ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1244 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 24861 - 24880 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24861 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 10 ราย) (1. นายธานี สามารถกิจ ฯลฯ) | มท | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน ๔ ราย และผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ จำนวน ๖ ราย รวม ๑๐ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. นายธานี สามารถกิจ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ๒. นายระพี ผ่องบุพกิจ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ๓. นายเสริม ไชยณรงค์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ๔. นายสุรพล วาณิชเสนี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ๕. นายชยพล ธิติศักดิ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครสวรรค์ ๖. นายประทีป กีรติเรขา ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี ๗. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดระยอง ๘. นายอำนวย ตั้งเจริญชัย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดหนองบัวลำภู ๙. นายยุทธนา วิริยะกิตติ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดศรีสะเกษ ๑๐. นายธานี ธัญญาโภชน์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดกำแพงเพชร
|
|||||||||||||||||||||||||||
24862 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | สธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการควบคุมความหนาแน่นของอาคาร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24863 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชน พ.ศ. .... | ยธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการระงับข้อพิพาทในทางแพ่ง ในทางอาญาเกี่ยวกับความผิดอันยอมความได้และความผิดลหุโทษ โดยคนในชุมชนซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาถึงขอบเขตของหลักการ ความเหมาะสม การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงความซ้ำซ้อนของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กับกฎหมายฉบับอื่นที่เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เช่น พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินฯ โดยให้เชิญกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเข้าร่วมชี้แจงด้วย หากมีประเด็นในเชิงนโยบายที่ยังขัดแย้งกัน ให้หารือคณะรัฐมนตรีก่อน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24864 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรา และยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การกำหนดรายชื่อบริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์] | กค | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การกำหนดรายชื่อบริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์] ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24865 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | อก | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ ๘ ไร่ ๗๗ ๑/๑๐ ตารางวา ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24866 | ร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๖ เพื่อให้การดำเนินภารกิจของกรมราชทัณฑ์ตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๖ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้ต้องขังให้สอดคล้องกับหลักทางด้านสิทธิมนุษยชน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับข้อสังเกตของสำนักงานศาลยุติธรรมเกี่ยวกับร่างมาตรา ๕/๑ ที่กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าบังคับบัญชาสถานที่กักขังหรือผู้ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าบังคับบัญชาสถานที่กักขังมอบหมายเป็นผู้อำนาจที่จะสั่งให้ใช้หรือเพิกถอนการใช้เครื่องพันธนาการในบางกรณีตามมาตรานี้ ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระยะเวลาในการใช้เครื่องพันธนาการดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางให้การใช้ดุลพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความรอบคอบและเหมาะสม โดยคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของผู้ต้องกักขังเป็นสำคัญ และร่างมาตรา ๕/๓ ที่กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจสอบจดหมาย เอกสาร พัสดุภัณฑ์ หรือสิ่งสื่อสารอื่น หรือสกัดกั้นการติดต่อสื่อสารโดยทางใด ๆ ซึ่งมีถึง หรือจากผู้ต้องกักขัง อาจเป็นการกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคลของผู้ต้องกักขังเกินควร เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔ กำหนดให้ผู้ต้องโทษกักขังต้องถูกกักตัวไว้ในสถานที่กักขังซึ่งกำหนดไว้อันมิใช่เรือนจำ สถานีตำรวจ หรือสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน หรือถ้าศาลเห็นสมควรจะให้กักขังไว้ในที่อยู่อาศัยของผู้นั้นเอง หรือของผู้อื่นที่ยินยอมรับผู้นั้นไว้ หรือสถานที่อื่นที่อาจกักขังได้ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทหรือสภาพของผู้ถูกกักขังได้ และมาตรา ๒๕ ที่กำหนดให้ผู้ต้องโทษกักขังมีสิทธิรับและส่งจดหมายได้ ดังนั้น ผู้ต้องกักขังจึงเป็นบุคคลที่ถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพบางประการเท่านั้น ไปประกอบการพิจารณา และให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมราชทัณฑ์ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปร่วมชี้แจง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
