ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 177 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 3521 - 3540 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3521 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวนายช่างและบัตรประจำตัวนายตรวจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบ
บัตรประจำตัวนายช่างและบัตรประจำตัวนายตรวจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... โดยมี สาระสำคัญคือ ปรับปรุงแบบบัตรประจำตัวนายช่างและบัตรประจำตัวนายตรวจ โดยกำหนดให้อธิบดี กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้ออกบัตรได้ด้วย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3522 | รายงานผลการดำเนินการให้สถานะตามกฎหมายแก่ชาวเวียดนามอพยพ | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการให้สถานะตามกฎ
หมายแก่ชาวเวียดนามอพยพ โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2535 และวันที่ 26 สิงหาคม 2540 ประกอบกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนามได้มีมติเมื่อวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 2547 เห็น ชอบตามข้อตกลงของที่ประชุมกลุ่มการเมืองและความมั่นคง ว่าไทยจะพิจารณาให้สัญชาติแก่ชาวเวียดนามที่ อาศัยอยู่ในประเทศไทยที่ตกค้างให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2547 โดยตั้งแต่คณะรัฐมนตรีได้มีมติปี 2535 จนถึงก่อนมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 2547 มีชาวเวียดนามอพยพที่ยื่นคำร้องขอสถานะ ตามกฎหมาย และได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วรวมทั้งสิ้น 25,133 ราย ส่วนการ ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 2547 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ อนุมัติให้ได้สถานะตามกฎหมายแล้ว รวมทั้งสิ้น 1,179 ราย อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาใช้ดุลยพินิจ ตามกฎหมาย จำนวน 1,226 ราย ผ่านการตรวจสอบพฤติการณ์ด้านอาชญากรรมและยาเสพติดจากหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 477 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบพฤติการณ์ และฐานข้อมูลทางทะเบียนราษฎร กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 803 ราย คำร้องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของจังหวัดที่เกี่ยวข้อง จำนวน 31 คำร้อง และคำร้องที่ไม่สามารถดำเนินการได้ รวมทั้งสิ้น 969 ราย ซึ่งการดำเนินการให้สถานะตาม กฎหมายดังกล่าว มีข้อจำกัด ทำให้การดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามที่กำหนด นอกจากนี้ กระทรวงมหาด ไทย โดยกรมการปกครอง ได้กำหนดแผนงานที่จะดำเนินการกำหนดสถานะตามกฎหมายแก่ชาวเวียดนาม อพยพที่เหลือ โดยเร่งดำเนินการกับคำร้องที่อยู่ในขั้นตอนของจังหวัดซึ่งมีอยู่ จำนวนทั้งสิ้น 31 คำร้อง ให้ แล้วเสร็จและสามารถส่งให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ภายในเดือนมกราคม 2548 ในส่วนการตรวจ สอบพฤติการณ์ และฐานข้อมูลทางทะเบียนราษฎรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 803 ราย ได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 และจะได้ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาให้สัญชาติไทยและให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้ายกฎ หมายแก่ชนกลุ่มน้อยทุก 2 สัปดาห์ เพื่อเร่งรัดการพิจารณากลั่นกรองคำร้องให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนา คม 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3523 | แนวทางการปฏิบัติสำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับการเลือกตั้ง | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางการปฏิบัติสำหรับข้าราชการและเจ้า
หน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยได้จัดตั้งศูนย์สนับสนุนและประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทรวงมหาดไทย เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและประสานการปฏิบัติกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมทั้งได้เน้น ย้ำการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครองตามบทบาทอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบทุกระดับ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 3 ระยะคือ ก่อนวันเลือกตั้ง ในวันเลือกตั้ง และหลังวันเลือกตั้ง ตามมาตรการ ต่าง ๆ ได้แก่ มาตรการด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย มาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ความสำคัญของบัตร ประจำตัวประชาชน มาตรการเข้มงวดในการวางตัวเป็นกลาง มาตรการประชาสัมพันธ์ "ข้าราชการวางตัวเป็น กลาง เป็นตัวอย่างที่ดี ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง" มาตรการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด มาตรการศูนย์สนับสนุนและ ประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมาตรการในการเฝ้าระวังเลือกตั้ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3524 | รายงานสรุปผลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 5) | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่น
ดินไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 5) ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2548 โดยจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล มีพื้นที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 82 ตำบล 329 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 54,492 คน 12,072 ครอบครัว มีผู้เสียชีวิต 5,393 คน (แยกเป็นคนไทย 1,851 คน คนต่างประเทศ 1,948 คน และไม่สามารถระบุได้ 1,594 คน) บาดเจ็บ 8,457 คน (แยกเป็นคนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ 2,392 คน) รับแจ้งสูญหาย 3,066 คน (แยกเป็นคนไทย 2,063 คน คนต่างประเทศ 1,003 คน) ด้านความเสียหายต่อทรัพย์สิน ประกอบด้วย บ้านเรือนราษฎรเสีย หาย 6,791 หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลัง 3,619 หลัง และเสียหายบางส่วน 3,172 หลัง พื้นที่การเกษตร เสียหาย 9,407.5 ไร่ ส่วนความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ จากผลการสำรวจเบื้องต้นพบว่าจังหวัด พังงาและภูเก็ตมีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยพนังกั้นน้ำ/เขื่อน และระบบไฟฟ้ามีความเสียหายเป็น มูลค่ามากที่สุด และความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม แนวปะการัง เสียหายเล็กน้อย 3,146 ไร่ เสียหายมาก 1,175 ไร่ ชายหาด ส่วนใหญ่เสียหายมาก พื้นที่ประมาณ 6,200 ไร่ ป่าชายเลน เสียหายมาก 555 ไร่ เสีย หายเล็กน้อย 1,860 ไร่ ป่าไม้ เสียหาย 4,000 ไร่ และแหล่งน้ำจืด บ่อน้ำตื้นเสียหาย 136 บ่อ บ่อบาดาล 149 บ่อ แหล่งน้ำผิวดิน 122 แห่ง สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้วจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2548 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 246,094,395 บาท การจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย โดยสร้างบ้านพักถาวร (หลัง ละ 100,000 บาท) ในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด โดย ณ วันที่ 30 มกราคม 2548 มียอดรวมทั้งสิ้น 2,855 หลัง นอกจากนี้ ยังให้ความช่วยเหลือการทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพัง ขยะมูลฝอย การจัดระบบ สาธารณูปโภค/สาธารณูปการ โครงสร้างพื้นฐานและอาคารสิ่งก่อสร้าง รวมไปถึงการจัดระเบียบชายหาด การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวจัดทำภูมิทัศน์ชายหาด (Beautify) การจัดตั้งศูนย์ประสานรับการช่วยเหลือผู้ประสบ ภัย (Tsunami) และการจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศ (DATA BASE)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3525 | สรุปสถานการณ์เรือบรรทุกนักท่องเที่ยว (SPEED BOAT) ล่ม ที่ จ.สุราษฎร์ธานี | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงาน
สรุปสถานการณ์อุบัติเหตุเรือบรรทุกนักท่องเที่ยว (SPEED BOAT) ล่มที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สรุปได้ดังนี้ เมื่อวัน ที่ 25 มกราคม 2548 ได้เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกนักท่องเที่ยว (SPEED BOAT) ชื่อสวัสดีเฉลิมโชคนาวา ของ บริษัทซีบีซ ทัวร์ แอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด โดยมีนายสำราญ รุ่งเรือง เป็นนายท้ายเรือ และเรือดังกล่าวมีใบ อนุญาตบรรทุกผู้โดยสาร จำนวน 32 คน ได้รับผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 50 คน กลับจาก หาดริ้น อำเภอเกาะพงัน ได้เกิดอุบัติเหตุล่มกลางทะเลอ่าวไทย ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต จำนวน 15 คน บาด เจ็บ 8 คน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้ความช่วยเหลือ โดยการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบ ภัย อำเภอเกาะสมุย โดยประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของบริษัทประกันภัยจะ จ่ายให้ผู้เสียชีวิต รายละ 50,000 บาท ผู้บาดเจ็บ รายละ 10,000 บาท และให้บริษัท ซีบีช ฯ จ่ายค่าสินไหมทด แทนให้แก่ผู้เสียชีวิต รายละ 200,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน100,000 บาทต่อครั้ง และจ่าย ค่าทำขวัญในการทำศพให้แก่ผู้เสียชีวิต รายละ 5,000 บาท และผู้บาดเจ็บรายละ 5,000 บาท จากผลการสอบ สวนกรณีการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากมีน้ำหนักบรรทุกผู้โดยสารมาก ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งและยืนมากับ เรือเสียหลักเอนเอียงล้มไปทางด้านขวาและพลิกคว่ำทางขวาขณะเกิดเหตุพลิกคว่ำ ไม่มีผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพแต่ อย่างใด ขณะนี้กำลังดำเนินคดีนายสำราญ รุ่งเรือง นายท้ายเรือ ตามกฎหมาย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ เพิ่มมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันให้เกิดความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ดังนี้ ให้สำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 4 สุราษฎร์ธานี ใช้มาตรการลงโทษทางกฎหมายสูงสุดแก่ผู้ประกอบการ และนาย ท้ายเรือที่ละเมิดกฎหมาย กำหนดให้ผู้ประกอบการทุกแห่งจัดท่าเรือให้มีช่องทางขึ้น-ลงเรือ ทั้งสองฝั่ง และจะ ต้องแจกชูชีพให้แก่ผู้โดยสารขณะเก็บตั๋วทุกคน (ไม่มีข้อยกเว้น) จัดทำทะเบียนผู้โดยสาร และบันทึกภาพของผู้ โดยสารทุกคนและให้เก็บไว้ที่เจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือ 1 ชุด ผู้โดยสารทุกคนจะต้องสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาใน ระหว่างการเดินทางรวมถึงตรวจสภาพเรือและตรวจนับผู้โดยสารไม่ให้เกินจำนวนที่ได้รับอนุญาต
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3526 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2548) | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 29 มกราคม 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 55 จังหวัด 552 อำเภอ 54 กิ่งอำเภอ 4,249 ตำบล 38,053 หมู่ บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,312,468 คน 2,098,517 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย 13,020,259 ไร่ แยกเป็นนาข้าว 9,813,411 ไร่ พืชไร่ 2,896,557 ไร่ พืชสวน 310,291 ไร่ มูลค่าความ เสียหายประมาณ 6,523,528,206 บาท การให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้ง แจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค และเร่งรัดได้ให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและแก้ไข ปัญหาความแห้งแล้งไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 411,672,582.88 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของ จังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 291,598,639 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเงิน 76,985,443.88 บาท และงบประมาณอื่น ๆ เช่น งบจังหวัด CEO เป็นเงิน 43,088,500 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3527 | รายงานผลการปฏิบัติงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์ จังหวัดพังงา ครั้งที่ 5 | มท | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ประธานอำนวยการประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์ จังหวัดพังงา ราย งานสรุปผลการปฏิบัติงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์ จังหวัดพังงา ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 24- 30 มกราคม 2548 ในส่วนของการค้นหาและเก็บศพผู้เสียชีวิต หน่วยสงครามพิเศษ ศูนย์การทหารราบ และชุดสุนัขสงคราม ได้เข้าปฏิบัติการค้นหาพิสูจน์ทราบทั่วบริเวณสามารถเก็บกู้ศพได้เพิ่มจำนวน 10 ศพ โดยได้เตรียมจัดชุดปฏิบัติการ 2 ชุด ซึ่งจะปฏิบัติการค้นหาเพิ่มเติมเมื่อได้รับการร้องขอ และจังหวัดพังงา ได้ดำเนินการเก็บซากสิ่งปรักหักพังโดยแบ่งออกเป็น 4 โซน ซึ่งการดำเนินการแล้วเสร็จ 3 โซน คงเหลือ 1 โซน คือ โซนที่ 4 ทางเข้าหาดนางทอง-บริเวณเข้าโรงแรมเขาหลักเมอร์ลิน ผลการดำเนินการแล้วเสร็จ ร้อยละ 98.68
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3528 | การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาเซียน - สันนิบาตอาหรับ | มท | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงมหาดไทยถอนเรื่อง การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
