ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 176 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3501 - 3520 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3501 | สรุปสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2550) | มท | 08/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวงมหาด
ไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยแล้ง ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัย รวม 16 จังหวัด 120 อำเภอ 14 กิ่งอำเภอ 695 ตำบล 3,757 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด 40 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 198 ตำบล 1,000 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 92,050 ครัวเรือน 276,560 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด 77 อำเภอ 11 กิ่งอำเภอ 487 ตำบล 2,688 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 283,902 ครัวเรือน 901,142 คน และภาคตะวันออก 1 จังหวัด 3 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 10 ตำบล 69 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 10,256 ครัวเรือน 30,125 คน พื้นที่การ เกษตรได้รับผลกระทบ จำนวน 127,913 ไร่ (จำนวน 16 จังหวัด) สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ การจัดหา น้ำเพื่อการเกษตร การปรับปรุง ซ่อมและทำความสะอาดภาชนะเก็บน้ำ การสร้างภาชนะเก็บน้ำ รวมทั้งการแจกจ่าย น้ำอุปโภค/บริโภค
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3502 | รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงคมนาคมในรอบ 6 เดือน ของปีงบประมาณ 2550 (ตุลาคม 2549 - มีนาคม 2550) | คค | 01/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม ในรอบ 6
เดือน ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 (ตุลาคม 2549-มีนาคม 2550) ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ การ เร่งรัดการแก้ไขปัญหาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในส่วนของการปรับปรุงทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดอากาศยาน การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร และการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม การกำหนดแนวทางการใช้ ประโยชน์จากท่าอากาศยานดอนเมืองระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมทางวิ่งและทางขับของท่าอากาศยานสุวรรณ ภูมิ โดยย้ายเที่ยวบินภายในประเทศที่ไม่มีการต่อเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาใช้ท่าอากาศยานดอน เมืองตามความสมัครใจของสายการบิน รวมทั้งศึกษาความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมือง สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ การดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และ ช่วงบางซื่อ-รังสิต และระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ และสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ -ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค การส่งเสริมและสนับสนุนการคมนาคมขนส่งให้มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อาทิ การใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิง เป็นต้น การเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้น ฐานและการให้บริการทางรถไฟ เพื่อเป็นระบบหลักในการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการ การผลักดันให้ มีการเสนอกฎหมายใหม่เพื่อเป็นการวางรากฐานการบริหารจัดการและกำกับดูแลในด้านการคมนาคมขนส่งที่ดี การเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติเพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนาของประเทศให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากทิศทาง การพัฒนาและความร่วมมือของภูมิภาค การผ่อนคลายภาระหนี้สินค่าน้ำมันพร้อมทั้งค่าเหมาซ่อมให้กับองค์การ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเร่งรัดให้ ขสมก. จัดทำแผนการปรับโครงสร้างเพื่อฟื้นฟูฐานะการเงิน และจัด ทำแผนการใช้รถโดยสารประจำทางด้วยก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดต้นทุนค่าน้ำมัน และดำเนินการแก้ไขปัญหาการ ทุจริตและประพฤติมิชอบในการจัดซื้อ จัดจ้าง และการให้สัมปทานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3503 | สรุปสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2550) | มท | 01/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวง
มหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยแล้ง ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2550 มีพื้นที่ประสบภัย รวม 31 จังหวัด 232 อำเภอ 27 กิ่งอำเภอ 1,330 ตำบล 6,973 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 10 จังหวัด 71 อำเภอ 7 กิ่งอำเภอ 363 ตำบล 1,889 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 151,405 ครัวเรือน 436,839 คน ภาคตะวันออก 16 จังหวัด 143 อำเภอ 19 กิ่งอำเภอ 888 ตำบล 4,710 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 484,080 ครัวเรือน 1,572,272 คน ภาคกลาง 3 จังหวัด 10 อำเภอ 51 ตำบล 236 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 19,160 ครัวเรือน 54,100 คน และภาคตะวันออก 2 จังหวัด 8 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 28 ตำบล 138 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 18,180 ครัว เรือน 51,720 คน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ จำนวน 127,913 ไร่ (จำนวน 16 จังหวัด) สำหรับการให้ ความช่วยเหลือได้แก่ การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร การปรับปรุง ซ่อมและทำความสะอาดภาชนะเก็บน้ำ การสร้าง ภาชนะเก็บน้ำ รวมทั้งการแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3504 | การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางในการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬา | นร | 01/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้ เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี
วันที่ 27 กุมภาพันธ 2511, 1 กรกฎาคม 2512, 19 พฤศจิกายน 2517, 18 มกราคม 2526, 15 มีนาคม 2526, 25 กันยายน 2527, 9 มิถุนายน 2530, 12 ธันวาคม 2532, 28 มิถุนายน 2537, 21 ตุลาคม 2510, 14 กรกฎาคม 2541 และ 3 ตุลาคม 2543 และเห็นชอบร่างแนวทางปฏิบัติในการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬา และ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การกีฬาแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการ กำหนดระยะเวลาการฝึกซ้อมกีฬาและจำนวนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยาย ระยะเวาฝึกซ้อม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3505 | ขอปรับอัตราค่าตอบแทนสำหรับบุคลากรสายการแพทย์ที่ขาดแคลน | ยธ | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอการปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราช การสำหรับบุคลากรสายการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ของกรมราชทัณฑ์ จากที่ได้รับอนุมัติไว้ เดิมให้ไม่น้อยกว่าอัตราของบุคลากรสายการแพทย์ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข และกำหนดหลักเกณฑ์และอัตรา การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่บุคลากรสายการแพทย์หญิงที่ปฏิบัติงานในเรือนจำ/ทัณฑสถาน [บุคกลากรสายการ แพทย์กลุ่มที่ปฏิบัติงาน (On Call)] ในอัตราการเบิกจ่ายตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินตอบ แทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. 2550 โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับลักษณะการ ปฏิบัติงานปกติของบุคลากรสายการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในเรือนจำ/ทัณฑสถานหรือแม้กระทั่งลักษณะการปฏิบัติ งานของเจ้าพนักงานเรือนจำที่มีลักษณะต้องปฏิบัติงานอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ควรกำหนดการปฏิบัติงานของเจ้า หน้าที่ให้สอดคล้องกับลักษณะของงาน โดยจัดเวลาการปฏิบัติงานในลักษณะเป็นผลัดเป็นกะ เพื่อมิให้เป็นภาระ งบประมาณในการจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย สำหรับภาระงบ ประมาณที่เพิ่มขึ้นให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ ปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ไปดำเนินการก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3506 | การปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) | รง | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพัฒนา
แรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) โดยปรับลดกรรมการในกลุ่มภาครัฐ จากเดิม 27 คน ให้คงเหลือ 24 คน และกลุ่มภาคเอกชน สมาคม สภาองค์การนายจ้าง และสภาองค์การลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จากเดิม 17 คน ให้คงเหลือ 13 คน และเพิ่มสัดส่วนกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนจากสภาองค์การลูกจ้างและสภาองค์การนาย จ้าง จากเดิมฝ่ายละ 2 คน เป็นฝ่ายละ 3 คน เพิ่มกรรมการในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 4 คน คือ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการ การอุดมศึกษา และเลขาธิการสภาการศึกษา เพิ่มอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งแก้ไขตำแหน่ง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ จากผู้อำนวยการกองแผนงานและสารสนเทศ เป็นผู้อำนวยการกองบูรณาการและ พัฒนาเครือข่ายเพื่อการพัฒนาฝีมือแรงงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3507 | ร่างพระราชบัญญัติวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... | วท | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอร่างพระราชบัญญัติวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม แห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายหลักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ เพื่อ กำหนดบทบาทขององค์กรของรัฐเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และกำหนดให้มีการจัดทำนโยบาย และแผนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และเป็นองค์ประกอบ สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้นำไปรวม กับร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทยชั้นสูง พ.