ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 648 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 12941 - 12960 จากข้อมูลทั้งหมด 123973 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12941 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานแทนตำแหน่งว่าง (จำนวน 3 คน/รูป 1. พระพรหมบัณฑิต ฯลฯ) | ศธ | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน ๓ คน/รูป อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. พระพรหมบัณฑิต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านพุทธศาสนาและการศึกษา) ๒. นายวิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส ด้านการศึกษาเอกชน และด้านการศึกษาสำหรับ ผู้มีความสามารถพิเศษ) ๓. รองศาสตราจารย์อนุชาติ พวงสำลี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหารการศึกษา)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12942 | รายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | กค | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐบาลมีรายได้ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๘,๙๔๙.๖๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๓๖ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ และรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๔๒,๘๐๖.๓๕ ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๕๑ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายจากงบอุดหนุน งบรายจ่ายอื่น แลงบลงทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐบาลมีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ จำนวน ๔๒๗,๗๑๐.๑๒ ล้านบาท ๒. งบแสดงฐานะการเงิน รัฐบาลมีสินทรัพย์สุทธิหรือส่วนทุน ณ วันสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๒,๐๕๙,๐๗๐.๔๕ ล้านบาท สินทรัพย์สุทธิลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๒๓๘,๖๖๓.๔๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๓๙ ซึ่งเป็นผลจากรายการส่วนทุนที่เพิ่มขึ้น การดำเนินงานประจำปีที่มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่าย และการปรับปรุงมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดระยะยาว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12943 | มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล | นร04 | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๗๔/๒๕๖๑ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๒ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12944 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน 2 ฉบับ) | สลธ.คสช. | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๖๒ เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔/๒๕๖๒ เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12945 | ขออนุมัติจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล | กษ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล ในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน ๖๗ แปลง เนื้อที่ ๓๐๒-๓-๗๓.๔๑ ไร่ ในอัตราไร่ละ ๓๒,๐๐๐ บาท โดยงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายเป็นเงินค่าชดเชยดังกล่าว เห็นควรให้กรมชลประทานพิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จากโครงการ/รายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้วและมีงบประมาณเหลือจ่าย และ/หรือรายการที่หมดความจำเป็น และ/หรือรายการที่คาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปดำเนินการ ภายในวงเงิน ๙,๖๙๓,๘๗๒.๘๐ บาท และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนของระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การกำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชยในท้องที่ ๓ จังหวัด เพื่อตรวจสอบสิทธิของบุคคลและการจ่ายเงินให้เป็นไปอย่างถูกต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงและมีขั้นตอนการดำเนินการที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ เห็นควรดำเนินการตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศลเสนอ ตามความเห็นของสำนักบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12946 | ขออนุมัติกรอบวงเงินการจ่ายค่าชดเชยเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล | กษ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการจ่ายค่าชดเชยเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราศีไศล ในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในกรอบวงเงิน ๕๙๙,๙๗๔,๔๐๐ บาท และเห็นควรให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชย ในท้องที่ ๓ จังหวัดดังกล่าว เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการจ่ายเงินและคำนวณเงินค่าชดเชยผ่านบัญชีธนาคารให้ถูกต้องครบถ้วนตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ สำหรับงบประมาณที่จะขอใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เห็นควรให้กรมชลประทานจัดทำแผนรายละเอียดการจ่ายเงินค่าชดเชยที่คาดว่าจะจ่ายได้จริงในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในส่วนที่ยังขาดและไม่สามารถจ่ายเงินค่าชดเชยดังกล่าวได้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานรับความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงานและรายละเอียดการจ่ายค่าชดเชยให้แก่ราษฎรให้ชัดเจน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้รับทราบข้อมูล และเพื่อให้สำนักงบประมาณใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาความเหมาะสมของงบประมาณที่จะสนับสนุนในแต่ละปีงบประมาณ พร้อมทั้งดำเนินการจ่ายค่าชดเชยให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่ได้วางไว้โดยรัดกุม และให้มีการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลโครงการเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์สิทธิการครอบครองและทำประโยชน์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถจ่ายค่าชดเชยได้โดยเร็ว และเป็นไปตามกรอบวงเงินและระยะเวลาดำเนินการที่กำหนดไว้ โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งให้กำหนดมาตรการในการจ่ายเงินให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการเรียกร้องค่าชดเชยเพิ่มเติมในภายหลังด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12947 | ขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเริ่มใหม่ และเปลี่ยนแปลงการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 รายการภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก | กห | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเริ่มใหม่ และเปลี่ยนแปลงการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ รายการภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ของกองทัพเรือ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติรายการผูกพันเริ่มใหม่เพิ่มเติมระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๒ รายการ (การจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา และการจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ ๒) วงเงินรวม ๓๔๗ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จาก โครงการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณเกาะจระเข้ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี วงเงิน ๓๖๑.๑๕ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ๒ ปี ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓ เป็น โครงการปรับปรุงร่องน้ำและบริเวณพื้นที่จอดเรือ ท่าเรือจุกเสม็ด ระยะที่ ๑ วงเงิน ๓๔๐.๓๘ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ๒ ปี ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๗๒.๒๓ ล้านบาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๒๖๘.๑๕ ล้านบาท ๑.๓ กองทัพเรือจะต้องเร่งดำเนินโครงการดังกล่าวให้ทันต่อสถานการณ์อย่างโปร่งใส คุ้มค่า และประหยัด โดยพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่ได้รับ และประสิทธิภาพของกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ รวมทั้งเป็นไปตามรายการและกรอบวงเงินภาระผูกพันของโครงการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ตลอดจนปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน และเมื่อกองทัพเรือได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามนัยพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ จนได้ข้อยุติแล้ว กองทัพเรือจะต้องขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบความเหมาะสมของราคาก่อนทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรเร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จโดยเร็วและให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12948 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนมีนาคม 2562 | นร11 | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความก้าวหน้ายุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ความก้าวหน้าการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ การติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ การสร้างการรับรู้และขยายหุ้นส่วนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และการดำเนินงานในระยะต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12949 | การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคมกำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 จำนวน 2 ฉบับ | คค | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรณีการทางพิเศษแห่งประเทศไทยยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยกระทรวงคมนาคมได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษและอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ และ (๒) ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) และทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นให้ผู้ใช้รถบนทางพิเศษสายดังกล่าวไม่ต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษตามอัตราที่ประกาศตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ถึงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๒๔.๐๐ น. ซึ่งคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชอบและลงนามในประกาศกระทรวงคมนาคมแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12950 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย องค์กรลูกจ้าง องค์กรนายจ้าง และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ เรื่อง แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย พ.ศ. 2562 - 2564 | รง | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย องค์กรลูกจ้าง องค์กรนายจ้างและองค์การแรงงานระหว่างประเทศ เรื่อง แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ และร่างแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย (Decent Work Country Program : DWCP) พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ โดย DWCP คือ กรอบความร่วมมือที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) จัดทำร่วมกับประเทศสมาชิกเพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศสมาชิก โดยการวางกลยุทธ์แนวทางและเป้าหมายการดำเนินงานที่ชัดเจนและสอดรับกับบริบทและวาระเร่งด่วนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมการทำงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน (Promotion of Decent Work for All) ซึ่ง DWCP ของประเทศไทยได้ผ่านกระบวนการหารือระหว่างไตรภาคีในประเทศไทย (กระทรวงแรงงาน ผู้แทนองค์กรนายจ้างและองค์กรลูกจ้าง) และ ILO ประกอบด้วยความสำคัญ ๓ ประการ คือ (๑) ความสำคัญที่ ๑ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของการจ้างงานที่ดีและมีประสิทธิผล (๒) ความสำคัญที่ ๒ สร้างความเข้มแข็งในการคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่เปราะบาง และ (๓) ความสำคัญที่ ๓ เสริมสร้างการกำกับดูแลตลาดแรงงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ ทั้งนี้ กำหนดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ พร้อมทั้งเปิดตัว DWCP ในวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ในระหว่างการถ่ายทอดสดงานเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (24-hour Global Tour) ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ในฐานะรัฐบาลไทย ร่วมกับผู้แทนองค์กรนายจ้าง องค์กรลูกจ้าง และ ILO ๑.๓ ให้กระทรวงแรงงานได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ เรื่อง (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตามความจำเป็นเร่งด่วนของเรื่อง ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาปรับกรอบเวลาของแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าฯ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และ (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และหากมีภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปดำเนินการก่อน สำหรับปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เห็นควรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้จากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12951 | ขออนุมัติแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของประเทศไทยเป็นวาระแห่งชาติ | กษ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของประเทศไทยเป็นวาระแห่งชาติ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับงบประมาณในการดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคเร่งด่วน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๕๓,๖๐๔,๙๐๐ บาท เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ดำเนินการตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมถึงขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการดำเนินการให้เป็นตามแผนดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและรัดกุม รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้เร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้เร่งการสื่อสารกับประชาชนและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และควรมีการจัดทำรายละเอียดประมาณการค่าใช้จ่ายในแต่ละมาตรการเพื่อใช้เป็นกรอบในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งติดตามประเมินผลและตรวจสอบการดำเนินงานได้ นอกจากนี้ ควรประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมตรวจสอบการปนเปื้อนเชื้อไวรัสของทั้งบุคคลและยานพาหนะที่เข้ามาในประเทศไทย และการลักลอบการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุกรตามแนวชายแดน รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกิดความตระหนักถึงการระบาดของเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกา ซึ่งจะเป็นมาตรการเฝ้าระวังที่สำคัญ ตลอดจนมีมาตรการยกระดับการจัดการฟาร์มเลี้ยงสุกรในการป้องกันโรค โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่มีการเลี้ยงแบบเปิด ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12952 | การเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก | ทส | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบเอกสารนำเสนอเมืองโบราณศรีเทพ ภายใต้ชื่อ The Ancient Town of Si Thep เพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ๑.๒ เห็นชอบเอกสารนำเสนอกลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด ภายใต้ชื่อ Ensemble of Phanom Rung, Muang Tam and Plai Bat Sanctuaries เพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ๑.๓ เห็นชอบให้ประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกลงนามในหนังสือถึงศูนย์มรดกโลกเพื่อนำเสนอเมืองโบราณศรีเทพ และกลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด เพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ๑.๔ รับทราบการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการนำเสนอแห่งมรดกทางวัฒนธรรม และแหล่งมรดกทางธรรมชาติ เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่าย รวมทั้งแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12953 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายภูมิวิศาล เกษมศุข) | ปปท. | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายภูมิวิศาล เกษมศุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมากรป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12954 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคณะกรรมการสภาการศึกษาแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ | ศธ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบกรณี รองศาสตราจารย์บัณฑิต ทิพากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคณะกรรมการสภาการศึกษา พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากลาออก และเห็นชอบแต่งตั้ง ศาสตราจารย์อำนาจ วงศ์บัณฑิต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาการศึกษาในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12955 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (จำนวน 8 คน 1. พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ ฯลฯ) | พณ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จำนวน ๘ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.๑ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการ จำนวน ๔ คน ได้แก่ ๑.๑.๑ พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ ๑.๑.๒ นางภาณุมาศ สิทธิเวคิน ๑.๑.๓ นางปัทมา เธียรวิศิษฏ์สกุล ๑.๑.๔ นางปิยนุช วุฒิสอน ๑.๒ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน จำนวน ๔ คน ได้แก่ ๑.๒.๑ นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ๑.๒.๒ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นิพิฐ พิรเวช ๑.๒.๓ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ๑.๒.