ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1612 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 32221 - 32240 จากข้อมูลทั้งหมด 123968 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32221 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๗ คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ยกเว้นนายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการมีมติอนุมัติเป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ประธานกรรมการ ๒ นายกล่ำคาน ปาทาน กรรมการ ๓. พลตำรวจโท สถาพร ดวงแก้ว กรรมการ ๔. พลตำรวจตรี ภาณุ เกิดลาภผล กรรมการ ๕. นายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ กรรมการ ๖. นางปราณี ศุกระศร กรรมการ ๗. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
32222 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2554 | กษ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบด้านการเกษตรทั้งสิ้นรวม ๖๗ จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ๓๐ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ๒. ผลกระทบด้านการเกษตร (ช่วงภัยตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม - ปัจจุบัน ๒๕๕๔) ๒.๑ ด้านพืช เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๑,๑๐๒,๙๒๑ ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย ๑๐,๙๘๖,๒๕๒ ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ๙,๐๐๘,๒๗๘ ไร่ พืชไร่ ๑,๔๗๓,๙๗๓ ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ ๕๐๔,๐๐๑ ไร่ ๒.๒ ด้านประมง เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๑๑๓,๙๔๕ ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย แบ่งเป็น บ่อปลา ๑๙๔,๐๑๒ ไร่ กุ้ง/ปู/หอย ๒๘,๓๕๔ ไร่ กระชัง/บ่อซีเมนต์ ๑๓๓,๒๑๒ ตารางเมตร ๒.๓ ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๑๖๒,๑๘๑ ราย สัตว์ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น ๑๓,๒๘๒,๖๒๒ ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ ๒๕๔,๗๐๖ ตัว สุกร ๑๘๙,๙๐๔ ตัว แพะ - แกะ ๑๕,๐๘๕ ตัว สัตว์ปีก ๑๒,๘๒๒,๙๒๗ ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ๑๐,๕๒๐ ไร่ ๓. การดำเนินการช่วยเหลือด้านการเกษตร ได้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์ จำนวน ๑๑ ฉบับ ของกรมชลประทาน และการคาดการณ์การเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก จำนวน ๒๗ ฉบับ ของกรมพัฒนาที่ดิน รวมทั้งการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ รถยนต์บรรทุกน้ำ พืชอาหารสัตว์ และดูแลสุขภาพสัตว์ สำหรับความก้าวหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๔ กรณีพิเศษ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ได้ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อขออนุมัติเงินงวดจากสำนักงบประมาณแล้ว รวมทั้งสิ้น ๓,๗๒๑.๔๓๖ ล้านบาท เกษตรกร ๑๔๗,๙๒๒ ราย ซึ่งสำนักงบประมาณได้อนุมัติเงินงวดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว จำนวน ๓,๗๒๑.๔๓๖ ล้านบาท เกษตรกร ๑๔๗,๙๒๒ ราย และ ธ.ก.ส. สาขา ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรแล้ว จำนวน ๒,๔๐๒.๙๗๒ ล้านบาท เกษตรกร ๗๐,๒๖๔ ราย (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔)
|
||||||||||||||||||||||||
32223 | การประชุมสภาผู้แทนราษฎร | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้งดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ และวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดยจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ และวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ในวาระที่ ๑ ในวันดังกล่าว ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32224 | การจัดทำแผ่นพับประชาสัมพันธ์ (Brochure) การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ทุกกระทรวงแจ้งข้อมูลและมาตรการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วน พร้อมทั้งสถานที่หรือจุดที่จะติดต่อขอรับความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วน พร้อมทั้งสถานที่หรือจุดที่จะติดต่อขอรับความช่วยเหลือเยียวยาที่แต่ละกระทรวงได้กำหนดและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยด่วนภายใน ๒๔ ชั่วโมง (ภายในวันพุธที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) โดยอาจส่งข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการไปก่อน แล้วจึงส่งข้อมูลอย่างเป็นทางการให้ สศช. ภายใน ๔๘ ชั่วโมง (ภายในวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) และให้ สศช. รวบรวมข้อมูลและจัดระบบข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดเพื่อจัดทำเป็นร่างแผ่นพับประชาสัมพันธ์ (Brochure) การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของภาครัฐทั้งมาตรการในระยะเร่งด่วนและมาตรการฟื้นฟูเยียวยาเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในวันศุกร์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการจัดพิมพ์และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32225 | การประชุมคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานผลการประชุมคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรงเพื่อติดตามสถานการณ์และกำหนดมาตรการที่จะดำเนินการในแต่ละวัน ซึ่งในช่วง ๓ วันที่ผ่านมาที่ประชุมฯ ได้มอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินตามมาตรการสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำกับติดตามการดำเนินการเปิดทางระบายน้ำบริเวณคลองหกวาสายล่าง ในช่วงคลอง ๙, ๑๒ และ ๑๓ ร่วมกับรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นายจุมพล สำเภาพล) และประสานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอรับการสนับสนุนกำลังพลจากกองทัพไทย เพื่อเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และรายงานผลการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบ ๑.๒ ให้นายสุทัศน์ วีสกุล ประสานงานและสั่งการการระบายน้ำในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการระบายน้ำเข้าสู่คลองแสนแสบ ประตูน้ำบางชัน โดยให้มีการบริหารการปิดเปิดประตูน้ำในระดับที่สามารถป้อนน้ำเข้าสู่ระบบการสูบน้ำของกรุงเทพมหานครให้ได้เต็มศักยภาพ และรักษาระดับของการเอ่อล้นตามแนวตลิ่งของคลองในระดับที่ปลอดภัยในการรักษาพื้นที่สำคัญภายในแนวกั้นน้ำของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมบริเวณประตูน้ำบางชันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำโดยเร็ว ๒. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมผู้รับผิดชอบในแนวกั้นน้ำ Local Road (รังสิต - ดอนเมือง) รายงานให้คณะทำงานฯ และนายกรัฐมนตรีทราบว่า ขณะนี้มีอุปกรณ์ Big bag ประมาณ ๒,๐๐๐ ลูก แต่จะต้องใช้ถึง ๓,๐๐๐ ลูก ซึ่งคาดว่าจะจัดหาได้ทั้งหมดและยืนยันที่จะดำเนินการจัดทำแนวกั้นระยะ ๓.๕ กิโลเมตร ได้ภายในวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธินเริ่มลดระดับลง รวมทั้งจะดำเนินการป้องกันน้ำจากเมืองเอกเข้าสู่คลองประปาได้ด้วย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า จะเริ่มสำรวจรอยรั่วต่าง ๆ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะด้านตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะใช้วิธีการจ้างเหมาเพื่อเร่งดำเนินการอุดรอยรั่วในช่วงที่น้ำทะเลลดต่ำ ในระหว่างวันที่ ๓ - ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ให้แล้วเสร็จ เพื่อป้องกันปริมาณน้ำที่จะเข้าท่วมขังทางด้านฝั่งตะวันตกในกรณีที่น้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดยจะรายงานความก้าวหน้าให้คณะทำงานฯ และนายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||
32226 | การให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบอุทกภัย | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบอุทกภัย ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) กำกับดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามบ้านเรือนที่มีการอพยพในช่วงอุทกภัย การดูแลกรณีที่ประชาชนนำรถยนต์ขึ้นไปจอดตามสถานที่ต่าง ๆ และการจัดระบบจราจรในพื้ที่ที่ประสบอุทกภัย ตลอดจนความปลอดภัยด้านอื่น ๆ โดยอาจจัดกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในต่างจังหวัดเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงานด้วย ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักประสานงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ในบ้านเรือนที่ระดับน้ำท่วมสูงและอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ในซอยลึกหรือพื้นที่ที่การให้ความช่วยเหลือเข้าถึงได้ยาก โดยการจัดส่งอาหารและให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ตลอดจนอาจให้ความช่วยเหลืออพยพผู้ประสบอุทกภัยออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
32227 | ร่างพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | วธ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่งได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32228 | การมอบหมายให้คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย รวม 3 คณะ จัดทำแผนฟื้นฟูในระยะ 1 ปี | นร | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการมอบหมายให้คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๐๒/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย รวม ๓ คณะ) ไปเร่งรัดจัดทำแผนฟื้นฟู เยียวยาในระยะ ๑ ปี เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ตลอดจนภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการแต่ละคณะ ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยด่วน เพื่อรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าต่อไป ทั้งนี้ หากคณะกรรมการทั้ง ๓ คณะดังกล่าวพิจารณาในภายหลังเห็นว่ายังมีแผนงานใดที่ควรต้องดำเนินการเพิ่มเติม ก็ให้สามารถจัดส่งให้ สศช. ในภายหลังเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปได้ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32229 | การขอโอนสัมปทานปิโตรเลียม (บางส่วน) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 15/2550/91 ในแปลงสำรวจหมายเลข G4/50 ในทะเลอ่าวไทย | พน | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอโอนสิทธิ ประโยชน์ และพันธะตามสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๑๕/๒๕๕๐/๙๑ แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G4/50 ในส่วนของบริษัท เชฟรอน ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีอยู่ในสัดส่วนร้อยละ ๗๕ ของสัมปทาน ให้แก่บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น จำกัด ซึ่งมีสิทธิ ประโยชน์ และพันธะตามสัมปทานในสัดส่วนร้อยละ ๒๕ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32230 | ขออนุมัติลงนามและให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (สนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ) | กต | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา โดยสาระสำคัญของร่างสนธิสัญญาฯ เป็นการกำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนในการขอโอนและการรับโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาระหว่างรัฐภาคี สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาที่ถูกพิพากษาลงโทษในดินแดนของภาคีฝ่ายหนึ่งอาจถูกโอนตัวไปยังดินแดนของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งได้เพื่อรับโทษที่เหลืออยู่ซึ่งตนถูกพิพากษา ๑.๒ ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาอาจถูกโอนตัวได้ถ้าถูกพิพากษาลงโทษจำคุก กักขังหรือทำให้ปราศจากอิสรภาพในรูปแบบอื่นใด ๑.๓ การกระทำหรือการงดเว้นการกระทำอันเป็นมูลเหตุของการมีคำพิพากษาให้ลงโทษเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายของรัฐผู้รับ ๑.๔ ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาที่อาจถูกโอนตัวต้องเป็นคนชาติของรัฐผู้รับ ๑.๕ รัฐผู้โอนและรัฐผู้รับตกลงกันที่จะให้มีการโอนตัวได้ และผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาให้ความยินยอมต่อการโอนตัวเป็นลายลักษณ์อักษร ๑.๖ ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาซึ่งกระทำความผิดต่อความมั่นคงภายในและภายนอกของรัฐ ต่อประมุขของรัฐ หรือสมาชิกในครอบครัวของประมุขของรัฐ หรือต่อกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสมบัติที่มีค่าทางศิลปะของชาติ จะไม่ได้รับการโอนตัว ๑.๗ หากผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาที่อาจถูกโอนตัวได้รับโทษในรัฐผู้โอนมาแล้วเป็นเวลาขั้นต่ำสำหรับความผิดนั้น ในกรณีที่มีกฎหมายของรัฐผู้โอนกำหนดไว้ ๑.๘ ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษายังคงเหลือระยะเวลาในการรับโทษตามคำพิพากษาอีกอย่างน้อย ๑ ปี ในขณะที่ได้รับคำร้องขอให้โอนตัวหรือหากเป็นบุคคลซึ่งถูกลงโทษโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ ก็ให้ถือว่ายังคงเหลือระยะเวลาในการรับโทษตามคำพิพากษาอีกอย่างน้อย ๑ ปี ๑.๙ รัฐผู้โอนยังคงไว้ซึ่งเขตอำนาจแต่ผู้เดียวเกี่ยวกับคำพิพากษาของรัฐผู้โอน รวมทั้งโทษตามคำพิพากษาที่กำหนดโดยศาลของรัฐผู้โอนในการที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกคำพิพากษาของศาลตน ๑.๑๐ การบังคับโทษตามคำพิพากษาต่อภายหลังการโอนตัวให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนของรัฐผู้รับ ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามสนธิสัญญาฯ ๓. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศให้สัตยาบันสนธิสัญญาฯ และแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารในโอกาสอันเหมาะสมตามที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันต่อไป ๔. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างสนธิสัญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
32231 | ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 | นร | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารงบประมาณรายจ่าย โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำในร่างมาตรา ๒๘ เป็น “งบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานขององค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ” เพื่อให้ครอบคลุมถึงการตั้งงบประมาณรายจ่ายให้แก่สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย รวมทั้งแก้ไขถ้อยคำ วรรคตอน และการจัดเรียงลำดับมาตราในร่างพระราชบัญญัติฯ ให้มีความถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้นตามแบบร่างกฎหมาย ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32232 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ตามแผนบูรณาการการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลฯ) | ทส | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลโดยการสร้างปะการังเทียม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการติดตามการดำเนินการโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลโดยการสร้างปะการังเทียม ในช่วงระยะเวลา ๕ เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน - สิงหาคม ๒๕๕๔ พบว่ามีทั้งสิ้น ๓๑ แผนงาน/โครงการ ดำเนินการใน ๑๖ จังหวัด โดย ๑๙ หน่วยงาน ซึ่งแบ่งการดำเนินงานการติดตามข้อมูลตามเขตพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๑ - ๖ ประกอบด้วย ศูนย์ฯ ๑ (จังหวัดระยอง) ๓ แผนงาน/โครงการ ศูนย์ฯ ๒ (จังหวัดสมุทรสาคร) ๔ แผนงาน/โครงการ ศูนย์ฯ ๓ (จังหวัดชุมพร) ๘ แผนงาน/โครงการ ศูนย์ฯ ๔ (จังหวัดสงขลา) ๙ แผนงาน/โครงการ ศูนย์ฯ ๕ (จังหวัดภูเก็ต) ๔ แผนงาน/โครงการ และศูนย์ฯ ๖ (จังหวัดสตูล) ๓ แผนงาน/โครงการ สรุปรวม ๓๑ แผนงาน/โครงการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๔๒๐.๕๙ ล้านบาท ทำสัญญาแล้ว ๑๖ โครงการ โดยดำเนินการแล้วเสร็จและเบิกจ่ายแล้ว ๔ โครงการ รวมเป็นเงิน ๕๓.๙๗ ล้านบาท ๒. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการโครงการฯ อาทิ การจัดทำปะการังเทียมมีความซ้ำซ้อน ไม่บูรณาการกันระหว่างหน่วยงานจัดสร้าง การจัดทำปะการังเทียมโดยไม่ขออนุญาตให้ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ สิ้นเปลืองงบประมาณ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตรายต่อการเดินเรือและการสัญจรทางน้ำ รวมทั้งขาดฐานข้อมูลที่ทันสมัยและพิกัดการจัดวางจริง ขาดการติดตามประเมินผลหลังการจัดวาง และการขออนุญาตการจัดวางใช้เวลานาน มีความซ้ำซ้อนและไม่มีความชัดเจน |
||||||||||||||||||||||||
32233 | ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ต่อนโยบายสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย | นร | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาในคดีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ ๑๐ คนขึ้นไป ตามมาตรา ๒๑๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญาและคดีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นช่วงเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหลายทั้งก่อนและหลังการรัฐประหาร เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ รวมทั้งคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา ๑๑๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งที่ประชุม ปคอป. เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ พิจารณาแล้วและมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ๑.๑ เร่งรัดตรวจสอบให้ชัดเจนว่าการแจ้งข้อหาและการดำเนินคดีกับผู้ที่ถูกกล่าวหาและจำเลยสอดคล้องกับพฤติการณ์แห่งการกระทำหรือไม่ และทบทวนว่ามีการตั้งข้อหาที่รุนแรงเกินสมควร หรือการดำเนินคดีที่เป็นพยานหลักฐานอ่อน ไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์ความผิดหรือไม่ ๑.๒ ดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาและจำเลย เพื่อให้ผู้ต้องหาและจำเลยสามารถต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัวอันเกิดจากการถูกจำกัดเสรีภาพ ในกรณีที่ศาลอนุญาตให้มีการปล่อยชั่วคราวแต่กำหนดให้มีหลักประกันด้วยนั้น ชอบที่รัฐบาลจะจัดหาหลักประกันดังกล่าวให้แก่ผู้ต้องหาและจำเลยที่ไม่สามารถจะจัดหาหลักประกันได้ เนื่องจากผู้ต้องหาและจำเลยมิใช่เป็นผู้ร้ายหรืออาชญากรดังเช่นคดีอาญาตามปกติ แต่เป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอันมีมูลเหตุจูงใจเพื่อบรรลุเป้าหมายในทางการเมือง หากผู้ต้องหาและจำเลยไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว รัฐบาลสมควรจัดหาสถานที่ในการควบคุมที่เหมาะสมที่มิใช่เรือนจำปกติดังเช่นที่เคยใช้กับนักโทษทางการเมืองในอดีต ๑.๓ ในระหว่างที่มีการศึกษาถึงแนวทางในการนำมาตรการต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศมาใช้ รัฐบาลสมควรขอความร่วมมือให้ชะลอการดำเนินคดีอาญาเหล่านี้ไว้ก่อน โดยรอให้มีข้อมูลที่ครบถ้วนในทุกด้าน ทั้งข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือเกี่ยวกับพฤติการณ์แห่งคดี ข้อมูลในภาพรวมของสาเหตุแห่งปัญหา ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางในด้านวิชาการเกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมายในกรอบของความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน และความยุติธรรมในเชิงสมานฉันท์ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ในการประเมินความเหมาะสมทั้งด้านประโยชน์สาธารณะ รวมทั้งมาตรการทางอาญาที่เหมาะสมก่อน ๒. เห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ ปคอป. ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้ ปคอป. ประสานขอความร่วมมือกับสำนักงานอัยการสูงสุดให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