ศ. .... เป็นฉบับเดียวกัน โดยตัดเรื่องที่เกี่ยว ข้องกับการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ออก โดยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และความเห็นของส่วน ราชการที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็วเป็นกรณีเร่งด่วนด้วย แล้วส่งคณะกรรมการประสาน งานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. รับประเด็นอภิปรายกรณี ที่ไม่ควรมีข้อกำหนดในรายละเอียดให้มีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ หรือกำหนดประเภทของหน่วยงานไว้ในร่างพระ ราชบัญญัติเป็นการเฉพาะ แต่ควรดำเนินการขอจัดตั้งตามขั้นตอนที่ ก.พ.ร. กำหนดไว้โดยให้ร่วมกันพิจารณาลักษณะ ของสำนักงานที่ขอจัดตั้งให้เป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติงานสนับสนุนการดำเนินงานตามร่างพระราชบัญญัติ เพื่อผลักดัน ให้เกิดความสำเร็จตามแผนงานโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการ และให้สำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีการับไปหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกี่ยวกับการปรับปรุง ความตามร่างมาตรา 12 วรรคสอง ที่บัญญัติให้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาด้านวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีทุกสาขามีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของงบประมาณประจำปีให้เป็นกรอบวงเงินงบประมาณ ที่จัดสรรให้ เพื่อให้การดำเนินการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นไปตามเป้าหมายวัตถุประสงค์ ของร่างพระราชบัญญัติได้อย่างแท้จริง ตามประเด็นอภิปราย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3508 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 จำนวน 12 ราย (1. นายพนา สวัสดิบุตรฯ) | กษ | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะ
กรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช จำนวน 12 คน โดยให้ผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (24 เมษายน 2550) เป็นต้น ไป ดังนี้ นายพนา สวัสดิบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคเหนือ นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคกลาง นายสมบูรณ์ หนูนวล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกร ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นางสาวพิณัญญา สงวนกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคตะวันออก นายประสงค์ ผิวอ่อนดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคตะวันตก นายทนง สมร่าง กรรมการผู้ ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคใต้ นางสาวสุมิตรา คงชื่นสิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นนักวิชาการด้านปรับ ปรุงพันธุ์พืช จากสถาบันการศึกษา รศ.ดร.สมพงษ์ ธรรมถาวร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นนักวิชาการด้าน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติจากสถาบันการศึกษา นายอรุณ หวายคำ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์การ พัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรที่มีกิจกรรมเกี่ยวกับการเกษตร นายกฤษฎา บุญชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจาก องค์การพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรที่มีกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นายอุดม ฐิตวัฒนะ สกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์พืชและขยายพันธุ์พืช และนาย วินิจ ชวนใช้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์พืช
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3509 | การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การจ้างที่ปรึกษาต่างประเทศของหน่วยงานของรัฐ | นร | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้ อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเฉพาะ
ในส่วนที่เกี่ยวกับการจ้างที่ปรึกษาต่างประเทศของหน่วยงานของรัฐ จำนวน 3 มติ ประกอบด้วย มติคณะรัฐมนตรี (13 มีนาคม 2544) เรื่อง การนำเข้าพัสดุจากต่างประเทศ และการจ้างที่ปรึกษาต่างประเทศ มติคณะรัฐมนตรี (22 ตุลาคม 2544) เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศ และการจ้างที่ปรึกษาไทย และมติคณะรัฐมนตรี (10 พฤษภาคม 2548) เรื่อง การจ้างที่ปรึกษาไทย และเห็นชอบหลักเกณฑ์การจ้างที่ปรึกษาต่างประเทศของ หน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการพิจารณาตีความ และวินิฉัยเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3510 | การปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการ
คลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 โดยให้ครอบคลุมถึงเจ้า หน้าที่ที่เป็นข้าราชการซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ในหน่วยบริการดูแลอื่น ๆ เช่น โรง เรียน สถานสงเคราะห์ เป็นต้น ไม่เฉพาะหน่วยบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น รวมทั้งพนักงานของ รัฐ และลูกจ้างประเภทต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ที่ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เอชไอวีเช่นกัน และให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการยกร่างระเบียบ ฯ โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องที่เห็นควรปรับปรุงระเบียบให้ครอบคลุมถึงข้าราชการและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปฏิบัติ หน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขด้านการบำบัดการส่งเสริมสุขภาพ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การควบคุมโรคและ การป้องกันโรค การกำจัด และการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีลักษณะที่เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์ และปรับ ปรุงความหมายของคำว่า "หน่วยบริการ" ตามร่างระเบียบให้ครอบคลุมเป็น "หน่วยบริการ หมายความว่า หน่วย งานของราชการที่ดำเนินงานทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ในการให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ เช่น สถานสงเคราะห์ ศูนย์บริการทางสังคมประเภทต่าง ๆ ของทาง ราชการ เป็นต้น" ไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3511 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2550 | ทส | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติการประชุมคณะ
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2550 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ให้การรับรอง เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ (1) การจัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในพื้นที่จังหวัดระยอง พ.ศ. 2550-2554 (2) การดำเนินงานกลไกการพัฒนาที่สะอาดในประเทศไทยภายใต้พิธีสารเกียวโต (3) ร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2550-2554 (4) การปรับปรุงมาตรฐานเสียงรบกวน (5) การกำหนดบังคับใช้มาตรฐานการระบายสารมลพิษจากผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ดีเซลขนาด เล็กระดับที่ 7 และรถยนต์เบนซินระดับที่ 8 (6) การปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (7) แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2550-2554
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3512 | รายงานผลการประสานการดำเนินการกรณีสถานการณ์มลภาวะทางน้ำที่เกิดในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา | มท | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการประชุมคณะกรรมการประสานการ
ดำเนินการกรณีสถานการณ์มลภาวะทางน้ำที่เกิดในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 2/ 2550 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2550 เพื่อติดตามสถานการณ์มลภาวะในแม่น้ำเจ้าพระยา การตรวจสอบพิสูจน์หา สาเหตุ การช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะหน้าให้แก่เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน และแนวทางการให้ความช่วยเหลือ เกษตรกรเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ สรุปได้ดังนี้ ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำจนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2550 โดยกรม ควบคุมมลพิษ พบว่า คุณภาพน้ำตั้งแต่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงท่าน้ำนนทบุรี อยู่ในเกณฑ์ มีค่าออกซิเจนละลายน้ำ 2.5-3.7 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยเฉพาะบริเวณศูนย์ศิลปาชีพบางไทร มวลน้ำเสียที่ไหลมา จากอ่างทองกลับฟื้นฟูคุณภาพดีขึ้นแล้ว และไม่มีผลกระทบต่อสัตว์น้ำ ส่วนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคต้องมี การปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนนำไปใช้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาเร่งด่วนเฉพาะหน้า จังหวัดอ่างทองได้จ่ายเงิน ช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลาในกระชังเสียหาย จำนวน 90 ราย 6,647 ตารางเมตร เป็นเงิน 1,708,279 บาท และ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จ่ายเงินช่วยเหลือ จำนวน 130 ราย 6,896.50 ตารางเมตร เป็นเงิน 1,772,339 บาท ด้านการตรวจสอบพิสูจน์หาสาเหตุ ได้มีการวิเคราะห์แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุการ ตายของปลา โดยกรมควบคุมมลพิษ รวมทั้งการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม 4 โรง ของรองอธิบดีกรมโรงงาน อุตสาหกรรม (นายอดิศร นภาวรานนท์) ด้านแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังเพิ่ม เติมเป็นกรณีพิเศษ ในส่วนของการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวง การคลัง ฯ และจากเงินงบกลาง ฯ ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2550 สามารถดำเนินการได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3513 | โครงการเพื่อการพัฒนาของการประปาส่วนภูมิภาค ปี 2550 | มท | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการเพื่อการพัฒนาของการประปา
