ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1246 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 24901 - 24920 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24901 | แผนบูรณาการการจัดการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2558 | มท | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแผนบูรณาการการจัดการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ความร่วมมือดำเนินการตามแผนบูรณาการดังกล่าวซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.๑ การป้องกันและลดผลกระทบ เน้นมาตรการในเรื่องระบบเฝ้าระวังและคาดการณ์สถานการณ์ภัยแล้ง ตลอดจนการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก ๑.๒ การเตรียมพร้อมรับภัย เน้นมาตรการในเรื่องการเตรียมพร้อมสำหรับการจัดหาน้ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยให้ความสำคัญเรื่องน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก ๑.๓ การจัดการในภาวะฉุกเฉิน เน้นการดำเนินการตามมาตรการ คือ การจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในแต่ละระดับ คือ ระดับภูมิภาคและระดับส่วนกลาง และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ โดยกรมประชาสัมพันธ์ รวบรวมข่าวสาร การให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๑.๔ การจัดการหลังการเกิดภัย เน้นการดำเนินการตามมาตรการในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ให้เกิดความทั่วถึงให้มากที่สุด ทั้งในเรื่องเงินชดเชยตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจ้างแรงงาน และการส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้จังหวัดเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะเป็นผู้อำนวยการจังหวัด เป็น Single Command ในการระดมทรัพยากรจากทุกหน่วยงานเข้าแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ และให้ใช้กระบวนการตรวจราชการแบบบูรณาการร่วมติดตามผลการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งดังกล่าว รวมทั้งให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมในฐานะกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญเรื่องน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งมาจากแหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดิน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเน้นมาตรการประหยัดน้ำ คือ การลดการใช้ (Reduce) การนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) และการใช้อย่างหมุนเวียน (Recycle) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่ภัยแล้งของประเทศให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลือ เยียวยา ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความจำเป็น และดำเนินการด้วยความถูกต้อง โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
24902 | รายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการขอทานทั่วประเทศ | พม | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการขอทานทั่วประเทศ ภายใต้แนวทางการดำเนินงาน ๓ ด้าน (3P) ประกอบด้วย ด้านนโยบาย (Policy) ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ (Protection) และด้านการป้องกัน (Prevention) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.๑ ด้านนโยบาย ได้แก่ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการในระดับต่าง ๆ การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาขอทาน การจัดระเบียบคนขอทานในกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งดำเนินการแล้ว ๓ ครั้ง การผลักดันให้มีการปรับปรุง แก้ไข พระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. ๒๔๘๔ และการจัดทำและพัฒนาระบบฐานข้อมูลคนขอทานทั่วประเทศ ๑.๒ ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ ได้แก่ โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อปฏิบัติงานในการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ และโครงการจัดทำแผนพัฒนาหน่วยงาน สถานรองรับบุคคลไร้ที่พึ่ง ๑.๓ ด้านการป้องกัน ได้แก่ การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและสิทธิสวัสดิการพื้นฐาน การพัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคม การส่งเสริมให้อาสาสมัครและเครือข่ายต่าง ๆ ร่วมกันเฝ้าระวังการขอทานในชุมชน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาขอทานต่างด้าวระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา และการรณรงค์ “ให้ทานถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน” ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบขอทานให้แล้วเสร็จ และให้ขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ร่วมดำเนินการด้วย โดยขอทานที่เป็นคนต่างด้าวให้ดำเนินการส่งกลับประเทศต้นทาง ส่วนขอทานที่เป็นคนไทยให้พิจารณาดำเนินการฝึกอบรมและฝึกอาชีพให้ตามความเหมาะสม เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประชาสัมพันธ์และชี้แจงทำความเข้าใจกับสาธารณชนให้ถูกต้องชัดเจนว่า การที่บุคคลจะดำเนินการขับร้อง การดีดสีตีเป่า การแสดงการเล่นต่าง ๆ หรือการกระทำการอย่างอื่นในทำนองเดียวกัน เมื่อมิได้มีข้อตกลงโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเรียกเก็บค่าฟังค่าดู แต่ขอรับทรัพย์สินตามแต่ผู้ฟังผู้ดูจะสมัครใจให้นั้น จะเข้าข่ายเป็นการขอทาน ตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช ๒๔๘๔ ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
24903 | รายงานผลการดำเนินงานตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2557) | วธ | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ช่วงระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม-๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. มติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เป็นหลักการ ๑.๑ ประเด็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับ ติดตาม เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ พร้อมทั้งกำหนดแผนการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีการประชุมเพื่อติดตามผลการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างสม่ำเสมอ และโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ของสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสมทบในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ภายใต้แผนงานและผลผลิตเดียวกัน ๑.๒ ประเด็นการจัดทำโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการ ได้มีการปฏิบัติตามระเบียบและมาตรฐานกระบวนการ/ขั้นตอน การจัดซื้อจัดจ้างอย่างรัดกุม และดำเนินการจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้าง และติดตามเร่งรัดให้เสร็จทันตามกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม ซึ่งจะทำให้ลดการเกิดปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน ทั้งภาครัฐ ส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ รวมทั้งปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ การดำเนินงาน และบริหารงานโดยยึดหลักความโปร่งใส เป็นธรรม เสมอภาค และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีการวางแผนระบบการทำงาน รวมถึงมีการติดตามประเมินผลและพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการบริหารจัดการให้ได้ผลงานที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเป้าหมาย งบประมาณ และเวลาที่ใช้ไป มีการเผยแพร่ข้อมูลของหน่วยงานอย่างเปิดเผย โดยมีศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างหลากหลายและเหมาะสม ๑.๓ การเสนอร่างกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้จัดทำร่างกฎหมายที่เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คือ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พ.ศ. .... ๒. มติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เป็นประเด็น/โครงการสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ การส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้จัดทำภาพยนตร์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยเสร็จเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ นอกจากนี้ ยังมีการเชิญชวนให้ประชาชนร่วมประกวดภาพยนตร์สั้น ความยาว ๓-๕ นาที หัวข้อ “วัฒนธรรมสุขสันต์ มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ตลอดปี” เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ขณะนี้ได้ประกาศผลการประกวดเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการเตรียมการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
|
|||||||||||||||||||||||||||
24904 | การรายงานผลการดำเนินการประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน - 2 กันยายน 2557) | พน | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานผลการดำเนินการประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มิถุนายน-๒ กันยายน ๒๕๕๗) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน ซึ่งประกอบด้วย ๒ ส่วน ดังนี้
๑. เรื่องที่เป็นหลักการ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในเรื่องต่าง ๆ ที่ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ใช้เป็นแนวทางและกรอบการดำเนินการ และกระทรวงพลังงานได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ๒. เรื่องที่เป็นประเด็น/โครงการสำคัญเร่งด่วน ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การปรับโครงสร้างและการบริหารจัดการด้านพลังงาน รวม ๑๐ เรื่อง ได้แก่ ๒.๑ การต่ออายุสัมปทานให้แก่บริษัทขุดเจาะและสำรวจต่างชาติ การสัมปทานสำรวจปิโตรเลียม รอบที่ ๒๑ และการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มค่าสัมปทานในการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ ๒๑ ๒.๒ การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน การปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลงตามทิศทางตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง และการปรับลดค่า Ft งวดมกราคมถึงเมษายน ๒๕๕๘ ๒.๓ การจัดทำแผนพลังงานระยะยาวของประเทศ (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙) และการจัดทำยุทธศาสตร์พลังงานระดับกลุ่มจังหวัดและระดับจังหวัด ๒.๔ นโยบายส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานทดแทน และการจัดทำแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๖๔) (AEDP) ๒.๕ การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ๒.๖ โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่และโครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและโครงการท่าเทียบเรือ ๒.๗ ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการกำกับให้ราคาน้ำมันที่ใช้ส่วนผสมของพลังงานทดแทนในสัดส่วนที่มากขึ้นมีราคาต่ำลง ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล B10 และส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล B20 ๒.๘ การจัดตั้งศูนย์ติดตามข้อมูลด้านพลังงาน ๒.๙ การแก้ไขปัญหาน้ำมันเถื่อน และการบริหารจัดการราคาน้ำมันทั่วประเทศ ๒.๑๐ การส่งเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าในระยะยาวและสนองความต้องการไฟฟ้าในภาคใต้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24905 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานบูรณาการการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล (ระดับกระทรวง) (ปขก.) | นร04 | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๕๓/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เรื่อง แต่งตั้งผู้ประสานงานบูรณาการการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล (ระดับกระทรวง) (ปขก.) ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. ในกรณีคณะรัฐมนตรีมีการพิจารณานโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น ๆ เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
