ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 191 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 3801 - 3820 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3801 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | อว. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมนำเสนอรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๕ โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒๔,๐๓๒,๓๐๔,๙๐๐ บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณพ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยรับงบประมาณจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการ จำนวน ๕
โครงการ ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าสิ่งก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า และประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย
ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ และดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการมีการจัดทำแผนการบริหารจัดการโครงการที่ครอบคลุมแผนการบริหารจัดการกำลังคนที่คำนึงกำลังการผลิตและความต้องการในภาพรวมของประเทศ
แผนการบริหารความเสี่ยงของโครงการ การติดตามประเมินผล
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือและการบริหารจัดการทรัพยากร
การจัดบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3802 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พื้นที่โซน C | กค. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป
โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
พื้นที่โซน C เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารให้กับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด
เป็นเวลา ๓๐ ปี ในอัตราค่าเช่า ๓๙๐ บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน หรือปีละ ๒,๓๘๖,๘๐๐,๐๐๐ บาท และปรับปรุงอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ
๗ ของอัตราค่าเช่าเดิมทุก ๓ ปี รวม ๓๐ ปี วงเงินรวมทั้งสิ้น ๙๘,๙๓๑,๒๙๓,๙๘๒ บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามนัยมาตรา ๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3803 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2566) | ปสส. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่
๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๙ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๖
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๐
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๖
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3804 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข (โครงการศูนย์การแพทย์เพื่อตอบโต้โรคอุบัติใหม่แห่งชาติบำราศนราดูร) | สธ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุข
โดยกรมควบคุมโรคนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป
โครงการศูนย์การแพทย์เพื่อตอบโต้โรคอุบัติใหม่แห่งชาติบำราศนราดูร (National
Center for Emerging and Infectious Diseases : NCEID) วงเงินทั้งสิ้น ๒,๒๒๙,๘๔๓,๐๐๐ บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน
๔๔๕,๙๖๘,๖๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจำนวน ๑,๗๘๓,๘๗๔,๔๐๐ บาท
ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๐ ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กรมควบคุมโรคจัดทำแผนการดำเนินการ
และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ
รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความประหยัด
ความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพ และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมรายละเอียดของกิจกรรมและวงเงินภายใต้แผนการดำเนินการให้ชัดเจน
รวมทั้งควรจัดทำแผนความต้องการครุภัณฑ์เทคโนโลยีทางการแพทย์
และประเภทของบุคลากรเฉพาะทางที่สอดคล้องกับรูปแบบการให้บริการของโครงการที่มุ่งเน้นการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อ
โรคอุบัติใหม่ และโรคติดต่อสำคัญ เพื่อให้สะท้อนถึงภาพรวมความพร้อมและกรอบวงเงินรวมของทั้งโครงการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3805 | ขออนุมัติการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาท จำนวน ๕ โครงการ ๗
รายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๓,๘๓๔,๒๕๓,๔๐๐ บาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
จำนวน ๒,๗๖๖,๘๕๐,๗๐๐
บาท และผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-พ.ศ. ๒๕๗๐ อีกจำนวน ๑๑,๐๖๗,๔๐๒,๗๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ให้จัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการและรายการดังกล่าว
โดยมีความพร้อมในเรื่องพื้นที่/สถานที่ที่จะดำเนินการ รายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าก่อสร้าง และการกำหนดแบบรูปรายการก่อสร้างให้มีความเหมาะสม
รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ ตลอดจนสถานะการเงินการคลังของประเทศ
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กรมชลประทานปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของโครงการให้สอดคล้องให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
และเสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาโครงการตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3806 | การขอก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงมหาดไทย | มท. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ของ ๓ หน่วยงาน จำนวน ๔ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๑๐,๖๓๖.๒๔๓๘ ล้านบาท
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓
กันยายน ๒๕๖๖ เรื่องการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ
พร้อมแนวทางการจัดทำงบประมาณและยุทธศาสตร์ชาติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีคุณลักษณะเฉพาะ ประมาณการหรือผลการสอบราคา รายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพ และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย การประปาส่วนภูมิภาค
และกรุงเทพมหานคร) รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน
กรุงเทพมหานคร และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง ของกรุงเทพมหานคร
และโครงโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
รวมถึงการจัดทำและจัดส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการฯ ตามมาตรา ๕๑/๕
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค
กระทรวงมหาดไทยควรควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินโครงการ
ให้เป็นไปตามมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ข้อ ๔(๑) (ก) ข้อ ๔ (๓) (ค) ข้อ ๔ (๕) (ก)
และข้อ ๖ (๖) ของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ กรณีโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียมีนบุรี
ระยะที่ ๒ ของกรุงเทพมหานคร ไม่เข้าข่ายโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ
หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3807 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี 2566 | นร.11 สศช | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๖ ได้แก่ (๑)
ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๖ เช่น สถานการณ์ด้านแรงงาน
มีผู้มีงานทำจำนวน ๓๙.๗ ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ ๑.๗
หนี้สินครัวเรือนในไตรมาสหนึ่ง ปี ๒๕๖๖ มีมูลค่า ๑๕.๙๖ ล้านล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๖ คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ ๙๐.๖ การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นจากโรคที่มากับฝน
ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้นร้อยละ
๒.๗ คดีอาญาโดยรวมลดลงร้อยละ ๑๗.๘ และการรับแจ้งอุบัติเหตุทางถนนลดลงร้อยละ ๑๒
และการร้องเรียนผ่าน สคบ. เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๓.๑ โดยเป็นเรื่องสัญญามากที่สุด
ในขณะที่การร้องเรียนผ่าน กสทช. ลดลงร้อยละ ๔๐.๕
โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่มากที่สุด (๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ
จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ การย้ายถิ่นฐานของประชากรช่วง COVID-19 ความท้าทายของตลาดแรงงาน การจัดการซากรถยนต์เมื่อรถ EV มาแทนที่รถยนต์สันดาป และ LGBTQ+ : หลากหลายที่ไม่แตกต่างเพื่อเปิดกว้างสู่ความเสมอภาคทางเพศ
และ (๓) บทความ “หนี้สินคนไทย : ภาพสะท้อนจากข้อมูลเครดิตบูโร”
สะท้อนให้เห็นว่า มีหนี้จำนวนมากที่ไม่ได้นำเข้าระบบข้อมูลเครดิตบูโร
ส่งผลให้เจ้าหนี้ไม่สามารถตรวจสอบสถานะหนี้สินและรายได้สุทธิหลังหักภาระหนี้ของลูกหนี้ได้
หนี้เสียที่เกิดจากผู้ให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนสูงกว่าหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์
กลุ่มลูกหนี้ที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ
กลุ่มวัยแรงงานตอนต้นและกลุ่มผู้สูงอายุ และหนี้สินครัวเรือนอื่น ๆ
ที่ไม่สามารถจำแนกประเภทได้อาจเป็นหนี้สินที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3808 | การจัดกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันครบรอบ 7 ปีแห่งการสวรรคต | นร. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๖
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ ครบ ๗ ปี ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสดังกล่าว
และเชิญชวนประชาชนและเอกชนทุกภาคส่วนจัดกิจกรรม/เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
ดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกันด้วย นั้น กิจกรรมหนึ่งที่สมควรเร่งดำเนินการเพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสดังกล่าวข้างต้น
คือ การให้การช่วยเหลือดูแลคนยากจน ผู้ด้อยโอกาส ที่เร่ร่อน
เป็นบุคคลจรจัดที่ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง
รวมตลอดถึงผู้ที่เคยเสพยาเสพติด และผู้ที่ไม่สมประกอบที่พักพิงอยู่ทั่วไปในพื้นที่ต่าง
ๆ เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้รับปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทั้ง
๔ ประการ (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค)
อย่างเหมาะสมและเพียงพอ รวมถึงสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
โดยให้พิจารณาจัดฝึกอาชีพและจัดหางานให้ทำตามความรู้ความสามารถหรือความถนัดที่มี
ตามที่เจ้าตัวสมัครใจเพื่อให้สามารถสร้างรายได้มาเลี้ยงตนเองได้
สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของกิจกรรมเบิกจ่ายจากงบประมาณของหน่วยงานเป็นลำดับแรก
และหากไม่สามารถปรับแผนการใช้จ่ายได้หรือมีงบประมาณไม่เพียงพอก็ให้เสนอขอใช้เงินงบกลางเพิ่มเติมได้ตามแต่กรณี
จึงขอมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ) รับเรื่องนี้ไปประสานและหารือกับกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามขั้นตอนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วและมีความยั่งยืนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3809 | การเร่งรัดการออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด | นร. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายด้านความปลอดภัยต่อรัฐสภาไว้
สรุปว่ารัฐบาลจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพล
และยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลัก “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย”
และสนับสนุนให้ผู้เสพเข้าร่วมการบำบัดรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง นั้น
เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีความชัดเจนและปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว จึงขอให้กระทรวงยุติธรรมเร่งประสานกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อจัดทำร่างกฎหมายและอนุบัญญัติต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องรองรับการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายเกี่ยวกับการครอบครองยาเสพติดของผู้เสพ/ผู้ป่วยให้แล้วเสร็จตามลำดับความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วน
แล้วเสนอตามขั้นตอนเพื่อให้มีผลใช้บังคับโดยด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3810 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ฯลฯ จำนวน 13 ราย) | กค. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๓ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ๒. นางแพตริเซีย มงคลวนิช ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง ๓. นายพชร อนันตศิลป์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ๔. นายธีรัชย์ อัตนวานิช ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร ๕. นายชาญวิทย์ นาคบุรี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายเกียรติณรงค์ วงศ์น้อย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายปิ่นสาย สุรัสวดี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายอัครุตม์ สนธยานนท์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายธิบดี วัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ๑๐. นางสาวขนิษฐา สหเมธาพัฒน์
ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒. นายธีรลักษ์ แสงสนิท ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3811 | รายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่จะเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | ตช. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๒ รายการ เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน ๑ รายการ
และจัดหารถจักรยานยนต์ พร้อมอุปกรณ์ ๑ รายการ จำนวน ๑๕,๓๓๒
คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒,๘๕๖,๔๔๒,๘๐๐ บาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
จำนวน ๔๔๖,๘๘๘,๐๐๐ บาท
และส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๒,๔๐๙,๕๕๔,๘๐๐ บาท ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-พ.ศ. ๒๕๗๑ ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำแผนการจัดหาครุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทด้านความมั่นคง
แผนการปฏิบัติงาน แผนการซ่อมบำรุง และยืนยันความพร้อมของรายการดังกล่าว
โดยกำหนดวัตถุประสงค์และสาระสำคัญของรายการ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ประมาณการราคาหรือผลการสอบราคา สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการให้ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณา
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้พิจารณาถึงความเหมะสม จำเป็น
เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3812 | ขอยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สถาบันพระปกเกล้า) | พป. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสถาบันพระปกเกล้า จำนวน ๖๗๐,๕๘๑,๑๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สถาบันพระปกเกล้ารับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3813 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | ตผ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
จำนวน ๓,๘๒๐,๙๗๔,๑๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์
แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณและรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา
๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อสำนักงบประมาณจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3814 | ขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงยุติธรรม | ยธ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐.
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๓ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๕,๐๐๔,๑๗๘,๒๐๐ บาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๑,๐๐๐,๘๓๕,๙๐๐ บาท ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-พ.ศ. ๒๕๖๙ จำนวน ๔,๐๐๓,๓๔๓,๓๐๐ บาท ตามนัยมาตรา
๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ขอให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการก่อสร้างเรือนจำ
จำนวน ๓ โครงการ ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ สถานะการเงินการคลังของประเทศ
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น ตามวงเงินงบประมาณประจำปีต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3815 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน (กรณีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่าย) วงเงิน 18,000 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | คค. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้เงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓๙ (๔)
โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดตามความเหมาะสม
โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะดำเนินการกู้เงินภายหลังจากวงเงินกู้ได้รับการบรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่ผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
สำหรับการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการกู้เงิน
ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับเงินกู้เพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ วงเงิน ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง (หนังสือกระทรวงการคลัง
ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๙๐๔/๑๑๓๒๔ ลงวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๖) สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ
ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๙/๑๔๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๖)
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๒๔/๔๗๘๔
ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖) เช่น
ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรของการรถไฟแห่งประเทศไทย
โดยเฉพาะการเร่งดำเนินการของบริษัท บริหารสินทรัพย์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ โดยให้กระทรวงคมนาคมกำกับ
ติดตาม
และเร่งรัดให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาองค์กรให้เห็นผลชัดเจนเป็นรูปธรรมตามแผนที่กำหนดโดยเร็ว
การรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทยจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และระเบียบคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะว่าด้วยหลักเกณฑ์การบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ สมควรที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะได้เร่งการฟื้นฟูสถานะโดยเร็วด้วย
และให้การรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาใช้จ่ายจากเงินกู้ดังกล่าวตามจำนวนและช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เป็นภาระทางการเงินเกินความจำเป็น
และเร่งทำการตลาดเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้มากขึ้น
ทั้งทางด้านการขนส่งสินค้าและการโดยสารซึ่งรวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3816 | การปรับปรุงคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) | ปช. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น
๕,๐๐๐,๕๑๐,๐๐๐ บาท
จำแนกเป็นงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จำนวน
๔,๘๐๐,๕๑๐,๐๐๐ บาท
และงบประมาณของกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จำนวน ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3817 | การปรับปรุงคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) | สม. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
จำนวน ๓๙๙,๓๒๘,๖๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3818 | การกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ | นร. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๑๓ กันยายน ๒๕๖๖) มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
(นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว
(Visa Free)
สำหรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐคาซัคสถานเป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว
เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขและขั้นตอนการเข้าประเทศสำหรับผู้ที่เข้ามาจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ
นั้น
การขยายเวลาการเปิดสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยวได้ในบางพื้นที่ตามความเหมาะสมจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องต่อไปในช่วงฤดูการท่องเที่ยว
(High Season) ซึ่งจะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
ผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยรับเรื่องนี้ไปหารือในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข
กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งนี้
ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เหมาะสม
เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3819 | การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ) | ศร. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน ๔๕๓,๙๙๗,๘๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3820 | การดูแล แก้ไขปัญหา และให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย | นร. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านในพื้นที่ตอนบนของประเทศตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดปัญหาอุทกภัยขึ้นในหลายจังหวัด
เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แพร่ ตาก สุโขทัย กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี เป็นต้น ส่งผลกระทบให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน
ทั้งการดำรงชีวิต ทรัพย์สินและที่อยู่อาศัยเสียหายเป็นจำนวนมาก
จึงขอกำชับให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเร่งบูรณาการการดำเนินการให้การช่วยเหลือ
เยียวยา รวมทั้งลงพื้นที่เพื่อดูแลและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายได้รับความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
ทั่วถึง ทันการณ์ ตรงตามสภาพปัญหา ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาของพื้นที่ในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเดียวกันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
|