ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 59 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 1166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก. | 25/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล) ๒. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร
สินธุไพร)
|
|||||||||||||||||||||||||||
22 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ (AMCA) ครั้งที่ 11 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองมะละกา มาเลเซีย | วธ. | 04/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
(AMCA) ครั้งที่ ๑๑ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ เมืองมะละกา มาเลเซีย โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเน้นย้ำบทบาทสำคัญของวัฒนธรรมและศิลปะในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุมเพื่อส่งเสริมเอกภาพของอาเซียน
การนำเสนอแนวคิดการดำรงตำแหน่งประธานรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะของมาเลเซีย
รวมทั้งระบุถึงความร่วมมือที่สำคัญ เช่น
ความก้าวหน้าในการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ด้านวัฒนธรรมและศิลปะของอาเซียน (พ.ศ. ๒๕๕๙
- ๒๕๖๘) และการพัฒนาแผนปฏิบัติการฉบับใหม่และความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาภายใต้แผนงานอาเซียนบวกสาม
(สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี)
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงวัฒนธรรม) | วธ. | 21/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ
ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงวัฒนธรรม จำนวน ๑๐ คณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการประสานงานฝ่ายไทยว่าด้วยวัฒนธรรมและสนเทศอาเซียน ๒. คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๓.
คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๔.
คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ (Thai National Committee for
International Council of Museum) ๕. คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๖. คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม ๗ คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๘. คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ๙. คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำพระไตรปิฎก
ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version)
|
|||||||||||||||||||||||||||
24 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... | กค. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหาร
จัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร
และกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลเพื่อให้เกิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ
อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวมและเป็นการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้นำความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่
๕
ที่เน้นให้ความสำคัญกับการกำหนดโครงสร้างของกฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล
การสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและการป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสังคม การกำหนดพื้นที่สถานที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้มีความเหมาะสม
การกำหนดผู้รักษาการร่วมตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การพิจารณาความคุ้มค่าในการจัดตั้งสำนักงานกำกับสถานบันเทิงครบวงจร ความยืดหยุ่นในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
ความเหมาะสมขององค์ประกอบคณะกรรมการบริหาร การบูรณาการประสานงานระหว่างหน่วยงาน
และการสร้างการรับรู้ต่อสังคมในวงกว้าง รวมทั้งรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๓. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรรม กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สำนักงบประมาณ
และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงวัฒนธรรม เห็นว่าในประเด็นการควบคุมวันอนุญาตให้มีการเล่นการพนัน
และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนาและวันสำคัญของชาติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย สำนักงาน ก.พ. เห็นควรพิจารณาปรับปรุงบทบาท ภารกิจ
และโครงสร้างของหน่วยงานที่มีอยู่ซึ่งรับผิดชอบกฎหมายที่สัมพันธ์กัน
รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนทิศทางการพัฒนาประเทศในภาพรวม
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เห็นควรคำนึงถึงกลไกในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอย่างรอบคอบด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
25 | การเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและมีความสำคัญ | นร. | 24/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบบัญชีร่างพระราชบัญญัติที่เป็นไปตามนโยบายและมีความสำคัญ
จำนวน ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์ ศิรินิล)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลรายงานว่า
ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗
ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบบัญชีร่างพระราชบัญญัติที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและมีความสำคัญ
จำนวน ๑๖ ฉบับ ได้แก่ ๑.
ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน
พ.ศ. .... (สำนักงาน ก.พ.ร.) ๒. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดียาเสพติด
พ.ศ. .... (สำนักงานศาลยุติธรรม) ๓. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... (กระทรวงการคลัง) ๔. ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม
พ.ศ. .... (กระทรวงคมนาคม) ๕. ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. ....
(กระทรวงสาธารณสุข) ๖.
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (กระทรวงการคลัง) ๗. ร่างพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... (สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา) ๘. ร่างพระราชบัญญัติโรงแรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา) ๙.
ร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... (กระทรวงสาธารณสุข) ๑๐. ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... (กระทรวงศึกษาธิการ) ๑๑. ร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์ พ.ศ. ....
(กระทรวงวัฒนธรรม) ๑๒. ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์
พ.ศ. .... [สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)] ๑๓.
ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม) ๑๔. ร่างพระราชบัญญัติระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้
พ.ศ. .... (กระทรวงคมนาคม) ๑๕. ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(ฉบับที่..) พศ. …. (กระทรวงสาธารณสุข)
|
|||||||||||||||||||||||||||
26 | ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 จำนวน 4 ฉบับ | วธ. | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๔ ฉบับ
ได้แก่ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ พ.ศ.
.... ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์
พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตและการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ พ.ศ.
.... (เกม/คาราโอเกะ) และร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการภาพยนตร์และกิจการวีดิทัศน์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขออนุญาตประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ กิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน
หรือจำหน่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และกิจการร้านวีดิทัศน์
รวมทั้งปรับปรุงค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการขออนุญาตในกิจการดังกล่าวให้เหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรพิจารณายกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจพิจารณาสื่อโฆษณา
และการออกใบแทนใบอนุญาตตามร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการภาพยนตร์และกิจการวีดิทัศน์
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งได้ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมเป็น ๑ บาท เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒ มกราคม ๒๕๖๓ เรื่อง การทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการอนุมัติ
อนุญาตของทางราชการ
ในกรณีที่หากรายได้จัดเก็บค่าธรรมเนียมต่ำกว่าต้นทุนการดำเนินการให้พิจารณายกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียม
และเร่งดำเนินการตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนดรวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ
(www.info.go.th) ไปประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
27 | รายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการ | นร 05 | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
(ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการ รวมทั้งหมด ๔๐ ราย
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ๒. นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ๓. นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ๔. นายสยาม บางกุลธรรม ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๕. นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ๖. นายขจรศักดิ์ ธนนาทธนะชน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ในการสนับสนุนภารกิจของรองนายกรัฐมนตรี
(นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) ๗. นายธเนศ กิตติธเนศวร เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๘. นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๙. พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ๑๐. นายอัครุตม์ สนธยานนท์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ๑๑. นายมงคล วิมลรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๑๒. นางสาวสนธยา บุณยภูษิต ผู้ตรวจราชการกระทรวง ๑๓. นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง ๑๔. นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ๑๕. นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๑๖. นายสมภพ พัฒนอริยางกูล รองปลัดกระทรวงพลังงาน ๑๗. นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ๑๘. นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ๑๙. นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ๒๐. นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ๒๑. นายมณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๒๒.นายสุรพงษ์ มาลี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน ๒๓. นางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ๒๔. นายวีรศักดิ์ ทิพย์มณเฑียร รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ๒๕. นายอภิชาติ รัตนราศรี รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ๒๖. นายกิติพงษ์ มหารัตนวงศ์ รองเลขาธิการ ก.พ. ๒๗. นายวิชญ์พิพล ติวะตันสกุล ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน ๒๘. นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ๒๙. นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ๓๐. ว่าที่ร้อยตรี พีรพล มั่นจิตต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ๓๑. พลตรี ชัยวัฒน์ สาน้อย รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๓๒. พลเรือตรี จุมพล นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ๓๓. นางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ๓๔. พลตำรวจโท
กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผู้บัญชาการ
ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ๓๕. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ๓๖. นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๓๗. พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ๓๘. นายทศพร แย้มวงษ์ รองเลขาธิการวุฒิสภา ๓๙. นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |
|||||||||||||||||||||||||||
28 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประสพ เรียงเงิน) | วธ. | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประสพ เรียงเงิน ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
29 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | ดศ. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร
สินธุไพร) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล)
|
|||||||||||||||||||||||||||
30 | เรื่องสืบเนื่องจาการเยือนสาธารณรัฐเปรูและสหรัฐอเมริกาของนายกรัฐมนตรี | นร. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการเดินทางไปร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ครั้งที่ ๓๑ ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู และการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคอเมริกา
ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๑๐ - ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ทำให้มีโอกาสหารือในระดับทวิภาคีกับผู้นำประเทศหลายประเทศ รวมทั้งสาธารณรัฐเปรูและสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตลอดจนได้พบปะกับผู้นำภาคเอกชนหลายท่าน จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้ ๑.
ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการเจรจาทำความตกลงการค้าเสรี
(FTA) ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเปรูให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อยกระดับการค้าการลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศไทยไปยังประเทศคู่ค้าดังกล่าว ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งสินค้าระหว่างโครงการแลนด์บริดจ์
(Landbridge) ของไทย และท่าเรือ Chancay
ของเปรู เพื่อเป็นแหล่งกระจายสินค้าเกษตรของไทยในภูมิภาคอเมริกาใต้ต่อไป ๓.
ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานความร่วมมือกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น TiKTok เพื่อใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าวเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) และสินค้าจากโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)
ให้เพิ่มมากขึ้น ๔. ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ
และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมพิจารณาจัดทำความร่วมมือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
เช่น Western Digital Google Microsoft ในการจัดฝึกอบรมเพื่อยกระดับทักษะในการปฏิบัติงานของแรงงาน
นักเรียน และนักศึกษาไทย เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมใหม่ต่าง ๆ
เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล ๕.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
เช่น Google เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ๖.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงวัฒนธรรมเร่งแสวงหาความร่วมมือกับบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาเพื่อยกระดับทักษะและเทคโนโลยีในการผลิตภาพยนตร์
รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในเรื่องต่าง ๆ เช่น กีฬามวยไทย
อาหารไทย ซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของไทย ทั้งนี้
ให้ประสานการดำเนินงานกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการชี้นำและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
31 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2550 [1. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ฯลฯ จำนวน 10 รูป/คน] | วธ. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ
จำนวน ๑๐ รูป/คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมมจิตโต) ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อับดุลเลาะ หนุ่มสุข ๓. นายธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ๔. นายอรุณ กุมาร ๕. นายกิตติพันธ์ ใจดี ๖. พลอากาศเอก วีรวิท คงศักดิ์ ๗. นายประเสริฐ เล็กสรรเสริญ ๘. นายธาดา เศวตศิลา ๙. นางพิมพ์กาญจน์ ชัยจิตร์สกุล
|
|||||||||||||||||||||||||||
32 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์) | วธ. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์คุณธรรม (1.คุณหญิงปัทมา สีสวัสดิ์ตระกูล ฯลฯ รวม 6 คน ) | วธ. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์คุณธรรม รวม ๖ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการ ๒. ศาสตราจารย์เกียรติคุณรณชัย คงสกนธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ศาสตราจารย์สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นางเมธินี เทพมณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางสีลาภรณ์ บัวสาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. รองศาสตราจารย์ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์) | วธ. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ (ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ)
สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณคดี
(โบราณคดี และพิพิธภัณฑ์) (นักโบราณคดีทรงคุณวุฒิ) กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
35 | การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ครั้งที่ 11 ณ เมืองมะละกา มาเลเซีย | วธ. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
ครั้งที่ ๑๑ “เชื่อมโยงวัฒนธรรม สร้างสรรค์อนาคต : เอกภาพบนความหลากหลาย” (Joint Media Statement the 11th Meeting of the ASEAN Ministers Responsible for Culture and Arts “Bridging Cultures, Building Futures :
Unity in Diversity”) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะแห่งราชอาณาจักรไทย
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
ครั้งที่ ๑๑ ให้การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในวันที่
๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ เมืองมะละกา มาเลเซีย โดยร่างถ้อยแถลงฯ เป็นการเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของวัฒนธรรมและศิลปะในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม
เพื่อส่งเสริมความเป็นเอกภาพของอาเซียน โดยระบุถึงประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น (๑)
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความสร้างสรรค์เป็นทรัพยากรสำคัญที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาอาเซียน
(๒)
ความสำคัญของปฏิญญาวังเวียงว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจวัฒนธรรมขนาดกลางและขนาดย่อม
ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และ (๓)
ความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาภายใต้แผนงานอาเซียนบวกสามว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๘ เป็นต้น ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
36 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวิเชียร สุขสร้อย) | วธ. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิเชียร สุขสร้อย เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
37 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.01 | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนในไตรมาสที่
๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ พร้อมผลการวิเคราะห์เรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็น
และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ/การปฏิบัติงาน
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนฯ
ที่ยื่นเรื่องผ่านช่องทางการร้องทุกข์ ๑๑๑๑ รวมทั้งสิ้น ๓๐,๘๓๓ ครั้ง (๑๔,๘๗๑ เรื่อง)
สามารถดำเนินการจนได้ข้อยุติ ๑๑,๒๓๙ เรื่อง คิดเป็นร้อยละ
๗๕.๕๘ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการประสานเรื่องร้องทุกข์ฯ มากที่สุด (๑,๔๘๗ เรื่อง) ๒. การประมวลผลและวิเคราะห์เรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นฯ
มีสถิติเรื่องร้องทุกข์ ๑๔,๘๗๑ เรื่อง มากกว่าไตรมาสที่ ๒
ของปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จำนวน ๔๒๒ เรื่อง (มีเรื่องร้องทุกข์ ๑๔,๔๔๙
เรื่อง) โดยประเด็นที่ประชาชนยื่นเรื่องร้องทุกข์มากที่สุดคือ
เสียงรบกวน/สั่นสะเทือน (๑,๖๕๓ เรื่อง
ซึ่งดำเนินการจนได้ข้อยุติแล้ว ๑,๕๐๖ เรื่อง) ๓.