24906 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4057 สายตากใบ - บูเก๊ะตา ตอนทางเลี่ยงเมืองแว้ง พ.ศ. .... | คค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๕๗ สายตากใบ-บูเก๊ะตา ตอนทางเลี่ยงเมืองแว้ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๕๗ สายตากใบ-บูเก๊ะตา ตอนทางเลี่ยงเมืองแว้ง ในท้องที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24907 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางปอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากพลี อำเภอปากพลี และตำบลบางสมบูรณ์ ตำบลบางลูกเสือ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กษ | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางปอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ..... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางปอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากพลี อำเภอปากพลี และตำบลบางสมบูรณ์ ตำบลบางลูกเสือ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางพลี อำเภอบางพลี และตำบลบางสมบูรณ์ ตำบลบางลูกเสือ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
|
|||||||||||||||||||||||||||
24908 | รายงานการพิจารณาของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง เรื่อง ผลการพิจารณารายงานการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณโครงการมหกรรมสินค้าเบอร์ 5 เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยด้วยการมอบคูปองส่วนลดซื้อสินค้าประหยัดพลังงาน มูลค่า 2,000 บาท | สว | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง เรื่อง ผลการพิจารณารายงานการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณโครงการมหกรรมสินค้าเบอร์ ๕ เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยด้วยการมอบคูปองส่วนลดซื้อสินค้าประหยัดพลังงาน มูลค่า ๒,๐๐๐ บาท สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ เนื่องจากประเด็นปัญหาเกิดจากข้อขัดข้องของบทบัญญัติของกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้การอนุมัติเงินกองทุนเพื่อสนับสนุนโครงการอนุรักษ์พลังงานเกิดปัญหาในอนาคต เห็นควรปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม บทนิยามมาตรา ๓ “การอนุรักษ์พลังงาน” ตลอดจนการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายฉบับดังกล่าวในประเด็นอื่น ๆ ในคราวเดียวกันด้วย ๑.๒ ให้มีการปรับปรุงกฎหมายฉบับดังกล่าวในส่วนขององค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุน ตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๓ การอนุมัติโครงการทั้งที่เป็นไปตามแผนอนุรักษ์พลังงานหลักและโครงการที่อยู่นอกแผนหรือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลจะต้องใช้หลักเกณฑ์การจัดสรรที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ๑.๔ กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนอนุรักษ์พลังงานโดยเฉพาะ ๑.๕ กรณีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินและมีข้อโต้แย้งของการตีความตัวบทกฎหมายที่มีข้อคิดเห็นต่างกัน คณะกรรมการกองทุนหรือหน่วยรับตรวจจะต้องแจ้งผลการตรวจสอบ รวมทั้งนำข้อหารือของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งให้รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีทราบทุกขั้นตอนเพื่อให้คณะรัฐมนตรีใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินใจเชิงนโยบาย ๑.๖ ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดทุกขั้นตอนในการดำเนินโครงการดังกล่าวอีกครั้ง หากพบว่ามีการดำเนินการที่เข้าข่ายการกระทำที่เป็นไปตามมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้แจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป หากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ ให้รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี ๑.๗ ให้เสนอรายงานการตรวจสอบโครงการดังกล่าวไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และแจ้งผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมาธิการฯ ต่อไป ๒. ให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. แจ้งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24909 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... [เพื่อดำเนินโครงการระบบรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) ส่วนต่อขยาย ช่วงดอนเมือง - บางซื่อ - พญาไท] | คค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... [เพื่อดำเนินโครงการระบบรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) ส่วนต่อขยาย ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท] มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24910 | ร่างกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน พ.ศ. .... | คค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน สำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งและผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24911 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมวิชาการเกษตร พ.ศ. .... | กษ | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมวิชาการเกษตร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ ๕๘ (พ.ศ. ๒๕๐๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช ๒๔๗๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ ๗๒ (พ.