ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 551 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 11001 - 11020 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11001 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... | นร09 | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11002 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสำรวจตัวอย่างหรือสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. .... | ดศ | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรายงานว่า ในการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลประชากรของประเทศในรูปของสำมะโนประชากรนั้น จะดำเนินการทุก ๑๐ ปี เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะขององค์การสหประชาชาติ (UN) โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นปีครบรอบ ๑๐ ปี ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจะต้องดำเนินการสำรวจตัวอย่างหรือสำมะโนประชากรและเคหะ แต่โดยที่มีการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด-๑๙ ทำให้มีความจำเป็นต้องเลื่อนดำเนินการดังกล่าวออกไปก่อน และเมื่อสถานการณ์โรคติดต่อดังกล่าวลดน้อยลง สำนักงานสถิติแห่งชาติจะเร่งดำเนินการสำรวจตัวอย่างหรือสำมะโนประชากรและเคหะต่อไป และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของระยะเวลาในการดำเนินการการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะต่อไป ๒. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสำรวจตัวอย่างหรือสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดทำการสำรวจตัวอย่างหรือสำมะโนประชากรและเคหะเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและรายละเอียดของประชากรในครัวเรือน ณ ที่อยู่อาศัยปกติ ที่พบในวันที่ทำการสำรวจตัวอย่างหรือสำมะโน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและลักษณะที่อยู่อาศัยของประชากรเพื่อประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การกำหนดนโยบายเพื่อการบริหารของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และใช้เป็นฐานในการคาดประมาณจำนวนประชากรในอนาคต ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์ หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ การพิจารณาทบทวนระยะเวลาการสำมะโนประชากรและเคหะให้มีความถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดเก็บประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11003 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าตอบแทนรายปีสำหรับผู้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคาร หรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ พ.ศ. .... | คค | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าตอบแทนรายปีสำหรับผู้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๖๔ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖ โดยกำหนดวิธีการเสียค่าตอบแทนรายปี อัตราค่าตอบแทนรายปี และการยกเว้นหรือลดหย่อนค่าตอบแทนรายปีให้ผู้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำ ในน้ำ และใต้น้ำ ของแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทยหรือบนชายหาดของทะเลดังกล่าว ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11004 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... | กษ | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงภารกิจหน้าที่ของกรมประมงและความรับผิดชอบของหน่วยงานระดับกรมให้มีความชัดเจนสอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้น โดยไม่เพิ่มจำนวนบุคลากร และไม่เพิ่มจำนวนกอง เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11005 | แก้ไขกฎกระทรวงที่ทับซ้อนกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย รวม 7 ฉบับ | กค | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๗ ฉบับ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Specialised Financial Institutions : SFIs) ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแล SFIs ของธนาคารแห่งประเทศไทยในเรื่องการดำรงเงินกองทุนและการดำรงเงินสดสำรองและสินทรัพย์สภาพคล่องของ SFIs ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์ หนี้สิน หรือภาระผูกพันตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ๒. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินสดสำรองและสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินสดสำรองและการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดำรงเงินสดสำรองและสินทรัพย์สภาพคล่องตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ๓. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์ หนี้สิน หรือภาระผูกพันตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ๔. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๗ และให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์ หนี้สิน หรือภาระผูกพันตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ๕. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๗ และให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยดำรงเงินสดสำรองและสินทรัพย์สภาพคล่องตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ๖. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ ซึ่งเกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์ หนี้สิน หรือภาระผูกพันตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ๗. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. ๒๕๔๗ และให้บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์ หนี้สิน หรือภาระผูกพันตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11006 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๖๐ สำหรับเขตทะเลชายฝั่งในบริเวณจังหวัดตราด โดยปรับปรุงเขตทะเลชายฝั่งเพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่งให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมและสามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน ลดปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายโดยไม่เจตนา ลดความขัดแย้งของชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11007 | การย้ายที่ตั้งสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ | กสทช | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ย้ายที่ตั้งสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) (สำนักงานฯ) จากชั้น ๕ อาคารศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กรุงเทพมหานคร ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ภาค ๑ หลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติในฐานะหน่วยงานอำนวยการในนามประเทศไทยของ ITU เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการย้ายที่ตั้งสำนักงานฯ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11008 | โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 | กค | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๓ ตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากโครงการฯ ปีการผลิต ๒๕๖๒ ภายใต้วงเงินงบประมาณจำนวน ๒,๙๑๐.