ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 178 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 3541 - 3560 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3541 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางกอกใหญ่ เขตป้อมปรามศัตรูพ่าย เขตดอนเมือง เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตสายไหม เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตทุ่งครุ เขตบางพลัด เขตบางคอแหลม และเขตบางเขน เขตเลือกตั้งที่ 1 ขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2548 | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการ
เลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตทุ่งครุ เขตบางกอกใหญ่ เขตบาง เขต เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตบางคอแหลม เขตบางพลัด เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตสายไหม เขตเลือก ตั้งที่ 1 ขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2548 โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุง เทพมหานคร เขตบางกอกใหญ่ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดอนเมือง เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตสายไหม เขต เลือกตั้งที่ 1 เขตทุ่งครุ เขตบางพลัด เขตบางคอแหลม และเขตบางเขน เขตเลือกตั้งที่ 1 ขึ้นแทนตำแหน่ง ที่ว่าง โดยกำหนดให้วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2548 เป็นวันเลือกตั้ง และให้ระยะเวลารับสมัครเลือกตั้งเริ่มตั้ง แต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3542 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ ประจำปี พ.ศ.2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคา
ปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการ ประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้นำราคาปานกลางของที่ดิน ที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 ซึ่งใช้ในการประเมินภาษีบำรุง ท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2547 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2548 และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3543 | การออกสลากการกุศลเพื่อหารายได้ของสภาวัฒนธรรมเมืองมีนบุรี | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอขอถอนเรื่อง การออก
สลากการกุศลเพื่อหารายได้ของสภาวัฒนธรรมเมืองมีนบุรี คืนไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3544 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | มท | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธี
การรับบำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดอัตราและวิธีการรับ บำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่น โดยกำหนดให้จ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพไม่เกิน 15 เท่าของบำนาญ รายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และในการขอรับบำเหน็จดำรงชีพให้ขอรับได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม- 31 ธันวาคม ของทุกปี ส่วนกรณีผู้รับบำนาญออกจากราชการโดยต้องหาว่ากระทำผิดวินัยหรืออาญาก่อนออก จากราชการจะขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้เมื่อคดีถึงที่สุดและมีสิทธิรับบำนาญ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ เมื่อร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราช การส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 7) พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
3545 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองแต่งตั้งวิศวกรหรือสถาปนิกเป็นนายช่างตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... | มท | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
ที่อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองแต่งตั้งวิศวกร หรือสถาปนิกเป็นนายช่างตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุม อาคาร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของวิศวกรหรือสถาปนิกที่อธิบดีกรม โยธาธิการและผังเมืองแต่งตั้งเป็นนายช่าง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3546 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในท้องที่ที่เกิดภัยธรรมชาติ | มท | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในท้องที่ที่เกิดภัยธรรมชาติ โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ขยายกำหนด เวลาการต้องมีบัตรใหม่หรือเปลี่ยนบัตรแก่ผู้ถือบัตรซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในท้องที่ประสบภัยธรรมชาติ (Tsunami) ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ โดยให้ยื่นคำขอภายในกำหนดระยะเวลา 90 วัน (วันที่ 26 ธันวาคม 2547 ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2548) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3547 | สรุปผลการจัดงานเมืองแห่งภูมิปัญญาไทย (OTOP CITY) ครั้งที่ 2 | มท | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน รายงานผลการจัด
งานเมืองแห่งภูมิปัญญาไทย (OTOP CITY) ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-26 ธันวาคม 2547 ณ ศูนย์ แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจอาทิเช่น กิจกรรม การจำหน่ายสินค้า OTOP เป็นการจำหน่ายสินค้าของผู้ผลิตสินค้า OTOP ชุมชน และผู้ประกอบการ OTOP SMEs ที่ผ่านการคัดสรรในระดับ 3-5 ดาว ของปี พ.