ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1611 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 32201 - 32220 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32201 | แนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ในช่วงเกิดภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย ปี พ.ศ. 2554 | คค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเกิดภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยขยายเวลายกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์ บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ [ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๖ สายกรุงเทพมหานคร - ระยอง ตอนกรุงเทพมหานคร - เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง] และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ (ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๗ สายถนนวงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ตอนบางปะอิน - บางพลี) ออกไปจากเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ขยายออกไปถึงเวลา ๑๒.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รวมตรวจพิจารณาเป็นฉบับเดียว แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ [ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๖ สายกรุงเทพมหานคร - ระยอง ตอนกรุงเทพมหานคร - เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง] ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒.๒ ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ [ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๖ สายกรุงเทพมหานคร - ระยอง ตอนกรุงเทพมหานคร - เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง] และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ (ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๗ สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอนบางปะอิน - บางพลี) ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงเวลา ๑๒.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
32202 | มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย | กค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ผ่านกลไกการค้ำประกันในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (บสย.) ๑.๑.๑ วัตถุประสงค์ : เพื่อช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมจากอุทกภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย ๑.๑.๒ กลุ่มเป้าหมาย : SMEs ที่ประกอบธุรกิจทุกประเภทที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือเป็น SMEs ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมโดยจะต้องมียอดการสั่งซื้อหรือยอดขายกับ SMEs ในพื้นที่ประสบอุทกภัยไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๕ โดยธนาคารจะต้องเป็นผู้รับรองและยืนยัน ๑.๑.๓ วงเงินสินเชื่อค้ำประกันรวม : ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๑.๔ เงื่อนไขการค้ำประกัน : ระยะเวลาการค้ำประกัน ๗ ปี ค่าธรรมเนียมค้ำประกันร้อยละ ๑.๗๕ ต่อปี ของวงเงินค้ำประกันสินเชื่อโดยรัฐบาลจะชดเชยค่าธรรมเนียมให้ใน ๓ ปีแรก ทั้งนี้ สินเชื่อที่ได้รับจากสถาบันการเงินต้องเป็นสินเชื่อใหม่ และต้องไม่นำไปชำระหนี้กับสถาบันผู้ให้กู้ โดยกำหนดวงเงินค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน ๑๐ ล้านบาทต่อรายต่อสถาบัน แต่หากสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพียงอย่างเดียว บสย. จะค้ำประกันในวงเงินสูงสุดไม่เกิน ๕ ล้านบาทต่อรายต่อสถาบัน โดยธนาคารพาณิชย์จะคิดดอกเบี้ยกับลูกค้าในอัตราร้อยละ ๓ ต่อปี เป็นระยะเวลา ๓ ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามอัตราปกติของแต่ละธนาคาร โดยเป็น SMEs ตามกลุ่มเป้าหมายตามที่กำหนด และต้องไม่เป็นหนี้ NPL ก่อนวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ ๑.๑.๕ ระยะเวลารับคำขอ : ภายใน ๑ ปีนับจากวันที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ๑.๒ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำโดยความร่วมมือของธนาคารออมสิน ๑.๒.๑ วัตถุประสงค์ : เพื่อช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมจากอุทกภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย ๑.