ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 177 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3521 - 3540 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3521 | การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่อง การให้โอกาสผู้ติดเชื้อเอดส์ คนพิการและผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดซึ่งพ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติด เข้าทำงาน หรือ รับการศึกษาต่อในหน่วยงานภาครัฐ | พม | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้ เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2537 เรื่อง การตรวจหาเชื้อเอดส์แก่ผู้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ โดยคณะ กรรมการแพทย์ของ ก.พ. กับแผนป้องกันและควบคุมโรคเอดส์แห่งชาติ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2540 เรื่อง การให้โอกาสคนพิการเข้าทำงานในหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2546 และ 5 กันยายน 2549 เรื่อง การให้โอกาสผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดซึ่งพ้นจากสภาพการใช้ยา เสพติด เข้าทำงาน หรือรับการศึกษาต่อในหน่วยงานภาครัฐ และเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การให้โอกาสผู้ติดเชื้อ เอดส์ คนพิการ และผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดซึ่งพ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติด เข้าทำงาน หรือรับการศึกษาต่อใน หน่วยงานภาครัฐ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3522 | ขออนุมัติยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี และขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการตามมติคณะรัฐมนตรี | มท | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ
วันที่ 18 สิงหาคม 2541 เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบ ประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นปีแรกของโครงการมีวงเงินต่ำกว่าร้อยละ 20 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายทั้งสิ้น สำหรับรายการที่ 1 -5 ประกอบด้วย รายการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หน้าผาเทวดา ขององค์การบริหารส่วน ตำบลสันโค้ง จังหวัดพะเยา รายการพัฒนาและฟื้นฟูเกาะพีพี รายการจัดซื้อจัดจ้างต่อเรือขนถ่ายขยะ ขนาดน้ำ หนักบรรทุก 25 ตัน จำนวน 1 ลำ ขององค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ รายการขุดลอกคลอง บางปรองเพื่อผันน้ำเข้าบึงบอระเพ็ด ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ รายการปรับปรุงภูมิทัศน์และ แหล่งท่องเที่ยว (ทางขึ้นเขาคีรีวงษ์ หอชมเมือง) ของเทศบาลนครนครสวรรค์ และรายการป้องกันน้ำท่วมใน เขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง และให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบ ประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 23 วรรคสี่ สำหรับรายการที่ 1-5 และรายการพัฒนาพื้นที่ ก่อนประวัติศาสตร์เป็นแหล่งท่องเที่ยว ระยะที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านมาง จังหวัดพะเยา รายการ ศึกษาออกแบบสะพานข้ามเกาะคอเขา ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางนายสี จังหวัดพังงา และรายการอนุ รักษ์และพัฒนาเมืองโบราณสถานเวียงลอ ระยะที่ 2 ขององค์การบริหารส่วนตำบลลอ จังหวัดพะเยา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3523 | มาตรการรักษาความปลอดภัยให้สถานศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | ศธ | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอมติที่ประชุมเรื่อง การรักษาความปลอดภัย
ให้สถานศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2550 ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีนายก รัฐมนตรีเป็นประธานที่ประชุม โดยที่ประชุมได้มีมติเรื่องมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่สถานศึกษา และครู โดยให้ครูร่วมเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านพักกับโรงเรียนพร้อมกับทหารตลอดการเดินทาง โดยจัดหน่วย กองกำลังคุ้มครองครูในถนนสายรองที่แยกจากถนนสายหลักจนถึงโรงเรียนและให้หน่วยลาดตระเวนของฝ่ายกอง กำลังเน้นลาดตระเวน ในช่วงเวลาประมาณ 07.30-09.00 น. และ 14.30-16.30 น. อย่างเคร่งครัด ส่วนพื้นที่ อันตราย ให้มีการย้ายนักเรียนไปเรียนในสถานศึกษาที่ปลอดภัย และย้ายครูออกหรือให้หยุดสอนชั่วคราว เป็น ต้นเรื่องการมีส่วนร่วมและมวลชนสัมพันธ์ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้จัดโครงการพัฒนาคุณ ภาพชีวิตของประชาชนโดยจัดฝึกอบรมจิตวิทยาให้แก่ชาวบ้าน กับให้กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรม การการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ โดยให้กรรมการสถานศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะ ครู โต๊ะอิหม่าม มีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เรื่องการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน ให้ สพฐ. จัดสำรองครู อัตราจ้างเพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียนแทนครูที่ย้ายออกจากพื้นที่โดยให้สำรองไว้ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็น