ปัญหาและความต้องการของประชาชนที่ร้องทุกข์/หน่วยรับการประสานเรื่องร้องทุกข์ เช่น
ปัญหาด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเป็นเรื่องที่ประชาชนร้องทุกข์เป็นจำนวนมาก
ซึ่งหากหน่วยงานมีการสำรวจและประเมินความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่อย่างละเอียดและครอบคลุม
จะสามารถนำข้อมูลไปวางแผนแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ๔.
ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ/การปฏิบัติงาน เช่น
หน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านสาธารณูปโภค โดยเฉพาะ อปท.
ควรสำรวจความต้องการและสภาพปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตรงตามความต้องการ ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวัฒนธรรม
รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นควรสร้างความรู้ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สภาพดิน และการลดลงของความหลากหลายทางชีวภาพ ควรสร้างทางเลือกให้กับประชาชน
ในการกำจัด/แปรสภาพวัสดุที่เหลือจากการเกษตร การทำไร่/นา รวมทั้งปัญหากลิ่นจากการประกอบกิจการฟาร์มเลี้ยงสัตว์
โดยการสรรหาเครื่องมือหรือวิธีการตรวจสอบ หรือกำกับแหล่งกำเนิดกลิ่นมลพิษต่าง ๆ จากฟาร์มสุกร
และฟาร์มไก่ ให้เพียงพออย่างเหมาะสม และจัดทำทางเลือกให้กับประชาชนในการกำจัด/แปรสภาพวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตร
การทำไร่/นา ภายใต้โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร |
|||||||||||||||||||||||||||
38 | รายงานตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 | สม. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
ปี ๒๕๖๖ และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข
สำนักงาน ก.พ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษารับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ปรากฏในรายงานผลการประเมินสถานการณ์ฯ
ไปพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรยืนยันความเห็นเดิมของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๗
เนื่องด้วยข้อเสนอรายงานตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๐ ในครั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ได้มีการเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่ขัดต่อความเห็นที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอไว้ในคราวก่อนหน้า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เห็นควรสนับสนุนให้เกิดการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นอย่างมีคุณภาพภายใต้แผนพัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา
เพื่อเป็นทางเลือกของผู้เรียนในการพัฒนาตนเองตามศักยภาพและบริบทข้อจำกัดของแต่ละบุคคล ๒. ให้ส่งความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน
ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
สำนักงานอัยการสูงสุด กรุงเทพมหานคร กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ซึ่งได้แจ้งเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะในรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่สามารถดำเนินการได้
ไม่อาจดำเนินการได้
หรือต้องใช้เวลาในการดำเนินการให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อทราบและประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติประสงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญต่อการดำเนินการตามข้อเสนอแนะในเรื่องใดเป็นการเร่งด่วน
และให้หน่วยงานแจ้งผลการดำเนินการให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบในกรณีที่ไม่อาจดำเนินการได้หรือต้องใช้เวลาในการดำเนินการ
ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติส่งข้อเสนอแนะดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอีกทางหนึ่งด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
39 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวิเชียร สุขสร้อย) | วธ. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
40 | ขออนุมัติดำเนินโครงการปรับปรุงคลองชักน้ำแม่น้ำยมฝั่งขวา จังหวัดสุโขทัย | กษ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทาน ดำเนินโครงการปรับปรุงคลองชักน้ำแม่น้ำยมฝั่งขวา จังหวัดสุโขทัย
มีกำหนดแผนงานโครงการ ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ - ๒๕๗๓) กรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น
๓,๕๕๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด |