ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 645 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 12881 - 12900 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12881 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกฉนวนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกฉนวนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกฉนวนต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก.๑๒๓๑-๑๕๖๐ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๕๐๖๘ (พ.ศ. ๒๕๖๑) โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด ๓๖๕ วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นควรพิจารณาขั้นตอนการตรวจสอบสินค้าตามมาตรฐานดังกล่าวให้มีความสะดวกรวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการและสร้างบรรยากาศด้านการค้าการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12882 | ผลการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง "การพัฒนาการบริหารระบบราชการส่วนภูมิภาคเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ" ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “การพัฒนาการบริหารระบบราชการส่วนภูมิภาคเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ” โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ และได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปแล้วบางส่วน เช่น กระทรวงมหาดไทยได้แบ่งกลุ่มภารกิจในการบริหารราชการจังหวัดแบบบูรณาการ โดยยึดโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนการปฏิรูปประเทศ ๑๑ ด้าน รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอในการทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน กระทรวงศึกษาธิการมีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเป็นกลไกในการบริหารงานบุคคลในพื้นที่ ทำหน้าที่คัดเลือกและกลั่นกรองบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในการดำเนินงานในทุกพื้นที่ และสำนักงบประมาณได้จัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงพื้นที่ เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12883 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้จัดทำร่างคำชี้แจง เรื่อง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับตัวอย่างการลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็น การปิดประกาศการย้ายสถานประกอบกิจการ และประเด็นที่กระทบสิทธิและหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้าง รวมทั้งปรับปรุงแบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการทำงานของสถานประกอบกิจการเพื่อเป็นการเตือนนายจ้างให้ยื่นแบบแสดงสภาพการจ้างภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้าถึงตัวบทกฎหมายได้โดยสะดวก โดยจัดอบรมให้ความรู้แก่ลูกจ้าง นายจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12884 | ร่างกฎกระทรวงการมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ และการมอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ และการมอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ และการมอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือราชการ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยเพิ่มสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยราชการที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12885 | ร่างพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๑๘ เพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มเติม ในประเภทค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ ค่าตอบแทนในการปฏิบัติราชการที่ไม่มีกฎหมายอื่นกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่กระทรวงการคลังเสนอโดยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12886 | การต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติในรูปแบบของหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in International Law) ประจำปี 2562 | กต | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ ปี ๒๕๖๐ สำหรับการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in International Law) ประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน-๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร มีสาระสำคัญเป็นการตอบรับฝ่ายสหประชาชาติเพื่อต่ออายุความตกลงระหว่างประเทศไทยกับสหประชาชาติในรูปแบบของหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี ๒๕๖๐ เพื่อให้สามารถจัดการฝึกอบรมฯ ที่ประเทศไทยได้ในระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน-๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ โดยจะถือว่า หนังสือแลกเปลี่ยนฯ เป็นความตกลงระหว่างสหประชาชาติกับประเทศไทยในการจัดการฝึกอบรมฯ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ตอบกลับ และจะมีผลใช้บังคับตลอดระยะเวลาของการจัดการฝึกอบรมฯ ประจำปี ๒๕๖๒ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. อนุมัติให้เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12887 | รายชื่อประเทศคู่เจรจาของไทยเพื่อการเจรจาจัดทำหรือแก้ไขอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับต่างประเทศ องค์ประกอบคณะผู้แทนรัฐบาลไทย และการเจรจาจัดทำหรือแก้ไขอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนผ่านช่องทางการทูต | กค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบรายชื่อประเทศคู่เจรจาของไทยเพื่อการเจรจาจัดทำหรือแก้ไขอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับต่างประเทศ จำนวน ๘ ประเทศ ได้แก่ ภูฏาน แทนซาเนีย มัลดีฟส์ เซเชลส์ รัสเซีย โรมาเนีย ลิทัวเนีย และมองโกเลีย และรับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนรัฐบาลไทย และการเจรจาจัดทำหรือแก้ไขอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับต่างประเทศผ่านช่องทางการทูต ซึ่งกระทรวงการคลังจะพิจารณาเลือกใช้วิธีการเจรจาจัดทำหรือแก้ไขอนุสัญญาหรือความตกลงฯ ผ่านคณะผู้แทนรัฐบาลไทย หรือผ่านช่องทางการทูต (นำส่งร่างอนุสัญญาหรือความตกลงฯ ผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปยังประเทศคู่ภาคี) ตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่น กระทรวงการคลังควรพิจารณาเพิ่มเติมรายชื่อประเทศเพื่อเปิดการเจรจาในโอกาสต่อไป และการเพิ่มเนื้อหาในการเจรจาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านภาษีตามมาตรฐานสากลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development : OECD) ให้ตรงตามเงื่อนไขการเสนอขายกองทุนรวมของไทยในสหภาพยุโรป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการเจรจาจัดทำอนุสัญญาหรือความตกลงฯ ระหว่างไทยกับบรูไนดารุสซาลาม รวมถึงประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เช่น บราซิล และเม็กซิโก เป็นต้น ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12888 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางรมณีย์ ขัดเงางาม) | สธ | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางรมณีย์ ขัดเงางาม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12889 | ข้อเสนอการปรับปรุงอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นในคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น | กค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นในคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น เพื่อให้กระทรวงการคลังดำเนินการแจ้งเวียน และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับรัฐวิสาหกิจเพื่อถือปฏิบัติต่อไป โดยให้รัฐวิสาหกิจปฏิบัติตามร่างอัตราและหลักเกณฑ์ดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งควรพิจารณากำหนดค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการให้สอดคล้องกับผลประกอบการและฐานะการเงิน รวมทั้งอาจพิจารณากำหนดแรงจูงใจอื่นที่ไม่ใช่ตัวเงินในสัดส่วนที่เหมาะสมและไม่สร้างภาระให้กับองค์กรในระยะยาวด้วย นอกจากนี้ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจควรเตรียมการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลและความจำเป็นในการปรับปรุงร่างอัตราและหลักเกณฑ์ดังกล่าวแก่ประชาชนทั่วไปเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๖ ในส่วนของอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12890 | มาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดสตูล | กค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดสตูลไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกันกับมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในภาคใต้ ที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุพิจารณาแล้วในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ ไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำมาตรการนี้ไปใช้บังคับในการจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยอนุโลมด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12891 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร | กษ | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกร สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เพื่อชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๓ ต่อปี ระยะเวลา ๑ ปี (๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒) ภายในกรอบวงเงิน ๑,๒๓๒,๕๙๕,๖๔๐ บาท โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งรัดปรับปรุงข้อมูลมูลหนี้รายสัญญาให้เป็นปัจจุบันยิ่งขึ้น เนื่องจากการลดลงของจำนวนมูลหนี้ที่เสนอในการพิจารณาครั้งนี้ยังไม่สอดคล้องกับจำนวนสมาชิกที่ลดลง และดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความถูกต้องของมูลหนี้รวมกับระยะเวลาสัญญาเงินกู้ วัตถุประสงค์ของการกู้ยืมเพื่อการเกษตรและความซ้ำซ้อนกับโครงการของภาครัฐที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน และมีความจำเป็นต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือให้จัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่าย รวมทั้งแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และประหยัด โดยพิจารณากลุ่มเป้าหมาย และประโยชน์ที่ได้รับอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐอย่างยั่งยืนต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด การกำกับดูแลการดำเนินตามโครงการฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และผลประโยชน์ตกถึงมือเกษตรกรอย่างแท้จริง รวมทั้งให้ความสำคัญกับการดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ การกำหนดวิธีการจัดลำดับความสำคัญของเกษตรกรสมาชิก สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ไว้คู่มือการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้ได้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วน และสอดคล้องกับกรอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดภาระทางการคลังมากเกินความจำเป็น รวมทั้งการติดตามประเมินผลโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12892 | ความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) | ปปท. | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) โดยคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) (คณะกรรมการ กปนร.) ได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่า (๑) หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบที่ดินของรัฐได้แจ้งยืนยันรับรอง และรับทราบข้อมูลจำนวนที่ดินของรัฐที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบซึ่งเป็นข้อมูลจำนวนที่ดินของรัฐก่อนการดำเนินการปรับปรุงแผนที่ One Map ปรากฏว่า มีที่ดินของรัฐที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานรวม ๔๖๕.๐๘ ล้านไร่ แต่ที่ดินของไทยมีเนื้อที่จริงประมาณ ๓๒๐.๗๐ ล้านไร่ (รวมที่ดินของรับและเอกชน) ซึ่งเกิดจากการมีกฎหมายกำหนดแนวเขตประเภทที่ดินของรัฐหลายฉบับ และใช้มาตราส่วนในแผนที่แนบท้ายกฎหมายแตกต่างกัน ทำให้เกิดการประกาศแนวเขตที่ดินทับซ้อนกัน และ (๒) แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแนวเขตที่ดินของรัฐ ประกอบด้วย ผู้ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นรองประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ เช่น เสนอนโยบายและแผนงานการบริหารจัดการแนวเขตที่ดินของรัฐและแผนที่ One Map ต่อคณะรัฐมนตรี ปรับปรุงแผนที่ One Map ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง ให้ความเห็นชอบการแก้ไขปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินหรือแผนที่แนบท้ายกฎหมายให้เป็นไปตามแผนที่ One Map ออกระเบียบ คำสั่ง หรือมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการใด ๆ ในการบริหารจัดการแนวเขตที่ดินของรัฐภายในแผนที่ One Map เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการ กปนร. เสนอ ทั้งนี้ การดำเนินการเรื่องนี้ในระยะต่อไป มอบหมายให้คณะกรรมการ กปนร. รับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอน โดยคำนึงถึงลำดับความจำเป็น ความเร่งด่วน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติกำกับติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ [เรื่อง รายงานผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map)] ที่ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการดูแลที่ดินของรัฐแต่ละประเภทดำเนินการตรวจสอบเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐให้ถูกต้อง ตรงกัน และเห็นชอบร่วมกันจนเป็นที่ยุติ แล้วนำเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในการรับรองเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12893 | ขอความเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ | พณ | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้าตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ และขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๒๕ ล้านบาท ออกไปจากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒ เป็นสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรขยายระยะเวลามาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้าฯ ส่วนการขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๒๕ ล้านบาท ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินตามวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด รวมทั้งควรมีการจัดทำเอกสารเพื่อใช้ในการติดตามตรวจสอบและเกิดประโยชน์กับเกษตรกรอย่างแท้จริง ตลอดจนเร่งดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ประสบปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12894 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ตั้งและวันเปิดทำการศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี พ.ศ. .... | ศย | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ตั้งและวันเปิดทำการศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดที่ตั้งศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี โดยให้ศาลแพ่งตลิ่งชันและศาลอาญาตลิ่งชัน ตั้งอยู่ในเขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ให้ศาลแพ่งพระโขนงและศาลอาญาพระโขนง ตั้งอยู่ในเขตบางนา กรุงเทพมหานคร ให้ศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรี ตั้งอยู่ในเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร รวม ๖ ศาล และให้ศาลทั้ง ๖ ศาล เปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12895 | ขอผ่อนผันยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2550 เพื่อก่อสร้างถนนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ สำหรับโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 4 สายชุมพร - ระนอง | คค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติผ่อนผันยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ เพื่อก่อสร้างถนนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ สำหรับโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น ๔ ช่องจราจร (ระยะที่ ๒) ทางหลวงหมายเลข ๔ สายชุมพร-ระนอง มีระยะทางรวมทั้งสิ้น ๑๐๒.๕๒ กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น ๕ ตอน โดยดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว ๓ ตอน ระยะทาง ๕๒.๓๒ กิโลเมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ๒ ตอน ระยะทาง ๕๐.๒๐ กิโลเมตร โดยมีถนนช่วงหนึ่งตัดผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี จังหวัดระนอง ระยะทางประมาณ ๒.๔๗ กิโลเมตร ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และดำเนินการตามข้อเสนอแนะ เช่น การปรับปรุงแนวเส้นทางช่วงที่ผ่านน้ำตกปุญญบาล รวมทั้งการสำรวจและศึกษาสัตว์ป่าในบริเวณใกล้กับแนวการก่อสร้างถนนดังกล่าวเพื่อการจัดทำเส้นทางเชื่อมสัตว์ป่าและกำแพงบังคับสัตว์ป่าที่เหมาะสม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12896 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินชดเชยตามมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์) | กค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เงินชดเชยที่ได้รับตามมาตรการส่งเสริมการชำระเงินด้วยบัตรเดบิตหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น สำหรับการซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ซึ่งได้มีการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการให้กรมสรรพากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเงินชดเชยดังกล่าวต้องมีจำนวนไม่เกินหนึ่งพันบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดให้มีการรายงานผลการดำเนินมาตรการและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินมาตรการให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12897 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการแต่งตั้งและการให้ออกจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. .... | กค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการแต่งตั้งและการให้ออกจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการแต่งตั้งและการให้ออกจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับมาตรา ๔ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกระเบียบเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา ๗ (๓) จึงควรกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ในร่างข้อ ๖ ด้วยไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการเสนอกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติการจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในกำหนดระยะเวลา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12898 | สรุปผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 24 (COP 24) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 14 (CMP 14) การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 1.3 (CMA 1.3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองคาโตวีเซ สาธารณรัฐโปแลนด์ | ทส | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๔ (COP 24) การประชุมรัฐสภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๑๔ (CMP 14) การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ ๑.๓ (CMA 1.3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองคาโตวีเซ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยมีรัฐมนตรีการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ระหว่างวันที่ ๒-๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานของประชาคมโลกภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในประเด็นภายใต้พิธีสารเกียวโต ประเด็นด้านเทคนิค ด้านการดำเนินงาน และการมีผลใช้บังคับของความตกลงปารีส และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้สอดคล้องกับผลการประชุมในประเด็นต่าง ๆ และรายงานความคืบหน้าให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการจัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับภารกิจที่จะดำเนินการร่วมกัน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว หากไม่เพียงพอให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ส่วนปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่าย รวมทั้งแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12899 | รายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 | คค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำหรับปีสิ้นสุดวันนที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดได้ตรวจสอบและเห็นว่ารายงานดังกล่าวถูกต้องตามที่สมควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน และขอให้สังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ ๖.๓ เรื่อง สินทรัพย์/หนี้สินไม่หมุนเวียนที่ถือไว้รอโอน ตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจำหน่ายทรัพย์สินและโอนภาระทางการเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ รฟม. จะเป็นผู้ดำเนินการบริหารงานก่อสร้างงานโยธาภายใต้เงื่อนไขตามสัญญาจ้างก่อสร้างงานโยธาของโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดก่อนดำเนินการจำหน่ายสินทรัพย์และโอนภาระทางการเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ให้กับกรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12900 | รายงานประจำปี 2560 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | ศธ | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๐ ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ประกอบด้วย (๑) ผลการดำเนินงานของ สสวท. ในปี ๒๕๖๐ ซึ่งคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการประชุมครั้งที่ ๕๒๕/๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ได้มีมติรับทราบแล้ว (๒) รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของ สสวท. สิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว และ (๓) แผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
.....