ส่วนภูมิภาค (กปภ.) ประจำปี พ.ศ. 2550 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ พิจารณาเห็นชอบแล้ว จำนวน 14 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปา จำนวน 10 โครง การ ประกอบด้วย ประปาพระนครศรีอยุธยา ประปาปทุมธานี ประปาสะเดา ประปาหนองแค ประปาทุ่งสง ประปาเชียงราย ประปาจันดี (จันดีและท่ายาง) ประปายโสธร ประปาท่าเรือ (ภาชี) และประปาพยุหคีรี ระยะ เวลาดำเนินการ 2-3 ปี และโครงการปรับปรุงกิจการประปาภายหลังการรับโอน จำนวน 4 โครงการ ประกอบ ด้วย ประปาหนองบัวแดง ประปาหลังสวน (ละแม) ประปาศรีเชียงใหม่ และประปามุกดาหาร (นิคมคำสร้อย) ระยะเวลาดำเนินการ 1-2 ปี วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,193.834 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการตามความเห็น ของสำนักงบประมาณที่ให้โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาสมุทรสาคร เป็นโครงการเพื่อการพัฒนา ของ กปภ. ประจำปี พ.ศ. 2550 เพิ่มเติมอีก 1 โครงการ ทั้งนี้ ให้ กปภ. รับความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมของ สำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่า ในโอกาสต่อไปเห็นควรให้ กปภ. จัดทำแผนการลงทุนล่วงหน้า ระยะปานกลาง 3-5 ปี เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวงเงินงบประมาณให้สอดคล้องกับความต้องการ และเป็น ประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานต่อไป รวมทั้งให้ กปภ. จัดทำโครงสร้างอัตราค่าน้ำประปา ที่สะท้อนถึงศักยภาพของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สามารถบริหารการเงินขององค์กรให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น และ ไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของ กปภ. เพื่อเป็นการลดภาระการจัดสรรเงินอุดหนุนจากภาครัฐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3514 | การนำเสนอมาตรการแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทในเด็กและเยาวชนต่อคณะรัฐมนตรี | พม | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติเห็น
ชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอมาตรการแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา การทะเลาะวิวาทในเด็กและเยาวชน รวม 6 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับสถาบัน ครอบครัว มาตรการส่งเสริมศักยภาพประคองผ่านวัยในเด็กและเยาวชน มาตรการจัดระบบการดูแลช่วยเหลือนัก เรียนในสถานศึกษา มาตรการปรับปรุงระบบการเรียนการสอนและสภาพแวดล้อมในโรงเรียนอาชีวศึกษาให้มีคุณ ภาพ และมาตรการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาแบบมีส่วนร่วมเพื่อการแก้ไขปัญหาเชิงรุก และให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า มาตรการ ฯ ที่เสนอควรขยายขอบเขตให้ครอบคลุมถึงเด็กและเยาวชนที่ฝึกอบรมฝีมือแรงงานหรืออาชีพ อยู่นอกระบบการศึกษา รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่มีปัญหาทางข้อกฎหมายซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสถาน พินิจและคุ้มครองเด็กด้วย และนำมาตรการอื่น ๆ อาทิ นโยบายคุณธรรมนำความรู้ การสร้างสันติภาพการทำแผน ที่ความดี การส่งเสริมในเรื่องจิตปัญญาศึกษา เป็นต้น มาบูรณาการกับมาตรการ ฯ โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ บูรณาการกิจกรรมและงบประมาณและจัดทำแผนปฏิบัติตามมาตรการ ฯ ที่ชัดเจน หากมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วย งานอื่น ๆ ก็ให้หน่วยงานหลักทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพดำเนินการบูรณาการกิจกรรมและงบประมาณร่วมกับหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการให้เกิดกิจกรรมที่นำไปสู่เป้าหมายความสำเร็จร่วมกัน นอกจากนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอความร่วมมือกับนายจ้างหรือสถานประกอบการเพื่ออนุญาตให้ผู้ปกครองซึ่งทำงานใน สถานประกอบการไปประชุมผู้ปกครองได้โดยไม่ถือเป็นวันลาและให้ได้รับเงินค่าจ้างด้วย ไปประกอบการพิจารณา ดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3515 | การพิจารณามติคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 | นร | 13/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้ รับทราบรายงานผลการปฏิบัติตาม
มาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ในช่วงรัฐบาลที่ ผ่านมา โดยให้คงมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับการบริหารราชการ หรือข้าราชการที่ออกโดยมิได้อาศัยอำนาจตาม กฎหมายใด จำนวน 95 มติ และเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 4 มติ รวมทั้งมอบหมายให้สำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 20 มติ ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3516 | ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างและการจัดองค์กรของส่วนราชการ | นร | 13/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.)
เสนอแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับข้อคิดเห็นการปรับปรุงโครงสร้างและองค์กรของส่วนราชการตามมติที่ประชุม คณะกรรมการ ก.พ.ร. ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550 ดังนี้ การจัดตั้งส่วนราชการระดับทบวงหรือ กรม/องค์การมหาชน/หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ และกรณีการขอยกเลิกมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 (การยุบเลิกกรมทางหลวงชนบท) ให้สำนักงาน ก.พ.ร.ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยว ข้องศึกษารายละเอียดและความพร้อมในการจัดตั้งและนำเสนอ ก.พ.ร. และคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป สำหรับ การแบ่งส่วนราชการภายในกรม ให้ใช้กลไกตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 เรื่อง การปรับปรุง มติคณะรัฐมนตรี เรื่องกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ ทั้งนี้ ให้ยุบเลิกสำนักงานผู้แทนการค้าไทย และให้สำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป กับเห็นชอบให้ส่วนราชการที่มีภารกิจที่ เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันทั้งกรณีงานด้านมาตรฐานสินค้าเกษตร ด้านน้ำ ด้านทรัพยากรทางทะเล/ประมง และ ด้านการตลาด หารือทำความเข้าใจร่วมกันอย่างรอบคอบเพื่อกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันในแต่ละกรณี แล้ว จัดทำเป็นข้อตกลง (MOU) และนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่กำกับดูแลเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และถือ ปฏิบัติร่วมกันต่อไป ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวให้พิจารณาในโอกาสต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3517 | สรุปสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มีนาคม 2550) | มท | 13/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวง
มหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยแล้ง ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2550 มีพื้น ที่ประสบภัย รวม 52 จังหวัด 454 อำเภอ 48 กิ่งอำเภอ 2,994 ตำบล 23,129 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 16 จังหวัด 121 อำเภอ 12 กิ่งอำเภอ 712 ตำบล 4,792 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 395,093 ครัวเรือน 1,349,978 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด 249 อำเภอ 30 กิ่งอำเภอ 1 ,885 ตำบล 15,914 หมู่ บ้าน ราษฎรประสบภัย 1,454,616 ครัวเรือน 5,964,516 คน ภาคกลาง 6 จังหวัด 32 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 126 ตำบล 886 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 70,749 ครัวเรือน 282,885 คน ภาคตะวันออก 6 จังหวัด 32 อำเภอ 5 กิ่งอำเภอ 163 ตำบล 902 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 88,824 ครัวเรือน 281,377 คน และภาคใต้ 5 จังหวัด 20 อำเภอ 108 กิ่งอำเภอ 635 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 31,292 ครัวเรือน 107,595 คน รวม จำนวนราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 2,040,574 ครัวเรือน 7,986,351 คน สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร การปรับปรุง ซ่อมและทำความสะอาดภาชนะเก็บน้ำ และการแจกจ่ายน้ำ อุปโภค/บริโภคของจังหวัดที่ประสบภัย เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3518 | รายงานความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินงานตามปฏิญญากรุงเทพฯ | ยธ | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอดังนี้ รับทราบรายงานผลความคืบหน้าและแนวทางการ
ดำเนินงานตามปฏิญญากรุงเทพ ฯ ซึ่งในการประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคของการดำเนินงาน ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2549 หน่วยงานต่าง ๆ ได้สรุปความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้ เป็นไปตามปฏิญญากรุงเทพ ฯ ว่ามีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และตรงตามภารกิจที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน และมีประเด็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่อง การปรับปรุงมาตร การโต้ตอบอาชญากรรมและการก่อการร้าย ได้แก่ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามองค์ กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. .... เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว และการพิจารณาอนุสัญญาต่อต้านการก่อการร้าย