๓๙ ล้านบาท โดยใช้เงินงบประมาณคงเหลือในส่วนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เบิกจ่ายจากสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการฯ ในปีการผลิต ๒๕๖๒ จำนวน ๑๐๖.๖๑ ล้านบาท และเสนอของบประมาณเพิ่มเติม จำนวน ๒,๘๐๓.๗๘ ล้านบาท ๑.๒ เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ทดรองจ่ายเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาลในส่วนของงบประมาณเพิ่มเติม ๒,๘๐๓.๗๘ ล้านบาท และเบิกเงินชดเชยตามจำนวนที่จ่ายจริงพร้อมด้วยอัตราต้นทุนเงิน ในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน ธ.ก.ส. บวกร้อยละ ๑ ในปีงบประมาณถัดไปให้กับ ธ.ก.ส. ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินรวม ๒,๙๘๐.๒๔ ล้านบาท ๑.๓ มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการขายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๓ ให้ได้ตามเป้าหมายและตามกำหนดเวลาการเอาประกันภัยของเกษตรกร ทั้งในส่วนที่ ๑ และส่วนที่ ๒ (Tier 1 และ Tier 2) พร้อมทั้งให้ ธ.ก.ส. บริหารจัดการความเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ให้สอดคล้องกับหลักการประกันภัย และร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการฯ รวมทั้งให้ความรู้ด้านการประกันภัยแก่เกษตรกรและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในความสำคัญของการประกันภัย ๑.๔ มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานงานกับ ธ.ก.ส. และสมาคมประกันวินาศภัยไทยดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลเอกสารทะเบียนเกษตรกร แบบประมวลรวบรวมความเสียหายและการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย (แบบ กษ ๐๒) และแบบรายงานข้อมูลความเสียหายจริงของเกษตรกร (แบบ กษ ๐๒ เพื่อการประกันภัย) ตลอดจนดำเนินการเพื่อให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เพื่อรองรับการเพิ่มพื้นที่เป้าหมาย และรองรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น พร้อมทั้งให้กรมส่งเสริมการเกษตรเก็บข้อมูลพื้นที่ประสบภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑.๕ มอบหมายให้สมาคมประกันวินาศภัยไทยพิจารณากำหนดรูปแบบการประเมินความเสียหายแก่เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายแต่มิได้อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ ร่วมกับ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ๑.๖ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีให้เป็นไปตามรูปแบบและหลักเกณฑ์ของการรับประกันภัยของโครงการฯ ปีการผลิต ๒๕๖๓ รวมทั้งอนุมัติกรมธรรม์และอัตราเบี้ยประกันภัยให้แล้วเสร็จและสามารถเริ่มรับประกันภัยในปีการผลิต ๒๕๖๓ ได้ทันทีภายหลังคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบโครงการฯ ปีการผลิต ๒๕๖๓ และดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนประชาสัมพันธ์โครงการฯ ปีการผลิต ๒๕๖๓ ในภาพรวมและเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒. ให้กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรมีการหารือเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของกรอบวงเงินในการดำเนินการ ซึ่งจะต้องไม่เกินสัดส่วนตามประกาศของคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และควรมีการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการฯ รวมทั้งการศึกษาต้นทุนการประกันภัยที่สะท้อนความเสี่ยงจริง ตลอดจนการพิจารณานำข้อมูลความเสี่ยงภาคเกษตรอื่น ๆ อาทิ ข้อมูลสภาพอากาศ ข้อมูลความเสี่ยงการเกิดภัยแล้งและน้ำท่วม มาใช้ประกอบการคิดอัตราเบี้ยประกันภัยและการพัฒนาระบบการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างยั่งยืนไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ในการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปีในปีต่อไป ให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ๓.๑ ให้พิจารณาปรับปรุงแนวทางการดำเนินโครงการฯ ทั้งในส่วนของการรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) และการรับประกันภัยภาคสมัครใจ (Tier 2) รวมถึงการส่งเสริมให้ ธ.ก.ส. ร่วมจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นตามความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ และการประเมินและศึกษาแนวทางการปรับลดสัดส่วนการอุดหนุนของภาครัฐในการจ่ายเบี้ยประกันภัยตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๓.๒ ให้เร่งดำเนินการนำเสนอโครงการฯ ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว ก่อนเริ่มฤดูกาลเพาะปลูก เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการฯ อย่างทั่วถึงและได้รับการคุ้มครองตลอดระยะเวลาการเพาะปลูกข้าวนาปีทั้งฤดูการผลิต ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ และ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๑ (เรื่อง โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๐ และเรื่อง โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๑)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11009 | ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 5 และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน - ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 ร่างขอบเขตหน้าที่ (TOR) ของรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน รัฐมนตรีกีฬาอาเซียน - ญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่อาวุโสกีฬาอาเซียนและเจ้าหน้าที่อาวุโสกีฬาอาเซียน - ญี่ปุ่น | กก | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ ๕ และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๒ พร้อมทั้งร่างขอบเขตหน้าที่ (TOR) ขององค์กรเฉพาะสาขาภายใต้รัฐมนตรีกีฬาอาเซียน จำนวน ๔ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างขอบเขตหน้าที่ของรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน (๒) ร่างขอบเขตหน้าที่ของรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น (๓) ร่างขอบเขตหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อาวุโสสาขากีฬาอาเซียน และ (๔) ร่างขอบเขตหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อาวุโสสาขากีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น ๑.๒ อนุมัติให้รับรองเอกสารต่าง ๆ ดังกล่าวร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนถ้อยคำในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง ๒. ในโอกาสต่อไปให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๘ ที่ให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติว่าในกรณีการเข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี ทุกส่วนราชการต้องเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีก่อนการตอบรับเข้าร่วมประชุมอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11010 | รายงานผลการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค ของกระทรวงศึกษาธิการ | กค | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นและเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค ของกระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน ๙,๔๓๔ ล้านเยน ทั้งนี้ รายละเอียดหนังสือแลกเปลี่ยนฯ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง และสัญญาเงินกู้ฯ มีสาระสำคัญและเงื่อนไขเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ มีนาคม ๒๕๖๓) อนุมัติทุกประการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11011 | โครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ฤดูการผลิตปี 2562/2563 | อก | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11012 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11013 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาเกี่ยวกับการประมูลงานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) | ปช | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาเกี่ยวกับการประมูลงานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้แก่ (๑) รัฐบาลควรส่งเสริมให้มีการดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่หลากหลาย โดยเฉพาะร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Downtown Duty Free) (๒) รัฐบาลควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางที่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดอากรในเมืองและนำสินค้าดังกล่าวติดตัวไปได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปรับสินค้า ณ จุดส่งมอบสินค้าในสนามบิน และ (๓) รัฐบาลควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนจากการจำหน่ายสินค้าจากร้านค้าปลอดอากรในเมืองให้เหมาะสมเช่นเดียวกับร้านค้าปลอดอากรในท่าอากาศยาน โดยอาจพิจารณาให้กระทรวงการคลังหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บส่วนแบ่งผลประโยชน์ดังกล่าว ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม พิจารณาการเปิดโอกาสให้การประกอบกิจการจุดส่งมอบสินค้า (Pick up counter) มีผู้ประกอบการมากกว่า ๑ ราย หรือให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Downtown Duty Free) สามารถนำสินค้าดังกล่าวติดตัวไปได้ ซึ่งจะเป็นการป้องกันการผูกขาดและการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรายเดียว ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันตามกลไกตลาด รวมถึงการกำหนดค่าตอบแทนหรือส่วนแบ่งรายได้ที่ภาครัฐพึงได้รับกรณีมีการประกอบกิจการจุดส่งมอบสินค้า (Pick up counter) และการประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Downtown Duty Free) โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของภาครัฐเป็นสำคัญ และ (๒) ทอท.พิจารณาจัดทำแนวทางหรือมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันการทุจริตจากการให้สิทธิการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) และการประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานในความดูแลของ ทอท. และส่งเสริมให้การให้สิทธิประกอบกิจการดังกล่าวมีความโปร่งใส เท่าเทียมกัน และตรวจสอบได้ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11014 | โครงการจัดทำระบบบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น | อว | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11015 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการประปานครหลวง (รวม 5 คน) | มท | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11016 | รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 (ไตรมาสที่ 2) | นร07 | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ไตรมาสที่ ๒) ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดดำเนินการตามแผนงาน โครงการในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ในภาพรวมเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามรายไตรมาส ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11017 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า | สขค | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จากกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่สำนักงบประมาณพิจารณาและจัดสรร จำนวน ๒๑๐.๗๓๖๕ ล้านบาท คงเหลือกรอบวงเงินภายหลังการพิจารณาปรับลด จำนวน ๑๙๖.๗๗๓๒ ล้านบาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11018 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | สว | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จำนวน ๖๐,๒๗๑,๔๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11019 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | พป | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสถาบันพระปกเกล้า จำนวน ๒๐,๙๖๘,๑๖๓ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สถาบันพระปกเกล้าได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11020 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ | ศร | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน ๔๐,๖๕๐,๖๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....