ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 552 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 11021 - 11040 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11021 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสำนักงานศาลยุติธรรม | ศย | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน ๑๕๗,๘๖๖,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11022 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงานศาลปกครอง เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | ศป | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๒๘,๗๓๒,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานศาลปกครองได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11023 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | ลต | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๓๓,๘๐๖,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11024 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ผผ | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๒๓,๐๗๙,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11025 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | ปช | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จำนวน ๑๖๖,๗๒๕,๖๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11026 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร | สผ | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๒๙๘,๕๑๖,๘๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11027 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | ตผ | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๗๐,๒๗๓,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11028 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | สม | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๑๐,๕๕๖,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11029 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | อส | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๔๑,๗๑๖,๕๐๐ บาท ทั้งนี้ ขอให้ส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11030 | การเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนเพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 | ศธ | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนเพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยกระทรวงศึกษาธิการจะกำหนดปฏิทินเกี่ยวกับการรับนักเรียนทั้งในและนอกระบบ ระดับก่อนประถมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และการศึกษานอกระบบ (กศน.) เช่น กำหนดช่วงเวลาการรับสมัครนักเรียนใหม่ การสอบคัดเลือก และการมอบตัวนักเรียน เป็นต้น ตลอดจนการปฐมนิเทศ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง นักเรียน และเตรียมความพร้อมครูผู้สอน ให้สามารถสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนในระบบทางไกลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนในวันเวลาดังกล่าว ทั้งการวางแผนการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในกรณีที่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ โดยสถานศึกษาจะต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบการเรียนทางไกล เช่น DLTV, Learning Management System (LMS) เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงการเรียนการสอนได้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยจะดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11031 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่ ..) | ตช | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและการแจ้งที่พักอาศัยสำหรับคนต่างด้าว ตามข้อ ๒ (๑) และ (๒) แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ลงวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จากเดิมที่จะสิ้นสุดระยะเวลาอนุญาตในวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยให้ขยายระยะเวลาออกไปเป็นตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อการเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร รวมทั้งการอยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวบางจำพวกอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ยังไม่คลี่คลาย ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11032 | ขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน - ญี่ปุ่นว่าด้วยข้อริเริ่มด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) | พณ | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่นว่าด้วยข้อริเริ่มด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-๑๙) ซึ่งเป็นเอกสารที่จะมีการรับรองโดยไม่มีการลงนามโดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ โดยเรียกร้องให้มีความพยายามร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น เพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ ๓ ประการ ได้แก่ การรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอันใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น การบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-๑๙ และการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11033 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ 2) | สธ | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๒) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๒) มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ๑.๒ กำหนดให้บัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๒) เป็นบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] ๑.๓ เพิ่มเติมรายการบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] รวมทั้งสิ้น ๓,๐๐๕ รายการ รายละเอียด ดังนี้ ๑.๓.๑ หมวด ๓ ค่ายา จำนวน ๒,๖๐๖ รายการ ๑.๓.๒ หมวด ๕ ค่าเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา (ฉบับที่ ๒) จำนวน ๓๙๙ รายการ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข อัตราที่กำหนด และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน พร้อมกับดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายของกระทรวงการคลังด้วยไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11034 | อัตราการชดเชยความเสียหายให้สถาบันการเงินตามมาตรา 11 ของพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนออัตราการชดเชยความเสียหายให้สถาบันการเงินตามมาตรา ๑๑ ของพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Specialized Financial Institutions : SFIs) ได้รับชดเชยความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติมตามที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดฯ ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ซึ่งไม่น้อยกว่า ๑.๑ ร้อยละ ๗๐ ของจำนวนเงินที่ธนาคารพาณิชย์ และ SFIs ต้องกันสำรองเพิ่มเติมจากยอดหนี้รวมของลูกหนี้คูณด้วยอัตราส่วนของยอดหนี้ใหม่ตามพระราชกำหนดนี้กับยอดหนี้รวม สำหรับผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑.๒ ร้อยละ ๖๐ ของจำนวนเงินที่ธนาคารพาณิชย์ และ SFIs ต้องกันสำรองเพิ่มเติมจากยอดหนี้รวมของลูกหนี้คูณด้วยอัตราส่วนของยอดหนี้ใหม่ตามพระราชกำหนดนี้กับยอดหนี้รวม สำหรับผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีวงเงินสินเชื่อเกิน ๕๐ ล้านบาท ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11035 | ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ครั้งที่ 2 | กค | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้ขยายจำนวนผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ให้ครอบคลุมทั่วถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) จากเดิมจำนวน ๙ ล้านคน เป็น ๑๔ ล้านคน และขยายกรอบวงเงินสำหรับใช้ในการดำเนินโครงการจากเดิม จำนวน ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท เป็น จำนวน ๒๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน * ๓ เดือน * ๑๔ ล้านคน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับแหล่งที่มาของงบประมาณในการดำเนินมาตรการฯ ให้กระทรวงการคลังขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิ์มิให้มีความซ้ำซ้อนในการได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการความช่วยเหลืออื่น ๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) และพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบที่สมควรได้รับความช่วยเหลืออย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ได้รับผลกระทบทางตรงจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว และผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการการปิดสถานประกอบการของภาครัฐ รวมทั้งพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในแต่ละกลุ่มหรือแต่ละพื้นที่ ให้สอดคล้องกับระยะเวลาการประกาศปิดสถานประกอบการในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือไปยังกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง และดำเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11036 | แนวทางดำเนินการและวิธีปฏิบัติในการใช้เงินทุนสำรองจ่าย ตามมาตรา 45 ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางดำเนินการและวิธีปฏิบัติในการใช้เงินทุนสำรองจ่าย ตามมาตรา ๔๕ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11037 | รายงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประจำปี 2562 และรายงานของผู้สอบบัญชี และรายงานการเงินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2562) (รายงานของผู้สอบบัญชี และรายงานการเงินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน) | ผผ | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11038 | การโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร07 | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11039 | รายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2562 | พม | 15/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี ๒๕๖๒ โดยมีสาระสำคัญ เช่น การจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ทั้งระบบ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๕๓ รวม ๓,๘๐๖.๘๒ ล้านบาท จากปี ๒๕๖๑ ที่มีจำนวน ๓,๖๔๑.๙๘ ล้านบาท การดำเนินคดีชั้นพนักงานสอบสวน ๒๘๘ คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน ๓๙ คดี สอบสวนเสร็จสิ้น ๒๔๙ คดี การใช้มาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทำให้จำนวนเจ้าหน้าที่ดังกล่าวลดลงอย่างชัดเจน การคุ้มครองและเยียวยาผู้เสียหาย การจัดทำแอปพลิเคชัน (Mobile Application) ชื่อ “PROTECT-U” เพื่อเพิ่มช่องทางสำหรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ให้เข้าถึงบริการช่วยเหลือคุ้มครอง และการเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
11040 | ขอความเห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | พน | 15/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำหน่ายที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีไฟฟ้าย่อยเชียงใหม่ ๒ (บางส่วน) ของ กฟผ. แปลงโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๔ ท้องที่ตำบลป่าตัน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ประมาณ ๐-๓-๓๐ ไร่ ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในราคาที่ดิน ตารางวาละ ๕๗,๐๐๐ บาท เป็นเงินประมาณ ๑๘,๘๑๐,๐๐๐ บาท หรือตามเนื้อที่ที่อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงหลังจากทำการรังวัดแบ่งแยกโฉนดที่ดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ราคาสิ่งปลูกสร้างเป็นเงิน ๘๓๓,๕๓๐ บาท ค่าจ้างบริษัทเอกชนประเมินมูลค่าที่ดินเป็นเงิน ๓๗,๙๘๕ บาท และค่าดำเนินการเป็นเงินประมาณ ๓,๙๓๖,๓๐๓ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ ๒๓,๖๑๗,๘๑๘ บาท โดยมีเงื่อนไขว่า กฟภ. ต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในแปลงที่ดินที่จะขาย ค่าอากรแสตมป์ ค่าภาษีเงินได้ ค่าภาษีส่วนท้องถิ่น ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เองทั้งสิ้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
.....