32234 | ร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ที่ฝ่าฝืนการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง และผู้ที่ฝ่าฝืนการจัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ต้องรับโทษทางอาญา ตามมาตรา ๔๘ สำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีแล้ว แต่มีกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงหรือเงื่อนไขในใบอนุญาต ให้ได้รับเพียงโทษทางปกครองโดยการพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต ตามมาตรา ๔๓ โดยไม่ต้องรับโทษทางอาญาตามมาตรา ๔๘ อีก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32235 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านเหล่า จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านเหล่า จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลดงมหาวัน และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32236 | มาตรการลดภาวะโลกร้อนกับการท่องเที่ยว | นร | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการลดภาวะโลกร้อนกับการท่องเที่ยว ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการ/แนวทางการลดภาวะโลกร้อน ในหัวข้อ Innovative Climate Change Management Strategies in Tourism Development เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ซึ่งที่ประชุมได้กำหนดมาตรการ/แนวทางในการลดภาวะโลกร้อนในภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จำนวน ๔ ด้าน ซึ่งจะนำไปใช้กับโรงแรมนำร่อง “ต้นแบบ” ในพื้นที่พิเศษของ อพท. ได้แก่ การจัดการน้ำเสียและนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ การจัดการขยะ การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) ครั้งที่ ๗/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ได้เห็นชอบมาตรการ/แนวทางในการลดภาวะโลกร้อนกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั้ง ๔ ด้าน และให้ อพท. นำไปบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติราชการ ๔ ปี เพื่อผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ อพท. ได้จัดทำโครงการ Low Carbon Destination ระยะเวลาดำเนินโครงการ ๔ ปี บรรจุเป็นโครงการสำคัญ (Flagship) ในแผนปฏิบัติราชการ ๔ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘) ๓. อพท. ร่วมกับสถาบัน Asian Institute of Technology (AIT) ดำเนินการจัดฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการลดภาวะโลกร้อนให้แก่ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง และพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง พร้อมทั้งคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อเป็นสถานประกอบการต้นแบบในการนำมาตรการไปประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม และได้ดำเนินการติดตามประเมินผลการนำมาตรการลดภาวะโลกร้อนทั้ง ๔ ด้าน รวมทั้งจัดทำสรุปปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข เสนอคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) ในการประชุม กพท. ครั้งที่ ๙/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๔ ที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบผลการประเมินการนำมาตรการลดภาวะโลกร้อนไปใช้ในเขตพื้นที่พิเศษของ อพท. รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข
|
||||||||||||||||||||||||
32237 | แผนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย | นร | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของแผนและแนวทางการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมทั้งการมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการของแผนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในระยะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า มุ่งเน้นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งบรรเทาความเสียหายของผู้ประกอบการ วงเงินงบประมาณ ๑,๐๒๗ ล้านบาท และระยะของการช่วยเหลือระหว่างที่ระดับน้ำในพื้นที่ยังท่วมสูง เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถปรับตัวให้อยู่กับสถานการณ์อุทกภัยที่คาดว่าจะยังดำรงอยู่ในช่วง ๔ - ๖ สัปดาห์ วงเงินงบประมาณ ๑๓,๓๔๗ ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียดของงบประมาณและนำเสนอคณะรัฐมนตรี ๑.๒ ให้คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม กำกับ ติดตาม เร่งรัด และรายงานผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามข้อ ๑.๑ ให้คณะรัฐมนตรีทราบ ทั้งนี้ หากกรณีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปและพิจารณาเห็นว่าต้องกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้การดำเนินงานสัมฤทธิผลอย่างแท้จริง ให้จัดทำมาตรการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ ๑.