ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1249 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 24961 - 24980 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24961 | ขออนุมัติเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย ปี 2558 เพิ่มเติม | กษ | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการเปิดตลาดนำเข้าโควตานมผงขาดมันเนย ปี ๒๕๕๘ เพิ่มเติม ปริมาณ ๒๒,๑๗๒.๘๘ ตัน ในอัตราภาษีร้อยละ ๕ เท่ากับอัตราภาษีในโควตาที่เก็บจริงในปัจจุบัน ให้แก่ผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นและเดือดร้อนจากการขาดแคลนวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิต โดยยกเว้นการจัดสรรโควตาตามสัดส่วนผู้ประกอบการกลุ่มนิติบุคคลที่ ๑ กับกลุ่มนิติบุคคลที่ ๒ ในอัตรา ๘๐ : ๒๐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ และให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การจัดสรรโควตาในส่วนนี้ โดยยึดหลักตามลำดับความจำเป็นและความเดือดร้อน และให้ผู้ประกอบการนำเข้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ รวมทั้งไม่ให้กระทบต่อมาตรการและปริมาณการรับซื้อน้ำนมโคจากเกษตรกร ตามมติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้นำเข้าเฉพาะในช่วงเวลาที่น้ำนมขาดแคลนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตภายในประเทศ ทั้งนี้ ให้ผู้มีสิทธินำเข้ารับซื้อนมดิบทั้งหมดจากเกษตรกรในราคาตลาด โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องติดตามราคาการรับซื้อว่าถูกต้องและเป็นธรรมต่อผู้ผลิต ๑.๒ ก่อนสิ้นสุดการนำเข้าในปี ๒๕๕๘ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประเมินผลการดำเนินงานเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีหากจะขอเปิดตลาดนำเข้าเพิ่มเติมในปีต่อไป ๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามระดับราคานมผงขาดมันเนย ทั้งราคานำเข้าและราคาตลาด และกำหนดมาตรการรองรับการนำเข้านมผงขาดมันเนยที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตภายในประเทศ แล้วรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นระยะ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการติดตามผลการนำเข้านมผงขาดมันเนยอย่างใกล้ชิด และติดตามผลการดำเนินงานการบริหารจัดการโควตานำเข้านมผงขาดมันเนย เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมนมในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง แล้วรายงานคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมทราบ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ไปดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
24962 | สรุปผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างวันที่ 26 - 30 มกราคม 2558 | ยธ | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างวันที่ ๒๖-๓๐ มกราคม ๒๕๕๘ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เข้าพบบุคคลสำคัญ อาทิ นางหวู เอย อิ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจีน นายหลี่ หรูหลิน รองอัยการสูงสุดประชาชนจีน และนายเมิ้ง เจี้ยน จู้ สมาชิกกรมการเมือง หัวหน้าคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมาย คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ เทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี เป็นต้น โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้านงานราชทัณฑ์ ด้านการปราบปรามการทุจริต ด้านการปราบปรามยาเสพติด และการแก้ไขปัญหาชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ศึกษาดูงานสถานพินิจและคุ้มครองเยาวชนที่กระทำผิด และเยี่ยมชมศูนย์การข่าวและนิติวิทยาศาสตร์ยาเสพติด ซึ่งการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้รับประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ได้มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์และแสวงหาแนวร่วมในระดับนานาชาติของหน่วยงานของรัฐในการแก้ไขปัญหาด้านการทุจริต ยาเสพติด และงานราชทัณฑ์ ตลอดจนเพื่อให้เป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการร่วมมือกับนานาชาติในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
24963 | แนวทางบริหารจัดการยางพาราเพื่อแก้ปัญหาราคายาง | กษ | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการแนวทางบริหารจัดการยางพาราเพื่อแก้ปัญหาราคายาง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) ขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกไปจากเดิมวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เป็นวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ โดยให้กระทรวงการคลังขยายระยะเวลาค้ำประกันเงินกู้กับ ธ.ก.ส. ออกไป ตามระยะเวลาการขยายชำระเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. พร้อมชดเชยต้นทุนเงินในอัตราดอกเบี้ย FDR+1 และให้ อ.ส.ย. บริหารจัดการสต็อกยางของโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางควบคู่ไปกับการบริหารจัดการสต็อกยางของโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยเบิกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากงบประมาณของโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง ๑.๒ ให้ อ.ส.