ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 8 จากทั้งหมด 59 หน้า แสดงรายการที่ 141 - 160 จากข้อมูลทั้งหมด 1166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
141 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายชัยพล สุขเอี่ยม ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | วธ. | 30/08/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชัยพล สุขเอี่ยม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการศาสนา ๒. นายพนมบุตร จันทรโชติ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร ๓. นายโกวิท ผกามาศ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
142 | รายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของส่วนราชการ (จำนวน 4 ราย) | นร 05 | 16/08/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของส่วนราชการ
(จำนวน ๔ ราย) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายกันตพงศ์ รังสีสว่าง
ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๒.
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์
รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) ๓.
กระทรวงวัฒนธรรม (นายกฤษฎา คงคะจันทร์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม) |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
143 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 2/2565 | กค. | 09/08/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕
ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐเสนอ
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑.
ภาพรวมการเบิกจ่ายเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่
๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ มีการเบิกจ่ายแล้วจำนวน ๒,๔๖๔,๗๒๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖๐.๗๐
ของวงเงินงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ๒.
ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน กระทรวงที่มีผลการเบิกจ่ายสูงสุด ๕ ลำดับ
ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการคลัง
และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนกระทรวงที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำสุด ๕ ลำดับ ได้แก่
กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม
โดยมีอุปสรรค เช่น
มีการปรับแบบรูปรายการหรือแบบแปลนงานก่อสร้างให้สอดคล้องกับพื้นที่จริง ๓.
การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยมีกรอบลงทุนปี ๒๕๖๕ ณ สิ้นเดือนเมษายน ๒๕๖๕
จำนวน ๓๓๘,๑๒๖ ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายสะสม ๙๙,๗๐๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ของแผนเบิกจ่ายสะสม (๙๙,๔๗๘ ล้านบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ ๒๙ ของกรอบลงทุนทั้งปี ๔.
การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่า ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน ๑๐๓ โครงการ
มูลค่ารวม ๒.๕๑ ล้านล้านบาท และมีมูลค่าการลงทุนในปี ๒๕๖๕ จำนวน ๑๙๒,๖๐๒ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
144 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์คุณธรรม (1. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ฯลฯ รวม 4 คน) | วธ. | 26/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์คุณธรรม รวม ๔ คน
แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์และลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ดังนี้ ๑. คุณหญิงปัทมา
ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการ ๒.
ศาสตราจารย์อุดม รัฐอมฤต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓.
นางเมธินี เทพมณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
145 | รายงานการขับเคลื่อนแผนพัฒนาด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 - 2565) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 - 2564 | วธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการขับเคลื่อนแผนพัฒนาด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๔ โดยมีการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ
ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
และมีผลการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ จำนวน ๔ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๑
การสนับสนุนการผลิตและเผยแพร่สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์สำหรับประชาชนทุกกลุ่มและครอบคลุมทุกพื้นที่
ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การส่งเสริมความรู้เท่าทันสื่อ พฤติกรรม การใช้สื่อเชิงสร้างสรรค์
เฝ้าระวัง และตรวจสอบสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ เช่น เพิ่มเครือข่ายการเฝ้าระวังและตรวจสอบสื่อที่ไม่เหมาะสมผ่านการฝึกอบรมและหลักสูตรการรู้เท่าทันสื่อ
ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การบูรณาการกลไกการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนผ่านการสื่อสารสาธารณะ
เช่น การเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกกลุ่มได้มีเวทีในการสื่อสารสาธารณะเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากเครือข่ายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
และยุทธศาสตร์ที่ ๔ การพัฒนาและบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
โดยพัฒนาและบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อปลอดภัยให้ทันสมัยและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงได้
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
146 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2565 | นร.04 | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(กตน.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ผ่านระบบการประชุมทางไกล และมอบหมายให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติของที่ประชุมฯ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการประชุมฯ ประกอบด้วย (๑) การบูรณาการปราบปรามมิจฉาชีพและอาชญากรรมออนไลน์
(เว็บพนันออนไลน์/แก็งคอลเซ็นเตอร์) (๒)
