)  ครั้งที่ 33
หรือ ICFM 33 ภายใต้องค์การการประชุมอิสลาม  (Organization  of  Islamic  Conferences : OIC)  รวมทั้งเข้าพบ
หารือกับผู้นำระดับสูงของสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ได้แก่ การหารือกับประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานทั้งสองฝ่าย
ได้หารือเรื่อง การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ  ความร่วมมือด้านพลังงาน  การส่งเสริมเอกชนไทยใน
ธุรกิจการก่อสร้างในอาเซอร์ไบจาน การท่องเที่ยว  และความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา  และการหา
รือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซอร์ไบจาน เกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนท่าทีของไทยในการประชุม ICFM ครั้งนี้
การปรับปรุงแก้ไขเอกสารต่าง ๆ ที่จะออกโดยที่ประชุม เพื่อให้สะท้อนความเป็นจริงของการดำเนินการของรัฐบาล
ในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และแผนการเปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย นอกจากนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เป็นประธานในพิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทย  โดยนายซูอัด ฟาทา
ลิเยฟ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงบากูและมอบหมายหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยว
ข้องต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการและให้ดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
การแก้ไขปัญหาถนนขวางทางน้ำตามที่ได้เคยเสนอ จำนวน 3,848 แห่ง โดยเป็นโครงการที่เร่งด่วนต้องดำเนิน
การในปี พ.ศ. 2550 จำนวน 402 แห่ง และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ประชุม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแผนงานและมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ขอตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการตาม
ความเหมาะสมและเร่งด่วนต่อไป   โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ที่เห็น
ควรมีการศึกษา วิเคราะห์แบบจำลองการไหลของน้ำในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ทราบถึงสภาพข้อเท็จจริงการไหลของ
น้ำในบริเวณจุดตัดถนนหรือทางรถไฟ สำหรับใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไข สำหรับโครงการก่อสร้างถนน
ทางรถไฟ ที่จะดำเนินการก่อสร้างใหม่  ควรมีกำหนดมาตรฐานในการออกแบบ (Design Criteria) สำหรับช่อง
ระบายน้ำ หรือทางลอดถนนของแต่ละหน่วยงานให้สอดคล้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน  ไปพิจารณาประกอบการ
ดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการ
บริหารหนี้สาธารณะ เสนอดังนี้ รับทราบรายงานเงินกู้ระยะสั้นเพื่อเสริมสภาพคล่องในรูป  Credit  Line  และ
การ  Roll-over  เงินกู้ผ่อนปรนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  และเงินกู้เพื่อดำเนินงานตามโครงการ
เฉพาะกิจตามนโยบายของรัฐบาล และการปรับแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัท  การบินไทย  จำกัด  (มหาชน)
สำหรับเครื่องบิน โบอิ้ง 777-200 ER จำนวน 3 ลำ วงเงินรวม  337.08  ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเลื่อนการกู้
เงินไปดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 รวมทั้งอนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549  ครั้งที่ 4  ประกอบด้วย  แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ
จากวงเงินเดิม 176,870.84 ล้านบาท ปรับเป็น  134,059.11  ล้านบาท  และแผนการกู้เงินตามแผนการก่อ
หนี้จากต่างประเทศ จากวงเงินเดิม 747.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือเทียบเท่า  29,300.63  ล้านบาท  ปรับ
เป็น 328.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือเทียบเท่า 12,877.15 ล้านบาท  และการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาห
กิจ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการรกู้เงิน เงื่อนไข  และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้
เงิน และหรือการค้ำประกันเงินกู้ภายใต้แผนที่ปรับปรุงแล้วในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอร่างกฎกระทรวง  ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 ที่สำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เรือสำหรับโดยสารต้องจัดให้มีการประกัน
ภัยสำหรับผู้โดยสาร และให้ดำเนินการต่อไปได้