ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 199 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 3961 - 3980 จากข้อมูลทั้งหมด 124248 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3961 | การกำหนดให้การจัดการขยะเป็นวาระเร่งด่วน | นร. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากปัญหาขยะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนจำเป็นจะต้องร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ให้สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
จึงเห็นควรดำเนินการ ดังนี้ ๑. ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเป็นหน่วยงานนำร่องในการดำเนินการบริหารจัดการขยะภายในหน่วยงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีความต่อเนื่อง
โดยให้ดำเนินการให้ครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่ในระดับต้นทาง เน้นการลดปริมาณขยะ (Reduce) การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ระดับกลางทาง
เน้นการส่งเสริมให้มีการแยกขยะเพื่อให้สามารถนำขยะกลับมาใช้ซ้ำหรือใช้ใหม่
และนำขยะเข้าสู่กระบวนการกำจัดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และระดับปลายทาง
มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีภารกิจจัดการขยะเร่งดำเนินการกำจัดขยะที่มีอยู่ให้หมดไปและไม่เกิดการตกค้าง
รวมทั้งให้จัดหาพื้นที่กำจัดขยะที่ถูกสุขลักษณะ
โดยใช้วิธีการกำจัดขยะที่เหมาะสมกับขยะแต่ละประเภทตามหลักวิชาการและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณากำหนดแนวทางการลดปริมาณขยะของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้ชัดเจน
เหมาะสม เช่น การลดการใช้ขวดและถุงพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติกต่าง ๆ
แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3962 | โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) | คค. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบหลักการโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง
เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์)
และให้กระทรวงคมนาคมรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนต่างประเทศ (Road Show) ในการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อนำมาประกอบในการจัดทำร่างเอกสารเชิญชวนผู้ลงทุนในการร่วมลงทุนโครงการ
(RFP) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ที่เห็นว่าในการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้
เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน
กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหลีกเลี่ยงการใช้พื้นที่ป่าเพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดระนองที่มีพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์และมีพื้นที่สงวนชีวมณฑลระนอง
(Ranong Biosphere Reserve) ตั้งอยู่
รวมทั้งมีพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างดำเนินการตามกระบวนการเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ทั้งนี้
ให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3963 | ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงคมนาคม
(การรถไฟแห่งประเทศไทย) ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในกรอบวงเงิน ๒๙,๗๔๘ ล้านบาท และให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
พิจารณาทบทวนความเหมาะสมของรายการก่อสร้าง/ปรับปรุงต่าง ๆ
ของโครงการตามความเห็นของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ชัดเจน
เหมาะสมก่อนดำเนินโครงการต่อไป สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ในส่วนของแหล่งเงินในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ เช่น ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการฯ อย่างเคร่งครัด และหากมีการดำเนินการใด
ๆ ในเขตพื้นที่ป่าไม้ ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
กำหนดเงื่อนไขเพื่อให้การลงทุนโครงการฯ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะสามารถลงนามผูกพันสัญญาก่อสร้างลงนามโครงการฯ
ได้ภายหลังจากที่กระทรวงคมนาคมมีความชัดเจนในประเด็น เช่น (๑)
แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก
เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางและขนส่งสินค้าทางรางจากโครงการรถไฟภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในช่วง
๑๐ ปีข้างหน้า (๒) การเตรียมความพร้อมของกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ
และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน
และการอำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งสินค้าทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างประเทศ กรณีปัญหาข้อร้องเรียนของชาวจังหวัดอุดรธานีที่ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินโครงการการยกระดับรถไฟทางคู่บริเวณสี่แยกบ้านจั่น
จุดตัด ทล. ๒๑๖ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมกันพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและผู้มีส่วนได้และส่วนเสียน้อยที่สุด
โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงเศรษฐกิจในภาพรวมเป็นสำคัญ
และเมื่อได้ข้อยุติแล้วให้ทุกภาคส่วนเร่งดำเนินการภายใต้กฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอนโดยเร็ว
เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินโครงการ
และการรถไฟแห่งประเทศไทยควรมีการบริหารความเสี่ยงของโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงรายงานผลการดำเนินงานให้กระทรวงคมนาคมทราบเป็นระยะ ๆ เพื่อให้การกำกับดูแลและติดตามผลประเมินผลการดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่
ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3964 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (1. นายพงศกร อรรณนพพร ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | นร.04 | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๓ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายพงศกร อรรณนพพร ๒. นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ๓. นายนิยม เติมศรีสุข
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3965 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายชวรัชต์ อุรัสยะนันทน์) | กต. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายชวรัชต์ อุรัสยะนันทน์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
(นายจักรพงษ์ แสงมณี)]
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3966 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (1. นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | นร.04 | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๕ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ๒. นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ๓. นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ๔. ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ๕.นางสาวศิรินันท์ ศิริพานิช
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3967 | ขออนุมัติปรับเพิ่มราคาน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโคนม | กษ. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรโคนม
โดยปรับเพิ่มราคารับซื้อน้ำนมโคเป็น
๒๒.๗๕ บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่กระทรวงพาณิชย์อนุญาตให้ผู้ประกอบการนมพาณิชย์ปรับราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมในตลาดนมพาณิชย์ได้
โดยให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาการปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นม (นมพาณิชย์) ให้เหมาะสม
สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้ประกอบการ
ตามมติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์ นม ในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๔
มีนาคม ๒๕๖๖ กรณีโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน โดยคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน และให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พิจารณาทบทวนแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรโคนมให้เหมาะสมและตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้เลี้ยงโคนมรายย่อย
รวมทั้งการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมโคให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมด้วย และให้เร่งดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมปศุสัตว์และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์
เช่น ควรพิจารณาให้มีผลในปีงบประมาณถัดไป เนื่องจากอาจส่งผลให้มีการปรับเพิ่มราคากลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม
โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ซึ่งเกิดจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
และส่งผลกระทบต่องบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและหน่วยรับงบประมาณ
(องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร เทศบาลเมือง กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา) ที่ได้รับการจัดสรร
สำหรับใช้ในการดำเนินการตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ไม่เพียงพอ ดังนั้น
ควรให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว อีกทางหนึ่ง ควรมีการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์นมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
กระทรวงสาธารณสุข กำหนดเพื่อให้นักเรียนได้บริโภคอาหารเสริม (นม) โรงเรียน
ที่มีคุณภาพ ควรพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านปริมาณน้ำนมดิบ
นอกเหนือจากการปรับราคาด้วย เช่น การลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร
การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการเลี้ยงโคนม
และการสนับสนุนให้มีผลิตภัณฑ์นมที่หลากหลายเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3968 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายนฤชา ฤชุพันธุ์) | นร.13 | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนฤชา ฤชุพันธุ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมเกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3969 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช ฯลฯ จำนวน 6 ราย) | พน. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ ๑. นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสมภพ พัฒนอริยางกูล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายวรากร พรหโมบล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ๔. นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ๕. นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3970 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสมชาย มรกตศรีวรรณ และนางโสภา เกียรตินิรชา) | รง. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากผู้ครองตำแหน่งเดิมได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงานและเกษียณอายุราชการ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ๑. นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3971 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายเฉลิมศักดิ์ เลิศวงศ์เสถียร) | กค. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเฉลิมศักดิ์
เลิศวงศ์เสถียร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (วิชาการคอมพิวเตอร์)
ระดับสูง] ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นักวิชาการคอมพิวเตอร์ทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3972 | รายงานผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของรองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม
เวชยชัย) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์
เพื่อเข้าร่วมและกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (CAEXPO) ครั้งที่ ๒๐ ณ
นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ กันยายน ๒๕๖๖
ซึ่งมีสาระสำคัญ เช่น (๑) รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม
เวชยชัย) ได้เข้าพบหารือกับประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงาน CAEXPO ครั้งที่
๒๐ และได้เยี่ยมชมคูหานิทรรศการเมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) ศูนย์รวบรวมสินค้าดีเด่นจีน-อาเซียน CAMEX รวมทั้งได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวของจีน
และ (๒) กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอแนวทางการดำเนินงานต่อไป
โดยเห็นควรสนับสนุนการเข้าร่วมจัดงาน CAEXPO อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งประชาสัมพันธ์และผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากศูนย์ CAMEX
และได้ตั้งข้อสังเกตว่า
จีนอยู่ระหว่างผลักดันการเปิดกว้างของระบบเศรษฐกิจ
ซึ่งคาดว่าเป็นกลยุทธหนึ่งที่จีนใช้ในการรับมือสถานการณ์ความตึงเครียดจากกรณีสงครามการค้า/เทคโนโลยีกับสหรัฐอเมริกา
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นควรแจ้งประเด็นดังกล่าวเพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและเตรียมการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3973 | การชี้แจงขั้นตอนและรายงานผลการดำเนินการฯ เสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับสถานที่เก็บรักษาน้ำมันภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 | พน. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3974 | รายงานประจำปีผลการดำเนินงานคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน ชุดที่ 4 ปีที่ 1 | รง. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีผลการดำเนินงานคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน
ชุดที่ ๔ ปี่ที่ ๑ (๔ ตุลาคม ๒๕๖๔-๓ ตุลาคม ๒๕๖๕) โดยมีสาระสำคัญได้แก่ (๑)
การประชุมคณะกรรมการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ เช่น การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการฯ
ชุดที่ ๔ และความคืบหน้า (ร่าง)
พระราชบัญญัติการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. ....
(๒) การพัฒนากลไกในการพัฒนาคุ้มครองงานที่รับไปทำที่บ้าน เช่น
การตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน
และคณะอนุกรรมการด้านยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนนโยบายการการรับงานไปทำที่บ้าน และ
(๓) การส่งเสริมและพัฒนาผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยดำเนินกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เช่น
โครงการสร้างเครืองข่ายการคุ้มครองแรงงานนอกระบบในสังคมสูงวัย (๖๐ ปีขึ้นไป)
และกิจกรรมตรวจแรงงานนอกระบบ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3975 | มาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดง
๒๐ บาท เฉพาะสายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์-ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต)
ต่อ ๑ เที่ยวการเดินทาง (เริ่มต้นเมื่อระบบมีความพร้อม จนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน
๒๕๖๗) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒.
รับทราบแนวทางการดำเนินมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง)
สูงสุด ๒๐ บาท ตามนโยบายรัฐบาล (เริ่มต้นเมื่อระบบมีความพร้อม จนถึงวันที่ ๓๐
พฤศจิกายน ๒๕๖๗) ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓.
ให้กระทรวงคมนาคมประเมินผลการดำเนินมาตรการตามข้อ ๑ และ ๒ เป็นรายปี
เพื่อนำผลการประเมินมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงแนวทางมาตรการดังกล่าวในปีต่อไป
ทั้งนี้ ให้นำความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในส่วนที่เกี่ยวกับการประเมินผลไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3976 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่ 1/2566 | นร.01 | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๖
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่องตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา
ซึ่งประเด็นปัญหาส่วนใหญ่ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นแล้ว
โดยมีหลายกรณีเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาดำเนินการในระดับนโยบาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้ความเห็นประกอบการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาตามหน้าที่และอำนาจ
โดยละเอียดรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวม ข้อมูล ข้อเท็จจริงในการแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายกรณีปัญหาความเดือดร้อนของขบวนการประชาชนที่อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
โดยประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน
ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
หากปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่องจนได้ข้อยุติ
อาจเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
และทำให้กลุ่มประชาชนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินมีจำนวนที่สูงขึ้น
และนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย
เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยความเรียบร้อย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3977 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | กต. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชานจีน (Memorandum of Understanding on Deepening Cooperation
between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the
Ministry of Foreign Affairs of the People’s Republic of China) และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีสาระสำคัญเป็นการตกลงกันที่จะรื้อฟื้นกลไกการหารือระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายเป็นประจำทุกปี
เพื่อกำหนดทิศทางด้านนโยบายในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย-จีน
และกระชับความร่วมมือในประเด็นระหว่างประเทศและภูมิภาคที่มีความสนใจร่วมกัน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3978 | ขอความเห็นชอบต่อข้อริเริ่มปักกิ่งเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสายแถบและเส้นทาง | ทส. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบข้อริเริ่มปักกิ่งเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสายแถบและเส้นทาง
(Beijing Initiative on Belt and Road Green
Development) และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนามในหนังสือแจ้งร่วมให้การสนับสนุน
(co-sponsor) ต่อข้อริเริ่มฯ โดยข้อริเริ่มฯ มีสาระสำคัญเพื่อระลึกถึงคำมั่นระดับโลกทั้งในเรื่องวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน
ค.ศ. ๒๐๓๐ การดำเนินงานตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)
และความตกลงปารีส
ตลอดจนอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและกรอบงานความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
(GBF) รวมถึงให้ความสำคัญกับประเทศกำลังพัฒนาที่ควรได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอทั้งกองทุน
และการเพิ่มขีดความสามารถเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายระดับโลก
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อริเริ่มฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3979 | แนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้เป็นแนวทางประกอบการวางแผนการดำเนินงานและกำหนดแผนปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาล
ตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑
และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตลอดจนมติคณะรัฐมนตรีและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3980 | การให้ความเห็นชอบและร่วมรับรองเอกสารข้อริเริ่มว่าด้วยกรอบความร่วมมือด้านการค้าระหว่างประเทศและความร่วมมือทางเศรษฐกิจสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาสีเขียว | พณ. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสารข้อริเริ่มว่าด้วยกรอบความร่วมมือด้านการค้าระหว่างประเทศและความร่วมมือทางเศรษฐกิจสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาสีเขียว
(Initiative on International Trade and
Economic Cooperation Framework for Digital Economy and Green Development) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ
หรือโดยมีหนังสือแจ้งฝ่ายจีนเพื่อร่วมรับรองร่างเอกสารดังกล่าว
โดยร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ เป็นเอกสารผลลัพธ์ที่จะมีการให้ความเห็นชอบและรับรองในระหว่างการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง
(Belt and Road Forum for International Cooperation : BRF) ครั้งที่
๓ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ ณ กรุงปักกิ่ง
สาธารณรัฐประชาชนจีน มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของผู้เข้าร่วมในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าดิจิทัลและเศรษฐกิจ
การพัฒนาสีเขียว การสร้างขีดความสามารถ
ตลอดจนกำหนดแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศในอนาคต
ควรมอบหมายให้คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๗๒/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๖
รับไปพิจารณาดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้
กระทรวงพาณิชย์อาจเสนอให้มีการหารือเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมประเด็นภายใต้ร่างเอกสารฯ
ได้แก่ การเสริมสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
และการส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการกำจัดกากของเสีย
รวมถึงการลงทุนอุตสาหกรรมการกำจัดซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|