๓ เห็นชอบในหลักการของแนวทางการดำเนินการในระยะการฟื้นฟูภายหลังน้ำลดแล้ว มุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมในทุกมิติ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว วงเงินงบประมาณ ๔๒,๗๐๔ ล้านบาท และระยะการปรับโครงสร้างถาวร ซึ่งจะดำเนินการวางแผนและเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการในภาวะวิกฤตในอนาคต เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ วงเงินงบประมาณ ๒๔,๔๒๘ ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม จัดทำแนวทางและแผนการดำเนินการในระยะการฟื้นฟูภายหลังน้ำลดแล้ว เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และให้คณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลืออุทกภัย ดินโคลนถล่ม วาตภัย และคลื่นชายฝั่ง จัดทำแนวทางและแผนการดำเนินการในระยะการปรับโครงสร้างถาวร เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ๒. เห็นชอบการปรับปรุงถ้อยคำเกี่ยวกับภารกิจที่มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับผิดชอบดำเนินการให้ถูกต้องชัดเจน โดยการจัดทำพนังกั้นน้ำในแต่ละพื้นที่ นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะรับไปประสานงานเพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการจัดขึ้นใหม่ให้มีความสูงสอดคล้องกับระดับน้ำสูงสุด ส่วนกรณีการเผยแพร่ข้อมูลในเว็บไซต์ของทางราชการ ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม ๓. สำหรับการบูรณาการกิจกรรมในศูนย์อพยพ ๔ - ๖ สัปดาห์ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยดำเนินการเพิ่มเติมร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||
32238 | ร่างพระราชบัญญัติสวนป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสวนป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ดังต่อไปนี้
๑. แก้ไขเพิ่มเติมคำนิยามคำว่า “สวนป่า” เพื่อให้ที่ดินที่ปลูกไม้ทุกชนิดสามารถนำมาขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่าได้ ๒. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทที่ดินที่จะขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่าได้ตามความในมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยแก้ไขเพิ่มเติมความใน (๔) และเพิ่มเติม (๖) และ (๗) ของมาตรา ๔ ๓. แก้ไขเพิ่มเติมความในมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ และเพิ่มเติมร่างมาตรา ๑๑/๑ เพื่อให้ผู้ทำสวนป่าตั้งโรงงานแปรรูปไม้ได้ และให้อธิบดีเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยให้รัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาต ๔. แก้ไขเพิ่มเติมความในมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าภาคหลวง ค่าบำรุงป่า และค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ ๕. เพิ่มเติมร่างมาตรา ๑๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้การเก็บหาของป่าบางชนิดในสวนป่าได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าภาคหลวงและค่าบำรุงป่าตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ และกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ ๖. เพิ่มเติมร่างมาตรา ๒๖/๑ แห่งพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อกำหนดให้มีมาตรการลงโทษทางปกครองในกรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการทำสวนป่า หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ๗. กำหนดบทกำหนดโทษ |
||||||||||||||||||||||||
32239 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่จังหวัดอุดรธานี จำนวน 1 ฉบับ | กษ | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำด้วง ตำบลกลางใหญ่ ตำบลเมืองพาน ตำบลบ้านค้อ ตำบลหายโศก ตำบลบ้านผือ ตำบลหนองหัวคู ตำบลคำบง ตำบลโนนทอง ตำบลข้าวสาร ตำบลจำปาโมง ตำบลเขือน้ำ ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านผือ และตำบลสร้างก่อ ตำบลตาลเลียน อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากรณีร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีแนวเขตปฏิรูปที่ดินทับซ้อนกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองหัวคู และเห็นควรให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดำเนินการกันพื้นที่ที่ทับซ้อนกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดังกล่าวออกจากแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ และประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อจะเข้าดำเนินการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
32240 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเด่นชัย - แม่จั๊วะ จังหวัดแพร่ พ.ศ. .... | มท | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเด่นชัย - แม่จั๊วะ จังหวัดแพร่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่บางส่วนของตำบลปงป่าหวาย บางส่วนของตำบลแม่จั๊วะ และบางส่วนของตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมือง และบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....