ศ. ๒๕๒๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช ๒๔๗๘ โดยกำหนดเครื่องแบบพิเศษและเครื่องหมายตำแหน่งบนอินทรธนูสำหรับข้าราชการกรมวิชาการเกษตรที่ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยกักพืช กฎหมายว่าด้วยปุ๋ย กฎหมายว่าด้วยพันธุ์พืช กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย และกฎหมายว่าด้วยควบคุมยาง เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24912 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... | สว | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... เกี่ยวกับเงื่อนไขการพิจารณาองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ การกระทำอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ การดูแลรักษาสัตว์ และการออกกฎหมายลำดับรอง ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปเพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดหลักเกณ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ แนวทางในการตีความบทนิยามคำว่า “การทารุณกรรม” และแนวทางการดูแลหรือจัดสวัสดิภาพให้แก่สัตว์ที่ได้ยึด อายัด หรือช่วยเหลือมา สำหรับการออกกฎหมายลำดับรอง กรมปศุสัตว์ได้มีคำสั่งกรมปศุสัตว์ ที่ ๙๖๔/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณายกร่างกฎหมายที่ออกตามความในร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ... ร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... ลงวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ เพื่อเร่งรัดการยกร่างกฎหมายที่ออกตามความในร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับดังกล่าว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24913 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ | กค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในการประชุมเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ และเดือนมกราคม ๒๕๕๘ และเห็นชอบมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการและรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจทราบภายใน ๑ เดือน ในเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รฟท. ๑.๑.๑ สร้างความชัดเจนของนโยบายและทิศทางระบบขนส่งทางราง โดยให้มีการกำกับดูแลการขนส่งทางรางที่ชัดเจนและมีความเชื่อมโยงของระบบขนส่งรูปแบบอื่น ๑.๑.๒ สร้างความชัดเจนระหว่างบทบาทของกรมรางและ รฟท. ในการก่อสร้างและบำรุงรักษาทางรถไฟ รวมถึงให้จัดทำแนวทางการให้เอกชนมาร่วมในการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) ๑.๑.๓ กำกับติดตามการดำเนินการของโครงการสำคัญให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความสำเร็จของโครงการก่อสร้างทางคู่ ๖ เส้นทางที่มีกำหนดแล้วเสร็จทั้งหมดในปี ๒๕๖๓ และการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบขนส่งทางราง โดยการเปลี่ยนหมอนรองจากหมอนไม้เป็นหมอนคอนกรีตราง ๑๐๐ ปอนด์ ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี ๒๕๕๙ ๑.๒ ขสมก. ๑.๒.๑ กำหนดให้ ขสมก. ดำเนินการในฐานะผู้ประกอบการเท่านั้น และให้กรมการขนส่งทางบกทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะแทน และสำหรับการให้ใบอนุญาตเดินรถ หากสัญญาในเส้นทางใดสิ้นสุดลง ให้กรมการขนส่งทางบกจัดให้มีการประมูลใบอนุญาตในแต่ละเส้นทางต่อไป นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะต้องจัดให้มีกลไกในการกำกับดูแลผู้ให้บริการ (Operator) ทั้ง ขสมก. และรถร่วมบริการเอกชนให้ดำเนินการเดินรถให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐาน ๑.๒.๒ สร้างความชัดเจนของการปรับปรุงเส้นทางการเดินรถและการจัดสรรเส้นทางระหว่าง ขสมก. และเอกชนร่วมบริการ รวมทั้งการจัดซื้อรถโดยสาร NGV ให้สอดคล้องกับเส้นทางที่ได้รับจัดสรรและมีสถานี NGV ที่เพียงพอต่อไป ๑.๒.๓ เรื่องการจัดการภาระหนี้สินของ รฟท. และ ขสมก. โดยหารือร่วมกับกระทรวงการคลังในการโอนสิทธิในการใช้ที่ดินของ รฟท. เพื่อให้กระทรวงการคลังรับภาระหนี้สิน และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารที่ดินดังกล่าวต่อไป และกระทรวงการคลังจะพิจารณาการรับภาระหนี้สินของ ขสมก. ก็ต่อเมื่อกระทรวงคมนาคมมีความชัดเจนในนโยบายด้านการเดินรถโดยสารสาธารณะตามข้อ ๑.๒.๒ ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญในเรื่องกรอบระยะเวลา และการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจที่เหลืออีก ๕ แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เร่งดำเนินการและรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจโดยเร็ว เพื่อให้คณะอนุกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจใช้เป็นข้อมูลประกอบในการกำหนดโครงสร้างการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24914 | ร่างปฏิญญาเตหะราน | วท | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาเตหะราน (Draft Tehran Declaration) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยรูปแบบความร่วมมือจะเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และบุคลากร ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศสมาชิก และเป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกที่มุ่งส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างปฏิญญาเตหะรานในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมรับรองร่างปฏิญญาเตหะราน
|
|||||||||||||||||||||||||||
24915 | ขออนุมัติการปรับปรุงแผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระยะเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ 2558 (เพิ่มเติม) ที่เป็นโครงการปีเดียว และขออนุมัติแผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่เป็นโครงการต่อเนื่องหรือต้องก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พร้อมทั้งแนวทางดำเนินการที่เกี่ยวข้อง | สลธ.คสช. | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเสนอ ๑.๑ อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการจากเดิมที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ แผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระยะเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ (เพิ่มเติม) ที่เป็นโครงการปีเดียว ซึ่งได้เสนอขอปรับปรุงจากเดิม ๑,๖๔๑ รายการ เป็น ๑,๗๕๖ รายการ กรอบวงเงินจำนวน ๗,๘๐๑,๓๓๓,๘๐๐ บาท ๑.