อาเซียน-สันนิบาตอาหรับ คืนไปก่อน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3529 | รายงานภาพรวมการตั้งตู้นายกฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนของประชาชน | มท | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานภาพรวมการตั้งตู้นายก ฯ ทักษิณ
รับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ของประชาชนใน 75 จังหวัด ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2547 จังหวัดต่างๆ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผ่านตู้นายกฯ ทักษิณที่ตั้งบริเวณบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 936 เรื่อง โดยจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 129 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 802 เรื่อง ส่งเรื่องให้ส่วนกลางพิจารณาดำเนินการ 5 เรื่อง โดยประมวลภาพรวมการดำเนินการรับเรื่อง ร้องเรียนจากประชาชนในส่วนภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2547 รวมทั้งสิ้น 10,320 เรื่อง จังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 5,787 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 56.08 ส่วนการร้องเรียน ผ่านตู้นายก ฯ ทักษิณหน้าบ้านพิษณุโลก กรุงเทพ ฯ คตส.นรม. (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) ส่งให้ จังหวัดพิจารณา ทั้งสิ้น 2,132 เรื่อง โดยจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 1,184 เรื่อง อยู่ ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 924 เรื่อง และเรื่องที่จังหวัดส่งให้ส่วนกลางพิจารณา 24 เรื่อง โดยกลุ่มปัญหาที่ร้องเรียนมากที่สุดคือ เรื่องความเดือดร้อนทั่วไป รองลงมาได้แก่ การร้องเรียนกล่าวโทษ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ/แก้ปัญหา เรื่องที่จังหวัดสามารถดำเนินการในระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการ จังหวัดบูรณาการได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในบทบาทหน้าที่ไปแล้ว อาทิเช่น จังหวัดร้อยเอ็ด กรณีถูกขโมย สมุดบัญชีเงินฝากแล้วนำไปถอนเงินจากธนาคาร จำนวน 50,000 บาท โดยที่พนักงานธนาคารไม่ได้ใช้ ความละเอียดรอบคอบ และไม่ยอมรับผิดในความบกพร่องของตน ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ศูนย์ ดำรงธรรมจังหวัดดำเนินการ และประสานข้อมูลกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งพนักงานของ ธนาคารยินยอมจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ร้องเรียบร้อยแล้ว จังหวัดแพร่ มีผู้แจ้งเบาะแสการกระทำความผิดลัก ลอบตัดไม้ทำลายป่า ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3530 | ขออนุมัติวงเงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 1,000 ล้านบาท | มท | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอวงเงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของการ
ประปานครหลวง จำนวน 1,000 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3531 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้คนต่างด้าวปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ. .... | มท | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้คนต่าง
ด้าวปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้คนต่างด้าวบางจำพวกต้อง ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเกี่ยวกับการแจ้งการเกิด การตาย การย้ายที่อยู่ การสำรวจ ตรวจสอบหรือแก้ไขปรับปรุงรายการทะเบียนราษฎร การจัดทำทะเบียนประวัติ การจัดทำบัตรประจำตัวและ การทะเบียนราษฎรอื่นๆ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3532 | รายงานสรุปผลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 4) | มท | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดิน
ไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ ครั้งที่ 4 จนถึงวันที่ 24 มกราคม 2548 สรุปดังนี้ พื้นที่ประสบภัยพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 82 ตำบล 329 หมู่บ้าน ราษฎร ได้รับความเดือดร้อน 54,672 คน 12,072 ครอบครัว ผู้เสียชีวิตรวม 5,374 คน บาดเจ็บรวม 8,457 คน รับแจ้ง สูญหายรวม 3,132 คน บ้านเรือนราษฎรเสียหายรวม 6,812 หลัง มูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด ประเมินในขั้นต้นประมาณ 17,508.67 ล้านบาท ความเสียหายด้าน สิ่งสาธารณประโยชน์พบว่า จังหวัดพังงา และภูเก็ต มีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยท่าเทียบเรือและระบบ ไฟฟ้ามีความเสียหายเป็นมูลค่ามากที่สุด ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นการประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกต ได้ ได้แก่ แนวปะการัง ชายหาด ป่าชายเลน ป่าไม้ แหล่งน้ำจืด พื้นที่ทิ้งขยะ และสภาพพื้นที่เสื่อมโทรม (ดินเค็ม) ส่วนการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคล มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวน 5,374 คน สามารถ ยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคลหรือญาติยืนยันแล้วจำนวน 1,609 ศพ ยังยืนยันไม่ได้จำนวน 3,657 ศพ ด้านการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 216,149,666 บาท จัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดพังงา กระบี่ และระนอง และก่อสร้างบ้านพักถาวรในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด โดยได้สำรวจจำนวนความต้องการ มียอดรวมทั้งสิ้น 2,800 หลัง ส่วนผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ การดำเนินการฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดระเบียบชายหาด ได้ดำเนินการใน 4 ภารกิจแล้วดังนี้ การทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพังขยะมูลฝอย ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ การจัดระเบียบพื้นที่ชายหาด และการฟื้นฟูแหล่งท่องที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาด และการจัดทำระบบข้อมูล สารสนเทศ ได้จัดเก็บและบันทึกข้อมูลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยแล้ว เสร็จประมาณ 80% และรายงานระบบข้อมูล (ประมวลผล) ได้แยกเป็น 2 กลุ่ม 21 ประเภท ได้แก่ กลุ่มข้อมูล ความเสียหาย และกลุ่มข้อมูลการให้ความช่วยเหลือ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3533 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2548) | มท | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 -20 มกราคม 2548 โดยมีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 55 จังหวัด 549 อำเภอ 55 กิ่งอำเภอ 4,381 ตำบล 38,822 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด ราษฎรเดือดร้อน 7,346,651 คน 2,073,071 ครัวเรือน พื้นที่การ เกษตรประสบความแห้งแล้ง แยกเป็น พื้นที่การเกษตรที่ประสบความเสียหายแล้ว 13,376,192 ไร่ มูลค่า ความเสียหาย 6,470,750,193 บาท และพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะประสบความเสียหาย 10,374,121 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 5,261,725,190 บาท โดยจังหวัดที่มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายมาก 10 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา สุพรรณบุรี ชัยภูมิ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ลพบุรี นครสวรรค์ และกาญจนบุรี ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร รวม ทั้งการอุปโภค/บริโภคให้แก่เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน สำหรับงบประมาณที่ใช้ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือใช้ไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 353,514,507.88 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3534 | ขออนุมัติคงกรอบอัตรากำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนของจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1.1 (ฝ่าย
ความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง) ที่มีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอดังนี้ อนุมัติการคงกรอบอัตรากำลัง พลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ของจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จำนวน 1,479 อัตรา และ อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการคงกรอบอัตรากำลังพลดังกล่าวเป็นเวลา 2 ปี ได้แก่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 จำนวน 55,342,597 บาท และปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 58,165,777 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3535 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 13 มกราคม 2548) | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่าย
พลเรือนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547-13 มกราคม 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 55 จังหวัด 543 อำเภอ 53 กิ่งอำเภอ 4,322 ตำบล 38,502 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,272,739 คน 2,011,509 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวัน ออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย 12,576,338 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 9,744,168 ไร่ พืชไร่ 2,591,809 ไร่ พืชสวน 240,061 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,409,057,884 บาท การ ให้ความช่วยเหลือได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรรวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบ ประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 311,184,725.88 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉิน ทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 206,343,036 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น 76,985,443.88 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 27,856,246 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3536 | รายงานสรุปผลการความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 3) | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดิน
ไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ ครั้งที่ 3 จนถึงวันที่ 17 มกราคม 2548 สรุปดังนี้ พื้นที่ประสบภัยพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 78 ตำบล 292 หมู่บ้าน ราษฎร ได้รับความเดือดร้อน 54,672 คน 12,068 ครอบครัว ผู้เสียชีวิตรวม 5,322 คน บาดเจ็บรวม 8,457 คน รับแจ้ง สูญหายรวม 3,144 คน บ้านเรือนราษฎรเสียหายรวม 6,799 หลัง มูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด ประเมินในขั้นต้นประมาณ 17,438.15 ล้านบาท ความเสียหายด้าน สิ่งสาธารณประโยชน์พบว่า จังหวัดพังงา และภูเก็ต มีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยท่าเทียบเรือและระบบ ไฟฟ้ามีความเสียหายเป็นมูลค่ามากที่สุด ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นการประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกต ได้ ได้แก่ แนวปะการัง ชายหาด ป่าชายเลน ป่าไม้ แหล่งน้ำจืด พื้นที่ทิ้งขยะ และสภาพพื้นที่เสื่อมโทรม (ดินเค็ม) ส่วนการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคล มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวน 5,322 คน สามารถ ยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคลหรือญาติยืนยันแล้วจำนวน 1,567 ศพ ยังยืนยันไม่ได้จำนวน 3,422 ศพ ด้านการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 159,482,826 บาท จัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดพังงา กระบี่ และระนอง และก่อสร้างบ้านพักถาวรในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด โดยได้สำรวจจำนวนความต้องการมียอดรวมทั้งสิ้น 3,331 หลัง และจัดเตรียมพื้นที่ก่อสร้างได้แล้ว นอก จากนี้ภาคเอกชน องค์กร และต่างประเทศ ได้ให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อาทิเช่น การจัดสร้างบ้านพักถาวร การก่อสร้างโรงเรียน/สถานีอนามัย เป็นต้น ส่วนผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ การดำเนิน การฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้าง และการจัดระเบียบชายหาด การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบ การรายย่อย การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศ การพัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัด การภัยพิบัติ การตรวจสอบแนวเขตที่ดิน และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3537 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือง
รวมเมืองเชียงราย พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลนางแล ตำบลแม่ข้าวต้ม ตำบลบ้านดู่ ตำบลริมกก ตำบลรอบเวียง ตำบลเวียง ตำบลท่าสาย ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย และ ตำบลเวียงชัย อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3538 | การพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปผลการประชุมเพื่อกำหนดรายละ