๒.๒ กลุ่มเป้าหมาย : SMEs ที่ประกอบธุรกิจทุกประเภทที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือเป็น SMEs ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมโดยจะต้องมียอดการสั่งซื้อหรือยอดขายกับ SMEs ในพื้นที่ประสบอุทกภัยไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๕ โดยธนาคารจะต้องเป็นผู้รับรองและยืนยัน ๑.๒.๓ วงเงิน Soft Loan จากธนาคารออมสิน : ธนาคารออมสินร่วมให้สินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ ในสัดส่วน ธนาคารออมสิน : ธนาคารพาณิชย์ เท่ากับ ๕๐ : ๕๐ โดยธนาคารออมสินจะฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๐.๐๑ เป็นจำนวน ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท เป็นระยะเวลา ๓ ปี เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์สมทบให้สินเชื่อกับผู้ประสบอุทกภัยตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด ในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ ๓ เป็นระยะเวลา ๓ ปี ๑.๒.๔ ระยะเวลารับคำขอ : ภายใน ๑ ปีนับจากวันที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ๒. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อชดเชยการดำเนินมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในส่วนของ บสย. วงเงินชดเชยไม่เกิน ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท และธนาคารออมสิน วงเงินชดเชยเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ ๒,๕๓๒ ล้านบาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน ๒๕,๕๓๒ ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32203 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | ยธ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ๒. พ.ต.อ.โภคพิบูลย์ โปตระนันทน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||
32204 | รายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมการดำเนินงานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ๑.๑ ด้านการแพทย์ ได้แก่ การบริการประชาชนในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ รวม ๗,๗๔๐ ครั้ง ผู้รับบริการ ๘๕๓,๔๐๖ ราย โรคที่พบบ่อย คือ น้ำกัดเท้า ปวดกล้ามเนื้อ ไข้หวัด โรคผิวหนัง และปวดศีรษะ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม จำนวน ๑๗ แห่ง เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคทั่วไป โรคเรื้อรัง และอุบัติเหตุฉุกเฉิน ๒๔ ชั่วโมง รับบริการ ๑๑,๓๘๖ ราย และเยี่ยมผู้ป่วยโรคเรื้อรังซึ่งติดอยู่ตามบ้าน ทั้งนี้ ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ได้เปิดโรงพยาบาลสนาม ๑ แห่งที่ศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร รวมทั้งจัดทีมแพทย์เคลื่อนที่ ๗ ทีม บริการในเขตหลักสี่ ดอนเมือง บางพลัด ทวีวัฒนา และโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีเป็นหน่วยประสานช่วยเหลือด้านการแพทย์ พื้นที่ตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ๑.๒ ด้านการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ได้ประเมินความเสี่ยงของการเฝ้าระวังและควบคุมโรคในศูนย์พักพิง ๑๒ จังหวัด ๗๒ จุด และดำเนินกิจกรรมการควบคุมโรคที่ศูนย์พักพิงร่วมกับจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ๑.๓ ด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม ได้ผลิตชุดป้องกันโรคด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม “นายสะอาด” และส่งทีมกรมอนามัยเข้าศูนย์พักพิงทุกแห่งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ๑.๔ ด้านสุขภาพจิต ได้ออกหน่วยแพทย์เยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมร่วมกับทีมสาธารณสุขจังหวัด ปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัย ๓๗ จังหวัด เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต และคัดกรองปัญหาสุขภาพจิต ๑.๕ ด้านศูนย์พักพิง ได้จัดกลุ่มศูนย์พักพิงเป็น ๓ กลุ่ม ประกอบด้วย ศูนย์ขนาดใหญ่ จำนวนประชาชนมากกว่า ๑,๐๐๐ คน มีหน่วยแพทย์ ๑๕ ทีม ศูนย์ขนาดกลาง จำนวนประชาชน ๕๐๐ - ๑,๐๐๐ คน มีหน่วยแพทย์ ๒๘ ทีม และศูนย์ขนาดเล็ก จำนวนประชาชน ๓๐๐ - ๕๐๐ คน มีหน่วยแพทย์ ๑๐๕ ทีม ๑.