การช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยและบุคคลากรภาครัฐ และ (๓) รายงานการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี
และงบประมาณที่เกินกว่า ๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและปราบปรามมิจฉาชีพและอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง
พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชนให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพไม่ให้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวง
สูญเสียทรัพย์ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
147 | การรับรองร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์ | วธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์
(Siem Reap Declaration on Promoting a Creative and
Adaptive ASEAN Community to Support the Cultural and Creative Economy) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะแห่งราชอาณาจักรไทย
รับรองร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์
(Siem Reap Declaration on Promoting a Creative and Adaptive ASEAN
Community to Support the Cultural and Creative Economy)
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญในการแสดงถึงความตระหนักบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
รวมถึงการแสวงหาการเพิ่มพูนความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอาเซียน
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
148 | รายงานตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 | สม. | 14/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
ปี ๒๕๖๔ และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับภาพรวมสถานการณ์ ปัญหา อุปสรรค
และข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในด้านต่าง ๆ ได้แก่ (๑)
ด้านสิทธิมนุษยชนในสถานการณ์เฉพาะ (๒) ด้านสิทธิพลเมืองและด้านสิทธิทางการเมือง
(๓) ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (๔) ด้านสิทธิมนุษยชนของกลุ่มบุคคล ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้พิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ปรากฏในรายงานผลการประเมินสถานการณ์ฯ
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งส่งเสริมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างเคร่งครัด
และนำข้อเสนอแนะในรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติมากขึ้น
ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย
แล้วแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป ๒. ให้ส่งความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม
และสำนักงานอัยการสูงสุดไปเพื่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
149 | วันผ้าไทยแห่งชาติ | วธ. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ “วันที่ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันผ้าไทยแห่งชาติ”
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรจัดกิจกรรมในการรณรงค์
ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของผ้าไทยและการสร้างการรับรู้ถึงคำนิยามของผ้าไทยที่ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนารูปแบบให้ดูทันสมัย
เหมาะกับประชาชนทุกเพศทุกวัย และไม่เป็นภาระค่าใช้จ่าย
เพื่อให้สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้โดยยังคงสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยของแต่ละท้องถิ่น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
150 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) | คค. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
ได้รับการผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำ ชั้นที่ ๑ เอ เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย
(ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
ดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๖/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๒
ตุลาคม ๒๕๖๓ อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น กระทรวงคมนาคม
(การรถไฟแห่งประเทศไทย) ต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
และมติคณะกรรมการชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง
และปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้
การดำเนินการระยะต่อไปของโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย
หากมีความจำเป็นต้องขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำหรือการดำเนินการอื่นใดตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการให้สำเร็จลุล่วงและเกิดประโยชน์ต่อการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมทางรางของประเทศต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
151 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2550 [1. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ฯลฯ จำนวน 10 รูป/คน] | วธ. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่ชาติ จำนวน ๑๐ รูป/คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร
ธมฺมจิตฺโต) ๒. นายสมัย เจริญช่าง ๓. นายสยาม ม่วงศักดิ์ ๔. นางกัมเลซ มันจันดา ๕.นายสัตนามชิงห์ มัตตา ๖. นายปรารพ เหล่าวานิช ๗. นายสด แดงเอียด ๘. นายประเสริฐ
เล็กสรรเสริญ ๙. นายธาดา เศวตศิลา ๑๐. นางพิมพ์กาญจน์
ชัยจิตร์สกุล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
152 | (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) | นร.11 สศช | 03/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ โดยร่างแผนพัฒนาฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อพลิกโฉมไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า
เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน” และมีเป้าหมาย เช่น
การปรับโครงสร้างการผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่
และการเปลี่ยนผ่านการผลิตและบริโภคไปสู่ความยั่งยืน โดยได้กำหนดหมุดหมาย จำนวน ๑๓
หมุดหมาย เพื่อถ่ายทอดเป้าหมายหลักไปสู่ภาพของการขับเคลื่อนที่ชัดเจน เช่น
หมุดหมายที่ ๑ ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง
หมุดหมายที่ ๗ ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง
และสามารถแข่งขันได้ เป็นต้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงสาธารณสุข เช่น คำนึงถึงเหตุผลความจำเป็น
ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและสังคม และฐานะทางการคลัง
มีการสร้างความรู้ความเข้าใจในวงกว้าง เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมหมุดหมาย
พิจารณากำหนดค่าเป้าหมาย/ตัวชี้วัดของเป้าหมายหลักและเป้าหมายในระดับหมุดหมายเป็นรายปี
ไปพิจารณาดำเนินการ แล้วให้นำ (ร่าง) แผนแผนพัฒนาฯ เสนอต่อรัฐสภาเพื่อทราบ
ก่อนกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้ใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
153 | รายงานผลการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2559 - 2564) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | วธ. | 19/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีรับทราบรายงานผลการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบด้วย (๑)
ภาพรวมการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของแผนแม่บทฯ ๔ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๑
วางระบบรากฐานการเสริมสร้างคุณธรรมในสังคมไทย ยุทธศาสตร์ที่ ๒
สร้างความเข็มแข็งในระบบการบริหารจัดการด้านการส่งเสริมคุณธรรมให้เป็นเอกภาพ
โดยได้มีการขยายระยะเวลาของแผนแม่บทฯ ต่อไปอีก ๑ ปี ถึงปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ยุทธศาสตร์ที่
๓ สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมคุณธรรม และยุทธศาสตร์ที่ ๔
ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรมในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก และ
(๒) แนวทาง/แผนการดำเนินการต่อไป กระทรวงวัฒนธรรม (กรมการศาสนา) จะเสนอ (ร่าง)
แผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมคุณธรรม ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐)
ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพื่อพิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
154 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (1. นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ฯลฯ จำนวน 9 คน) | พปส. | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
จำนวน ๙ คน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางพงษ์สวาท
กายอรุณสุทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านกฎหมาย) ๒. นายพีรพน พิสณุพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านศิลปวัฒนธรรม) ๓. นางสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษา) ๔.
นายธวัชชัย ไทยเขียว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการพัฒนาเด็ก
เยาวชนและครอบครัว) ๕. นายยศพร
ปัญจมะวัต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสุขภาพจิต) ๖.
นางกรกนก ศิริวงษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านคนพิการและผู้สูงอายุ) ๗. นางสุนทรี ทับทิมไทย ชัยสัมฤทธิ์โชค กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค) ๘.
นายอภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสื่อสารมวลชน) ๙.
นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสื่อสารมวลชน) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙
มีนาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป และให้กระทรวงวัฒนธรรม (สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์)
รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ที่เห็นควรเร่งรัดกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การมหาชนตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔ เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการตามกฎหมาย/กรรมการและผู้บริหารขององค์การมหาชนอย่างเคร่งครัด
เพื่อมิให้เกิดความล่าช้า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
155 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพนมบุตร จันทรโชติ และนางโชติกา อัครกิจโสภากุล) | วธ. | 15/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายพนมบุตร
จันทรโชติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางโชติกา
อัครกิจโสภากุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
156 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 (เรื่อง รายงานผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 41) เพื่อศึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวงหมายเลข 348 เชื่อมโยงอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว - อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ | คค. | 01/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมเข้าทำการศึกษา สำรวจ
เก็บข้อมูลในเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๘
เพื่อประกอบการพิจารณาทางเลือกในการขยายทางหลวงแผ่นดินเชื่อมโยงอำเภออรัญประเทศ
จังหวัดสระแก้ว กับอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
และเมื่อกระทรวงคมนาคมทำการศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว
ให้เร่งแจ้งผลการดำเนินงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะหน่วยงานหลัก
(Focal point) ที่รับผิดชอบด้านมรดกโลกของประเทศไทยเพื่อดำเนินการแจ้งศูนย์มรดกโลกต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เช่น
การดำเนินการของกระทรวงคมนาคมต้องเป็นการเข้าไปเพื่อทำการศึกษาและสำรวจความเป็นไปได้เท่านั้น
โดยไม่มีนัยในการอนุมัติโครงการใด ๆ กระทรวงคมนาคมควรแจ้งผลการศึกษาให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งศูนย์มรดกโลกเพื่อทราบและเสนอข้อคิดเห็น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
157 | แผนปฏิบัติการด้านระบบสุขภาพปฐมภูมิ (พ.ศ. 2564 - 2575) | สธ. | 22/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านระบบสุขภาพปฐมภูมิ
(พ.ศ. ๒๕๖๔–๒๕๗๕) จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบทิศทาง เป้าหมาย และกลไกการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิให้มีประสิทธิภาพ
เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และภาคเอกชน
