ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 176 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 3501 - 3520 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3501 | ร่างกฎกระทรวงกำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณา การประชุมและการแสดงข้อคิดเห็นของประชาชนในการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ พ.ศ. .... | มท | 22/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนด หลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณา การประชุม และการแสดงข้อคิดเห็นของประชาชนในการวางและจัดทำผัง เมืองเฉพาะ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณา การประชุม และการแสดงข้อคิดเห็นของประชาชนในการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3502 | การปรับปรุงการให้บริการโดยใช้เทคโนโลยี (IT) เพื่อให้ผู้ส่งออกใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA | มท | 22/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินการส่งเสริมเพื่อให้มีการใช้
สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (Free Trade Area - FTA) กับประเทศต่าง ๆ โดยได้นำระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการให้บริการตรวจสอบรายการสินค้าภายใต้ความตกลง ฯ ผ่านทาง Web site และนำระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) ผ่านทาง Internet มาใช้ให้บริการตรวจสอบต้นทุนการผลิตสินค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 สำหรับการออกหนังสือรับรอง แหล่งกำเนิดสินค้า ได้ให้บริการในระบบดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 รวมทั้งได้ขยายการให้บริการ ไปยังหน่วยงานในส่วนภูมิภาค โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ได้ติดตั้งและเชื่อมโยงระบบงาน ฯ กับหน่วย งานในส่วนกลางไปแล้ว รวม 18 จังหวัด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 23 จังหวัด และปี งบประมาณ พ.ศ. 2549 ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการในจังหวัดที่เหลือให้ครบทุกจังหวัดทั่ว ประเทศ โดยเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและเชิญชวนให้มีการใช้ สิทธิพิเศษ ฯ อย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลง ฯ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และ ออสเตรเลีย จำนวนรวมทั้งสิ้น 19,508 ฉบับ มูลค่า 546.65 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 21,785.01 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าการค้าของไทยกับประเทศดังกล่าวขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยหากการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการ ค้าเสรีกับประเทศอื่น ๆ สำเร็จ จะทำให้มูลค่าการค้าสินค้าและบริการของไทยขยายตัวมากยิ่งขึ้นต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3503 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 17 กุมภาพันธ์ 2548) | มท | 22/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 -17 กุมภาพันธ์ 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 61 จังหวัด 587 อำเภอ 57 กิ่งอำเภอ 4,363 ตำบล 38,703 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,967,860 คน 2,189,251 ครัวเรือน แยกเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด ภาคตะวันออก 8 จังหวัด และภาคใต้ 6 จังหวัด พื้นที่การ เกษตรเสียหาย 13,133,982 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 9,876,221 ไร่ พืชไร่ 2,945,500 ไร่ พืชสวน 312,261 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,514,823,634 บาท การให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการ เกษตร รวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 663,951,937 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 491,529,040 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 115,766,175 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 56,656,722 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3504 | รายงานสรุปผลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 8) | มท | 22/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่น
ดินไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปข้อมูลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 8) จนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2548 มีพื้นที่ประสบภัยรวม 25 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 95 ตำบล 412 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 58,550 คน 12,480 ครอบครัว จำนวนผู้เสียชีวิต 5,395 คน (คนไทย 1,911 คน คนต่างประเทศ 1,953 คน ไม่สามารถระบุได้ 1,531 คน) บาดเจ็บ 8,457 คน (คนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ 2,392 คน) สูญหาย 2,991 คน (คนไทย 2,032 คน คนต่างประเทศ 959 คน) บ้านเรือนเสียหาย 6,824 หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลัง 3,615 หลัง เสียหาย บางส่วน 3,209 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหายคิดเป็นมูลค่า 8,496,214.75 บาท พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และ เครื่องมือประมงเสียหายคิดเป็นมูลค่า 1,757,453,403 บาท ด้านปศุสัตว์เสียหายคิดเป็นมูลค่า 17,625,506 บาท สถานประกอบการเสียหายคิดเป็นมูลค่า 12,852,617,712 บาท ส่วนความเสียหายด้านสิ่งสาธารณ ประโยชน์ ได้แก่ ท่าเทียบเรือ สะพาน ถนน ท่อระบายน้ำ พนัง/เขื่อน ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และอื่น ๆ ได้รับความเสียหายประเมินในขั้นต้นประมาณ 1,060.74 ล้านบาท และความเสียหาย ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลสำรวจพบความเสียหายทั้งด้านสภาพชายหาด ป่าชายเลน ป่าไม้ แหล่งน้ำจืด แนวปะการัง และเกิดสภาพดินเค็มในบางพื้นที่ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย การ จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2548) เป็นเงิน 281,690,056 บาท การจ่ายเงิน ช่วยเหลือชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548) เป็นเงิน 214,597,868 บาท การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย (จนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548) จำนวน 4,221 ราย เป็นเงิน 83,590,000 บาท และการจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย (บ้านพักถาวร) จังหวัดพังงา อยู่ ระหว่างก่อสร้าง 760 หลัง จังหวัดระนอง ก่อสร้างแล้วเสร็จ 65 หลัง จังหวัดภูเก็ต อยู่ระหว่างก่อสร้าง 81 หลัง จังหวัดกระบี่ ก่อสร้างแล้วเสร็จ 8 หลัง จังหวัดตรัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 19 หลัง และจังหวัดสตูล ราษฎร ขอรับเงินชดเชย 30,000 บาท เพื่อก่อสร้างบ้านเอ ง จำนวน 2 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินการให้ ความช่วยเหลือในส่วนของการทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพัง ขยะมูลฝอย การบูรณะฟื้นฟูโครงสร้าง พื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผลการติดตามให้ความช่วยเหลือและกำหนดมาตรการฟื้นฟูแก่ผู้ ประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่เขาหลัก จังหวัดพังงา เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
3505 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง ปี พ.ศ. 2548 เพื่อดำเนินโครงการสำรวจ ออกแบบและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินถนนเลี่ยงเมือง สาย ค.1-ค.3 และ ระบบเชื่อมต่อสาย ข. 2 ค. 2 และ ก. 1 จังหวัดลำพูน | มท | 15/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง ปี พ.ศ. 2548 เพื่อดำเนิน
โครงการสำรวจ ออกแบบ และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินถนนเลี่ยงเมือง สาย ค.1-ค.3 และระบบเชื่อมต่อสาย ข.2 ค.2 และ ก.1 จังหวัดลำพูน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยอนุมัติในหลักการให้กรมโยธิการและผังเมือง ดำเนินโครงการดังกล่าวในวงเงิน 19,392,000 บาท โดยให้ขอตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับการเงินดังกล่าว กับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3506 | โครงการจัดหาปรับเปลี่ยนระบบคอมพิวเตอร์ทดแทนระบบคอมพิวเตอร์ตามโครงการจัดทำระบบให้การบริการประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตร ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2539) | มท | 15/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเกี่ยวกับกาจัดหาระบบคอมพิวเตอร์
เพื่อปรับเปลี่ยนทดแทนระบบคอมพิวเตอร์เดิมตามโครงการจัดทำระบบให้บริการประชาชนทางด้านการทะเบียน และบัตรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2539) ในพื้นที่ 8 จังหวัด ที่เป็นที่ตั้งศูนย์บริหารการทะเบียน ภาครวม 161 สำนักทะเบียน สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ในวงเงิน 71,716,108 บาท ให้กระทรวง มหาดไทยจัดทำแผนการปฏิบัติงาน รวมไปถึงแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2549 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเบิกจ่ายจากงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้กระทรวงมหาดไทยทำความตกลงในรายละเอียดด้านการ เงินกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
3507 | โครงการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และระบบตรวจจับหมายเลขทะเบียนรถเข้า - ออก (CPR) ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ราชการจังหวัด/ศาลากลางจังหวัดและจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดน | มท | 15/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1.1 ที่มีมติ
อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และระบบ ตรวจจับหมายเลขทะเบียนรถเข้า-ออก (CPR) ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยศูนย์ราชการจังหวัด/ศาลา กลางจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 จังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ และศูนย์ควบคุมกลาง รวม 8 แห่ง และจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดน 30 แห่ง ทั่วประเทศ วงเงินดำเนินโครงการ ฯ 325,466,000 บาท โดยมอบให้กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) เป็นเจ้าภาพพิจารณา จัดทำ Master Plan บูรณาการการใช้ระบบดังกล่าวให้ครอบคลุมเชื่อมโยงกับระบบของส่วนราชการต่าง ๆ ทั้งที่มีอยู่แล้ว และที่จำเป็นจะต้องใช้ด้วยเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์ เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ แล้วจึงเสนอ Master Plan มาให้พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ในขั้นประกวดราคาโครงการ ให้กระทรวงมหาดไทยใช้ วิธีประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547 เรื่อง หลักเกณฑ์การ จัดหาพัสดุโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction)
|
|||||||||||||||||||||||||||
3508 | ผลการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 2 | มท | 15/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชาย
แดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 5-6 มกราคม 2548 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยที่ ประชุม ฯ ได้ปรึกษาหารือในประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ และได้จัดทำแถลงการณ์ร่วม (JOINT COMMUNIQUE) ทั้งสองฝ่ายแสดงความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อผลการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย - กัมพูชา อย่างไม่เป็นทาง การ ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม- 1 มิถุนายน 2546 และเห็นชอบที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการปฏิบัติตามแผนงาน/โครงการร่วมกันตาม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ที่ลงนามกันเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกา ยน 2546 ณ เมืองพุกาม สหภาพพม่า ในส่วนของการบริหารจัดการการเดินทางข้ามแดน ที่ประชุมเห็นชอบจะ ประเมินผลโครงการนำร่อง การขยายขอบเขตการเดินทางข้ามแดนที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต -คลองลึก ที่ ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2546 และยืนยันให้มีการปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยการเดินทาง ข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ ส่วนการใช้บัตรผ่านแดนในพื้นที่เฉพาะ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย ไปกำหนดมาตรการที่มีประสิทธิผลที่จะควบคุมการใช้บัตรผ่านแดนตามความตกลง ว่าด้วยการเดินทางข้ามแดนระหว่างสองประเทศที่ลงนามกัน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 และจะร่วมมือกัน ต่อไปในการอำนวยความสะดวก ด้านขนส่งสินค้าตามแนวชายแดน ที่จะอำนวยความสะดวกต่อผู้ประกอบการ ขนส่งข้ามแดน รวมถึงการร่วมมือกันในการป้องกันและปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน โดย เฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนการสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่าง หน่วยงานของทั้งสองฝ่ายในทุกระดับ การเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ การขยายการเปิดจุดผ่านแดนถาวร รวมทั้งการปฏิบัติตามโครงการ ACMECS โดยขยายขอบเขตการเดินทางผ่านแดนสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว การสถาปนาเมืองคู่แฝดตามแผนปฏิบัติการ ACMECS ได้แก่ ศรีสะเกษ-เสียมราฐ/สุรินทร์-อุดรมีชัย/สระแก้ว -บันเตียเมียนเจย/จันทบุรี-ไพลิน/ตราด-เกาะกง และฝ่ายไทยเห็นชอบที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะผู้ว่า ราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ภายในปี 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
3509 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 10 กุมภาพันธ์ 2548) | มท | 15/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 10 กุมภาพันธ์ 2548 โดยในส่วนของพื้นที่ประสบภัย มีจำนวน 55 จังหวัด 562 อำเภอ 54 กิ่งอำเภอ 4,276 ตำบล 38,436 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด ราษฎรเดือดร้อน 7,430,424 คน 2,135,897 ครัวเรือน พื้นที่การ เกษตรที่ประสบความแห้งแล้ว แยกเป็น พื้นที่การเกษตรที่ประสบความเสียหายแล้ว 13,274,922 ไร่ มูลค่า ความเสียหาย 6,036,459,539 บาท และพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะประสบความเสียหาย 9,158,421 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 4,987,190,111 บาท ส่วนจังหวัดที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายมาก 10 อันดับ แรก ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครสวรรค์ ขอนแก่น ศรีสะเกษ มหาสารคาม ลพบุรี และกาญจนบุรี สำหรับการให้ความช่วยเหลือของจังหวัด/อำเภอ/กิ่งอำเภอ ได้ดำเนินการจัดสรรน้ำ เพื่อการเกษตร และอุปโภค/บริโภค โดยใช้เครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร รวมทั้งนำรถบรรทุกน้ำแจกจ่าย ให้แก่เกษตรกรและราษฎรในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง และสร้างทำนบ/ฝายเก็บกักน้ำ โดยใช้งบประมาณดำเนิน การรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 511,922,738 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3510 | รายงานสรุปผลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 7) | มท | 15/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่น
ดินไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุ การณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ ครั้งที่ 7 จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 สรุปดังนี้ พื้นที่ประสบภัยพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 25 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 91 ตำบล 401 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 55,892 คน 12,455 ครอบครัว ผู้เสียชีวิตรวม 5,395 คน บาดเจ็บรวม 8,457 คน รับแจ้งสูญหายรวม 2,995 คน บ้านเรือนราษฎรเสียหายรวม 6,813 หลัง มูลค่าความเสียหายต่อ ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด ประเมินในขั้นต้นประมาณ 14,636.19 ล้าน บาท ความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ประเมินในขั้นต้น ประมาณ 1,054.75 ล้านบาท ความเสียหาย ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ ได้รับความเสียหายทั้ง ด้านสภาพชายหาด ป่าชายเลน ป่าไม้ แหล่งน้ำจืด แนวปะการัง รวมทั้งเกิดสภาพดินเค็มในบางพื้นที่ ซึ่ง จังหวัดได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขแล้ว ส่วนการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลมีผู้เสียชีวิต จากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวน 5,395 คน สามารถยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคลหรือญาติยืนยันแล้ว จำนวน 1,869 ศพ ยังยืนยันไม่ได้จำนวน 2,874 ศพ สำหรับผลคืบหน้าการเคลื่อนย้ายศพจากจังหวัดพังงา ไปยังสุสานไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต ได้ขนย้ายศพคนต่างชาติจากวัดบางม่วงและวัดย่านยาว ไปยังสุสานไม้ขาวแล้ว รวม 1,561 ศพ มีญาติมารับศพแล้ว 60 ศพ คงเหลือศพต่างชาติ ณ สุสานไม้ขาว 1,503 ศพ ด้านการช่วย เหลือคนไทยกรณีที่สูญหายโดยไม่พบศพ รายละไม่เกิน 15,000 บาท และในกรณีผู้ประสบภัยที่สูญหายเป็น หัวหน้าครอบครัว หรือเป็นผู้หารายได้เลี้ยงครอบครัวให้พิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ครอบครัวอีกไม่เกิน รายละ 25,000 บาท ในส่วนของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วรวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 276,592,770 บาท จ่ายเงินช่วยเหลือชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมเป็นเงิน 203,198,724 บาท จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยจากเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายก รัฐมนตรี จำนวน 100,000,000 บาท กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 83,530,000 บาท การก่อ สร้างบ้านพักถาวร ข้อมูลสำรวจความต้องการมีเป้าหมายยอดรวมทั้งสิ้น 2,805 หลัง การฟื้นฟูจัดระเบียบ การก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดระเบียบชายหาด ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยในภาพรวมประมาณ 90% ส่วนกรมที่ดิน ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เอกสารสิทธิชำรุด สูญหาย และทำการรังวัดเขตที่ ดินที่หลักเขตสูญหาย ตลอดจนช่วยเหลือการจัดระเบียบที่ดิน
|
|||||||||||||||||||||||||||
3511 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเขาวัว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่
ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเขาวัว อำเภอท่าใหม่ จังหวัด จันทบุรี พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเขาวัว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ 2 งาน 95 ตารางวา เพื่อมอบหมายให้เทศบาลตำบลเนินสูงใช้ก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลเนินสูง บ้านพัก เจ้าหน้าที่ โรงจอดรถและสวนสาธารณประโยชน์ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3512 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม จังหวัด มหาสารคาม พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมือง ใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 1 งาน 40.8 ตารางวา เพื่อให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองไฮใช้ประโยชน์ในราชการ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3513 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพ
ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพล เมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ 85.5 ตารางวาเพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลกะไหลใช้ก่อสร้างอาคารศูนย์กลางชุมชนโครงการหมู่บ้าน อุตสาหกรรมชนบทเพื่อการท่องเที่ยว และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3514 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม พ.ศ. .... | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดสาขาวิชาชีพ
สถาปัตยกรรมควบคุม พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้วิชาชีพสาขาสถาปัตยกรรม สาขาสถาปัตยกรรม ผังเมือง สาขาภูมิสถาปัตยกรรม และสาขาสถาปัตยกรรมภายในและมัณฑศิลป์ เป็นวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบ คุม และกำหนดให้งานศึกษาโครงการ งานออกแบบ และงานบริหารโครงการและงานอำนวยการก่อสร้าง เป็น ประเภทงานในวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3515 | ขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเกิน 2 ปี (โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย เทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี) | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอขอขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณราย
จ่ายสำหรับการก่อสร้างระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี จำนวน 162,176,099 บาท โดยขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเกิน 2 ปีงบประมาณ ภายใน 600 วัน นับแต่วันที่มี การลงนามในสัญญา ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2541 ที่กำหนด เรื่องการอนุมัติให้ขยายการเบิกจ่ายงบประมาณกรณีมีหนี้ผูกพัน ไม่เกิน 2 ปีงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3516 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 3 กุมภาพันธ์ 2548) | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 55 จังหวัด 557 อำเภอ 54 กิ่งอำเภอ 4,265 ตำบล 38,387 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,380,453 คน 2,133,610 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตร เสียหาย 13,281,498 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 10,011,104 ไร่ พืชไร่ 2,958,742 ไร่ พืชสวน 311,652 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,570,089,969 บาท ส่วนการให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการ เกษตร รวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 488,923,764 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 347,096,108 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 88,688,656 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 53,139,000 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3517 | รายงานผลการดำเนินการตั้งตู้นายกฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนของประชาชนในรอบ 8 เดือน | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตั้งตู้นายก ฯ ทักษิณ
รับเรื่องร้องเรียนของประชาชน รอบ 8 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2547-31 มกราคม 2548 ได้รับเรื่อง ร้องเรียน รวม 13,227 เรื่อง แยกเป็นเรื่องร้องเรียนผ่านทางตู้นายก ฯ ทักษิณ ที่ตั้งบริเวณบ้านพักผู้ว่าราช การจังหวัด 10,730 เรื่อง ซึ่งจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 6,314 เรื่อง และเรื่องร้องเรียน ผ่านทางตู้นายก ฯ ทักษิณ หน้าบ้านพิษณุโลก กรุงเทพ ฯ 2,497 เรื่อง ซึ่งคณะทำงานติดตามและประสาน งานตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรี (คตส.นรม.) ได้ส่งให้จังหวัด 2,497 เรื่อง และจังหวัดได้ให้ความช่วย เหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 1,417 เรื่อง สำหรับเรื่องร้องเรียนจำแนกตามกลุ่มปัญหาที่ได้รับจากหน้าบ้านพักผู้ ว่าราชการจังหวัด และจากหน้าบ้านพิษณุโลก กรุงเทพ ฯ นับตั้งแต่เริ่มจัดตั้งตู้นายก ฯ ทักษิณ จนถึงปัจจุบัน กลุ่มปัญหาที่มีการร้องเรียนมากที่สุดคือ เรื่องความเดือดร้อนทั่วไป รองลงมาคือ การร้องเรียนกล่าวโทษ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3518 | รายงานผลการปฏิบัติงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์ จังหวัดพังงา ครั้งที่ 6 | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธาน
อำนวยการประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์ จังหวัดพังงา รายงานผลการปฏิบัติงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ ประสบภัยคลื่นยักษ์ จังหวัดพังงา ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 31 มกราคม-6 กุมภาพันธ์ 2548 โดยในส่วนของการ ค้นหาและเก็บศพผู้เสียชีวิต ของหน่วยสงครามพิเศษ ศูนย์การทหารราบ และชุดสุนัขสงคราม สามารถเก็บกู้ศพ ได้เพิ่ม 4 ศพ สำหรับการเก็บสิ่งปรับหักพังและการฟื้นฟูพื้นที่ชายหาด ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อม ทั้งได้เปิดให้มีการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติริมฝั่งทะเลอันดามันในจังหวัดพังงาแล้ว คือ อุทยานแห่งชาติอ่าว พังงา อุทยานแห่งชาติเขาลำปี/หาดท้ายเหมือง อุทยานแห่งชาติเขาหลัก และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
|
|||||||||||||||||||||||||||
3519 | รายงานสรุปผลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 6) | มท | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดิน
ไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปข้อมูลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครั้งที่ 6 ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2548 ในส่วนของพื้นที่ประสบภัยและความเสียหาย พื้นที่ประสบภัยพิบัติ บริเวณพื้นที่ ชายฝั่งทะเลอันดามันของจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และ สตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 83 ตำบล 332 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 59,561 คน 14,266 ครอบครัว จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 5,393 คน บาดเจ็บรวม 8,457 คน รับแจ้งสูญหายรวม 3,062 คน เด็กกำพร้า ที่บิดาหรือมารดาหรือผู้อุปการะเดิมเสียชีวิตรวม 848 คน บ้านเรือนราษฎรเสียหายรวม 6,728 หลัง พื้นที่การ เกษตร เสียหายคิดเป็นมูลค่า 8,380,360.75 บาท ด้านประมง เสียหายคิดเป็นมูลค่า 1,730,861,458 บาท ด้านปศุสัตว์ เสียหายคิดเป็นมูลค่า 17,625,605 บาท รวมทั้งด้านสถานประกอบการ เสียหายคิดเป็นมูลค่า 12,852,617,712 บาท รวมมูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินเกี่ยวกับการประกอบอาชีพประมาณ 14,609.48 ล้านบาท สิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายประเมินในขั้นต้นประมาณ 1,053.85 ล้านบาท ส่วนการ ตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลผู้เสียชีวิต โดยยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) มีจำนวน 5,393 คน สามารถยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคล หรือญาติยืนยันแล้ว จำนวน 1,861 ศพ ยังยืนยันไม่ได้ 2,882 ศพ ได้ขนย้ายศพ จากวัดบางม่วง และวัดย่านยาว ไปยังสุสานไม้ขาวแล้วรวม 1,556 ศพ สำหรับด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้ จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 259,736,695 บาท การจ่ายเงินช่วยเหลือชาวประมง และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมเป็นเงิน 196,549,293 บาท การจัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน พื้นที่ 3 จังหวัด ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ การก่อสร้างบ้านพักถาวรในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด ข้อมูลสำรวจ ความต้องการ มียอดรวมทั้งสิ้น 2,896 หลัง การช่วยเหลือซ่อมเรือผู้ประสบภัย จังหวัดกระบี่ ซ่อมเครื่องยนต์ เรือหางยาวแล้วเสร็จ 168 เครื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 13 เครื่อง การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการราย ย่อย รวมเป็นเงิน 83,110,000 บาท นอกจากนี้ ได้ดำเนินการฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้าง และการจัดระเบียบชายหาดใน 4 ภารกิจ ได้แก่ การทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพัง ขยะมูลฝอย การจัด ระบบสาธารณูปโภค/สาธารณูปการ โครงสร้างพื้นฐานและอาคารสิ่งก่อสร้าง การจัดระเบียบชายหาด และ การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวจัดทำภูมิทัศน์ชายหาด ส่วนกรมที่ดินได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เอกสารสิทธิ ชำรุด สูญหาย และทำการรังวัดปูเขตที่ดินที่หลักเขตสูญหาย ตลอดจนช่วยเหลือการจัดที่ดิน วางผังในการก่อ สร้างบ้านพักถาวรให้แก่ผู้ประสบภัย ส่วนจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่ อยู่ระหว่างการพิจารณาเร่งรัดการจัด ระเบียบที่ดินร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้ประสบภัย
|
|||||||||||||||||||||||||||
3520 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนมหาราช - โรงช้าง - บ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือง
รวมชุมชนมหาราช-โรงช้าง-บ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผัง เมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านใหม่ ตำบลบ้านแพรก ตำบลสำพะเนียง อำเภอบ้านแพรกตำบลโรงช้าง ตำบล พิตเพียน ตำบลบ้านขวาง ตำบลเจ้าปลุก ตำบลน้ำเต้า ตำบลมหาราช และตำบลหัวไผ่ อำเภอมหาราช จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....