ต้น และเรื่องสวัสดิการและขวัญกำลังใจครู ให้ สพฐ. หารือกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่ง ดำเนินการผักดันให้ครูได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชน เหรียญปฏิบัติราชการชายแดน และการปรับขั้นเงินเดือนเพิ่ม ขึ้นพิเศษ 5-6 ขั้น ของข้าราชการครูและลูกจ้างที่เสียชีวิต รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลเรื่องสวัสดิการให้กับ ครูในด้านการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพโรงเรียน เช่น ปรับปรุงรั้ว บ้านพักครู อาคารเรียน ห้องน้ำ ห้องละ หมาด บ่อทราย บ่อน้ำ และประสานกับสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง ให้เพิ่มงบประมาณเพื่อสำรองจ่ายให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาละ 3 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน เป็นต้น และมอบหมายให้ส่วน ราชการที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการในส่วนของมาตรการการดูแลการรักษาความปลอดภัย ให้แก่สถานศึกษาและครู ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบและรับ ไปพิจารณาดำเนินการโดยประสานและบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3524 | ขอความเห็นชอบปรับปรุงสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทยกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม 2548 | คค | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการปรับปรุงสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลตามข้อ
ตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทพ. ฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม 2548 ดังนี้ ปรับปรุงอัตราค่าห้องและค่าอาหารทั้งสถานพยาบาลของราชการและสถาน พยาบาลของเอกชน โดยให้พนักงานได้รับรวมกันไม่เกินวันละ 1,200 บาท คู่สมรส บุตร และบิดามารดาของพนัก งานให้ได้รับรวมกันไม่เกินวันละ 1,000 บาท สำหรับลูกจ้างให้ได้รับเช่นเดียวกับพนักงาน คู่สมรสและบุตรของลูก จ้างให้ได้รับรวมกันไม่เกินวันละ 700 บาท ปรับปรุงการจ่ายค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะคนไข้ใน โดยให้พนักงานและลูกจ้างได้รับค่ารักษาพยาบาลครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ต้องไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับระยะเวลาภายใน 30 วันนับแต่วันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล ในกรณีเข้ารับการรักษาเกิน 30 วัน ให้ได้รับ ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ไม่เกินวันละ 600 บาท และปรับปรุงการจ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยกรณี ที่พนักงานและลูกจ้างเจ็บป่วยกะทันหันเนื่องจากอุบัติเหตุหรือถูกละเมิด หรือจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดภายใน 24 ชั่วโมง หรือจำเป็นต้องรักษาในห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) และเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วยในสถานพยาบาล ของเอกชนให้ได้รับค่ารักษาพยาบาลครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท ยกเว้นค่า อวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค รวมทั้งค่าซ่อมแซมให้ได้รับตามประเภท และอัตราค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบำบัดโรคซึ่งผู้ว่าการได้กำหนด โดยให้ถือปฏิบัติตามอัตราของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ จะให้การ ช่วยเหลือค่าห้องและค่าอาหารรวมกันไม่เกินวันละ 800 บาท และช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยภายใน ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริงแต่ต้องไม่เกิน 9,000 บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3525 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ครั้งที่ 1/2550 | นร | 20/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและ ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) เสนอมติคณะกรรมการ ฯ ในการประชุมครั้งที่ 1/2550 วันที่ 16 กุมภา พันธ์ 2550 เกี่ยวกับแผนการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) เพื่อแบ่งเบาความหนาแน่นของผู้โดยสารและเที่ยวบินในระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดังนี้ ในระยะแรกให้สายการบินภายในประเทศที่ไม่มีการเชื่อมต่อกับเที่ยวบินระหว่างประเทศใช้ท่าอากาศยาน กรุงเทพ (ดอนเมือง) ตามความสมัครใจ โดยให้กระทรวงคมนาคมศึกษาความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ท่า อากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) เพื่อให้บริการสายการบินต่างชาติและสายการบิน Low Cost Carriers สำหรับ เที่ยวบินระหว่างประเทศในระยะต่อไป โดยให้จัดทำแผนปฏิบัติการในการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) แผนปฏิบัติการปรับปรุงซ่อมแซมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แผนการให้บริการการอำนวยความ สะดวกต่าง ๆ และการเชื่อมต่อในระบบขนส่งมวลชนของสนามบินทั้งสองแห่งเสนอให้คณะกรรมการ ฯ และคณะ รัฐมนตรีพิจารณาภายใน 6 เดือน และให้คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ศึกษาราย ละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการทางเทคนิค ตลอดจนเงื่อนไข/ข้อกำหนดของสัญญาต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการ ให้บริการภาคพื้นและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานทั้งสองแห่ง รวมถึงการให้บริการเข้าและออกสนามบินบนพื้นฐานของการบริหารจัดการที่โปร่งใส เป็นธรรมและเปิดโอกาส ให้ภาคเอกชนเข้ามาแข่งขันอย่างเท่าเทียม บนหลักการและกฎระเบียบที่ถูกต้อง เพื่อให้กระบวนการบริหารจัด การภายในสนามบินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย เป็นระบบและมีระเบียบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3526 | การปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ | กค | 13/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการบรรษัท
ภิบาลแห่งชาติ โดยเพิ่มรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านเศรษฐกิจ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เป็นกรรมการ และแก้ไขตำแหน่งกรรมการ จาก "นายกสมาคมนักบัญชีและผู้ สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย" เป็น "นายกสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์"
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3527 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. .... | กค | 13/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติเห็น
ชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการ เดินทางไปราชการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ โดยนำ หลักเกณฑ์ตามระเบียบและหนังสือสั่งการต่าง ๆ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการมารวมไว้เป็นฉบับ เดียวกัน และปรับปรุงแก้ไข หลักเกณฑ์ และอัตราการเบิกจ่ายให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เพื่อความสะดวก คล่องตัว เอื้อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของส่วนราชการในการศึกษาอ้างอิงและลดขั้นตอนเอกสารที่ไม่จำเป็น และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยเพิ่ม อัตราค่าเบี้ยเลี้ยงการเดินทางสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 1-2 เป็น 180 บาท/วัน และผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 3-8 ให้เพิ่มเป็น 200 บาท/วัน และให้แก้ไขตำแหน่งของผู้มีสิทธิเบิกค่าเช่าที่พักเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น และเหมาะสม ในบัญชีหมายเลข 12 ของร่างข้อ 6 เนื่องจากมีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการ ทำให้บาง ตำแหน่งถูกยกเลิก และบางตำแหน่งสามารถเบิกจ่ายได้จากกฎหมายฉบับอื่น จึงควรแก้ไขให้ถูกต้องและเป็น ปัจจุบัน รวมทั้งแก้ไขคำว่า "รายคณะ" ในร่างข้อ 19 เกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าครองชีพเพื่อให้สามารถเบิกจ่าย ได้ในกรณีที่มีการเดินทางไปราชการคนเดียว แต่การจะใช้คำใดแทน ให้พิจารณาในชั้นการตรวจพิจารณาร่าง ระเบียบ ฯ ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ สำหรับประเด็นที่ให้พิจารณาทบทวนอัตราค่า เช่าที่พักในต่างประเทศ ในบัญชีหมายเลข 7 ในประเภท ข และ ค ให้กระทรวงพาณิชย์รับไปหารือกับกระทรวง การต่างประเทศเพื่อให้ได้ข้อยุติ และแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะ รัฐมนตรีทราบโดยเร็วเพื่อจะได้ปรับปรุงตามข้อยุติดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ การเสนอร่างระเบียบ กระทรวงการคลัง ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21(2) ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ให้กระทรวงการคลังดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3528 | ขออนุมัติลงนามพิธีสารข้อผูกพันชุดที่ 5 ของการเจรจาการค้าบริการด้านการขนส่งทางอากาศ รอบที่ 4 ในอาเซียน | คค | 06/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอพิธีสารข้อผูกพันชุดที่ 5 ในการเจรจาการค้า
บริการด้านการขนส่งทางอากาศรอบที่ 4 ที่ให้ประเทศไทยเปิดเสรีกิจกรรมบริการตัวแทนจัดการขนส่งสินค้า ทางอากาศ (Airfreight Forwarding Services) โดยมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงคมนาคมมอบหมายลงนามในพิธีสารข้อผูกพันชุดที่ 5 ของการเจรจาการค้าบริการด้านการขนส่ง ทางอากาศรอบที่ 4 ในอาเซียน ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงถ้อยคำของพิธีสารที่ไม่ขัดกับหลักการและสาระสำคัญ และการแก้ไขนั้น เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ก็ให้กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการได้โดยประสานงาน กับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และมอบให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือ มอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (พลเรือเอก ธีระ ห้าวเจริญ) หรือผู้ที่ได้ รับมอบหมายสำหรับการลงนามดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3529 | ผลการดำเนินงานกระทรวงศึกษาธิการ ในช่วง 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 2549) | ศธ | 06/02/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานช่วง 3 เดือน (ตุลาคม-ธันวาคม 2549) ของ
กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ อาทิ การปรับปรุงหลักสูตรที่เน้นการเรียนการสอน การ จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมในทุกระดับและประเภทการศึกษา พัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการ ศึกษาอย่างจริงจัง เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง สร้างเครือข่ายคุณธรรมใน 175 เขตพื้นที่การศึกษา และในระดับสถาน ศึกษา เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมทำ ของสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถาบันทางศาสนา การเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายต่อหัวสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดการศึกษาเพื่อเด็กพิการ การส่งเสริมการ ศึกษาตลอดชีวิต การพัฒนาการศึกษาปฐมวัย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากร ทางการศึกษา การกำหนดเงินค่าวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การจัดทำโครงการครูสหกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู การจัดสวัสดิการด้านการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (ช.พ.ค.) และคู่สมรส (ช.พ.ส.) รวมทั้งจัดทำโครงการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการกระจาย อำนาจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา การกำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาร่วมกับเขตพื้นที่การ ศึกษา และสถานศึกษาในการศึกษาทุกระดับ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ระบบสองภาษา (ไทย-มาลายู) โดย พัฒนาการเรียนการสอนภาษาให้มีความหลากหลาย และสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น และการศึกษาดู งานพืชสวนโลก เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนให้มีความเข้าใจเชิงวัฒนธรรม ประเพณี และวิถี ชีวิตเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยนำเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล มาทัศนศึกษา เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3530 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2549 (และปัญหาสิ่งแวดล้อมของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด) | ทส | 30/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบมติคณะกรรม
การสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2549 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2549 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ให้การรับรองใน การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2550 (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2550 รวม 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่อง (ร่าง) แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2550-2554 เรื่อง (ร่าง) กรอบทิศทางการสนับ สนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 23 (4) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่ง ชาติ พ.ศ. 2535 ในช่วงงบประมาณ พ.ศ. 2550-2551 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากท่อไอเสียรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีน และเรื่อง การปรับปรุงค่ามาตรฐานก๊าซ คาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากไอเสียรถจักรยานยนต์ใช้งานที่เป็นไปตามมาตรฐานระดับที่ 6 และเห็นชอบ (ร่าง) แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2550-2554 สำหรับกลไกด้านภาษี ให้กระทรวงการ คลังรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมกรณีมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาผล กระทบสิ่งแวดล้อมจากเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัด ประชาเสวนาเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงาน ประสานในหน่วยงาน กลุ่มองค์กร ผู้นำชุมชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องและที่สนใจอื่น ๆ เข้าร่วมการเสวนาเพื่อรับฟัง ข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่าง ๆ สำหรับใช้ในการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องเหมาะ สมต่อไป และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตรวจสอบปัญหามลภาวะที่เกิดขึ้นตามที่ ประชาชนร้องเรียน เช่น น้ำ อากาศ และขยะอุตสาหกรรม เป็นต้น ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องให้ความร่วมมือในการดำเนินการด้วย และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงาน อื่นที่เกี่ยวข้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการ ดำเนินการของภาครัฐในเรื่องต่าง ๆ เช่น การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำซึ่งหน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการทั้ง เพื่อการเกษตรและการอุตสาหกรรม และปัญหาการทำประมงชายฝั่ง เป็นต้น รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบผลกระทบด้านการสาธารณสุขและสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการแก้ไขเยียวยา โดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3531 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย | สสป | 23/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความ
