ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1617 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 32321 - 32340 จากข้อมูลทั้งหมด 123968 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32321 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๕๑ ดังนี้
๑. เพิ่มนิยาม “ข้าราชการ” ให้หมายความถึงข้าราชการรัฐสภาสามัญตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา ๒. กำหนดให้ข้าราชการซึ่งจะเข้าร่วมโครงการให้เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการต้องมีเวลาราชการเหลือไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ๓. กำหนดให้ผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการและผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ห้ามบรรจุกลับเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือกำกับของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายรัฐสภาอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||
32322 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... | คค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างทางหลวงชนบท ตามโครงการก่อสร้างทางต่างระดับบนทางหลวงชนบท นม. ๓๐๓๒ บริเวณจุดตัดทางรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32323 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 319 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 (ปากพลี) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 (พนมสารคาม) ตอนบ้านเนินอีแจน - บ้านอ่าวพยอม และที่บ้านคลองโคกกะจะ พ.ศ. .... | คค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๙ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๓ (ปากพลี) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๔ (พนมสารคาม) ตอนบ้านเนินอีแจน - บ้านอ่าวพยอม และที่บ้านคลองโคกกะจะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๙ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๓ (ปากพลี) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๔ (พนมสารคาม) ตอนบ้านเนินอีแจน - บ้านอ่าวพยอม และที่บ้านคลองโคกกะจะ ในท้องที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจร และการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32324 | ขออนุมัติให้ประเทศไทยให้สัตยาบันกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน | คค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ประเทศไทยให้สัตยาบันกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) เพื่อประสานกฎระเบียบด้านการขนส่ง การค้าและศุลกากรให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมทั้งเพื่อเสริมกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน ซึ่งจะทำให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีระบบการขนส่งสินค้าข้ามแดนและผ่านแดนที่มีประสิทธิภาพ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
32325 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์และส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างได้ทันตามกำหนดเวลา และเพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีอำนาจเข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์ได้ก่อนที่จะเวนคืนเพื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้รับเหมาได้ตามแผนที่กำหนด ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32326 | การจัดทำพิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย - อินเดีย | พณ | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบพิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินเดีย โดยสาระสำคัญของพิธีสารฯ มีเนื้อหาครอบคลุมการเพิ่มเติมบทบัญญัติเรื่อง Third Country Invoicing ซึ่งจะไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลังและการยกเลิกภาษีสินค้าตู้เย็นพิกัด ๘๔๑๘.๑๐ (ตู้เย็นที่มีตู้แช่แข็งประกอบอยู่ด้วยกันโดยมีประตูนอกแยกกัน แบบคอมเพรสชันชนิดที่ใช้ตามบ้านเรือน) ไว้ในรายการ EHS โดยให้ใช้เกณฑ์การเปลี่ยนพิกัดศุลกากรระดับ ๖ หลักควบคู่กับสัดส่วนมูลค่าเพิ่มในประเทศร้อยละ ๔๐ ในการพิจารณาถิ่นกำเนิดสินค้า และอนุมัติการลงนามพิธีสารฯ ๒. นำเสนอพิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินเดียเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๓. เมื่อรัฐสภาเห็นชอบพิธีสารฯ แล้ว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ลงนามพิธีสารฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีได้ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินกระบวนการภายในประเทศเพื่ออนุวัติการให้เป็นไปตามพิธีสารฯ ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) สำหรับการลงนามในพิธีสารฯ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามพิธีสารฯ และหลังจากลงนามแล้วให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งผลการรับรองผูกพันพิธีสารฯ ต่อประเทศอินเดียอย่างเป็นทางการ |
|||||||||||||||||||||||||||