24867 | ผลการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม ค.ศ. 2014 ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ | ทก | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม ค.ศ. ๒๐๑๔ (Plenipotentiary Conference : PP-14) ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) ณ เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ ๒๐ ตุลาคม-๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ และผลการเลือกตั้งตำแหน่งสมาชิกสภาบริหาร (Council) ของ ITU ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุม PP-14 ได้มีการพิจารณาข้อเสนอจากประเทศสมาชิกในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย แผนยุทธศาสตร์ และแผนงบประมาณของ ITU ตลอดจนการบริหารจัดการองค์กร และการกำหนดท่าทีร่วมของประเทศสมาชิก ITU ต่อประเด็นสำคัญด้านโทรคมนาคมและ ICT และได้มีมติเห็นชอบให้ออกข้อมติใหม่ จำนวน ๒๐ ข้อ ให้แก้ไขข้อมติเดิม จำนวน ๔๙ ข้อ ให้ยกเลิกข้อมติเดิม จำนวน ๗ ข้อ ให้ออกข้อตัดสินใจใหม่ จำนวน ๒ ข้อ และให้แก้ข้อตัดสินใจเดิม จำนวน ๓ ข้อ ๑.๒ ประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม PP-14 ได้ลงนามรับรองกรรมสารสุดท้าย (Final Acts) ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงผลการประชุมฯ โดยได้รวบรวมข้อมติต่าง ๆ ของที่ประชุมฯ เกี่ยวกับการกำหนดแผนงานกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการของ ITU ในเรื่องการพัฒนาโทรคมนาคม มาตรฐานโทรคมนาคม และวิทยุคมนาคม และแผนงานในการบริหารจัดการองค์กรของ ITU สำหรับช่วง ๔ ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงเรื่องแผนงบประมาณ การเงินและบัญชี การบริหารทรัพยากรบุคคล การจัดประชุมและกิจกรรมต่าง ๆ ของ ITU เป็นต้น ๑.๓ ที่ประชุม PP-14 มีมติเห็นชอบให้มีการพิจารณาเรื่องการทำให้ธรรมนูญและอนุสัญญาของของ ITU เป็นเอกสารที่มีเสถียรภาพและไม่ควรมีการแก้ไขเป็นประจำ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการพิจารณาในการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มฯ ครั้งต่อไปในปี ค.ศ. ๒๐๑๘ (PP-18) ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ที่ประชุม PP-18 จะให้ความเห็นชอบต่อการกำหนดให้ธรรมนูญและอนุสัญญาของ ITU เป็นเอกสารที่มีเสถียรภาพ ซึ่งในกรณีดังกล่าวจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขธรรมนูญและอนุสัญญาทั้งฉบับเพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาวได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขเป็นประจำทุก ๔ ปี ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อยื่นสัตยาบันสารสำหรับการแก้ไขบทบัญญัติในธรรรมนูญและอนุสัญญาของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศที่เป็นผลจากการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ปี ค.ศ. ๑๙๙๘ ค.ศ. ๒๐๐๒ ค.ศ. ๒๐๐๖ และ ค.ศ. ๒๐๑๐ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24868 | ขอลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปีภาษี 2557 | คค | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ประจำปีภาษี ๒๕๕๗ โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการพิจารณาลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปีภาษี ๒๕๕๔-๒๕๕๖ ตามแนวทางที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๒. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจให้มีมาตรฐานเดียวกัน เป็นธรรม และมีผลบังคับใช้ทั่วไปกับทุกรัฐวิสาหกิจ ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินเขื่อนรัชชประภา ประจำปี ๒๕๕๖) |
|||||||||||||||||||||||||||
24869 | ผลการจัดงานรำลึกครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย | กต | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการจัดงานรำลึกครบรอบ ๑๐ ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย สรุปได้ ดังนี้
๑. พิธีรำลึก ซึ่งมีพิธีที่สำคัญ เช่น การวางพวงมาลาของคณะทูตานุทูตและผู้แทนครอบครัวผู้เสียชีวิต การกล่าวสุนทรพจน์ของผู้แทนระดับสูงฝ่ายการต่างประเทศกล่าวคำไว้อาลัยและรำลึกถึงผู้เสียชีวิตของนายกรัฐมนตรี การยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยและพิธีจดเทียนรำลึก เป็นต้น ๒. การเยี่ยมชมชุมชนต้นแบบด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติบ้านน้ำเค็ม และการเยี่ยมชมชุมชนต้นแบบด้านการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์สึนามิ ปี ๒๕๔๗ โครงการหมู่บ้านชัยพัฒนา-กาชาดไทย (บ้านทุ่งรัก) ๓. การหารือทวิภาคีของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และรองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการเพื่อมนุษยธรรม และผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติและการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในทุกระดับ ๔. การจัดสัมมนาโต๊ะกรม “Ten Years On : The Indian Ocean Tsunami From Learning to Action” โดยสำนักงานสหประชาชาติเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (United Nations Office for Disaster Risk Reduction : UNISDR) ซึ่งมีข้อเสนอในการบูรการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ตลอดจนการสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