เห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง การช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย โดยให้ภาครัฐจัดให้มี ศูนย์กลางประสานงานหน่วยรับบริจาคและกระจายสิ่งของต่าง ๆ แก่ผู้ประสบภัยในส่วนกลางและจังหวัด และ เร่งสำรวจพื้นที่และผลผลิตทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายและความเสียหายอื่น ๆ รวมทั้งความต้องการ การช่วยเหลือที่แท้จริงของเกษตรกรและมาตรการเยียวยาที่เหมาะสม และประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัยให้ชัด เจนตามระดับความรุนแรงของปัญหา นอกจากนี้ ให้มีการผ่อนผันการชำระหนี้และพิจารณาปลอด และ/หรือ ลดดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสมแก่ผู้ประสบอุทกภัย เข้าฟื้นฟูอาชีพ โดยสนับสนุนเงินทุนในการปรับปรุงพื้นที่ การเกษตร ปัจจัยการผลิต และเงินลงทุนในการดำเนินการแก่เกษตรกรที่ประสบอุทกภัย จัดให้มีการฟื้นฟู สภาพจิตใจและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบภัย และวางแผนเพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัยในระยะยาวอย่าง บูรณาการ เป็นต้น และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอ แนะดังกล่าว ของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3532 | การปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พ.ศ. 2544 | นร | 16/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
อำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว โดยให้คงหลักการร่าง ฯ ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เพราะมีความชัดเจนว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะ ไม่ใช้อำนาจ สิทธิ และประโยชน์ที่เกี่ยวกับอำนาจของรัฐในการประกอบการ ส่วนกรณีใดที่บริษัท ฯ จำเป็นต้อง ดำเนินการต่อเนื่องจะต้องขอรับอนุญาตจากรัฐ โดยผ่านองค์กรที่พระราชกฤษฎีกากำหนดไว้ และให้นำขึ้นทูล เกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3533 | แนวทางการปรับปรุงระบบการประชุมคณะรัฐมนตรี (ถูกยกเลิกโดย ว116/2551) | นร | 16/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอแนวทางการปรับปรุงระบบการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี ตามผลการหารือร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 ใน ประเด็นเกี่ยวกับการส่งเรื่องของส่วนราชการหรือหน่วยงานเจ้าของเรื่องไปเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ระยะเวลาใน การดำเนินการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในการนำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรี/รองนายกรัฐมนตรี เพื่อ พิจารณาสั่งการ รวมทั้งแนวทางการพิจารณานำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรี/รองนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาสั่ง การ และการจัดทำแฟ้มระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี และให้ถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของการถาม ความเห็นหน่วยงาน เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี นั้น ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนิน การตามแนวทางที่ปฏิบัติอยู่ และให้พิจารณานำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้เพื่อให้กระบวนการ เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3534 | การแก้ไขปัญหาหนี้สืนของเกษตรกร | นร | 16/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตราจารย์
ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ดังนี้ ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สหกรณ์การเกษตร หน่วยงานภายใต้ ธ.ก.ส. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการ ดำเนินคดีของเกษตรกรดำเนินการ ดังนี้ เรื่องที่ยังมิได้มีการฟ้องร้อง ให้ชะลอการฟ้องร้องไว้ก่อน ส่วนเรื่องที่มี การฟ้องร้องดำเนินคดีและคดีถึงที่สุดแล้ว ให้ชะลอการบังคับคดีไว้ก่อน และคดีที่มีการบังคับคดีไว้แล้วและจะต้อง มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินของเกษตรกร ให้ชะลอการขายทอดตลาดไว้ก่อน ทั้งนี้ ให้พิจารณาถึงอายุความใน การฟ้องร้องดำเนินคดีและการบังคับคดีประกอบด้วย และให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ดำเนิน การเจรจากับธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน และนิติบุคคลอื่นที่เป็นเจ้าหนี้ของเกษตรกร เพื่อให้มีการปฏิบัติ ตามความตกลง (MOU) ที่ได้ลงนามกันไว้แล้วให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจังโดยให้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหา หนี้สินและความยากจนของเกษตรกรเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกองทุนฟื้นฟูและ พัฒนาเกษตรกร และกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน รับไปดำเนินการปรับปรุงกลไก การดำเนินงานเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3535 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 09/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ
ของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขบทนิยามคนต่างด้าวเพื่อให้ครอบคลุมถึง เรื่องสิทธิในการออกเสียง เพิ่มบทกำหนดโทษเกี่ยวกับความผิดกรณีฝ่าฝืนประกอบธุรกิจสงวนให้สูงขึ้น และแก้ ไขปรับปรุงบัญชีท้ายพระราชบัญญัติเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนในการกำกับดูแล และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีการตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับบทบัญญัติตามร่างมาตรา 9 วรรค สอง จะมีปัญหาเกี่ยวกับหลักความรับผิดทางอาญา (Criminal liability) หรือหลักการไม่เลือกปฏิบัติ (Non- discrimination) หรือไม่ อย่างไร และการปรับปรุงบัญชีสามท้ายพระราชบัญญัติ ตามร่างมาตรา 10 โดยให้ยก เลิก (18) การนำเที่ยว เนื่องจากมีกฎหมายเฉพาะกำกับดูแลอยู่แล้วนั้น จะต้องไม่กระทบต่อการประกอบธุรกิจ การนำเที่ยวของคนไทยที่มีอยู่เดิม รวมทั้งองค์ประกอบของคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 23 ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาให้ความเห็นชอบ การยกเว้นการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ควรปรับปรุงให้มีความกะทัดรัด เพื่อประโยชน์ในการทำหน้าที่ได้ อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้นไปพิจารณาด้วย และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อน เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3536 | (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การจัดการสารเคมีแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2550 - 2554) และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ฯ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2550 - 2554) | สธ | 09/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอดังนี้ เห็นชอบ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การจัดการ
สารเคมีแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2550-2554) โดยวัตถุประสงค์ของ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์ ฯ สอดคล้องกับ เป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) คือ "สังคมที่มีความสุข อย่างยั่งยืน" และสอดรับกับยุทธศาสตร์การดำเนินงานระหว่างประเทศว่าด้วยการจัดการสารเคมี (SAICM) ทั้ง 3 ระบบ คือ High level Declaration, Overarching Policy Strategy และ Global Plan of Action : GPA เพื่อนำไป สู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millenium Development Goals : MDGs) คือ "ลดการผลิตและ ใช้สารเคมีในทางที่จะนำไปสู่การลดผลกระทบอันไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมภาย ในปี พ.ศ. 2563" และเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การจัดการสาร เคมีแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2550-2254) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติก่อให้เกิดการจัดการสารเคมีของประเทศที่เป็นระบบและมีทิศทางเดียวกันโดยมีกรอบ ระยะเวลาดำเนินการตามแผน ฯ 5 ปี ประกอบด้วย 137 แผนงาน/โครงการ งบประมาณดำเนินการ 1,127.30 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการปรับปรุงแก้ไข (ร่าง) แผนทั้ง 2 ฉบับต่อไป อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีความเห็นว่า ควรกำหนดแนวทาง มาตรการ รวมทั้งแผนงานและโครงการในแผนยุทธศาสตร์ ฯ และแผนปฏิบัติการ ฯ ในการ จัดการสารเคมีในการบริการและสาธารณสุขเพิ่มเติม โดยกำหนดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง และควรให้ ความสำคัญกับเรื่องระบบกำกับควบคุมมาตรฐานและความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) ตลอดจนให้ ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการเรียนรู้ทั้งผู้ผลิต เกษตรกร และผู้บริโภค โดยมีระบบข่าวสารข้อมูลที่โปร่ง ใส และการให้ความรู้และมีระบบการใช้ที่ปลอดภัยแก่ผู้ผลิตด้วย เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3537 | การช่วยเหลือนักเรียนและโรงเรียนเอกชนที่ประสบอุทกภัย | ศธ | 09/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้การช่วยเหลือนักเรียนและโรงเรียนเอกชนที่ประสบอุทกภัย เช่นเดียว กับโรงเรียนรัฐ จำนวน 26,265,132 บาท ประกอบด้วย การช่วยเหลือนักเรียนโดยจัดสรรงบประมาณเป็นทุนใน การจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียน หนังสือแบบเรียน อุปกรณ์การเรียน โดยช่วงชั้นที่ 1-2 จัดให้คนละ 800 บาท และ ช่วงชั้นที่ 3-4 จัดให้คนละ 1,000 บาท และการช่วยเหลือโรงเรียน โดยจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่าย ในการจัดหาวัสดุ สื่อการเรียนการสอน ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างที่จำเป็นเพื่อซ่อมแซมปรับปรุงให้กลับ สู่สภาพเดิม และอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในการจัดสรรงบประมาณช่วย เหลือนักเรียนและโรงเรียนเอกชน โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดทำราย ละเอียด และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง โดยให้อยู่ในกรอบของการปรับปรุงให้กลับคืนสู่ สภาพเดิมที่มิใช่เป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์ หรือก่อสร้างขึ้นใหม่ ยกเว้นกรณีที่เกิดความเสียหายโดยสิ้นเชิงไม่สามารถ ใช้งานได้ไปประกอบการพิจารณา และให้สำนักงบประมาณตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนของ การให้ความช่วยเหลือความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดในปี พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2549