๒ อนุมัติงบประมาณ (งบกลาง) เพิ่มเติม สำหรับโครงการที่ใช้เวลาดำเนินงานมากกว่า ๑ ปี จำแนกเป็น งานผูกพันต่อเนื่อง สำหรับโครงการที่ดำเนินการด้วยวิธีดำเนินการเอง จำนวน ๗๗ รายการ วงเงินทั้งสิ้น ๔,๑๑๔,๙๖๖,๖๐๐ บาท และงานผูกพันสัญญา สำหรับโครงการที่ดำเนินการด้วยวิธีจ้างเหมาก่อสร้าง จำนวน ๕ รายการ วงเงินทั้งสิ้น ๔,๓๖๑,๗๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๓ อนุมัติให้ส่วนราชการ/หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) ข้อ ๑.๖ สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามที่เสนอได้ ๑.๔ อนุมัติแนวทางเพื่อการขับเคลื่อนและดำเนินการตามแผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระยะเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ (เพิ่มเติม) เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนด ดังนี้ ๑.๔.๑ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานกำกับดูแลและติดตามความก้าวหน้าแผนงาน/โครงการให้เป็นไปตามห้วงเวลาที่กำหนด ๑.๔.๒ เมื่อสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว หากมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดประกอบการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญซึ่งเป็นผลให้วัตถุประสงค์/เป้าหมายในการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ส่วนราชการ/หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานเรื่องต่อคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำหรือหน่วยงานที่ได้รับการมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ/ให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ๑.๔.๓ หากมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแผนงาน/โครงการนอกเหนือจากที่ระบุไว้ใน ๑.๔.๒ ที่ไม่เป็นสาระสำคัญหรือยังคงวัตถุประสงค์/เป้าหมายการดำเนินงานเดิมตามแผนงาน/โครงการส่วนราชการ/หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยตรง ๑.๔.๔ มอบหมายให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางพิจารณากำหนดแนวทางเร่งรัดการดำเนินงานที่เหมาะสมกับการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระยะเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ (เพิ่มเติม) ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนดไว้ ๑.๔.๕ มอบหมายให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นหน่วยงานติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและเบิกจ่ายงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการและประชาชนที่จะได้รับเป็นสำคัญ และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ของแต่ละแผนงาน/โครงการ และหากแผนงาน/โครงการใดเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก็ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่โครงการให้เข้าใจอย่างถูกต้องโดยทั่วกันด้วย ๓. ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำประสานข้อมูลเกี่ยวกับแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบ เพื่อประโยชน์ในการประสานงานและกำกับติดตามการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องให้บรรลุผลต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
24916 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (นายนพพร ชื่นกลิ่น) | สธ | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายนพพร ชื่นกลิ่น ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ส่วนค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ให้นายนพพร ชื่นกลิ่น ลาออกจากตำแหน่งรองอธิบดีกรมควบคุมโรคก่อนลงนามในสัญญาจ้างต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
24917 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (พลอากาศเอก ถาวร มณีพฤกษ์ และนายมณฑล สุดประเสริฐ) | อก | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน ๒ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. พลอากาศเอก ถาวร มณีพฤกษ์ ๒. นายมณฑล สุดประเสริฐ (จากบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจตามประกาศกระทรวงการคลัง ฉบับลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗)
|
|||||||||||||||||||||||||||
24918 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส) | กษ | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสรรเสริญ อัจจุตมานัส ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24919 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และ ๑.๑ ให้รอการเสนอร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติไว้ก่อน โดยให้เสนอพร้อมกับอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดการเสนออนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๔๙ ต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วนภายในระยะเวลาสามเดือนเพื่อเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ๑.๒ ให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... ซึ่งได้แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ แล้ว ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๒. มอบให้กระทรวงคมนาคมปรับแก้ไขคำแปลภาษาไทยของอนุสัญญาเพื่อรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ ให้มีความสมบูรณ์และส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป ๓. เห็นชอบให้ส่งหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24920 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติการแต่งตั้งกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลา | กต | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ ซึ่งอนุมัติแต่งตั้งนายตริโยโก จัตมีโก (Mr. Triyogo Jatmiko) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลา โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๑๓ จังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี เป็น อนุมัติแต่งตั้งนายตรีโยโก จัตมีโก (Mr. Triyogo Jatmiko) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลา โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๑๔ จังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....