32327 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบล อ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ ตำบลสมหวัง อำเภอกงหรา และตำบลร่มเมือง ตำบลท่าแค ตำบลตำนาน ตำบลควนมะพร้าว ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง พ.ศ. .... | กษ | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ ตำบลสมหวัง อำเภอกงหรา และตำบลร่มเมือง ตำบลท่าแค ตำบลตำนาน ตำบลควนมะพร้าว ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ ตำบลสมหวัง อำเภอกงหรา และตำบลร่มเมือง ตำบลท่าแค ตำบลตำนาน ตำบลควนมะพร้าว ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เพื่อก่อสร้างระบบระบายน้ำ ตามโครงการพัฒนาและบรรเทาอุทกภัยเมืองพัทลุง (คลองระบายน้ำลำเบ็ด) จังหวัดพัทลุง เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ตลอดจนเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรกรรม การอุปโภคและบริโภคในฤดูแล้ง และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32328 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในที่จำแนกออกจากป่าไม้ถาวร ตามมติคณะรัฐมนตรีในท้องที่จังหวัดยโสธร และจังหวัดพังงา รวม 4 ฉบับ | กษ | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในที่จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ในท้องที่จังหวัดยโสธร และจังหวัดพังงา รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลไทยเจริญ อำเภอไทยเจริญ และตำบลโนนเปือย อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลไทยเจริญ อำเภอไทยเจริญ และตำบลโนนเปือย อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเดิด ตำบลดู่ทุ่ง และตำบลค้อเหนือ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเดิด ตำบลดู่ทุ่ง และตำบลค้อเหนือ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำคำ อำเภอไทยเจริญ และตำบลโคกนาโก อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำคำ อำเภอไทยเจริญ และตำบลโคกนาโก อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๔. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลรมณีย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลรมณีย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
|
|||||||||||||||||||||||||||
32329 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... | กษ | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อก่อสร้างประตูระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการประตูระบายน้ำ ประตูเรือสัญจร และสถานีสูบน้ำคลองบางกรวย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32330 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบิง อำเภอโนนสูง และตำบลธารละหลอด อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... | กษ | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบิง อำเภอโนนสูง และตำบลธารละหลอด อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบิง อำเภอโนนสูง และตำบลธารละหลอด อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อก่อสร้างฝาย ตามโครงการก่อสร้างฝายบ้านขามตามุข เพือ่ประโยชน์แก่การชลประทาน ในการเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรกรรม การอุปโภคและบริโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32331 | การฝึกซ้อมการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติและการมอบนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี | นร | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การฝึกซ้อมการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ (Crisis Management Exercise 2011 - C - MEX 11) ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เป็นประธานพิธีเปิดและมอบนโยบาย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยอำนวยการและประสานการดำเนินงานในการการกำหนดแผน งบประมาณในแผนปฏิบัติราชการของหน่วยงานทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และจังหวัดเพื่อพัฒนาระบบเตรียมความพร้อมของชาติ เพื่อให้สามารถวางแผนในเชิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและภัยความมั่นคง ๒. ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกรมประชาสัมพันธ์กำหนดแนวทางการพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัย ๓. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการวางแผนขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการระดับกระทรวง ๑๗ ด้าน ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยประสานและบูรณาการในเรื่องนี้ ๔. ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานกลางประสานการดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการเตรียมพร้อม” ประจำจังหวัด และให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนการทำงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๕. ให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการฝึกซ้อมสถานการณ์จำลองในการบริหารวิกฤตการณ์ โดยฝึกอบรมให้ความรู้ความเข้าใจและได้มีการซักซ้อมสถานการณ์จำลองแต่ละประเภทอย่างสม่ำเสมอ ๖. ให้หน่วยงานที่ร่วมจัดการฝึกและหน่วยงานที่มีผู้แทนเข้ารับการฝึกประเมินผลการปฏิบัติของหน่วยเสนอคณะกรรมการเตรียมพร้อมแห่งชาติเพื่อจัดทำเป็นบทเรียนและนำไปพัฒนาระบบการฝึกซ้อมของหน่วยงานในระยะต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
32332 | ผลการประชุมร่วมรัฐมนตรีพลังงานกับรัฐมนตรีขนส่งเอเปค และการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ 7 | คค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมร่วมรัฐมนตรีพลังงานกับรัฐมนตรีขนส่งเอเปค และการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ ๗ ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ ณ นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมร่วมรัฐมนตรีพลังงานกับรัฐมนตรีขนส่งเอเปค เป็นการประชุมร่วมระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน (Public - Private Roundtable) มีหัวข้อการประชุมคือ “Moving APEC Toward an Energy - Efficient, Sustainable, Low - Carbon Transport Futuer” โดยที่ประชุมได้แบ่งหัวข้อการประชุมออกเป็น ๔ หัวข้อย่อย ได้แก่ Vision for Strenthening Transportation’s Role in a Clean - Energy Future เป็นการนำเสนอเกี่ยวกับพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งนโยบายและเครื่องมือในการวางแผนการพัฒนาเมืองเพื่อนำไปใช้ในการขับเคลื่อนแนวทางในเรื่องการลดการใช้พลังงานและการขนส่งที่ยั่งยืนที่ใช้ก๊าซคาร์บอนต่ำ, Development Energy - Efficient Transport Systems for Livable Low - Carbon Communities เป็นการนำเสนอในประเด็นเกี่ยวกับการขนส่ง อาทิ การพัฒนาจุดเปลี่ยนถ่ายการสัญจร การขยายระบบการขนส่งมวลชน การพัฒนาเส้นทางสำหรับรถจักรยานและทางเดินเท้า โดยมุ้งเน้นการพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่โดยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน, Powering Low - Carbon Transport - Biofuels and Electricity เป็นการนำเสนอในประเด็นโอกาสการพัฒนาและการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดเชื้อเพลิงในภาคการขนส่ง รวมถึงประเด็นปัญหาอุปสรรคสำคัญ ๆ ที่มีต่อการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งกลยุทธ์เพื่อขจัดอุปสรรคเหล่านี้ และ Greening the Supply Chain - Energy Effcient Freight Transportation เป็นการนำเสนอเรื่องการลดค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงานและการลดคาร์บอนเพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์และการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากการใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าเป็นระบบขนส่งโดยเรือและรถไฟ รวมทั้งนำเสนอแนวคิดริเริ่มและแนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับนวัตกรรมการขนส่งสินค้าที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบเอกสาร Action Agenda to Move APEC Toward an Energy Efficient, Sustainable, Low - Carbon Transport Future ซึ่งมีประเด็นครอบคลุมเรื่องบทบาทของภาคการขนส่งในการใช้พลังงานที่สะอาดในอนาคต การพัฒนาระบบการขนส่งที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสังคมที่น่าอยู่ การขนส่งที่ใช้คาร์บอนต่ำ และห่วงโซ่อุปทานสีเขียว - การขนส่งสินค้าที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. การประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ ๗ ที่ประชุมได้มีการนำเสนอภาพรวมของการประชุมเอเปคสำหรับปี ๒๐๑๑ ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ และเป้าหมายในอนาคตที่จะเปิดเสรีทางการค้า และให้ความสำคัญกับข้อริเริ่มด้านการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานและการต่อต้านการก่อการร้ายของเอเปค และได้ให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีขนส่งเอเปคซึ่งเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ด้านการขนส่งของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิกในการส่งเสริมการเติบโตสีเขียวและนวัตกรรมการขนส่งที่มุ่งเน้นด้านการขนส่งที่ปลอดภัย มั่นคง ไร้รอยต่อ และยั่งยืน และสร้างความเข้มแข็งเพื่อบูรณาการด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเปิดเสรีในทุกสาขาการขนส่ง และลดอุปสรรคที่มีต่อการค้าและการลงทุน
|
|||||||||||||||||||||||||||
32333 | ขออนุมัติใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทในสัญญาจ้างที่ปรึกษาภายใต้โครงการเงินกู้ธนาคารโลก (IBRD 7775-TH และ IBRD 4721-TH) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB 2608-THA) | คค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทในสัญญาจ้างที่ปรึกษาภายใต้โครงการเงินกู้ธนาคารโลก (The International Bank for Reconstruction and Development - IBRD) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asain Development Bank - ADB) จำนวน ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. งานจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษา Performance Based Contract ตามสัญญากู้เลขที่ IBRD 4721 - TH ๒. งานจ้างผู้ตรวจสอบจากภายนอก (Financial Auditor) ตามสัญญากู้เลขที่ IBRD 7775 - TH ๓. งานจ้างที่ปรึกษาอิสระประเมินผลการจ้างที่ปรึกษา (Independent International Procurement Evaluator) ตามสัญญากู้เลขที่ IBRD 7775 - TH ๔. งานจ้างผู้ตรวจสอบงานก่อสร้างจากภายนอก (Technical Auditor) ตามสัญญากู้เลขที่ IBRD 7775 - TH ๕. งานจ้างผู้ตรวจสอบจากภายนอก (Financial Auditor) ตามสัญญากู้เลขที่ ADB 2608 - THA |
|||||||||||||||||||||||||||
32334 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2554 เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด | กษ | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานการประชุมหารือร่วมระหว่างกระทรวงมหาดไทย กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่ที่กรมพัฒนาที่ดินและกรมประมงจัดทำขึ้นเพื่อกำหนดเขตพื้นที่ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดให้เหมาะสมกับสภาพที่ดินและสภาพพื้นที่ซึ่งเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งที่ประชุมร่วมกันได้มีความเห็นแบ่งออกเป็น ๓ กลุ่ม สรุปได้ ดังนี้
