ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 172 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 3421 - 3440 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3421 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... | มท | 27/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพ
ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับ พลเรือนใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ 1 งาน 21 ตารางวา เพื่อมอบให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองขุดใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล คลอง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
3422 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะในท้องที่แขวงตลาดพลู แขวงบุคคโล เขตธนบุรี แขวงปากคลองภาษีเจริญ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ และแขวงบางค้อ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน
ที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ ในท้องที่แขวงตลาดพลู แขวงบุคคโล เขตธนบุรี แขวงปาก คลองภาษีเจริญ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ และแขวงบางค้อ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ ในท้องที่ แขวงตลาดพลู แขวงบุคคโล เขตธนบุรี แขวงปากคลองภาษีเจริญ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ และแขวงบาง ค้อแขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
3423 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของ
ที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุง ท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 ซึ่งใช้ใน การประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2547 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2548 โดย ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป โดยให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายเพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎ หมายต่อไป
|
|||||||||||||||
3424 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม และตำบลช้างเผือก ตำบลป่าตัน ตำบลศรีภูมิ ตำบลช้างม่อย ตำบลช้างคลาน ตำบลหายยา ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้าม
ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลดอน แก้ว อำเภอแม่ริม และตำบลช้างเผือก ตำบลป่าตัน ตำบลศรีภูมิ ตำบลช้างม่อย ตำบลช้างคลาน ตำบลหาย ยา ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณห้ามก่อ สร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม และตำบลช้างเผือก ตำบลป่าตัน ตำบลศรีภูมิ ตำบลช้างม่อย ตำบลช้างคลาน ตำบลหาย ยา ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการให้มีการประกาศใช้ บังคับร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ ต่อเนื่องกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอ แม่ริม และตำบลช้างเผือก ตำบลป่าตัน ตำบลศรีภูมิ ตำบลช้างม่อย ตำบลช้างคลาน ตำบลหายยา ตำบล ป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีผลใช้บังคับเป็นการชั่วคราวกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2547 โดยจะครบกำหนดในวันที่ 5 กรกฎาคม 2548
|
|||||||||||||||
3425 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลอุโมงค์ ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลเวียงยอง ตำบลบ้านกลาง ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้าม
ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียง ใหม่ และตำบลอุโมงค์ ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลเวียงยอง ตำบลบ้านกลาง ตำบลป่าสัก อำเภอ เมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการ ใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียง ใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลอุโมงค์ ตำบลเหมือง ง่า ตำบลในเมือง ตำบลเวียงยอง ตำบลบ้านกลาง ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงมหาด ไทยดำเนินการให้มีการประกาศใช้บังคับร่างกฎกระทรวงในเรื่องดังกล่าว ต่อเนื่องกับประกาศกระทรวงมหาด ไทยฉบับเดิม
|
|||||||||||||||
3426 | รายงานผลการดำเนินการตั้งตู้นายกฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนของประชาชนในรอบ 11 เดือน | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลการดำเนินการตั้งตู้
นายก ฯ ทักษิณรับเรื่องร้องเรียนของประชาชน รอบ 11 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2547-30 เมษายน 2548 ได้รับเรื่องร้องเรียน 15,844 เรื่อง จำแนกเป็น เรื่องร้องเรียนผ่านทางตู้นายก ฯ ทักษิณ ที่ตั้งบริเวณ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด 12,236 เรื่อง ซึ่งจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 7,716 เรื่อง และ เรื่องร้องเรียนผ่านทางตู้นายก ฯ ทักษิณ หน้าบ้านพิษณุโลก กรุงเทพ ฯ คณะทำงานติดตามและประสาน งานตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรี (คตส.นรม.) ได้ส่งให้จังหวัด 3,608 เรื่อง ซึ่งจังหวัดได้ให้ความช่วย เหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 2,089 เรื่อง ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนจำแนกตามกลุ่มปัญหาที่ได้รับจากหน้าบ้านพักผู้ ว่าราชการจังหวัด และจากหน้าบ้านพิษณุโลก กรุงเทพ ฯ นับตั้งแต่เริ่มจัดตั้งตู้นายก ฯ ทักษิณ จนถึงปัจจุบัน กลุ่มปัญหาที่มีการร้องเรียนมากที่สุดคือความเดือดร้อนทั่วไป รองลงมาคือการกล่าวโทษเจ้าหน้าที่/หน่วย งานของรัฐ และการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด
|
|||||||||||||||
3427 | การประชุมสัมมนาเพื่อติดตาม เร่งรัด และเน้นย้ำการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และความมั่นคงในระดับพื้นที่ | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน (ศตจ.มท.)
ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.มท.) กระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับผลการสัมมนาเพื่อติด ตาม เร่งรัด และเน้นย้ำการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และความมั่นคงใน ระดับพื้นที่แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้กำกับการ ตำรวจภูธร อำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดที่เกี่ยวข้องในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2548 ณ จังหวัดชลบุรี วันที่ 16 พฤษภาคม 2548 ณ จังหวัดนครราชสีมา และวันที่ 19 พฤษภาคม 2548 ณ จังหวัดอุดรธานี เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะจากจังหวัดต่าง ๆ ใน ด้านการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน ได้แก่ ปัญหาหนี้สิน บ้านและที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน การจัด คาราวานแก้จน การดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดการ ปราบปรามผู้มีอิทธิพล การรักษาความสงบเรียบ ร้อยและความมั่นคงในระดับพื้นที่ โดยหลายจังหวัดให้ข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล อาทิ เช่น ควรมีกองทุนสำหรับดูแลหนี้นอกระบบ การโอนหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบธนาคาร การรณรงค์ปรับเปลี่ยน ทัศนคติและพฤติกรรม ซึ่งยังคงรอรับการช่วยเหลือไม่ดิ้นรนสร้างโอกาส รักสนุก เล่นการพนัน เป็นต้น นอกจาก นี้ ประธานในที่ประชุมได้มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ ภูธรจังหวัด นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านการดำเนินงานต่อสู้เพื่อชนะความ ยากจน การดำเนินการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การรักษาความสงบเรียบร้อยและ ความมั่นคง รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ เช่น นโยบายประหยัดพลังงาน การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ การรณรงค์ให้ ทุกคนในชาติตั้งสัจจะ 1 ประการ การสร้างสภาวะแวดล้อมให้น่าอยู่ตามโครงการ หนึ่งคน หนึ่งต้น หนึ่งฝน เพื่อ ประชาชนชาวไทย การปรับการทำงานร่วมกัน การรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย เป็นต้น
|
|||||||||||||||
3428 | ผลการประชุมเพื่อมอบนโยบายการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับสรุปผลการประชุมเพื่อมอบ
นโยบายการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ ของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี แก่ปลัดกระทรวงทุก กระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่นวกลาง และส่วนภูมิภาค เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2548 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ (1) ด้านประสิทธิภาพการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมองการปฏิบัติงานเป็น 2 มิติ คือ มิติด้านหน้าที่ และ มิติด้านประชาชน มีการทำงานเป็นทีมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดและบริหารงบประมาณของจังหวัดให้มีประสิทธิ ภาพ มีการมอบอำนาจให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่ควบ คุมกำกับพฤติกรรม (2) ด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องวางแผนการเข้าเยี่ยมทุก หมู่บ้าน มีนายอำเภอเป็นผู้ช่วยและตรวจสอบทุกพื้นที่โครงการ SML และทำประชาคมหมู่บ้าน ถ้าหมู่บ้านใด ไม่พร้อมให้รอไปก่อน โดยเดือนมิถุนายน 2548 จะส่งเงินให้หมู่บ้านเฉพาะหมู่บ้านที่พร้อม ส่วนคาราวานเสริม สร้างเด็ก ให้เตรียมความพร้อมสำหรับเด็กแรกเกิดเพื่อให้เด็กแรกเกิดได้รับถุงของขวัญ ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่วัน ที่ 28 กรกฎาคม 2548 (3) ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทุกจังหวัดจะต้องยึดหมู่บ้านโดยทุกหมู่บ้านจะต้อง ปลอดยาเสพติด และให้โรงเรียนเข้ามาช่วยเหลือด้วย รวมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินตามภารกิจ ให้เข้มข้นเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป (4) ด้านการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ให้สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติร่วมกับฝ่ายทหาร และหน่วยข่าวกรองจัดหาข่าวผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อใช้มาตรการปราบปราม และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนิน การอย่างต่อเนื่อง และ (5) ด้านการปรับยุทธศาสตร์ของจังหวัด ให้ทุกจังหวัดปรับยุทธศาสตร์ของจังหวัดให้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล 9 ด้าน และให้ครอบคลุมการพัฒนาจังหวัดทุกด้าน ทั้งนี้ ให้กระทรวงที่เกี่ยว ข้องและจังหวัดรับประเด็นนโยบายดังกล่าว ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||
3429 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2548) | มท | 24/05/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ความแห้งแล้ง
ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2548 มีจังหวัดประสบภัย 50 จังหวัด 360 อำเภอ 43 กิ่งอำเภอ 2,241 ตำบล 3,840 หมู่บ้าน ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 9,927 หมู่บ้าน (สัปดาห์ที่ผ่านมายอด 23,767 หมู่บ้าน) แยก เป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด 81 อำเภอ 7 กิ่งอำเภอ 412 ตำบล 1,904 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 247,956 ครัวเรือน 999,773 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด 174 อำเภอ 25 กิ่งอำเภอ 1,317 ตำบล 9,230 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 845,094 ครัวเรือน 3,168,159 คน ภาคกลาง 6 จังหวัด 38 อำเภอ 3 กิ่งอำเภอ 164 ตำบล 976 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 98,616 ครัวเรือน 379,230 คน ภาคตะวันออก 1 จังหวัด 7 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 25 ตำบล 185 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 15,600 ครัวเรือน 56,210 คน และภาคใต้ 11 จังหวัด 60 อำเภอ 6 กิ่งอำเภอ 323 ตำบล 1,545 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 189,307 ครัวเรือน 719,189 คน ในส่วนของพื้นที่การเกษตรที่ประสบความแห้งแล้ง (ภาพรวมทั้งประเทศ) แยกเป็น นาข้าว 107,957 ไร่ พืชไร่ 214,719 ไร่ พืชสวน 480,828 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 399,819,303 บาท สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วยการแจกจ่ายน้ำของจังหวัด/อำเภอเพื่อการเกษตรในพื้นที่นอกเขต ชลประทาน และน้ำอุปโภค/บริโภค โดยใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 1,663,775,759 บาท
|
|||||||||||||||
3430 | แต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงมหาดไทย) (จำนวน 6 ราย) | มท | 20/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพ
มหานครสามัญ รวม 6 ราย ได้แก่ นายสมภพ ระงับทุกข์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 10 สำนักปลัด กรุงเทพมหานคร นายนิคม ไวยรัชพานิช ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 10 ผู้อำนวยการสำนักสำนักการคลัง นางนินนาท ชลิตานนท์ ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 10 ผู้อำนวยการสำนัก สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล นายธีระชัย เธียรสรรชัย ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 10 ผู้อำนวยการสำนัก สำนักสิ่งแวดล้อม นายพูลพันธ์ ไกรเสริม ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 10 ผู้อำนวยการสำนัก สำนักพัฒนาสังคม และนายทวีศักดิ์ เ ดชเดโช ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 10 ผู้อำนวยการสำนัก สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||
3431 | การแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ | มท | 17/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้ตั้ง คณะกรรมการนโยบายการผังเมือง
แห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธาน กรรมการ และกรรมการอื่นอีก 15 คน ซึ่งมีอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นกรมการและเลขานุการ ให้คณะกรรมการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการนโยบายด้านการผังเมือง ให้ สัมฤทธิ์ผล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดี โดยการบูรณาการนโยบายระดับชาติลงสู่ระดับพื้นที่ ทำให้บ้านเมืองน่าอยู่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ การสนับสนุน และมีส่วนร่วมดำเนินการโครงการวางและจัดทำผังประเทศและผังภาคจนแล้วเสร็จ และให้ใช้ ผังประเทศ และผังภาคเป็นกรอบในการจัดทำโครงการพัฒนา เพื่อความเป็นเอกภาพของการจัดสรรงบ ประมาณ และการดำเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ของประเทศต่อไป
|
|||||||||||||||
3432 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2548) | มท | 17/05/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ความแห้งแล้ง
ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2548 มีจังหวัดประสบภัย 63 จังหวัด 523 อำเภอ 59 กิ่งอำเภอ 3,420 ตำบล 23,767 หมู่บ้าน ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 104 หมู่บ้าน (สัปดาห์ที่ผ่านมายอด 23,871 หมู่บ้าน) แยก เป็น ภาคเหนือ 16 จังหวัด 100 อำเภอ 10 กิ่งอำเภอ 512 ตำบล 2,622 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 283,670 ครัวเรือน 1,114,378 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด 264 อำเภอ 32 กิ่งอำเภอ 2,041 ตำบล 16,751 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 900,946 ครัวเรือน 3,979,689 คน ภาคกลาง 9 จังหวัด 58 อำเภอ 4 กิ่งอำเภอ 264 ตำบล 1,492 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 125,070 ครัวเรือน 476,233 คน ภาค ตะวันออก 7 จังหวัด 30 อำเภอ 7 กิ่งอำเภอ 168 ตำบล 874 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 48,971 ครัวเรือน 158,333 คน และภาคใต้ 12 จังหวัด 71 อำเภอ 6 กิ่งอำเภอ 435 ตำบล 2,028 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 190,140 ครัวเรือน 721,003 คน ในส่วนของพื้นที่การเกษตรที่ประสบความแห้งแล้ง (ภาพรวมทั้งประเทศ) แยกเป็น นาข้าว 182,493 ไร่ พืชไร่ 270,853 ไร่ พืชสวน 602,836 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 461,153,097 บาท สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย การแจกจ่ายน้ำของจังหวัด/อำเภอ เพื่อการเกษตรในพื้นที่ นอกเขตชลประทาน และน้ำอุปโภค/บริโภค โดยใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 1,663,775,759 บาท นอก จากนี้ ยังมีมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค/บริโภคระยะยาว ได้แก่ โครงการแก้ ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค (ประปาเอื้ออาทร) และแผนงานพัฒนาระบบประปาในเขตเทศบาล
|
|||||||||||||||
3433 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2548) | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ณ วันที่ 9 พฤษภา