และพิธีสารที่เกี่ยวข้องที่อยู่ระหว่างเตรียมการให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญา ซึ่งประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน ไปแล้ว 6 ฉบับ จากจำนวน 13 ฉบับ คงเหลืออีก 7 ฉบับ และเห็นชอบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการพิจารณา กฎหมายและการพิจารณาอนุสัญญาระหว่างประเทศในประเด็นสำคัญเรื่อง การปรับปรุงมาตรการโต้ตอบอาชญา กรรมและการก่อการร้าย ได้แก่ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ กระทรวงการต่างประเทศ เร่งพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3519 | การประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งและมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2550 | ทส | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการประเมินพื้นที่เสี่ยงและมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2550
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยข้อมูลการประเมินพื้นที่เสี่ยง กรมทรัพยากรน้ำได้ทำการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยพิจารณาจังหวัดที่มีฝนน้อยกว่าฝนเฉลี่ย 30 ปี การพิจารณาฝนทิ้งช่วง จังหวัดที่มีน้ำท่าอยู่ในภาวะ วิกฤติ อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำวิกฤติ จังหวัดที่มีระบบประปาหมู่บ้านน้อย และศักยภาพของบ่อบาดาลในพื้นที่ขาด แคลนระบบประปา พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยแล้งและประสบภัยแล้ง รวม 47 จังหวัด สำหรับมาตรการแก้ไข ปัญหา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการและดำเนินการ ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งได้แก่ การปฏิบัติการเตรียมรับสถานการณ์ก่อนเข้าสู่ฤดูแล้ง อาทิ การซ่อมแซมและก่อสร้างระบบ ประปาหมู่บ้าน การบูรณะและฟื้นฟูแหล่งน้ำ การก่อสร้างฝายต้นน้ำ การปรับปรุงบ่อน้ำตื้น เป็นต้น การสร้างการ มีส่วนร่วมของชุมชน โดยจัดประชุมคณะอนุกรรมการลุ่มน้ำ 29 คณะทั่วประเทศเพื่อประสานงานด้านข้อมูลปัญหาภัย แล้งจากพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบช่องทางการขอรับความช่วยเหลือ แจ้งเตือนชุมชนให้ประหยัดการ ใช้น้ำ โดยฝึกอบรมการผลิตและดูแลบำรุงรักษาระบบประปา เป็นต้น และการบูรณาการหน่วยงานเพื่อบรรเทาภัย แล้ง อาทิ การกำหนดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำในอ่าง โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การ เตรียมการจัดทำฝนหลวงในพื้นที่วิกฤติ โดยสำนักฝนหลวง การก่อสร้างฝายต้นน้ำ โดยกรมทรัพยากรน้ำ กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช การขุดเจาะบ่อบาดดาลในพื้นที่วิกฤติ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และองค์การบริหารส่วนตำบล และการฟื้นฟูอนุรักษ์แหล่งน้ำธรรมชาติ ซ่อมแซม และก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้าน โดยกรมทรัพยากรน้ำ และองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3520 | ความก้าวหน้าของการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบูรณะฟื้นฟูความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลความก้าวหน้าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและ
บูรณะฟื้นฟูความเสียหายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งดำเนินการตาม แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณไว้ ดังนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ได้ ดำเนินการก่อสร้างฝายต้นน้ำลำธาร ปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน และปรับปรุงล้าง บ่อน้ำตื้น ส่วนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ดำเนินการสำรวจและเจาะบ่อน้ำบาดาล เป่าล้างบ่อน้ำบาดาล ซ่อม แซมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก และซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน ซึ่งผลการดำเนินงานส่วนใหญ่เสร็จสมบูรณ์ตาม แผนที่วางไว้ สำหรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำเสียและขยะมูลฝอย กรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่นได้โอนการจัดสรรงบประมาณทั้งหมดไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่อมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่จัดทำสัญญาว่าจ้างปรับปรุงซ่อมแซมระบบรวบรวมน้ำเสีย และระบบบำบัดน้ำเสีย และซ่อมแซมสถาน ที่กำจัดขยะมูลฝอย โดยกรมควบคุมมลพิษจะร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้คำปรึกษาและติดตาม ประเมินผลการปรับปรุงซ่อมแซมระบบดังกล่าวต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