ย. ใช้วงเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพิ่มเติมอีกจำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินการรับซื้อยางแผ่นรมควัน ชั้น ๓ ไม่อัดก้อน ยางแผ่นรมควันอัดก้อน และยางแท่ง STR 20 วงเงิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท และเพื่อดำเนินโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางสำหรับซื้อน้ำยางสด และยางก้อนถ้วย ในวงเงิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท ๒. สำหรับการขยายวงเงินสินเชื่อโครงการมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางเพิ่มเติมอีก ๖,๐๐๐ ล้านบาท นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำรายละเอียด หลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางการดำเนินงานที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์โดยตรงจากการดำเนินโครงการฯ แล้วนำเสนอคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ก่อนดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ อ.ส.ย. ติดตามกำกับดูแลการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง รวมทั้งมีแผนการระบายยางที่มีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้โครงการประสบภาวะขาดทุน และเมื่อดำเนินโครงการเสร็จสิ้น ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็น ทั้งนี้ ในส่วนของการกู้เงินและค้ำประกันเงินกู้ของ อ.ส.ย. ให้ อ.ส.ย. ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงการขอบรรจุรายการดังกล่าวในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต่อไปในโอกาสแรก ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
24964 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... | ทก | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการเตรียมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย ดังนี้ ๑.๑ เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ให้ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ๑.๒ ในการพิจารณาหรือดำเนินการเรื่องใดของคณะกรรมการฯ หากเกี่ยวข้องกับกระทรวงหรือหน่วยงานใด ให้มีอำนาจเชิญผู้แทนกระทรวงหรือหน่วยงานนั้นเข้าร่วมชี้แจงด้วย ทั้งนี้ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ จะต้องดำเนินการภายใต้กรอบของข้อกฎหมายและข้อกำหนดขององค์กรอื่นที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วย ๒. ให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มกรรมการจากภาครัฐและภาคเอกชนที่สำคัญ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสภาหอการค้าไทย เพื่อให้การเตรียมความพร้อมการดำเนินงานด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมีความสอดคล้องกับภารกิจทั้งในด้านการดำเนินงานและงบประมาณ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
24965 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน (จำนวน 3 ราย 1. พลอากาศเอก สฤษดิ์พงษ์ โกมุทานนท์ ฯลฯ) | คค | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมติ (๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑ พลอากาศเอก สฤษดิ์พงษ์ โกมุทานนท์ ประธานกรรมการ ๒. นายกุศล แย้มสอาด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ร้อยเอก ประยุทธ เสาวคนธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||
24966 | การพิจารณาแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกรแทนตำแหน่งที่ว่างลง (จำนวน 4 คน 1. นายเยี่ยม จันทรประสิทธิ์ ฯลฯ) | มท | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกรแทนกรรมการที่ขอลาออก จำนวนรวม ๔ คน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายเยี่ยม จันทรประสิทธิ์ ๒. นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ๓. นายสง่า ศุภโชคพาณิชย์ ๔. นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์
|
||||||||||||||||||||||||
24967 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ | วท | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ จำนวน ๒ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายศักรินทร์ ภูมิรัตน ๒. นายทรงพล ดีจงกิจ
|
||||||||||||||||||||||||
24968 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ (นางนันทริกา ชันซื่อ และนายเวทย์ นุชเจริญ) | ทส | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ จำนวน ๒ คน เนื่องจากกรรมการเดิมได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นางนันทริกา ชันซื่อ ๒. นายเวทย์ นุชเจริญ
|
||||||||||||||||||||||||
24969 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย (จำนวน 5 คน 1. นายชัยเกียรติ ห่านสัมฤทธิ์ ฯลฯ ) | ทส | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย จำนวน ๕ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการเดิมได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายชัยเกียรติ ห่านสัมฤทธิ์ ประธานกรรมการ ๒. นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ กรรมการอื่น ๓. นายอณุศาสน์ อรรถวิทยา กรรมการอื่น ๔. พลอากาศเอก ปรีชัย หาญเจนลักษณ์ กรรมการอื่น ๕. นางจิราวรรณ แย้มประยูร กรรมการอื่น
|
||||||||||||||||||||||||
24970 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ ทั้งปี 2557 และแนวโน้มปี 2558 | นร11 | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ ทั้งปี ๒๕๕๗ และแนวโน้มปี ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี ๒๕๕๗ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่สี่ของปี ๒๕๕๗ ขยายตัวร้อยละ ๒.๓ ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากการขยายตัวร้อยละ ๐.๒ ในสามไตรมาสแรก และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สี่ขยายตัวจากไตรมาสที่สามร้อยละ ๑.๗ (QoQ_SA) เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ ๑.๒ ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวในเกณฑ์ดีร้อยละ ๑.๙ ส่วนการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของรัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕.๕ ด้านการส่งออกสินค้า มีมูลค่า ๕๖,๗๖๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑.๕ และด้านการผลิตปรับตัวดีขึ้นในเกือบทุกสาขา โดยเฉพาะสาขาอุตสาหกรรม สาขาก่อสร้าง และสาขาโรงแรมและภัตตาคารที่กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบหลายไตรมาสที่ผ่านมา สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำร้อยละ ๐.๖ อัตราเงินเฟ้อเท่ากับร้อยละ ๑.๑ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ๓๑๖,๗๖๗ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๐.๒ ของ GDP ๒. เศรษฐกิจไทยโดยรวมทั้งปี ๒๕๕๗ ขยายตัวร้อยละ ๐.๗ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ การบริโภคของครัวเรือน และสาขาเกษตรกรรม ซึ่งขยายตัวร้อยละ ๒.๘ ๐.๓ และร้อยละ ๑.๑ ตามลำดับ แต่การลงทุนรวม และสาขาอุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ ๒.๘ และร้อยละ ๑.๑ ตามลำดับ สาขาโรงแรมและภัตตาคาร ลดลงร้อยละ ๒.๑ โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น ๒๔.๘ ล้านคน (ลดลงร้อยละ ๖.๗) มูลค่าการส่งออกสินค้าอยู่ที่ ๒๒๔,๗๙๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ ๐.๓ เนื่องจากการลดลงของราคาส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องโดยเฉพาะราคาข้าวและยางพารา ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี ๒๕๕๗ ยังเป็นไปอย่างช้า ๆ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจยังคงมีเสถียรภาพ โดยที่อัตราการว่างงานทั้งปีเท่ากับร้อยละ ๐.๘ อัตราเงินเฟ้อเท่ากับร้อยละ ๑.๙ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๓.๘ ของ GDP ๓. แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี ๒๕๕๘ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๓.๕-๔.๕ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ของภาคการส่งออกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว การเร่งรัดการใช้จ่ายและการดำเนินโครงการลงทุนที่สำคัญ ๆ ของภาครัฐ การเริ่มกลับมาขยายตัวของปริมาณการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ และการลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีแรก และต้องติดตามและประเมินสถานการณ์การปรับตัวของสถานการณ์ด้านราคาในช่วงครึ่งปีหลังอย่างใกล้ชิด ด้านการส่งออกสินค้าคาดว่ามูลค่าจะขยายตัวร้อยละ ๓.๕ การบริโภคของครัวเรือนและการลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ ๒.๙ และร้อยละ ๖.๐ ตามลำดับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในช่วงร้อยละ ๐.๐-๑.๐ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๔.๙ ของ GDP
|
||||||||||||||||||||||||
24971 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี WTO อย่างไม่เป็นทางการ ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส | พณ | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) อย่างไม่เป็นทางการ (Informal Ministerial Gathering : IMG) เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๘ ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุม IMG เน้นย้ำความสำคัญและการผลักดันให้สมาชิกปฏิบัติตามข้อมติการประชุมระดับรัฐมนตรี WTO สมัยสามัญ ครั้งที่ ๙ (MC9) เมื่อปี ๒๕๕๖ ทุกเรื่อง รวมทั้งการให้สัตยาบันความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Agreement on Trade Facilitation : TFA) การจัดทำมาตรการถาวร (permanent solution) สำหรับการคงคลังสินค้าของรัฐบาลเพื่อความมั่นคงทางอาหาร (Public Stockholding for Food Security Purposes) และประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เช่น การให้สิทธิประโยชน์ในการค้าบริการแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC Services Waiver) การยกเลิกภาษีและโควตา (DFQF) แก่สินค้าส่งออกจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และการกำหนดให้มีกระบวนการเพื่อความโปร่งใสและการกำกับดูแลการค้าผลิตค้าฝ้าย ตลอดจนผลักดันให้มีการจัดทำแผนงานเจรจา (work program) เพื่อกำหนดขอบเขตประเด็นเจรจาที่ต้องการผลักดันภายใต้การเจรจารอบโดฮา (Doha Development Agenda : DDA) ที่มีรายละเอียดและมีความชัดเจนภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ที่ประชุม IMG สนับสนุนให้สมาชิกมีความยืดหยุ่นและพยายามเสนอข้อประนีประนอมสำหรับประเด็นหลักการเจรจา ได้แก่ สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และการค้าบริการ โดยประเทศสมาชิกจะต้องหาข้อสรุปในประเด็นทั้งหลายให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ ๑.๒ กระทรวงพาณิชย์มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมติ MC9 โดยเฉพาะเรื่อง TFA ประเทศไทยอาจพิจารณาเร่งรัดการดำเนินการภายในเพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่องการให้สัตยาบันต่อ TFA ภายในปี ๒๕๕๘ เพื่อให้มีผลใช้บังคับโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ ลดขั้นตอนเอกสารและต้นทุนค่าใช้จ่ายยิ่งขึ้น ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าในการเจรจาสินค้าและประมง (NAMA) ภายใต้ WTO ประเทศไทยควรสนับสนุนการเจรจาลดภาษีในภาพรวมเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการเจรจา ควรเร่งประสานงานระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้การบูรณาการจัดทำแผนงานเจรจา (Work program) มีความชัดเจนในรายละเอียดและแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด และเพื่อให้ประเทศไทยมีบทบาทร่วมในการผลักดันการเจรจารอบโดฮาไปสู่ความสำเร็จ รวมทั้งเพิ่มเติมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร) เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นการลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรมและประมง และการลดภาษีรายสาขาสำหรับการเจรจาสินค้าอุตสาหกรรม เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
