ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 175 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3481 - 3500 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3481 | โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด | นร | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอมติ ก.พ. ในการประชุมครั้งที่ 4/2550
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2550 ที่ให้มีการดำเนินการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของรัฐ โดยหากหน่วยงานใด พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติ งานโดยรวมของส่วนราชการ และมีงบประมาณของส่วนราชการรองรับให้พิจารณาดำเนินการได้ โดยให้หน่วยงาน จัดทำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการ ฯ เสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป สำหรับกรณีโครงการเกษียณอายุราชการของกระทรวงกลาโหมให้ กระทรวงกลาโหมพิจารณาดำเนินการตามมติ ก.พ. ดังกล่าวต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3482 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2549 | กค | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหา
ริมทรัพย์ ประจำปี พ.ศ. 2549 ซึ่งมีผลการดำเนินโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2548 จำนวน 8 โครง การ โดยดำเนินการเสร็จแล้ว 5 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 โครงการ และยกเลิก 1 โครงการ ส่วนโครงการ ตามแผนปฏิบัติการปี พ.ศ. 2549 อาทิ การรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ โดยรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมให้ ครบ 76 จังหวัด เริ่มจัดเก็บข้อมูลในไตรมาส 3 ปี พ.ศ. 2549 สำหรับข้อมูลที่ได้รับอนุมัติให้เผยแพร่ ณ ไตรมาส 4 ปี พ.ศ. 2549 ได้แก่ ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย หุ้นกู้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดัชนี ราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ สินเชื่อผู้ ประกอบการที่อยู่อาศัย (ปล่อยใหม่และคงค้าง) สินเชื่อบุคคลทั่วไป (ปล่อยใหม่และคงค้าง) ข้อมูลที่อยู่อาศัยผู้มี รายได้น้อยและปานกลางที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยเฉลี่ย 6 ธนาคาร เปรียบเทียบกับ MLR MRR และ RP 14 วัน นอกจากนี้ ยังมีการจัดดัชนีศักยภาพการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยใน ประเทศไทย ดำเนินการแล้วเสร็จตามแผน โดยเผยแพร่ดัชนีผ่านทางเว็บไซด์เป็นรายไตรมาส การวิจัยความเปลี่ยน แปลงของสถานการณ์โครงการอาคารขนาดใหญ่ที่ยุติการก่อสร้างระหว่างปี พ.ศ. 2546-พ.ศ. 2548 ดำเนินการ แล้วเสร็จไปประมาณร้อยละ 90 และการศึกษาความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรในเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล และจังหวัดภูมิภาค ดำเนินการแล้วเสร็จไปประมาณร้อยละ 50 เป็นต้น และงานที่ได้รับมอบหมายพิเศษ ได้แก่ การส่งเสริมธุรกิจบ้านมือสอง การปรับปรุงฐานข้อมูลบ้านมือสอง การจัดงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุม เมือง การจัดงานตลาดนัดบ้านมือสอง และการจัดงานมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 2
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3483 | การปรับปรุงค่าตอบแทนภาคราชการ | นร | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอดังนี้ เห็นชอบแนวทางการปรับค่าตอบแทนภาคราชการ
ดังนี้ ระยะเร่งด่วน ปรับอัตราเงินเดือนเป็นร้อยละเท่ากันทุกตำแหน่งในอัตราร้อยละ 4 สำหรับข้าราชการพลเรือน ในมหาวิทยาลัย ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตุลาการ ศาลยุติธรรม ตุลาการศาลปกครอง ข้าราชการอัยการ ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ข้าราชการการเมือง ลูก จ้างประจำ พนักงานราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 (12 เดือน) ปรับอัตราเงิน เดือนขั้นสูงและขั้นต่ำของผู้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ซึ่งจะมีผลให้รายได้ขั้นสูงของผู้มีสิทธิได้รับเงิน เพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้ปรับเพิ่มเป็น 11,000 บาท และรายได้ขั้นต่ำปรับเพิ่มเป็น 7,700 บาท และปรับเงิน ช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการบำนาญ ในอัตราร้อยละ 4 เช่นเดียวกัน สำหรับระยะยาว กำหนดอัตราเงินเดือน ข้าราชการให้แตกต่างกันตามลักษณะงานและระดับตำแหน่งอย่างเหมาะสมเป็นธรรม รวมทั้งปรับอัตราเงินเดือน ข้าราชการให้ใกล้เคียงกับอัตราเงินเดือนของภาคเอกชนในตลาดแรงงาน โดยมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. ศึกษา เรื่องนี้เป็นการเฉพาะต่อไป และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการทุกประเภทในอัตราร้อยละสี่เท่ากันทุกอัตรา และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3484 | การปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | นร | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอการปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยเพิ่มเติมอีกจำนวน 25,000 ล้านบาท เป็นวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 1,660,000 ล้านบาท และปรับลดประมาณการรายได้ คงเหลือ 1,495,000 ล้านบาท ลดลงจากเดิม จำนวน 20,000 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณขาดดุล จำนวน 165,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเบื้องต้น เพื่อนำไปจัดสรรให้รายการต่าง ๆ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายการปรับเงินค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ จำนวน 17,000 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินยุทธ ศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด จำนวน 5,000 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน ตามแนว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 3,000 ล้านบาท รวมทั้งปรับปรุงวงเงินและรายละเอียดงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของกระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ และให้สำนัก งบประมาณดำเนินการจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และ เอกสารประกอบ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว พร้อมเอกสารประกอบให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ ความเห็นชอบในวันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2550 เพื่อนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3485 | ร่างพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 29/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอร่างพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยตัดข้อความว่า "และ ให้หมายความรวมถึงจุลินทรีย์ที่ทำลายจุลินทรีย์อื่นไม่ว่าด้วยประการใด ๆ" ออก คงเหลือนิยามคำว่า "จุลินทรีย์ที่ เป็นเชื้อโรค หมายความว่า จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคต่อมนุษย์ สัตว์ หรือพืช" เท่านั้น สำหรับสาระสำคัญของร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการปรับปรุงการควบคุมปุ๋ยและบทกำหนดโทษ รวมทั้งบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอด คล้องกับการใช้ปุ๋ยที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ของเกษตรกรและภาคการเกษตร และส่งคณะกรรม การประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3486 | การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศ | นร | 29/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้ อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเฉพาะ
ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศ จำนวน 3 มติ ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2544 เรื่อง การนำเข้าพัสดุจากต่างประเทศ และการจ้างที่ปรึกษาต่างประเทศ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2544 เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2544 เรื่อง การนำเข้าพัสดุจากต่าง ประเทศ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2544 เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศ และการ จ้างที่ปรึกษาไทย และเห็นชอบหลักเกณฑ์การใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศ ดังนี้ ให้หน่วยงานของรัฐใช้พัสดุที่ผลิตใน ประเทศและถือปฏิบัติตามระเบียบหรือข้อบังคับว่าด้วยการพัสดุของหน่วยงานผู้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่าง เคร่งครัดด้วย ถ้าไม่มีพัสดุที่มีผลิตในประเทศ ก็ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดหาตามหลักเกณฑ์ปกติต่อไปได้ ส่วนกรณีที่มีพัสดุที่มีผลิตในประเทศแล้ว แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ หรือมีจำนวนน้อยราย หรือมี ความจำเป็นต้องใช้พัสดุที่ผลิตจากต่างประเทศ หรือต้องมีการนำเข้าพัสดุจากต่างประเทศ ในกรณีที่เป็นประโยชน์ ยิ่งกว่า ให้หน่วยงานของรัฐนำเสนอรัฐมนตรีพิจารณา เว้นแต่เป็นการจัดหาที่มีวงเงินไม่สูง ให้เป็นความรับผิดชอบ ของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่จะพิจารณาอนุมัติได้ 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 เป็นการจัดหาอะไหล่ซึ่งมีความจำเป็นจะ ต้องระบุยี่ห้อหรือคุณลักษณะเฉพาะและจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ หรือกรณีที่ 2 เป็นการจัดหาครั้งหนึ่ง ที่มีวงเงินไม่เกินสองล้านบาท หรือราคาพัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาต่อหน่วยไม่เกินสองล้านบาท รวมทั้ง เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการพิจารณาตีความและวินิจฉัยเกี่ยว กับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3487 | ขออนุมัติจัดประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก | ทส | 29/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลง
วันจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสและการประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จาก ที่กำหนดไว้เดิมวันที่ 7-8 ธันวาคม 2549 เป็นวันที่ 8-9 สิงหาคม 2550 กับเห็นชอบร่างกฎบัตรความร่วมมือด้าน อนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก (Draft Charter of the Regional Forum on Environment and Health) ที่ได้รับการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของกระทรวงการต่างประเทศ และเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณ สุข มีอำนาจเต็มในการลงนามรับรองกฎบัตรความร่วมมือด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม ฯ ในการประชุมรัฐมนตรีด้าน อนามัยและสิ่งแวดล้อม ฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สามารถให้ ความเห็นชอบในการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎบัตรความร่วมมือด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม ฯ ในประเด็นปลีกย่อยได้ ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3488 | การกำหนดวันเปิดบานประตูเขื่อนปากมูล | พน | 29/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแนวทางดำเนินงานของกระทรวงเกี่ยวกับการปิด
-เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล โดยเห็นว่าปัจจุบันกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพื้นที่ใกล้เคียง มีเพียงพอใช้จ่ายให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างทั่วถึง แม้ไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนปากมูล ประกอบ กับข้อเสนอกำหนดการปิด-เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลของประชาชน 2 กลุ่มคือ กลุ่มสมัชชาคนจนที่เรียกร้อง ให้มีการพิจารณาเปิดเขื่อนปากมูลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2547 โดยเร็ว และกลุ่มกำนันผู้ใหญ่ บ้านที่อยู่เหนือเขื่อนปากมูลขอให้พิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2547 มีความแตกต่างกัน ในช่วงระยะเวลา 15 วัน คือระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน 2550 และจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องพบว่า ขณะนี้ฝนเริ่มตกในพื้นที่ต้นน้ำมูลแล้ว และคาดว่าจะมีปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนปากมูลเพิ่มมาก ขึ้น จึงเห็นควรเริ่มเปิดประตูเขื่อนปากมูลในวันที่ 7 มิถุนายน 2550 และเปิดยกบานขึ้นสูงสุดในวันที่ 17 มิถุนายน 2550 และจะประสานกับกรมชลประทานในการปรับปรุงสถานีสูบน้ำจำนวน 6 แห่งที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ให้สามารถสูบ น้ำได้เมื่อระดับน้ำในลำน้ำมูลลดลงหลังจากการเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล เพื่อให้สามารถสูบน้ำสนับสนุนการเพาะ ปลูกของเกษตรกรได้โดยเฉพาะในช่วงภาวะฝนทิ้งช่วง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3489 | การแก้ไขปัญหาในการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | นร | 29/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและ
ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ในการประชุมครั้งที่ 3/2550 วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม 2550 ตามที่สำนัก งานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอดังนี้ เรื่อง หลักเกณฑ์ในการประเมินอาคาร/ที่พักอาศัยของผู้ได้รับผลกระทบ ทางเสียงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ดำเนินการดังนี้ พื้นที่บริเวณ NEF มากกว่า 40 ให้เจรจาซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ประสงค์จะ ขาย ต้องสนับสนุนและปรับปรุง หรือติดตามวัสดุอุปกรณ์ลดผลกระทบด้านเสียง และพื้นที่ในเขต NEF 30 ถึง NEF 40 ให้สนับสนุนการปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้าง โดยทำการตรวจวัดระดับเสียงรบกวน (L 90) หากพบว่า โครงการทำให้มีระดับเสียงรบกวน (L 90) เกิน 10 เดซิเบล (เอ) ส่วนการชดเชยอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ให้ ทอท. สำรวจจำนวนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่สร้างก่อนปี พ.ศ. 2544 และหลังปี พ.