๖ การสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ ได้แก่ ยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน ๑,๕๕๔,๗๕๐ ชุด ยาตำราหลวง ๑๐๔,๕๐๐ ชุด ยาทาแก้น้ำกัดเท้า ๒๕๙,๕๐๐ ตลับ ๑.๗ การสนับสนุนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ เตียงพับ ๑๗๐ เตียง เปลพับ ๑๑๒ ชุด เตียงสนามเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ๒๑ เตียง ชุดกรองน้ำ ๒,๓๕๔ ชุด เสื้อชูชีพ ๕,๕๕๒ ตัว เป็นต้น ๒. การดำเนินการป้องกันปัญหาขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ในสถานการณ์อุทกภัย ได้ติดตาม เฝ้าระวัง สนับสนุนยาเวชภัณฑ์ ให้เพียงพอรองรับสถานการณ์อุทกภัย โดยเฉพาะยาในบัญชียาหลัก โดยให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและองค์การเภสัชกรรมดำเนินการตามแผนป้องกันปัญหาการขาดแคลนยาเวชภัณฑ์ ดังนี้ ๒.๑ ว่าจ้างผู้ผลิตยารายอื่นทดแทนเป็นการชั่วคราวจนกว่าโรงงานจะกลับมาผลิตได้อีกครั้ง โดยตำรับยาที่จะผลิตต้องมีสูตร ฉลาก เอกสารกำกับยา ขนาดบรรจุเอกสาร การควบคุมคุณภาพและรายละเอียดอื่น ๆ เหมือนกับทะเบียนกำกับยาที่ผลิตเดิม แต่ให้ผ่อนผันการส่งข้อมูลการตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการผลิตและการศึกษาความคงสภาพยาภายหลัง ๒.๒ ให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ทำการสั่งยาจากต่างประเทศในกรณีที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ประสงค์ที่จะนำเข้ายาจากต่างประเทศมาทดแทนยาที่ผลิตไม่ได้เนื่องจากโรงงานผลิตถูกน้ำท่วมเสียหาย ๒.๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาขอความร่วมมือจากบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เข้ามาร่วมในการจัดส่งยาและกระจายยาไปยังพื้นที่เป้าหมายทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ๓. การดำเนินการด้านการแพทย์และการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพมหานครในสถานการณ์อุทกภัย ๓.๑ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักจากสถานบริการทางการแพทย์ในพื้นที่รอบกรุงเทพมหานครและพื้นที่รอบนอก ได้ดำเนินการเร่งด่วนเริ่มวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา จนถึงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ สามารถเคลี่อนย้ายได้ ๓๙๕ ราย และวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ มีผู้ป่วยหนักรอการเคลื่อนย้าย จำนวน ๓๕ ราย ซึ่งได้จัดหาเตียงผู่ป่วยหนักสามารถรองรับได้ ๑๗๓ เตียง ๓.๒ การดูแลผู้อพยพในศูนย์พักพิง ได้ประสานกับกรุงเทพมหานครจัดหน่วยบริการสาธารณสุขที่ครอบคลุมการบริการ ๔ ด้าน คือ ด้านการแพทย์ ด้านสุขอนามัย ด้านป้องกันควบคุมโรค และด้านสุขภาพจิต ในศูนย์พักพิงที่จัดตั้งในกรุงเทพมหานคร และร่วมกับกรุงเทพมหานครในการจัดหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ เคลื่อนที่ไปยังแหล่งชุมชนที่ประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัย โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ในพื้นที่เขตทวีวัฒนา บางพลัด หลักสี่ และดอนเมือง นอกจากนี้ ได้มอบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดหน่วยบริการสาธารณสุขเข้าร่วมดูแลกับจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย
|
||||||||||||||||||||||||
32205 | รายงานการส่งยาและเวชภัณฑ์ในกรณีฉุกเฉินอุทกภัย | สธ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการส่งยาและเวชภัณฑ์ในกรณีฉุกเฉินอุทกภัยเพื่อส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ทั่วประเทศไทย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ น้ำยาล้างไต ๑.๑.๑ ชนิด Hemodiialysis Plan A โรงงาน CVP ถูกน้ำท่วม, โรงงาน Lonmed จะเริ่มผลิตในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ Plan B องค์การเภสัชกรรมจะนำเข้าโดยขนส่งทางอากาศ เป็นชนิดผงนำมาละลายน้ำ ๑.๑.๒ ชนิด 0.9% NSS ชนิด 1,000 ml. และ 500 ml. ใช้กับผู้ป่วยโรคไตวาย Plan A โรงงาน Thai Osuka, ไทยนครพัฒนา และ ANB ผลิตเพิ่ม Plan B บริษัท Star Lap มีสินค้านำเข้า จำนวน ๔๐,๐๐๐ ถุง Plan C องค์การเภสัชกรรมจะนำเข้าจากประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยทางเรือ ใช้เวลาประมาณ ๑ - ๓ เดือน Plan D องค์การเภสัชกรรมจะนำเข้าทางอากาศทุกวัน ๑.๒ ยาต้านไวรัสเอดส์ (ARV) องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ มีส่วนแบ่งตลาด ๙๐% องค์การเภสัชกรรมยืนยันมียาสำรองเพียงพอสำหรับ ๕ เดือน ๑.๓ ยาต้านวัณโรค (TB) องค์การเภสัชกรรมมียาสำรองเพียงพอสำหรับ ๕ เดือน ๑.๔ ยารักษาโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง องค์การเภสัชกรรมมียาสำรองเพียงพอสำหรับ ๑ - ๑.๕ เดือน ๑.๕ ยาอื่น ๆ องค์การเภสัชกรรมยืนยันไม่ขาดแคลน ๒. ให้กระทรวงคมนาคมโดยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พิจารณาให้บริการและอำนวยความสะดวกในการขนส่งด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