24972 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๔ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... ๒. รับทราบและเห็นชอบการขอปรับแก้ไขนิยามคำว่า “ว่างงาน” ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เสนอ โดยให้เป็นไปตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ๓. เห็นชอบให้รับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นางสาวจินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร กับคณะ เป็นผู้เสนอ) มาพิจารณาก่อนรับหลักการ ตามมาตรา ๑๔ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และข้อ ๑๑๗ ของข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗ และเห็นชอบเป็นหลักการให้ดำเนินการสำหรับร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ โดยให้ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ ๓.๑ ในการเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อขอรับร่างพระราชบัญญัติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปแห่งชาติมาพิจารณาก่อนรับหลักการ โดยปกติให้ขอเวลาสำหรับพิจารณามีกำหนดอย่างน้อย ๒๐ วัน ๓.๒ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติอนุมัติแล้ว ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างพระราชบัญญัตินั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาดำเนินการ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัตินั้นมาร่วมพิจารณาโดยด่วนให้แล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลาที่ขอรับมา และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแต่ละฉบับมีความสอดคล้องกับทิศทางนโยบายของคณะรัฐมนตรีและกรอบงบประมาณ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมพิจารณาด้วยทุกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
24973 | แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ | นร | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเป็นหลักการให้ดำเนินการสำหรับร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ โดยให้ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
๑. ในการเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อขอรับร่างพระราชบัญญัติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปแห่งชาติมาพิจารณาก่อนรับหลักการ โดยปกติให้ขอเวลาสำหรับพิจารณามีกำหนดอย่างน้อย ๒๐ วัน ๒. เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติอนุมัติแล้ว ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างพระราชบัญญัตินั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาดำเนินการ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัตินั้นมาร่วมพิจารณาโดยด่วนให้แล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลาที่ขอรับมา และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแต่ละฉบับมีความสอดคล้องกับทิศทางนโยบายของคณะรัฐมนตรีและกรอบของงบประมาณ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมพิจารณาด้วยทุกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
24974 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
24975 | ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. ... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
24976 | ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบการขอปรับแก้ไขนิยามคำว่า “ว่างงาน” ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เสนอ โดยให้เป็นไปตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
|
||||||||||||||||||||||||
24977 | ร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | ตช | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
24978 | การขอโอนสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 3/2550/79 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G3/48 | พน | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้บริษัท เอ็มพี จี ๓ (ประเทศไทย) จำกัด โอนสิทธิ ประโยชน์ และพันธะซึ่งบริษัทฯ ถืออยู่ในอัตราร้อยละ ๖๐ ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๓/๒๕๕๐/๗๙ ให้แก่บริษัท นอร์ธเทิร์น กัลฟ์ ออย (ประเทศไทย) จำกัด โดยอาศัยความตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๐ รวมทั้งโอนความเป็นผู้ดำเนินงาน และให้ออกสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๓/๒๕๕๐/๗๙ ตามแบบ ชธ/ป๓/๑ ที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดแบบสัมปทานปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24979 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 122 สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ที่บ้านหนองตะโก เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๒ สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ที่บ้านหนองตะโก เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนและเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24980 | ร่างกฎกระทรวงการปักหลักเขตควบคุมทางน้ำ พ.ศ. .... | คค | 18/02/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการปักหลักเขตควบคุมทางน้ำ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตควบคุมทางน้ำให้มีความเหมาะสมเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ทางน้ำ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....