ศ. 2544 ที่ได้รับผลกระทบทางเสียง แล้วประมาณการใช้จ่ายที่จะต้องชดเชย และดำเนินการประกาศเส้นเสียงกรณีเลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ คือ กรณีที่ ใช้ทางวิ่งที่ 1 และ 2 เต็มความสามารถสูงสุดของจำนวน 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เฉพาะการบินลงที่ปลายทางวิ่งฝั่ง ตะวันตกด้านทิศเหนือ ร้อยละ 80 ของเที่ยวบินทั้งหมด และการบินลงที่ปลายทางวิ่งฝั่งตะวันออกด้านทิศเหนือ ร้อยละ 20 ของเที่ยวบินทั้งหมด รวมทั้งใช้หลักเกณฑ์การประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีการหักค่าเสื่อมราคา และบวกเพิ่มค่าการตลาด โดยบ้านที่ไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร ให้บวกค่าการตลาดอยู่ในช่วงระหว่าง ร้อยละ 10-20 และบ้านที่เป็นหมู่บ้านจัดสรร ให้บวกค่าการตลาดอยู่ในช่วงระหว่าง ร้อยละ 20-30 สำหรับเรื่อง แนวทางการแก้ ไขปัญหาการขนส่งสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เห็นชอบตามที่ ทอท. เสนอแนวทางการจำแนกคลังสินค้า ปลอดอากรและคลังสินค้าสำหรับส่งออกและนำเข้าสินค้าปกติออกจากกันให้ชัดเจน โดยให้กระทรวงคมนาคมรับ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง ทอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการ และกำหนดระยะเวลาเพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3490 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2550 ครั้งที่ 2 | กค | 29/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการ
บริหารหนี้สาธารณะเสนอการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 2 ใน ส่วนของแผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ โดยวงเงินกู้ปรับเพิ่มขึ้นอีก 806.65 ล้านบาท จากเดิม 240,351.60 ล้านบาท เป็น 241,158.25 ล้านบาท รวมทั้งการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศ ของรัฐวิสาหกิจภายใต้แผนที่ปรับปรุงดังกล่าว และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อน ไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3491 | การลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ | กค | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือ
ทางการเงินแก่ สปป.ลาว โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ ซึ่งได้ลงนามเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2550 โดยมี ฯพณฯ นายอ้วย พรหมจักร์ เอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนามในสัญญาร่วมกับร้อยโท นภดล พันธุ์กระวี ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ทั้งนี้ วง เงินในการให้ความช่วยเหลือจำนวน 320 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินกู้ร้อยละ 70 และวงเงินให้เปล่าร้อยละ 30 คิด เป็นวงเงินกู้ 224 ล้านบาท และวงเงินให้เปล่า 96 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 ต่อปี ระยะเวลาการ เบิกจ่ายเงินกู้ 4 ปี ระยะเวลาการให้กู้ 30 ปี โดยมีกำหนดชำระหนี้เงินต้นงวดแรกเดือนพฤศจิกายน 2560 และ งวดสุดท้ายเดือนพฤศจิกายน 2580 ระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี ระยะเวลาการก่อสร้าง 24 เดือน (คาดว่าจะแล้ว เสร็จในเดือนตุลาคม 2552) |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3492 | รายงานผลการช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ 47 จังหวัด | นร | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรม
การอำนวยการ กำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รายงานสรุปผลการช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหาย จากอุทกภัยในพื้นที่ 47 จังหวัด ของคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การให้ความช่วย เหลือของคณะอนุกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย คณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และคณะอนุ กรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย เป็นต้น โดยภาพรวมผลการดำเนินการโดยรวมคิดเป็นร้อยละ 100 ของเป้าหมาย ส่วนการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยของคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การปรับปรุงซ่อมแซมส่วนราชการที่ได้รับความเสียหาย การฟื้นฟูทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ อาทิ การประกวดราคา การลงนามใน สัญญาซึ่งการช่วยเหลือในเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนและส่วนราชการต่าง ๆ สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติได้ดำเนิน การเสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้านการนำระบบแผนที่และข้อมูลภูมิสารสนเทศมาใช้ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย คณะอนุ กรรมการบูรณาการระบบแผนที่และข้อมูลภูมิสารสนเทศเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยได้บูรณาการข้อมูลแผนที่ภาพภ่าย ทางอากาศกับข้อมูลขอบเขตพื้นที่ของจังหวัด อำเภอ และตำบลที่เกิดอุทกภัย และในส่วนของการติดตามประเมินผล คณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลการช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย ได้มีการประชุมคณะอนุกรรม การ ฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ คณะอนุกรรม การกลั่นกรองแผนงาน โครงการ ฯ มีความเห็นร่วมกันว่าเนื่องจากระยะเวลาในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทก ภัยได้ล่วงเลยมาเป็นเวลานานพอสมควร จึงเห็นควรที่จะยุติการพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ให้คณะอนุกรรม การด้านต่าง ๆ ซึ่งหากส่วนราชการใดยังมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณก็ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3493 | การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | นร | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้ อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยว
กับแนวทางปฏิบัติในการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ จำนวน 3 มติ ดังนี้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 เรื่อง การเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547 เรื่อง การคำนวณอัตรา ค่าเช่ารถของส่วนราชการ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 เรื่อง ขออนุมัติเช่ารถยนต์มาใช้ใน ราชการ และเห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3494 | (ร่าง) นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย (0 - 5 ปี) ระยะยาว พ.ศ. 2550 - 2559 | ศธ | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็น
ชอบในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-5 ปี) ระยะ ยาว พ.ศ. 2550-2559 เพื่อให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับและมีการพัฒนาที่ดีและเหมาะสมอย่างรอบด้าน สมดุลเต็ม ศักยภาพ พร้อมทั้งเรียนรู้อย่างมีความสุข เติบโตตามวัยอย่างมีคุณภาพเพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาเด็กในระยะ ต่อ ๆ ไป โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ เห็นว่า ปัจจุบันงานเกี่ยวกับเด็กปฐมวัยมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน แต่การดำเนินการของแต่ละหน่วยงาน ยังขาดความเชื่อมโยงในภาพรวม ทำให้งานด้านเด็กปฐมวัยไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควร จึงเห็นควรที่จะให้มีการ บูรณาการ โดยอาจพิจารณาออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเด็ก ปฐมวัยแห่งชาติให้มีบทบาทหน้าที่ในการประสานบูรณาการระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่วนข้อเสนอยุทธศาสตร์ การพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) พ.ศ. 2550-2552 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงรวมถึงกรณีหน่วยงานอื่น ใดที่ประสงค์จะเสนอแผนเพื่อดำเนินภารกิจเกี่ยวกับเด็กปฐมวัย ให้พิจารณาดำเนินการจัดทำในลักษณะสนับสนุน การดำเนินการโดยให้อยู่ภายใต้นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-5 ปี) ระยะยาว พ.ศ. 2550- 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งถือเป็นแผนหลักด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3495 | โครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ระยะที่ 2 พ.ศ. 2551 - 2566 | ศธ | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็นชอบ
ในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่ง ประเทศไทย) ระยะที่ 2 พ.ศ. 2551 - 2566 โดยให้กระทรวงศึกษาธิการปรับลดเป้าหมายการดำเนินโครงการ ฯ ระยะที่ 2 ลงเหลือ 4 รุ่น ๆ ละ 200 คน จำนวน 800 คน รวมเป้าหมายทั้งโครงการ ฯ จำนวน 1,600 คน และให้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความ เหมาะสมกับความจำเป็นต่อไป ทั้งนี้ รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และความเห็นของส่วนราช การที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็นว่ากระทรวง ศึกษาธิการควรเร่งรัดดำเนินการประเมินผลโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่ง ประเทศไทย) ระยะที่ 1 เพื่อนำผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงการดำเนินโครงการ ฯ ระยะที่ 2 ให้มีประสิทธิ ภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3496 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | นร | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2551 ในส่วนของการกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รายละเอียด งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของกระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ รวมทั้งการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของนายกรัฐมนตรี รองนายก รัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดแต่ละกระทรวง โดยให้เลื่อนกำหนดเวลาที่ให้กระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และ หน่วยงานอื่นของรัฐส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงจากเดิมภายในวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2550 เป็นวัน จันทร์ที่ 28 พฤษภาคม 2550 และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) รับไปหารือรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังและผู้อื่นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปรับปรุงวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เพิ่มเติมให้เหมาะสมกับสภาวการณ์และความต้องการในการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน แล้วให้นำเสนอนายกรัฐมนตรี พิจารณาโดยด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3497 | การเร่งรัดการดำเนินการมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 | นร | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอการเร่งรัดดำเนินการมาตรการส่งเสริมการเพิ่ม
ประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้ว เห็นว่า ไม่สามารถทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันโครงการ/รายการใดได้ทันภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 และเห็นควร ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ให้พิจารณานำเงินงบประมาณที่ได้รับจากการปรับแผน ฯ ไปดำเนินโครงการ/รายการ ดังนี้ (1) ดำเนินการตามสัญญา กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรี เช่น ค่าสาธารณูปโภค ชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ ค่า (K) เป็นต้น (2) ดำเนินโครงการ /รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ (3) ดำเนินโครงการ/รายการที่ มีความจำเป็นเร่งด่วน และต้องใช้จ่ายงบประมาณเกินกว่าที่ได้รับการจัดสรร (4) ดำเนินโครงการ/รายการในการ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน หรือเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน (5) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามนโยบายรัฐบาล และ (6) ดำเนินโครงการ/รายการที่ทำให้เพิ่มผลิตภาพผลผลิต (Productivity) ส่วนโครงการ /รายการที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 หากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าจะสามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้โดยเร็ว และยังไม่ ควรปรับแผน ฯ ไปดำเนินการโครงการ/รายการอื่น เนื่องจากเป็นโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเพื่อสนองต่อ เป้าหมายการให้บริการของกระทรวงและสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จรวมทั้งเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันภายในปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขออนุมัติต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อขยายเวลาดำเนินการได้ โดยจะต้องสามารถทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 และกรณีโครงการหรือรายการใดที่ ได้ปรับแผน ฯ เพื่อนำงบประมาณไปดำเนินการโครงการ/รายการอื่นแล้ว หากโครงการ/รายการเดิมยังมีความ จำเป็นที่จะต้องดำเนินการและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้ส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจเสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด เพื่อปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใน ขั้นการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และส่งสำนักงบประมาณภายใน วันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ทั้งนี้ การปรับปรุงรายละเอียดดังกล่าวจะต้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณของแต่ละ กระทรวง โดยคำนึงถึงเป้าหมายการให้บริการของกระทรวงเป็นสำคัญด้วย และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือ ปฏิบัติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3498 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สัญญาจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างประตูระบายน้ำหัวงานและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น โครงการปรับปรุงคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ | กษ | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอเพิ่มวงเงินในสัญญาจ้างที่ปรึกษาควบคุม
งานก่อสร้างประตูระบายน้ำหัวงานและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น โครงการปรับปรุงคลองลัดโพธิ์ จากเดิม 19,993,592 บาท เป็น 21,054,792 บาท โดยให้กรมชลประทานเบิกค่าจ้างในส่วนที่เพิ่มขึ้น จำนวน 1,061,200 บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลัง ให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายระยะเวลาเบิกจ่ายไว้แล้ว และให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สัญญาจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างประตูระบายน้ำ ฯ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. 2545-พ.ศ. 2548 เป็นปี งบประมาณ พ.ศ. 2545-พ.ศ. 2550
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3499 | รายงานผลการประชุมความร่วมมือด้านพลังงานของเอเชียระดับรัฐมนตรีที่ซาอุดิอาระเบีย | พน | 15/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุมด้านความร่วมมือ
พลังงานของเอเชียระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 (2nd Roundtable Ministerial Meeting of Asian Regional Petroleum Cooperation) ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย และการหารือ ข้อราชการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานในระดับทวิภาคี (Bilateral Meeting) ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงานกับรัฐมนตรีด้านพลังงานประเทศต่าง ๆ ในระหว่างวันที่ 1 - 3 พฤษภาคม 2550 โดยสาระสำคัญของการ ประชุมในครั้งนี้ มีเนื้อหาสาระหลักของการประชุมมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และความคิดเห็นด้านสถาน การณ์พลังงานของโลกระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของเอเชีย และกลุ่มประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ ของเอเชีย ซึ่งได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และ ASEAN โดยกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของเอเชียยัง ให้คำยืนยันถึงความเพียงพอของปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติว่ายังมีปริมาณพอต่อความต้องการของกลุ่ม ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของเอเชีย ในการนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นควรที่จะมีการเสริมสร้างและแลกเปลี่ยน การลงทุนในกิจการต่อเนื่อง (Related Industries) และกิจการสนับสนุนที่ต่อยอดจากกิจการพลังงาน (Supporting Industries) เช่น การพัฒนาบุคลากรด้านพลังงาน งานวิจัยและพัฒนา (R&D) ด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวด ล้อม การค้าขายพลังงานในรูปแบบ Long-term มากขึ้น รวมทั้งร่วมมือกันในโครงการพัฒนาฐานข้อมูลการค้า และ การใช้น้ำมันระดับประเทศ (Joint OiL Data Initiative) ที่บริหารโดยสำนักงานพลังงานนานาชาติ (International Energy Forum-IEF) ซึ่งฐานข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นปัจจุบันจะช่วยเสริมกลไกตลาดในการค้าขายน้ำมัน ระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี เป็นต้น สำหรับผลการประชุมหารือข้อข้าราชการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงาน ในระดับทวิภาคี อาทิ การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของคูเวต ผลการหารือทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วม กันที่จะให้บริษัทน้ำมันแห่งชาติของสองประเทศคือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ Kuwait Petroleum Coopera tion (KPC) ร่วมกันแสวงหาช่องทางการลงทุนระหว่างกันและกัน (Cross Investment) การหารือกับรัฐมนตรีว่า การกระทรวงปิโตรเลียมของอิหร่านในประเด็นที่ฝ่ายไทยขอซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของอิหร่าน และการหา รือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันและก๊าซของบาห์เรน ในการปรับปรุงวิธีการ และกลไกการให้สัมปทานสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในบาห์เรนใหม่ให้เป็นระบบที่มีการแข่งขันกันมากขึ้น โดยฝ่ายบาห์เรนยินดีที่จะให้บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เข้าร่วมการประมูลแข่งขันดังกล่าวด้วย เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3500 | โครงการจ้างบัณฑิตพี่เลี้ยงอาสาสมัครแรงงาน | รง | 08/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็น
ชอบในหลักการการดำเนินงานโครงการจ้างบัณฑิตอาสาสมัครในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล) และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา) ตามข้อเสนอของกระทรวงแรงงาน โดยให้กระทรวงแรงงานรับไปพิจารณา ดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ ฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชาย แดนภาคใต้ และไม่ถือเป็นโครงการนำร่อง และปรับปรุงชื่อโครงการ จาก โครงการจ้างบัณฑิตพี่เลี้ยงอาสาสมัคร แรงงาน เป็น โครงการจ้างบัณฑิตอาสาสมัคร และให้มีการบูรณาการในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ของบัณฑิตอาสา สมัครในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด ชายแดนภาคใต้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ทั้งในด้านพื้นที่ที่จะดำเนินการ และจำนวนที่จะจ้างบัณฑิตอาสา สมัครโดยบูรณาการและเชื่อมโยงการดำเนินงานที่ตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติ รวมทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคมและอื่น ๆ ของหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น การทำหน้าที่เป็นบัณฑิตพี่เลี้ยงอาสาสมัครแรง งานเป็นภารกิจหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ภาครัฐสามารถเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้ เป็นต้น ตามประเด็น อภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และปรับปรุงอัตราค่าตอบแทนของบัณฑิตอาสาสมัครให้เหมาะสมและ เป็นธรรม ซึ่งไม่ควรสูงกว่าอัตราเงินเดือนของข้าราชการระดับ 3 ที่ได้รับการบรรจุในวุฒิปริญญาตรี สำหรับงบ ประมาณในการดำเนินโครงการให้กระทรวงแรงงานขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