32206 | รายงานผลการดำเนินการการให้ความช่วยเหลือวัดและพระภิกษุสามเณรที่ประสบภัยพิบัติ | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความเสียหายของวัด/ที่พักสงฆ์ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม รวมทั้งผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือวัดและพระภิกษุสามเณรที่ประสบภัยพิบัติ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปความเสียหายของวัด/ที่พักสงฆ์ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม รวมทั้งสิ้น ๓๑ จังหวัด ๑๗๓ อำเภอ จำนวนวัด/ที่พักสงฆ์ได้รับความเสียหาย ๒,๒๖๘ แห่ง จำนวนโรงเรียนพระปริยัติธรรมได้รับความเสียหาย ๑๐ แห่ง จำนวนพระภิกษุสามเณรได้รับความเดือดร้อน ๒๖,๓๒๗ รูป ๒. จำนวนวัด/ที่พักสงฆ์ที่ประสบภัยและสถานการณ์ได้คลี่คลาย รวมทั้งสิ้น ๑๖ จังหวัด ๕๑ อำเภอ วัด/ที่พักสงฆ์ ๒๗๖ แห่ง โรงเรียนพระปริยัติธรรม ๕ แห่ง พระภิกษุสามเณร ๔,๓๓๒ รูป ๓. สรุปผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือวัดและพระภิกษุสามเณร ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ๓.๑ จัดเครื่องอุปโภค ยารักษาโรค และของใช้ที่จำเป็นให้วัด/ที่พักพิง ๔๘,๙๐๐ ชุด และประชาชน ๒๓,๒๕๐ ชุด ๓.๒ จัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือวัดละ ๕,๐๐๐ บาท รวม ๑,๙๕๘ วัด เป็นเงิน ๙,๗๙๐,๐๐๐ บาท ถวายเป็นค่าภัตตาหาร ๑๐,๙๒๒ รูป ๆ ละ ๘๐ บาท/วัน จำนวน ๓๐ วัน เป็นเงิน ๒๖,๒๑๒,๘๐๐ บาท และจัดสรรเครื่องอุปโภค บริโภค และของใช้ที่จำเป็น เป็นเงิน ๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๓.๓ จัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย โดยใช้สถานที่ภายในวัดที่สามารถให้ที่พักผู้ประสบภัยและบริหารจัดการดูแลด้านความเป็นอยู่ เช่น อาหาร การดูแลสุขภาพ ฯลฯ รวม ๑๔ จังหวัด ๒๒๕ ศูนย์ ๓.๔ จัดตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือ โดยเป็นสถานที่รับบริจาคสิ่งของ และการรับบริจาค ส่วนกลางที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ Website//www.onab.go.th และส่วนภูมิภาคที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด ๓.๕ สำรวจข้อมูลความเสียหายของวัด/ที่พักสงฆ์ และโรงเรียนพระปริยัติธรรมนับตั้งแต่เกิดเหตุประสบภัย ๓.๖ กำหนดแผนหรือแนวทางที่จะบูรณาการในการเตรียมการเพื่อป้องกันและแก้ไขเมื่อเกิดอุบัติภัย หรือกำหนดวิธีการป้องกันมิให้บุคลากร หรือศาสนสถานได้รับผลกระทบจากพิบัติภัยที่เกิดขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
32207 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2554) | มท | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๔) ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอสรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ ๒๕-๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔) ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๒๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และกรุงเทพมหานคร รวม ๑๔๗ อำเภอ ๑,๑๓๒ ตำบล ๘,๓๑๙ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๗๑๘,๖๐๗ ครัวเรือน ๒,๑๑๐,๑๕๒ คน โดยพื้นที่ประสบอุทกภัยและมีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ รวมทั้งสิ้น ๖๓ จังหวัด มีผู้เสียชีวิต ๓๘๔ ราย สูญหาย ๒ คน ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟู จำนวน ๓๗ จังหวัด ๒. ภาพรวมการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้แก่ การนำสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ของกระทรวงพาณิชย์ไปจำหน่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย การประชุมเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโรงพยาบาลศิริราช การประชุมเรื่อง การมอบหมายความรับผิดชอบป้องกัน ดูแล พื้นที่สำคัญ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๒/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ การจัดทำ “คู่มือการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว” เพื่อเป็นแนวทางให้จังหวัด/กรุงเทพมหานคร อำเภอ/เขต ตำบล/แขวง ใช้เป็นต้นแบบในการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ การจัดทำคำสั่งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ที่ ๑/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ เรื่อง การบริหารจัดการระบบการระบายน้ำด้วยเหตุอุทกภัย การควบคุมการปฏิบัติการร่วม ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อจัดหาทรายและบรรจุกระสอบทรายสนับสนุนภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และการจัดทำคำสั่งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ที่ ๒/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เรื่อง การบริหารจัดการระบบการระบายน้ำด้วยเหตุอุทกภัย เป็นต้น ๓. การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท (เพิ่มเติม) ครั้งที่ ๓ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมรายชื่อส่งธนาคารออมสินแล้ว ๓๑๓,๒๙๔ ครัวเรือน เป็นเงิน ๑,๕๖๖,๔๗๐,๐๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๙๓.๗๙ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ไปแล้ว ๒๑๙,๐๓๗ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๖๙.๙๑ (ณ วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔)
|
||||||||||||||||||||||||
32208 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย | คค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาออก ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ยกเว้นกรณีนายถาวร พานิชพันธ์ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการเป็นต้นไป ดังนี้
๑. พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประธานกรรมการ ๒. นายกำชัย จงจักรพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายถาวร พานิชพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายพลชัย จิตติวิลัยลักษณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. พลตำรวจตรี สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||
32209 | ขอเลื่อนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 | กษ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เลื่อนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ จากเดิมวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ - ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ระยะเวลารวม ๙๙ วัน เป็นวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ - ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕ ระยะเวลารวม ๙๒ วัน เนื่องจากประเทศไทยในขณะนี้ได้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทำให้มีผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม ตามมติคณะกรรมการบริหารและจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32210 | การยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษ (ของทางพิเศษฉลองรัช ฯ ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2554) | คค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา จนถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา เพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านการจราจรสำหรับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยใช้เส้นทางพิเศษฯ ดังกล่าว และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยเร่งด่วนและทั่วถึง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32211 | รายงานสรุปสภาวะอากาศในรอบสัปดาห์ฯ ของกรมอุตุนิยมวิทยา และรายงานการเฝ้าระวังเพื่อการเตือนภัย ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ | ทก | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปสภาวะอากาศในรอบสัปดาห์ฯ ของกรมอุตุนิยมวิทยา และรายงานการเฝ้าระวังเพื่อการเตือนภัย ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์และพยากรณ์อากาศ ๗ วันข้างหน้า ของกรมอุตุนิยมวิทยา ๑.