24870 | รายงานผลการดำเนินงานสืบเนื่องจากการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ไทย - เวียดนาม | วธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานสืบเนื่องจากการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เข้าพบนาย Huynh Vinh Ai รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเวียดนาม เพื่อหารือเรื่องแผนงาน โครงการ กิจกรรมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านศิลปะ ห้องสมุด หอจดหมายเหตุ โบราณคดี พิพิธภัณฑ์ ศาสนา เป็นต้น และการแลกเปลี่ยนการจัดกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการซึ่งจะดำเนินการระหว่างปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ โดยรัฐมนตรีทั้งสองประเทศคาดหวังว่า แผนปฏิบัติการฉบับนี้จะเป็นกรอบการดำเนินงานในการกระชับความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระดับทวิภาคีไทย-เวียดนาม ส่งผลและเกื้อหนุนความสัมพันธ์ในการเริ่มต้นการเป็นประชาคมอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ไทยและเวียดนามจะครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งจะเป็นวาระสำคัญในการผลักดันให้เกิดการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการดำเนินความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเวียดนามในด้านอื่น ๆ ต่อไป ๑.๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้พบหารือกับผู้บริหารแหล่งวัฒนธรรมและแหล่งมรดกโลกในเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเห็นว่า การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลกถือเป็นเรื่องเร่งด่วนของไทยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี กล่าวคือ การพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ แหล่งมรดกโลก อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถานขึ้นทะเบียนทั่วประเทศ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ ศูนย์วัฒนธรรม และโรงละคร ให้เกิดการพัฒนาและเปิดพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ นอกจากนี้ จะบูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะร่วมกันจัดทำแผนการพัฒนากลุ่มจังหวัดที่มีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แนวทางจัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่กำลังจะเสนอเป็นมรดกโลกในอนาคต ทั้งนี้ พร้อมจะร่วมมือกับเวียดนามภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลก อาทิ หอสมุดและจดหมายเหตุ และมรดกทางวัฒนธรรม ๒. มอบหมายกระทรวงวัฒนธรรมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมฯ และผลการหารือความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในไทยและเวียดนามเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ๔๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ |
|||||||||||||||||||||||||||
24871 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีการทำสัญญาเช่าอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย แห่งใหม่ | กต | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๓ เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม วงเงินงบประมาณ ๕๑,๔๐๐,๘๐๐ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบดำเนินงาน รายการค่าเช่าอาคารสถานทูตสถานกงสุล จำนวน ๖,๘๕๓,๔๔๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓ จำนวน ๔๔,๕๔๗,๓๖๐ บาท ทั้งนี้ การดำเนินการเช่าอาคารดังกล่าว ให้กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด และประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยสอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
24872 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว | กก | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ลงนามในความตกลงฯ ๑.๓ ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามดังกล่าวในการลงนามความตกลงฯ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาแนวทางขยายความร่วมมือในด้านอื่น ๆ กับสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน เช่น การสำรวจและใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรแร่ เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||
24873 | ผลการหารือทวิภาคีระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 5 | นร04 | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามผลการหารือในประเด็นต่าง ๆ ตามตารางที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีจีน ในประเด็นความร่วมมือด้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟและด้านการค้าสินค้าเกษตร การแก้ไขอุปสรรคทางการค้า การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค และความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๑.๒ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในประเด็นเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-กัมพูชา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จุดผ่านแดนสตึงบท พื้นที่ไหล่ทวีปที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ การเปิด/ยกระดับจุดผ่านแดน ความร่วมมือด้านแรงงาน โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชา ศิลปวัตถุ และกรณีทหารไทยยิงสตรีกัมพูชาเสียชีวิต ๑.๓ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีลาว ในประเด็นภาพรวมความสัมพันธ์ การพัฒนาเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงในภูมิภาค ความร่วมมือด้านไฟฟ้า และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขง ๑.๔ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในประเด็นการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม อย่างไม่เป็นทางการ ความร่วมมือด้านการลงทุน ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร ความร่วมมือด้านการพัฒนาความเชื่อมโยง การลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทยของชาวประมงเวียดนาม ความร่วมมือด้านแรงงาน และความร่วมมือในกรอบลุ่มแม่น้ำโขง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการเปิดและยกระดับจุดผ่านแดนระหว่างไทยและกัมพูชา จำนวน ๔ แห่ง ที่ได้หารือกันไว้เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ ควรมีการสำรวจรายละเอียดภูมิประเทศในบริเวณดังกล่าวร่วมกันก่อนเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในการปักปันเขตแดนร่วมกันต่อไปในอนาคต สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทย-เวียดนาม จะต้องดำเนินการใน ๒ ส่วนควบคู่กันไป คือ การจัดระเบียบแรงงานที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว และการนำเข้าแรงงานใหม่อย่างถูกกฎหมาย ส่วนการลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทยของชาวประมงเวียดนาม ควรดำเนินการอย่างสอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศและพื้นฐานของการเคารพต่อกฎหมายไทย ไปพิจารณาต่อไป ๓. ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ประสานงานหลักของ GMS จึงมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปดำเนินการจัดทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อประเทศสมาชิก GMS จากการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง บริเวณแม่น้ำโขง เพื่อส่งให้รัฐบาลลาวทราบต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
24874 | ขอความเห็นชอบเลิกจ้างผู้บริหารองค์การสวนยาง | กษ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเลิกจ้างผู้บริหารองค์การสวนยางของนายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การสวนยาง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ มกราคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24875 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลวังทอง ตำบลชัยนาม และตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24876 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... | มท | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24877 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) | สว | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) เกี่ยวกับการออกข้อกำหนดในการดำเนินคดีแบบกลุ่มตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง การร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มอาจมีประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่น การจ่ายเงินรางวัลทนายความที่กำหนดไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่ม รวมทั้งมาตรการบางประการเกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่ม และให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่เห็นควรมีมาตรการหรือช่องทางให้โจทก์สามารถขอรับการสนับสนุนเงินหรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีจากแหล่งเงินทุนตามที่มีอยู่ และจะเป็นการดีที่สุดหากภาครัฐสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการดำเนินคดีแบบกลุ่มโดยเฉพาะ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24878 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. 2554) | มท | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยแก้ไขข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดความสมบูรณ์และชัดเจนในการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมทั้งเพิ่มเติมโรงงานบางลำดับ ประเภท ชนิด และจำพวก ในบัญชีท้ายกฎกระทรวงให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้ในที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และสอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน และเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24879 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | ศธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงเพื่อเปลี่ยนชื่อส่วนราชการระดับสำนักที่มีหน้าที่หลักในการสนับสนุนวิชาการ การบริหารจัดการและการบริการทางการศึกษา ให้เหมาะสมกับภารกิจ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24880 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีข้อสังเกตว่า การเปลี่ยนชื่อโรงเรียนนายเรืออากาศ เป็นโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพอากาศ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ มีประเด็นเชื่อมโยงกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ที่ได้มีการกล่าวถึงโรงเรียนนายเรืออากาศไว้ในบันทึกหลักการ มาตรา ๓ มาตรา ๔ และมาตรา ๕ ซึ่งเห็นควรต้องมีการแก้ไขชื่อโรงเรียนนายเรืออากาศ เป็นโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการฯ ดังกล่าว ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....