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3538 | การเสนอให้คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอยู่ (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) | วท | 03/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอดังนี้ ให้คณะกรรมการ
คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมีอำนาจหน้าที่และองค์ประกอบคงเดิม จำนวน 3 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการ แห่งชาติว่าด้วยการประสานงานการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียมและหอปฏิบัติการลอยฟ้า คณะ กรรมการพิจารณาเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการ แห่งชาติว่าด้วยการประสานงานกิจกรรม ภายใต้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการใช้อวกาศส่วนนอกในทาง สันติแห่งสหประชาชาติ (United Nations Committee on the Peaceful Uses of Outer Space : COPUOS) และให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมีการปรับปรุงองค์ประกอบ 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการ บริหารศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติ และคณะกรรมการพัฒนาอัจฉริยภาพทาง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยเปลี่ยนชื่อคณะกรรมการและ ปรับปรุงองค์ประกอบ รวมทั้งอำนาจหน้าที่ จำนวน 1 คณะ คือ คณะกรรมการโครงการผลิตแอลกอฮอล์ จากมันสำปะหลังและพืชอื่น ๆ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "คณะกรรมการโครงการวิจัยและพัฒนาธุรกิจการผลิตเชื้อ เพลิงเอทานอลจากวัสดุการเกษตรและวัสดุเหลือทิ้งทางภาคเกษตรและอุตสาหกรรม"
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3539 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2548 เรื่อง การปรับปรุงกระบวนการพิจารณาอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ | อก | 03/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอดังนี้ รับทราบการกำหนดแบบพิมพ์การแจ้งผลการ
พิจารณาคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และเห็นชอบแนวทางการดำเนิน การ กรณีความเห็นของท้องถิ่นและหน่วยงานของรัฐไม่สอดคล้องกันในการดำเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ดังนี้ กรณี อปท. มีความเห็นแย้งก่อนที่โครงการจะได้รับอนุญาต โดยเห็นควรให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ระดับจังหวัด เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นแก่หน่วยงานผู้อนุญาต โดยมีอำนาจหน้าที่รวบรวมความเห็นของผู้ที่ เกี่ยวข้องและผลการพิจารณาของคณะกรรมการเสนอหน่วยงานผู้อนุญาตใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตโครง การ กำหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณาไม่เกิน 60 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการแล้ว เสร็จ และกรณีที่ อปท. มีความเห็นแย้งภายหลังโครงการได้รับอนุญาตแล้ว โดยเห็นว่า ไม่ควรให้มีการดำเนิน งานโครงการพัฒนาที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบมาก่อนแล้วไม่ว่าเจ้าของโครงการจะได้ ดำเนินโครงการแล้วหรือไม่ก็ตาม ให้หน่วยงานผู้อนุญาตตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเหตุผลที่ อปท. คัดค้านการ ดำเนินโครงการ และพิจารณาตัดสินตามข้อเท็จจริงและตามหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ว่า การกำหนดแบบพิมพ์การแจ้งผลการพิจารณาคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ของ อปท. นั้น ความเห็นจะต้อง ชัดเจนว่าขัดข้องหรือไม่ขัดข้องอย่างไรในการอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ และในการดำเนินการตามขั้นตอน และระยะเวลาการพิจารณาของแต่ละหน่วยงานที่กำหนด เอกสารที่ผู้ยื่นขออนุญาตจัดส่งให้หน่วยงานพิจารณา ต้องครบถ้วนสมบูรณ์ตามระเบียบที่แต่ละหน่วยงานกำหนด รวมทั้งการขอใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ และ 1 บี ตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อกิจกรรม การทำเหมืองแร่ ต้องเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเป็นราย ๆ ไป โดยกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมจะพิจารณาให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในส่วนที่เกี่ยวข้อง แล้ว นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3540 | การเสนอให้คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคงอยู่ (กระทรวงกลาโหม) | กห | 03/01/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอดังนี้ ให้ยกเลิกคณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้าน
กำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการความสงบในเวลาฉุกเฉิน (เหรียญสนองเสรีชน) และให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ ต่อไป โดยมีอำนาจหน้าที่และองค์ประกอบคงเดิม จำนวน 16 คณะ รวมทั้งให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อ ไป โดยมีการปรับปรุงอำนาจหน้าที่และองค์ประกอบ จำนวน 1 คณะ คือ คณะกรรมการการตอบแทนกลับคืนทาง เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เฉพาะกรณีความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศสหราชอาณาจักร)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