๑ ลักษณะอากาศในช่วง ๗ วัน ที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ ๒๕ - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกลดลงและอากาศจะเย็นลง ส่วนภาคใต้ได้รับอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ๑.๒ การคาดหมายลักษณะอากาศใน ๗ วันข้างหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑ - ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นต่อเนื่อง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกชุกหนาแน่น อ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ ๒ เมตร ๒. รายงานการปฏิบัติงานของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ๒.๑ ในช่วงวันที่ ๑ - ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตอนล่างของประเทศจะมีฝนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ควรเฝ้าระวังสภาวะอากาศและติดตามประเมินผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องพร้อมเตรียมการรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาภัย ๒.๒ พื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ราบลุ่มในภาคใต้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก (ในบางพื้นที่) ส่วนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี บางพื้นที่ของจังหวัดนครปฐม กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเขตสายไหม ดอนเมือง มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บางเขน คันนายาว และหลักสี่ ส่วนฝั่งตะวันตก เขตบางพลัด ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน บางกอกใหญ่ บางแวก และบางแค และจังหวัดข้างเคียง ยังคงอยู่ในภาวะประสบภัยและเสี่ยงภัยและเฝ้าระวังอยู่ต่อไป เนื่องจากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนจะยังคงทำให้ระดับน้ำทรงตัวอยู่ และมวลน้ำจากภาคเหนือยังลงมาไม่หมด โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่หลังคันกั้นน้ำเสี่ยงต่อภัยน้ำหลากอันเนื่องจากคันกั้นพังทลายได้
|
||||||||||||||||||||||||
32212 | การยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษ (ของทางพิเศษฉลองรัช ฯ ตั้งแต่วันที่ 1พฤศจิกายน 2554 ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554) | คค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการขยายเวลาการยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยให้มีผลใช้บังคับต่อเนื่องจากวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา จนถึงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32213 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นักบริหารระดับสูง) | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นางมัณฑนี จันทรศร ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๒. นางสาวนิลุบล เครือนพรัตน์ ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๓. นายวีระยุทธ ปั้นน่วม ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
32214 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร | กษ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งนายอภิชาต จงสกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32215 | รายงานผลการประเมินความเสียหายของภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและมีการทำประกันกับบริษัทประกันภัย | กค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประเมินความเสียหายของภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและมีการทำประกันกับบริษัทประกันภัย ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การสำรวจและประเมินความเสียหายของภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและมีการทำประกันกับบริษัทประกันภัย ซึ่งมีจำนวนเงินเอาประกันรวมทั้งสิ้น ๗๔๕,๓๕๓ ล้านบาท และประมาณการความเสียหายจำนวน ๒๑๗,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๓๐ ของจำนวนเงินเอาประกัน แบ่งออกเป็น ๑.๑ ภาคอุตสาหกรรมทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรมมีการทำประกันภัยไว้เป็นจำนวนเงินเอาประกัน ๖๘๘,๙๒๖ ล้านบาท ประมาณการความเสียหายจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒ ภาคครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วยการประกันภัยรถยนต์ บ้าน และร้านค้าพาณิชยกรรม มีการทำประกันภัยไว้เป็นจำนวนเงินเอาประกัน ๕๖,๔๗๒ ล้านบาท ประมาณการความเสียหายจำนวน ๑๗,๐๐๐ ล้านบาท ๒. การดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยสำนักงาน ศปภ. ได้ประสานกับผู้รับประกันทั้งในและต่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อและประเมินความเสียหาย และเร่งรัดกระบวนการชำระค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ๓. วิกฤตอุทกภัยครั้งนี้อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาของการรับประกันภัยในอนาคต ๒ ประเด็น คือ บริษัทประกันภัยอาจจะปฏิเสธการต่ออายุกรมธรรม์เมื่อสิ้นสุดอายุคุ้มครอง และบริษัทประกันภัยต่อในต่างประเทศอาจจะปฏิเสธการรับประกันภัยต่อ ทั้งนี้ ในอนาคต ภาคเอกชนเห็นว่าภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการดำเนินมาตรการบริหารความเสี่ยงด้านอุทกภัยอย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32216 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๗ คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ยกเว้นนายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการมีมติอนุมัติเป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ประธานกรรมการ ๒ นายกล่ำคาน ปาทาน กรรมการ ๓. พลตำรวจโท สถาพร ดวงแก้ว กรรมการ ๔. พลตำรวจตรี ภาณุ เกิดลาภผล กรรมการ ๕. นายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ กรรมการ ๖. นางปราณี ศุกระศร กรรมการ ๗. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
32217 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2554 | กษ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบด้านการเกษตรทั้งสิ้นรวม ๖๗ จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ๓๐ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ๒. ผลกระทบด้านการเกษตร (ช่วงภัยตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม - ปัจจุบัน ๒๕๕๔) ๒.๑ ด้านพืช เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๑,๑๐๒,๙๒๑ ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย ๑๐,๙๘๖,๒๕๒ ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ๙,๐๐๘,๒๗๘ ไร่ พืชไร่ ๑,๔๗๓,๙๗๓ ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ ๕๐๔,๐๐๑ ไร่ ๒.๒ ด้านประมง เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๑๑๓,๙๔๕ ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย แบ่งเป็น บ่อปลา ๑๙๔,๐๑๒ ไร่ กุ้ง/ปู/หอย ๒๘,๓๕๔ ไร่ กระชัง/บ่อซีเมนต์ ๑๓๓,๒๑๒ ตารางเมตร ๒.๓ ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๑๖๒,๑๘๑ ราย สัตว์ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น ๑๓,๒๘๒,๖๒๒ ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ ๒๕๔,๗๐๖ ตัว สุกร ๑๘๙,๙๐๔ ตัว แพะ - แกะ ๑๕,๐๘๕ ตัว สัตว์ปีก ๑๒,๘๒๒,๙๒๗ ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ๑๐,๕๒๐ ไร่ ๓. การดำเนินการช่วยเหลือด้านการเกษตร ได้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์ จำนวน ๑๑ ฉบับ ของกรมชลประทาน และการคาดการณ์การเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก จำนวน ๒๗ ฉบับ ของกรมพัฒนาที่ดิน รวมทั้งการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ รถยนต์บรรทุกน้ำ พืชอาหารสัตว์ และดูแลสุขภาพสัตว์ สำหรับความก้าวหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๔ กรณีพิเศษ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ได้ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อขออนุมัติเงินงวดจากสำนักงบประมาณแล้ว รวมทั้งสิ้น ๓,๗๒๑.๔๓๖ ล้านบาท เกษตรกร ๑๔๗,๙๒๒ ราย ซึ่งสำนักงบประมาณได้อนุมัติเงินงวดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว จำนวน ๓,๗๒๑.๔๓๖ ล้านบาท เกษตรกร ๑๔๗,๙๒๒ ราย และ ธ.ก.ส. สาขา ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรแล้ว จำนวน ๒,๔๐๒.๙๗๒ ล้านบาท เกษตรกร ๗๐,๒๖๔ ราย (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔)
|
||||||||||||||||||||||||