คม2548 ของกระทรวงมหาดไทย โดยมีจังหวัดที่ประสบภัย 63 จังหวัด 523 อำเภอ 59 กิ่งอำเภอ 3,502 ตำบล 23,871 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 16 จังหวัด 100 อำเภอ 10 กิ่งอำเภอ 582 ตำบล 2,702 หมู่ บ้าน ราษฎรประสบภัย 285,847 ครัวเรือน 1,124,468 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด 264 อำเภอ 32 กิ่งอำเภอ 2,043 ตำบล 16,760 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 901,946 ครัวเรือน 3,979,689 คน ภาคกลาง 9 จังหวัด 58 อำเภอ 4 กิ่งอำเภอ 264 ตำบล 1,492 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 125,070 ครัวเรือน 476,233 คน ภาคตะวันออก 7 จังหวัด 30 อำเภอ 7 กิ่งอำเภอ 169 ตำบล 879 หมู่บ้าน ราษฎร ประสบภัย 55,341 ครัวเรือน 165,382 คน และภาคใต้ 12 จังหวัด 71 อำเภอ 6 กิ่งอำเภอ 444 ตำบล 2,038 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 190,177 ครัวเรือน 721,641 คน ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ประสบความ แห้งแล้ง (ภาพรวมทั้งประเทศ) แยกเป็น นาข้าว 235,343 ไร่ พืชไร่ 271,704 ไร่ และพืชสวน 614,117 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 475,361,892 บาท สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ได้ช่วยเหลือน้ำเพื่อการเกษตรในพื้น ที่นอกเขตชลประทาน และน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค โดยใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 1,511,838,232 บาท
|
|||||||||||||||
3434 | การมอบหมายให้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และนายสมชาย สุนทรวัฒน์ เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด ไทย ตามลำดับ ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||
3435 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (จำนวน 6 ราย) | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายพิเชษฐ สถิรชวาล เป็นประธาน
กรรมการในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค นายเปรมประชา ศุภสมุทร นายสมัย ลี้สกุล นายธีระศักดิ์ กาญจนศักดิ์ชัย นายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ และนายอนุชา โมกขะเวส เป็นกรรมการในคณะกรรมการการประปา ส่วนภูมิภาค ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (10 พฤษภาคม 2548) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราช กฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||
3436 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (จำนวน 3 ราย) | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่น
ในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ดังนี้ นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ เป็นประธานกรรมการแทน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ เป็นกรรมการแทน นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ และนายพรหมินทร์ ธวัชชัย นันท์ เป็นกรรมการแทน นายสุรพล นาควานิช ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (10 พฤษภาคม 2548) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 |
|||||||||||||||
3437 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสร้างและขยายถนนตามโครงการผังเมืองรวม เมืองสุรินทร์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้ แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||
3438 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. 2548 | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอัน
เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชร บูรณ์ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วม กัน ในท้องที่ตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 19 ไร่ 3 งาน 56.6 ตารางวา เพื่อมอบให้กรมการขนส่งทางบกใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาอำเภอหล่มสัก ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
3439 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ ตำบลตลุกเทียม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่
ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลตลุกเทียม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพล เมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลตลุกเทียม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลตลุกเทียม และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการ ถอนสภาพที่ดินฯ เป็นเรื่องที่มีแนวทางปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายโดยชัดเจนอยู่แล้ว และเพื่อเป็นการ ลดเรื่องที่จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี จึงมอบหมายเป็นการทั่วไปให้นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้อนุมัติ ให้ความเห็นชอบหรือมีคำสั่งแทนคณะรัฐมนตรี และให้ถือว่าเป็นมติคณะรัฐมนตรี ณ วันที่มีคำสั่ง
|
|||||||||||||||
3440 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติช่างรังวัดเอกชน พ.ศ. 2535 | มท | 10/05/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติช่างรังวัดเอกชน พ.ศ. 2535 โดยมีสาระสำคัญคือ ยกเลิกการกำหนดให้ผู้รับ ใบอนุญาตให้จัดตั้งสำนักงานช่างรังวัดเอกชนมีกรรมสิทธิ์ในเครื่องมือรังวัดชนิดเครื่องจับมุมฉาก และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....