๔ นางศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการในครั้งต่อไปให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12956 | การแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | นร12 | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๕/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๕๘/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยแต่งตั้ง พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงศึกษาธิการรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน ทั้งนี้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประสานงานและทำความเข้าใจในทางปฏิบัติกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนและถูกต้องตรงกัน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12957 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับการดำเนินการเพื่อให้บุคลากรที่มีศักยภาพเข้าสู่ระบบราชการ โดยให้สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการเกี่ยวกับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพเข้าสู่ระบบราชการให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีในอนาคต โดยกำหนดสัดส่วนการบรรจุอัตรากำลังสำหรับบุคคลที่มีศักยภาพดังกล่าวกับระบวนการสรรหาปกติให้เหมาะสม รวมทั้งกำหนดมาตรการจูงใจสำหรับบุคคลที่จะเข้ามาสู่ระบบการสรรหาและเลือกสรรดังกล่าว นั้น มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เร่งรัดกำกับติดตามการดำเนินการดังกล่าวให้บรรลุผลโดยเร็ว ทั้งนี้ ในการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพเข้าสู่ระบบราชการ ให้สำนักงาน ก.พ. คำนึงถึงสัดส่วนของกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพเพื่อเข้าสู่ระบบราชการ โดยพิจารณาแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นบุคคลในพื้นที่ กลุ่มที่แบ่งตามคุณลักษณะส่วนบุคคล (เพศชาย-หญิง) และกลุ่มบุคคลที่เปิดสอบคัดเลือกเป็นการทั่วไป และให้คำนึงถึงพื้นที่การปฏิบัติราชการที่เหมาะสมกับบุคลากรแต่ละกลุ่มด้วย โดยพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจต้องพิจารณากำหนดข้อยกเว้นตามแต่กรณีด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12958 | รายงานผลการดำเนินการโครงการ "1 อปท. 1 ถนนท้องถิ่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม" | มท | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงกร “๑ อปท. ๑ ถนนท้องถิ่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ที่รับทราบการจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ มีแนวทางการดำเนินการ สรุปได้ ดังนี้ (๑) การคัดเลือกถนนที่มีความยาวระยะทางไม่น้อยกว่า ๕๐๐ เมตร กว้าง ๓-๖ เมตร ๑ สายทาง และเป็นถนนซึ่งเป็นที่รู้จัก หรือเป็นสถานที่สำคัญ และอยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (๒) การจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อพัฒนา ปรับปรุง ดูแล และรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณถนน ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาครัฐ เอกชน และประชาชน และ (๓) ผลการดำเนินโครงการฯ ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ โดยมีเป้าหมายดำเนินการ ๗,๘๕๑ สายทาง (อปท. ละ ๑ สายทาง) ดำเนินการแล้ว ๕,๔๔๘ สายทาง และอยู่ระหว่างดำเนินการ ๒,๔๐๓ สายทาง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12959 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ | นร01 | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ระหว่างวนที่ ๙-๓๑ มกราคม ๒๕๖๒ มีการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยการพัฒนาคลอง คู และลำราง จำนวน ๔๑ คู คลอง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทำความสะอาดสถานที่สำคัญแนวริมคลอง และในพื้นที่ส่วนภูมิภาคได้นำแนวทางการดำเนินงานของกรุงเทพมหานครมาปรับใช้กับจังหวัดตามความเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งมีการดำเนินกิจกรรมแล้ว ๒,๕๘๖ กิจกรรม จิตอาสาเข้าร่วม จำนวน ๖๓๖,๑๕๕ คน ๒. การจัดกิจกรรม Big Cleaning Day งานอุ่นไอรัก เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๒ ศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริได้จัดกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดี ด้วย หัวใจ “Big Cleaning Day งานอุ่นไอรัก” โดยมีหน่วยราชการในพระองค์ ส่วนราชการ กรุงเทพมหานคร เหล่าทัพ ตำรวจ กระทรวง กรมต่าง ๆ และประชาชนจิตอาสาร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ โดยร่วมกันทำกิจกรรมทำความสะอาดเก็บขยะมูลฝอย ตัดแต่งกิ่งไม้ต้นไม้ เก็บผักตบชวา การฉีดพ้นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศ กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันมลพิษทางอากาศ และการแจกหน้ากากอนามัย ๓. การฝึกอบรมโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ หลักสูตรจิตอาสา “หลักสูตรหลักประจำ” รุ่นที่ ๓ ประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม-๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ ณ โรงเรียนจิตอาสา พื้นที่กองพันฝึกส่วนหลัง กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตพระราชฐานในพระองค์ “วิภาวดี” โดยมุ่งเน้นการฝึกอบรมให้บุคลากรมีทัศนคติที่ดีต่อสถาบัน มีความเสียสละ มีอุดมการณ์ และมีความสามัคคีสามารถทำงานเป็นทีมได้ มีผู้เข้ารับการอบรมจากหน่วยราชการในพระองค์/ทหาร/ตำรวจ จำนวน ๑๔๔ นาย ข้าราชการพลเรือน จำนวน ๑๕๑ นาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12960 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2562 | นร02 | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ และมอบหมายให้โฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. แนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า แนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล และในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ๒. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี ๒๕๖๒ เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. ๒๕๖๒ และแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ๓. การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ ๒ และการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การกำหนดให้การรักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม และเพิ่มงบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สิทธิประโยชน์และการบริการสาธารณสุข
|
.....