32218 | การประชุมสภาผู้แทนราษฎร | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้งดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ และวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดยจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ และวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ในวาระที่ ๑ ในวันดังกล่าว ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32219 | การจัดทำแผ่นพับประชาสัมพันธ์ (Brochure) การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ทุกกระทรวงแจ้งข้อมูลและมาตรการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วน พร้อมทั้งสถานที่หรือจุดที่จะติดต่อขอรับความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วน พร้อมทั้งสถานที่หรือจุดที่จะติดต่อขอรับความช่วยเหลือเยียวยาที่แต่ละกระทรวงได้กำหนดและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยด่วนภายใน ๒๔ ชั่วโมง (ภายในวันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) โดยอาจส่งข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการไปก่อน แล้วจึงส่งข้อมูลอย่างเป็นทางการให้ สศช. ภายใน ๔๘ ชั่วโมง (ภายในวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) และให้ สศช. รวบรวมข้อมูลและจัดระบบข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดเพื่อจัดทำเป็นร่างแผ่นพับประชาสัมพันธ์ (Brochure) การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของภาครัฐทั้งมาตรการในระยะเร่งด่วนและมาตรการฟื้นฟูเยียวยาเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในวันศุกร์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการจัดพิมพ์และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32220 | การประชุมคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานผลการประชุมคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรงเพื่อติดตามสถานการณ์และกำหนดมาตรการที่จะดำเนินการในแต่ละวัน ซึ่งในช่วง ๓ วันที่ผ่านมาที่ประชุมฯ ได้มอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินตามมาตรการสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำกับติดตามการดำเนินการเปิดทางระบายน้ำบริเวณคลองหกวาสายล่าง ในช่วงคลอง ๙, ๑๒ และ ๑๓ ร่วมกับรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นายจุมพล สำเภาพล) และประสานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอรับการสนับสนุนกำลังพลจากกองทัพไทย เพื่อเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และรายงานผลการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบ ๑.๒ ให้นายสุทัศน์ วีสกุล ประสานงานและสั่งการการระบายน้ำในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการระบายน้ำเข้าสู่คลองแสนแสบ ประตูน้ำบางชัน โดยให้มีการบริหารการปิดเปิดประตูน้ำในระดับที่สามารถป้อนน้ำเข้าสู่ระบบการสูบน้ำของกรุงเทพมหานครให้ได้เต็มศักยภาพ และรักษาระดับของการเอ่อล้นตามแนวตลิ่งของคลองในระดับที่ปลอดภัยในการรักษาพื้นที่สำคัญภายในแนวกั้นน้ำของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมบริเวณประตูน้ำบางชันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำโดยเร็ว ๒. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมผู้รับผิดชอบในแนวกั้นน้ำ Local Road (รังสิต - ดอนเมือง) รายงานให้คณะทำงานฯ และนายกรัฐมนตรีทราบว่า ขณะนี้มีอุปกรณ์ Big bag ประมาณ ๒,๐๐๐ ลูก แต่จะต้องใช้ถึง ๓,๐๐๐ ลูก ซึ่งคาดว่าจะจัดหาได้ทั้งหมดและยืนยันที่จะดำเนินการจัดทำแนวกั้นระยะ ๓.๕ กิโลเมตร ได้ภายในวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธินเริ่มลดระดับลง รวมทั้งจะดำเนินการป้องกันน้ำจากเมืองเอกเข้าสู่คลองประปาได้ด้วย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า จะเริ่มสำรวจรอยรั่วต่าง ๆ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะด้านตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะใช้วิธีการจ้างเหมาเพื่อเร่งดำเนินการอุดรอยรั่วในช่วงที่น้ำทะเลลดต่ำ ในระหว่างวันที่ ๓ - ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ให้แล้วเสร็จ เพื่อป้องกันปริมาณน้ำที่จะเข้าท่วมขังทางด้านฝั่งตะวันตกในกรณีที่น้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดยจะรายงานความก้าวหน้าให้คณะทำงานฯ และนายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง
|
.....