๑. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมพัฒนาที่ดิน และกรมประมง ให้เหตุผลในการสนับสนุนการใช้ร่างหลักเกณฑ์ใหม่ เนื่องจากหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดเขตพื้นที่ระงับการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบความเค็มต่ำในพื้นที่น้ำจืดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งมีอยู่จำนวน ๔ ข้อ ได้แก่ อยู่ในเขตพื้นที่ชลประทาน อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีคันป้องกันน้ำเค็ม เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมสำหรับเกษตรกร และมีนโบยายของจังหวัดหรือประเทศในการใช้ที่ดินด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ นั้น เป็นข้อกำหนดเชิงนโยบาย ไม่มีฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ จึงไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นเกณฑ์เพื่อจำแนกพื้นที่ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด ๒. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความเห็นว่าควรให้ใช้หลักเกณฑ์เดิมที่ใช้ในการกำหนดเขตพื้นที่ระงับการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบความเค็มต่ำในพื้นที่น้ำจืดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ที่กรมพัฒนาที่ดินได้จัดทำไว้ให้มีผลบังคับใช้กับสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ และเห็นว่าหลักเกณฑ์ใหม่ที่ร่างโดยกรมพัฒนาที่ดินและกรมประมง ที่ประกอบด้วย ความเค็มของน้ำ ความเค็มของดิน และลักษณะทางกายภาพของดินเฉพาะพื้นที่ดินร่วมมีการระบายน้ำดียังไม่มีความเหมาะสม ส่งผลให้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยใช้ความเค็มมีโอกาสขยายพื้นที่ไปในเขตพื้นที่ปลูกข้าวของภาคกลาง ๓. กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าหลักเกณฑ์ในการกำหนดพื้นที่ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต้องมีข้อมูลทางวิชาการมาสนับสนุนเพื่อสามารถอธิบายให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนยอมรับได้ และเห็นด้วยที่กำหนดให้มีคณะทำงานวิชาการระดับจังหวัดเพื่อกำหนดพื้นที่น้ำจืดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||
32335 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา วุฒิสภา | ทส | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา วุฒิสภา ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป โดยกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รวบรวมผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ ดังนี้
๑. ประเด็นปัญหามลพิษทางน้ำ ระบบการจัดการน้ำเสียและระบบการจัดการขยะในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ได้แก่ การดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครสงขลา และโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองสะเดา การสนับสนุนส่งเสริมรูปแบบและแนวทางในการบำบัดน้ำเสียให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในโครงการฟื้นฟูคุณภาพน้ำในพื้นที่วิกฤตแบบมีส่วนร่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา การตรวจสอบคุณภาพน้ำจากลำน้ำโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในโครงการพัฒนาระบบข้อมูลคุณภาพน้ำ : หนึ่งท้องถิ่น หนึ่งจุดเก็บตัวอย่างน้ำ และการจัดทำประกาศกรมควบคุมมลพิษ เรื่อง เกณฑ์ในการคัดเลือกพื้นที่ การออกแบบการก่อสร้างและจัดการสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนโดยการฝังกลบ การเผาในเตาเผา และการหมักทำปุ๋ย เป็นต้น ๒. ปัญหาการประมงจากการใช้เครื่องมือที่มีจำนวนมากเกินศักยภาพและการกีดขวางการสัญจรทางน้ำของทะเลสาบสงขลา ได้แก่ การดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจและสัตว์น้ำที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ การจัดตั้งชุมชนเพื่อดูแลและอนุบาลสัตว์น้ำให้แข็งแรงก่อนที่จะใช้ประโยชน์ การจัดตั้งฟาร์มสัตว์น้ำชุมชนและควบคุมไม่ให้มีเครื่องมือประมงประเภทไซนั่งและโพงพางเพิ่มมากขึ้น และการเข้าร่วมในการกำหนดและจัดระเบียบเครื่องมือประมงในบริเวณทะเลสาบสงขลาตอนล่างเพื่อการสัญจรทางน้ำของกรมเจ้าท่า เป็นต้น ๓. ปัญหาความเสื่อมโทรมของป่าต้นน้ำและความตื้นเขินของทะเลสาบสงขลา ได้แก่ การผนวกพื้นที่บริเวณป่าผาดำและป่าสงวนแห่งชาติบริเวณใกล้เคียงให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง และดำเนินการปลูกป่าในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และบำรุงป่าในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๑ รวมเนื้อที่ ๑,๒๐๐ ไร่ การดำเนินการตามโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน และโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่นาร้างเพื่อการเกษตรแบบผสมผสาน เป็นต้น ๔. ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ชุ่มน้ำในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยและพรุควนเคร็ง และการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ ได้แก่ การตรวจสอบการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยและพรุควนเคร็ง รวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลแผนที่รูปแปลงที่ดินของรัฐในระบบภูมิสารสนเทศ การตรวจสอบพื้นที่ที่อ้างหนังสือสิทธิในที่ดินทั้งหมด ๓ จังหวัด ในบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย การตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวกับการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินหรือหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จังหวัดสงขลา และการจัดทำโครงการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นต้น ๕. การขาดการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ได้แก่ การสนับสนุนให้เครือข่ายภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และเสนอยกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... การดำเนินการบริหารจัดการเมืองโบราณหัวเขาแดง พร้อมพื้นที่ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ๒,๔๖๐ ไร่ การจัดทำระเบียบกระทรวงอุตสาหกรรมว่าด้วยการให้องค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบโรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๓ เพื่อรองรับการทำงานขององค์กรภาคเอกชน และการตราพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยมีกลไกรองรับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการกำหนดเขตพื้นที่พัฒนา เป็นต้น ๖. ปัญหาการบริหารจัดการที่ขาดเอกภาพและความต่อเนื่อง และการจัดสรรงบประมาณที่ขาดการบูรณาการ ได้แก่ การจัดทำโครงการเร่งรัดการบังคับใช้ผังเมืองครอบคลุมพื่นที่รอบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา การจัดทำกรอบแผนงบประมาณประจำปีของลุ่มทะเลสาบสงขลา โดยใช้แผนแม่บทการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบเป็นหลัก และจัดทำโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น ๗. ปัญหาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมของพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ได้แก่ การนำยุทธศาสตร์ที่ผ่านความเห็นชอบการจัดทำแผนนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการและจัดทำแผนงบประมาณสนับสนุน ศึกษาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเพื่อจัดตั้งเขตพื้นที่พัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดให้แก่จังหวัดสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช และการดำเนินโครงการศึกษาการตั้งถิ่นฐานและการดำรงชีวิตของชุมชนโบราณในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นต้น ๘. ปัญหาศักยภาพของพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาในการขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ได้แก่ การจัดทำโครงการและศึกษาข้อมูลด้านวัฒนธรรมในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และการดำเนินการเตรียมการประกาศพื้นที่ที่มีระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ และพื้นที่ที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และเตรียมการเสนอพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
32336 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลกุดนกเปล้า อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | มท | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลกุดนกเปล้า อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลกุดนกเปล้า อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32337 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาล ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32338 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลโคกสูง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... | มท | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลโคกสูง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลโคกสูง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
32339 | ร่างพระราชบัญญัติกำหนดภาระในอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา และเขตสาทร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | คค | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญํติกำหนดภาระในอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา และเขตสาทร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ที่ดินในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา และเขตสาทร กรุงเทพมหานคร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งปรากฏที่ดิน รายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย และลักษณะของภาระในอสังหาริมทรัพย์ ตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ตกอยู่ภายใต้ภาระในอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชนในการดำเนินกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
32340 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดโบสถ์ ตำบลวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 18/10/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดโบสถ์ ตำบลวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดโบสถ์ ตามโฉนดที่ดิน เลขที่ ๘๑๘๑ (บางส่วน) ตำบลวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ ๒ งาน ๒๕ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน เพื่อก่อสร้างฝายและคลองส่งน้ำสายใหญ่ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....