เอียดของกระบวนการและวิธีการในการชันสูตรและจัดการเกี่ยวกับศพทั้งระบบ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2548 ณ ห้องประชุมอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ การพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจาก ภัยคลื่นยักษ์ (Tsunaim) ให้ประสานการปฏิบัติงานและร่วมมือกันระหว่างกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการ ต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในนาม "ศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami)" เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "Thai Tsunami Victims Identification" (TTVI) โดยกำหนดให้ทุกหน่วยดำเนิน งานภายใต้มาตรฐานเดียวกันที่เป็นมาตรฐานสากล ทั้งในด้านการตรวจสอบเอกลักษณ์ภายนอก เช่น ตำหนิ แผลเป็น ลายพิมพ์นิ้วมือ และการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) จากเส้นผม เนื้อเยื่อ กระพุ้งแก้ม กระดูก ผล การเอ็กซเรย์ฟัน (Dental X-Ray) กระดูก และอื่น ๆ รวมทั้งได้กำหนดแนวทางการจัดเก็บศพแยกเป็นราย จังหวัด โดยได้มีการเคลื่อนย้ายศพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลจากจังหวัดพังงาไปรวมไว้ที่สุสานไม้ขาว (บ้าน ท่าฉัตรชัย) อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อความสะดวกในการเก็บรักษา การพิสูจน์เอกลักษณ์ การติดต่อขอ รับศพ และการออกมรณบัตร เมื่อสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ศพคือระบุตัวบุคคลได้แล้ว สำหรับการตรวจสาร พันธุกรรม (DNA) โดยตัวอย่างสารพันธุกรรม (DNA) และข้อมูลเอกลักษณ์ที่เก็บจากศพแล้ว ให้ทุกหน่วย จัดส่งให้คณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์ศพเพื่อเก็บรวบรวมไว้ในฐานข้อมูล เดียวกันส่วนข้อมูลเกี่ยวกับผลเอ็กซเรย์ฟัน และตัวอย่าง DNA จากกระดูก จัดส่งไปให้ประเทศจีนเป็นผู้ทำการ ตรวจพิสูจน์โดยญาติของผู้สูญหาย (ที่เป็นคนไทย) สามารถขอรับการตรวจ DNA และให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอก ลักษณ์ในเบื้องต้นได้ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดทุกจังหวัด กรณีผู้สูญหายที่เป็นชาวต่างประเทศ ให้จัดส่งผล การตรวจพิสูจน์ DNA และข้อมูลเอกลักษณ์ของผู้สูญหายและญาติใกล้ชิดผ่านกระทรวงการต่างประเทศเพื่อ ส่งต่อให้คณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพ ฯ เก็บรวบรวมไว้ในฐานข้อมูลต่อไป ในส่วนของการ ติดต่อขอรับศพ หากญาติของผู้เสียชีวิตที่รับทราบการยืนยันบุคคลจากคณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตร พลิกศพ ฯ แล้ว สามารถติดต่อขอรับศพได้ที่สุสานไม้ขาว (บ้านท่าฉัตรชัย) อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3539 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผัง
เมืองรวมสมุทรปราการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้โรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจ การอยู่ก่อนกฎกระทรวง ฉบับที่ 173 (พ.ศ. 2537) ฯ มีผลใช้บังคับและยังประกอบกิจการอยู่ในปัจจุบัน สามารถขยายพื้นที่โรงงานเฉพาะที่ใช้ในการผลิตได้อีกไม่เกินหนึ่งเท่าของพื้นที่โรงงานที่ใช้ในการผลิตเดิม โดยพื้นที่โรงงานที่ขยายต้องเป็นพื้นที่ในที่ดินแปลงเดียวกัน หรือติดต่อเป็นแปลงเดียวกันกับแปลงที่ดินที่ เป็นที่ตั้งของโรงงานเดิมและเจ้าของโรงงานเดิมเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือมีสิทธิ์ครอบครองอยู่ก่อนวันที่กฎ กระทรวง ฉบับที่ 173 (พ.ศ. 2537) ฯ มีผลใช้บังคับ สำหรับที่ดินในบริเวณที่กำหนด และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3540 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปี จำนวน 2 ฉบับ และต่อไปอีกห้าปี จำนวน 2 ฉบับ) | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยาย
ระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผัง เมืองรวมต่อไปอีก 1 ปี จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 449 (พ.ศ. 2543)ฯ ผังเมืองรวมเมือง กาญจนบุรี และฉบับที่ 450 (พ.ศ. 2543)ฯ ผังเมืองรวมเมืองท่าเรือพระแท่น จังหวัดกาญจนบุรี (ขยายระยะ เวลาครั้งที่ 1) ต่อไปถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2549 และขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีก 5 ปี จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 451 (พ.ศ. 2543)ฯ ผังเมืองรวมเมืองโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี และฉบับที่ 452 (พ.ศ. 2543)ฯ ผังเมืองรวมเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (ขยายระยะเวลาครั้งที่ 1) ต่อไป ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2553 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ได้
|
.....