ครอบคลุมการพัฒนาในมิติต่าง ๆ
ทั้งในเรื่องการเพิ่มศักยภาพบริการสุขภาพปฐมภูมิที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และประชากร
ระบบบริหารจัดการกำลังแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ การสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง
ๆ การสร้างความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชนให้แก่ประชาชน
รวมถึงการพัฒนาระบบสารสนเทศและนวัตกรรมเพื่อการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ
ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคนได้อย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงบประมาณ
ที่ควรมีระบบการส่งเสริมสนับสนุนการสืบทอดและต่อยอดการนวดไทยที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้จัดสรร
หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร
หรือค่าใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ แล้วแต่กรณี โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า
ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่จะได้รับเป็นสำคัญ สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป
ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายปี
เพื่อเสนอขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
158 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ. | 15/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
เห็นว่าควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติฯ โดยแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำชื่อของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กให้มีความถูกต้องและครบถ้วน
รวมทั้งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์การประกาศใช้กฎหมาย
การเร่งพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก
การเร่งรัดการออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับการจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม
หรือสถานแนะนำทางจิตเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด
การแยกเด็กอายุที่ไม่เกินสิบแปดปีกับเด็กที่อายุเกินสิบแปดปีออกจากกันในสถานฝึกและอบรม
กระบวนการฟื้นฟูจิตใจให้แก่เด็กที่กระทำความผิดโดยนำภาคประชาสังคม ชุมชน
และครอบครัวมาร่วมในกระบวนการด้วย การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
การส่งเสริมและสนับสนุนในการควบคุมเด็กให้ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
การจัดให้มีคณะกรรมการของท้องถิ่นในการให้คำปรึกษาฟื้นฟูจิตใจรวมทั้งป้องกันเด็กในการกระทำความผิด
การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือสร้างกลไกในการขับเคลื่อนการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
หน่วยงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และภาคประชาสังคม ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ๒.
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ของสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าว ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว
และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
159 | สรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2565 | นร.10 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยมีข้อสั่งการสำคัญ ๑๐ ประเด็น เช่น
ให้ทุกส่วนราชการจัดทำคำของบประมาณให้สอดคล้องกับเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ
แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และดำเนินภารกิจ
โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ศูนย์ข้อมูล และระบบคลาวด์
เพื่อให้การปฏิบัติงานตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
โดยให้พิจารณาใช้ระบบคลาวด์กลางภาครัฐเพื่อประหยัดงบประมาณ
และเกิดความปลอดภัยของข้อมูล และให้ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง (PM2.5) ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
แรงงานประมง และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
ให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
รวมถึงสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวัฒนธรรม พัฒนา บูรณะ
ฟื้นฟูมรดกและสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม และทรัพยากรทางธรรมชาติเพื่อให้เกิดแหล่งการท่องเที่ยวใหม่โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลักด้วย
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
160 | การจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา (Higher Education Sandbox) | อว. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการการมอบอำนาจให้สภานโยบายฯ
ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองเรื่องการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา
และมีคำสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาหรือส่วนงานในสถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษาที่แตกต่างไปจากมาตรฐานการอุดมศึกษาแทนคณะรัฐมนตรี
โดยให้ถือว่าการอนุมัติและความเห็นชอบดังกล่าวเป็นมติของคณะรัฐมนตรี
และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ตามนัยมาตรา ๖๙
แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ในกรณีที่เป็นการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษาในเรื่องที่เป็นเชิงนโยบาย
มีความสำคัญสูง มีผลกระทบกับระบบการอุดมศึกษาในภาพรวม
หรือก่อให้เกิดภาระงบประมาณในระยะยาว ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาตินำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ หรือให้ความเห็นชอบเป็นกรณี
ๆ ไป ก่อนดำเนินการต่อไป ๒. ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ กำหนดมาตรการส่งเสริมเชิงนโยบายในส่วนของการจัดการศึกษาที่เชื่อมโยงกับภารกิจหน่วยงานของภาครัฐ
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงศึกษาธิการรับเรื่องนี้ไปพิจารณาและหารือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงการจัดการศึกษาในระดับอาชีวศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการให้เหมาะสมและเป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป |