ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 200 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 3981 - 4000 จากข้อมูลทั้งหมด 124248 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3981 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายธานินทร์ ริรัตนพงษ์ ฯลฯ จำนวน 6 ราย) | คค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๖ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. นายธานินทร์ ริรัตนพงษ์ ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา
(ด้านวางแผนและวาง โครงการก่อสร้าง)
(วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวง ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์
๒๕๖๖ ๒. นายสมบูรณ์ แก้วลมัย ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา
(ด้านบำรุงรักษา)
(วิศวกร โยธา ทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๖ ๓. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา
(ด้านควบคุมการก่อสร้าง) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ)
กรมทางหลวง ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖ ๔. นายเริงศักดิ์ ทองสม ดำรงตำแหน่งนักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๖ ๕. นายสำราญ สวัสดิ์พูน ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา
(ด้านบำรุงรักษาทางและ สะพาน)
(วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวงชนบท ตั้งแต่วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3982 | รัฐบาลสาธารณรัฐซูรินามขอปรับเขตอาณาให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูรินามประจำสาธารณรัฐอินเดียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย | กต. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูรินามประจำสาธารณรัฐอินเดียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3983 | รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (นายพัก ยงมิน) | กต. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ นายพัก ยงมิน (Mr. Park Yongmin) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายมุน ซึง-ฮยอน (Mr. Moon
Seoung-hyun) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3984 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร และนายสยาม บางกุลธรรม) | นร.04 | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๖)
เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3985 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง | ศป. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๕ ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ตามมาตรา ๙๓
แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบด้วย การพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความถูกต้อง
รวดเร็ว และเป็นธรรม การวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครอง การวางหลักกฎหมาย
และแนวทางปฏิบัติราชการทางปกครอง
ผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
ผลสัมฤทธิ์จากการประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3986 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน 2566) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๖) ของธนาคารแห่งประเทศไทย สรุปสาระสำคัญได้
ดังนี้ (๑) เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๖ ขยายตัวที่ร้อยละ ๒.๒
ชะลอตัวลงจากช่วงครึ่งหลังของปีก่อน
การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลงจากการลงทุนในเครื่องจักรและเครื่องมือ
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัว ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยแข็งค่าขึ้นจากช่วงครึ่งหลังของปีก่อน
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ ๒.๔๙ ลดลงจากร้อยละ ๖.๕๔ ในช่วงครึ่งหลังของปีก่อนและเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี
๒) ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการดำเนินงาน เช่น ๑)
การดำเนินการนโยบายอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๖
คณะกรรมการนโยบายการเงินทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวม ๓ ครั้ง
อยู่ที่ร้อยละ ๒ (๒) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน เช่น
การทบทวนขอบเขตการประกอบธุรกิจและรูปแบบการลงทุนของธนาคารพาณิชย์และลด ละ
เลิกหลักเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจน และ (๓)
แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน เช่น
การสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการแข่งขันของผู้ให้บริการชำระเงินและใช้เทคโนโลยีใหม่พัฒนานวัตกรรมบริการชำระเงินในประเทศและระหว่างประเทศ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3987 | ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร.05 | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. .... ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖
ตามแนวทางการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3988 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2566 | กค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน
(กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. ๒๕๖๖ สรุปได้ ดังนี้ (๑) เป้าหมายนโยบายการเงิน ปี
๒๕๖๖ คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕
อนุมัติให้ใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปช่วงร้อยละ ๑-๓ เป็นเป้าหมายนโยบายการเงิน (๒)
ภาวะแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๖
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่การส่งออกฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น
สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (๓) การดำเนินนโยบายการเงิน กนง.
ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราร้อยละ ๑.๒๕ ไปเป็นร้อยละ ๒.๐ เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
ส่วนการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี
๒๕๖๖ เคลื่อนไหวผันผวนตามความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกา
การอ่อนค่าของเงินหยวน และความกังวลต่อปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3989 | มาตรการในการกำกับดูแลควบคุมการใช้อาวุธปืนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน | มท. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลตามมาตรการในการกำกับดูแลควบคุมการใช้อาวุธปืนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ซึ่งได้ดำเนินการในการควบคุมกำกับดูแลการออกใบอนุญาตของนายทะเบียนท้องที่ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3990 | ขออนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการโครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง และค่าจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง | กค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติการเพิ่มกรอบวงเงินตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ได้แก่
โครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง แขวงพญาไท เขตพญาไท
กรุงเทพมหานคร ๑ โครงการ จำนวน ๗๘,๐๖๒,๙๐๐ บาท จากวงเงินตามสัญญา จำนวน ๙๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นวงเงิน ๑,๐๐๓,๐๖๒,๙๐๐ บาท
และรายการค่าควบคุมงานโครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง
แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ๑ โครงการ จำนวน ๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท จากวงเงินตามสัญญา จำนวน ๓๒,๒๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นวงเงิน ๓๙,๗๐๐,๐๐๐
บาท โดยใช้จ่ายวงเงินส่วนเพิ่มจากเงินฝากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภาษีท้องถิ่นร้อยละ ๑๐
และการขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๖
เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. คณะรัฐมนตรีเห็นว่า
การก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารของส่วนราชการของรัฐควรต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานด้วย เช่น
การติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และการเลือกใช้วัสดุที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เป็นต้น
จึงขอให้กระทรวงการคลังรับความเห็นดังกล่าวข้างต้นไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3991 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมหารือเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาเซียน-สหรัฐอเมริกาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Draft Joint Statement of The ASEAN-U.S. High-Level Dialogue on The Rights of Persons with Disabilities) | พม. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมหารือเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาเซียน-สหรัฐอเมริกาว่าด้วยสิทธิคนพิการ
(Draft Joint Statement of The ASEAN-U.S.
High-Level Dialogue on The Rights of Persons with Disabilities) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมหารือเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาเซียน-สหรัฐอเมริกาว่าด้วยสิทธิคนพิการ
ให้การรับรอง (adopt) ร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม
๒๕๖๖ ณ เมืองมากัสซาร์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศสมาชิกอาเซียนในการให้ความสำคัญกับสิทธิคนพิการ
การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อาเซียน-สหรัฐอเมริกา (พ.ศ.
๒๕๖๔-๒๕๖๘) รวมถึงส่งเสริมการเคารพรับฟังข้อเรียกร้องของคนพิการ
และผลักดันและเร่งรัดการดำเนินการตามแผนแม่บทอาเซียน พ.ศ. ๒๕๖๘
เพื่อบูรณาการสิทธิคนพิการ และสนับสนุนการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ
และข้อตกลงอื่น ๆ ที่มีการสนับสนุนความร่วมมือกับคนพิการในภูมิภาค ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3992 | เอกสารผลลัพธ์การประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ 23 | กต. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย
ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ ร่างแถลงการณ์โคลัมโบ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงความยินดีต้อนรับซาอุดีอาระเบียเข้าเป็นประเทศคู่เจรจาลำดับที่
๑๑ และต้อนรับอินเดียเป็นสมาชิกใหม่ในกลุ่มผู้ประสานงานเฉพาะกิจ (TROIKA)
รวมถึงรับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงด้านสถาบันกับองค์การในระดับภูมิภาคต่าง
ๆ และองค์การสหประชาชาติ และร่างวิสัยทัศน์สมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ค.ศ. ๒๐๓๐
และสืบต่อไป
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ร่วมกันของประเทศสมาชิกที่จะเน้นย้ำความร่วมมือและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา
เช่น การเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์และทิศทางการดำเนินงาน
การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ กับประเทศคู่เจรจา และเสริมสร้างบทบาทของภาควิชาการและการวิจัย
เป็นต้น และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ทั้งสองฉบับดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย
ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทรับภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3993 | การรับรองร่างถ้อยแถลงฮาลองสำหรับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติว่าด้วยการสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคอาเซียนโดยการขับเคลื่อนขั้นตอนปฏิบัติล่วงหน้าในการจัดการภัยพิบัติ (Ha Long Ministerial Statement on the Strengthening of ASEAN Anticipatory Actions in Disaster Management) | มท. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงฮาลองสำหรับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติว่าด้วยการสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคอาเซียนโดยการขับเคลื่อนขั้นตอนปฏิบัติล่วงหน้าในการจัดการภัยพิบัติ
(Ha Long Ministerial Statement on the
Strengthening of ASEAN Anticipatory Actions in Disaster Management) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงฯ
ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN Ministerial
Meeting on Disaster Management : AMMDM) ครั้งที่ ๑๑ ในวันที่ ๑๒
ตุลาคม ๒๕๖๖ ณ เมืองฮาลอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยร่างถ้อยแถลงฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการผลักดันให้ทุกประเทศดำเนินการตามแผนงานความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
ค.ศ. ๒๐๒๑-๒๐๒๕ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติล่วงหน้า
โดยสนับสนุนให้มีการดำเนินการใน ๓ ด้าน ได้แก่ (๑)
การปรับปรุงระบบการพยากรณ์และการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า (๒) การวางแผน การดำเนินงาน
และการส่งมอบขั้นตอนการปฏิบัติล่วงหน้า และ (๓) การวางแผนจัดเตรียมงบประมาณในการจัดการภัยพิบัติ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๘ หรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3994 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจะต้องมีการก่อหนี้ผูกพันมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นหน่วยรับงบประมาณ | มท. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการดังกล่าว
ในวงเงิน ๑,๐๓๐,๙๖๐,๐๐๐ บาท โดยให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี
ยื่นเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ต่อสำนักงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ความประหยัด ภาระทางการคลังที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงมหาดไทย (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน
๒๕๖๖ (เรื่อง การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ
พร้อมแนวทางการจัดทำงบประมาณและยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗) ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3995 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 | กค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปี ๒๕๖๙ ณ กรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ ๑๒-๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๙
ร่างบันทึกความเข้าใจการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี
พ.ศ. ๒๕๖๙ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทน
และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยมอบให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)
เพื่อลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว และเห็นชอบในหลักการให้ยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับคนต่างด้าวทุกกลุ่มที่ปรากฎในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา
๑๒ (๑) และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น
และการเปลี่ยนแปลงการตรวจลงตรา พ.ศ. ๒๕๔๕ ข้อ ๑๓
และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในร่างหนังสือถึงธนาคารโลกเพื่อแจ้งถึงเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของกลุ่มธนาคารโลกภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุน (ICSID) บุคลากรและผู้แทนประเทศสมาชิกของ ICSID
จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มตามมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๑ ของพระราชบัญญัติเอกสิทธิ์และความคุ้มครองกันฯ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของธนาคารแห่งประเทศไทย
(หนังสือธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ฝรร. ๓๙๕/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖) ที่เห็นว่ากระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย
ควรหารือกับธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศเกี่ยวกับเหตุผลและกรณีที่อาจนำไปสู่การยกเลิกการจัดประชุมให้ชัดเจน
เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การยกเลิกการจัดประชุม เนื่องใน ARTICLE
XII ให้สิทธิองค์กรข้างต้นในการยกเลิกการจัดประชุมฝ่ายเดียวโดยไม่ได้ระบุเหตุผล
และให้กระทรวงการคลังประสานเสนอแก้ไขถ้อยคำที่ผิดพลาด ARTICLE IX หัวข้อ Safety and Health Measures ที่ระบุว่ารัฐบาลไทยต้องจัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมในช่วงที่อยู่ที่เมืองมาราเกซ
ประเทศโมร็อกโก เป็นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปี ๒๕๖๙
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3996 | การก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารของส่วนราชการของรัฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน | นร. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติพิจารณาเห็นว่า
การก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารของส่วนราชการของรัฐควรต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เช่น
การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
และการเลือกใช้วัสดุที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวข้างต้นตามความเหมาะสมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3997 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | สม. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ
จำนวน ๓ คัน ประกอบด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (ปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน ๒,๐๐๐ ซีซี อัตราค่าเช่าไม่เกิน ๒๑,๙๐๐ บาทต่อเดือน จำนวน ๑ คัน และรถโดยสาร ๑๒ ที่นั่ง
(ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๒,๔๐๐ ซีซี)
อัตราค่าเช่าไม่เกิน ๒๔,๗๕๐ บาทต่อเดือน จำนวน ๒ คัน
ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๗๑ ระยะเวลา ๕ ปี
ภายในกรอบวงเงิน ๔,๒๘๔,๐๐๐ บาท ตามนัยมาตรา
๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๘๕๖,๘๐๐ บาท ให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ไปพลางก่อน และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3998 | การดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 มาตรา 4 วรรคสอง (มติคณะรัฐมนตรีที่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี) | นร.05 | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยืนยันมติคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดเดิมที่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อถือปฏิบัติต่อไป
จำนวน ๑๙ มติ ทั้งนี้
เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ.
๒๕๔๘ มาตรา ๔ วรรคสอง ที่บัญญัติให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมมติคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดเดิมที่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีที่เข้าบริหารราชการชุดใหม่พิจารณายืนยันหรือยกเลิกภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3999 | คำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า | สขค | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบกรอบวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า วงเงินรวม ๔๗๐.๗๐๓๙ ล้านบาท
เพื่อบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ทั้งนี้
การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินงบประมาณ ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
และให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ (สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรพิจารณาเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ หมุดหมายที่ ๗ ให้ประเทศ ไทยมี SMEs ที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และสามารถแข่งขันได้
โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความสำคัญ เช่น
การติดตามสถานการณ์การแข่งขันของตลาดและพฤติกรรมการประกอบธุรกิจอย่างใกล้ชิดเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรูปแบบธุรกิจและตลาด
โดยเฉพาะธุรกิจภาคการเกษตรและภาคบริการที่มีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ประกอบธุรกิจเป็นจำนวนมาก
การเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า
(Credit Term) กรณีผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมทั้งดำเนินการติดตามและประเมินผลเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงมาตรการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์
(สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า) ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กันยายน ๒๕๖๖ (เรื่อง การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ
พร้อมแนวทางการจัดทำงบประมาณและยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4000 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566) | ปสส. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่
๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๖
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๒
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๖
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|