ศ. 2547 ประเภทสินค้าที่จำหน่าย ได้แก่ ประเภทของ ประดับตกแต่ง ศิลปะประดิษฐ์ ของที่ระลึก และประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย กิจกรรมหมู่บ้านท่องเที่ยว เป็นการจำลองหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP ได้แก่ บ้านถวาย จังหวัดเชียงใหม่ บ้านแม่สลอง จังหวัดเชียงราย บ้านด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา และบ้านเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยได้มีการสาธิตการผลิตผลิต ภัณฑ์ และจัดลานหมู่บ้านเพื่อให้ผู้สนใจได้มีส่วนร่วม กิจกรรม Road To Quality Product ได้จัดฉายภาพ ยนตร์ที่สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ OTOP และจัดทำคลินิค OTOP SMEs ให้บริการ/คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ และกิจกรรม OTOP BIG IDEA BIG AWARD ซึ่งเป็นการจัดแข่งขัน OTOP Marketing Contest และ OTOP Fusion Gift Contest เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้า OTOP เป็นต้น ในส่วนของผู้เข้าชมงานประกอบด้วย คณะบุคคลสำคัญ จากประเทศต่าง ๆ นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษา และประชาชนจากจังหวัดต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 4,456 คน และผลที่ได้รับจากการจัดงานในครั้งนี้มีผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 24 ประเทศ อาทิเช่น สหรัฐ อเมริกา เยอรมัน เกาหลี บังคลาเทศ ฯลฯ รวม 72 ราย เช่น บริษัท Hyundai Home Shopping, Woori Home Shopping, NSS Home Shopping, Jupiter Shop Channel ฯลฯ มาเลือกซื้อสินค้าที่จัดแสดงภายใน งาน โดยมีการสั่งซื้อสินค้าทันที จำนวน 35 ล้านบาทเศษ ซื้อผ่านสมาคมผู้ค้าไทยระหว่างประเทศ 39 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการสั่งซื้ออีกภายใน 1 ปี จากผู้ซื้อจากต่างประเทศประมาณ 140 ล้านบาท รวม เป็นเงินทั้งสิ้น 214 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3548 | การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการแก้ไขปัญหาผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่าและบุคคลในความห่วงใย (POC) ของ UNHCR กับ UNHCR | มท | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการลงนามในบันทึก
ความเข้าใจ (MEMORANDUM OF UNDERSTANDING - MOU) ในการแก้ไขปัญหาผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่า และบุคคลในความห่วงใย (POC) ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคไทย ฯ (UNHCR) กับ UNHCR โดยให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้ควบคุมกำกับ ดูแลงานกองการต่างประเทศ (สำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ) เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ UNHCR เพื่อร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบ ฯ ต่อไป และเพื่อให้การปฏิบัติงาน ดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปีต่อไป หากสารัตถะของบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไม่มีการเปลี่ยน แปลงไปจากร่างบันทึกความเข้าใจ MOU ให้สำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ลงนามในปีต่อ ๆ ไป โดยจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวง การต่างประเทศที่เห็นว่า บันทึกความเข้าใจดังกล่าวเป็นกรอบในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการช่วย เหลือผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่าในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 120,000 คน มิใช่การให้ความ ช่วยเหลือแก่ไทย ประกอบกับบันทึกความเข้าใจดังกล่าวสอดคล้องกับท่าทีของไทยที่ยืนยันหลักการแบ่งรับ ภาระและความรับผิดชอบร่วมระหว่างประเทศ (international burden and responsibility sharing) ในการ ดูแลให้ความคุ้มครองและแก้ไขปัญหาผู้หนีภัย โดยฝ่ายไทยได้แบกรับภาระค่าใช้จ่ายและทรัพยากรด้านอื่น ๆ จำนวนมาก ตลอดจนผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในการดูแลผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่า ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน ไปประกอบการดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
3549 | รายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (30 ธันวาคม 2547 ถึง 9 มกราคม 2548) | มท | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่น
ดินไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุ การณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ จนถึงวันที่ 9 มกราคม 2548 สรุปดังนี้ พื้นที่ประสบภัยพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 78 ตำบล 292 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 53,203 คน 12,293 ครอบครัว ผู้เสียชีวิตรวม 5,303 คน บาดเจ็บรวม 8,457 คน รับแจ้งสูญหายรวม 3,396 คน บ้านเรือนราษฎรเสียหายรวม 7,053 หลัง มูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์ สินที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด ประเมินในขั้นต้นประมาณ 9,168.94 ล้านบาท ความ เสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์พบว่า จังหวัดพังงา และภูเก็ต มีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยท่าเทียบ เรือและระบบไฟฟ้ามีความเสียหายเป็นมูลค่ามากที่สุดมูลค่าความเสียหายประเมินในขั้นต้นประมาณ 1,028.28 ล้านบาท ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นการประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ ได้แก่ แนวปะการัง ชาย หาด ป่าชายเลน ป่าไม้ แหล่งน้ำจืด พื้นที่ทิ้งขยะ และสภาพพื้นที่เสื่อมโทรม (ดินเค็ม) ส่วนการตรวจพิสูจน์ ยืนยันบุคคล มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวน 5,303 คน สามารถยืนยันพิสูจน์ตัว บุคคลหรือญาติยืนยันแล้วจำนวน 1,565 ศพ ยังยืนยันไม่ได้จำนวน 3,685 ศพ ด้านการตรวจพิสูจน์สารพันธุ กรรม (DNA) ทุกศพจะได้รับการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลโดยเท่าเทียมกัน โดยตัวอย่างเนื้อเยื่อ Sample ที่ หน่วยพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล (Disaster Victim Identification : DVI) เก็บได้จากศพจะส่งไปที่ Lab ของประเทศ จีน เพื่อดำเนินการโดยเร็วที่สุด ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วรวมเป็น เงินทั้งสิ้น 106,259,010 บาท จัดบ้านพักชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดพังงา กระบี่ และระนอง และการก่อสร้างบ้านพักถาวรในพื้นที่ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายรุนแรง 4 จังหวัด โดยได้สำรวจจำนวน ความต้องการมียอดรวมทั้งสิ้น 2,414 หลัง ส่วนผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ การดำเนิน การฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้าง และจัดระเบียบชายหาด การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบ การรายย่อย รวมถึงความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน สมาชิกโครงการแก้ไขปัญหาความยาก จน และสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต และกรมที่ดินได้จัดทำโครงการรังวัดสอบเขตที่ดิน กรณีหลักหมุดที่ ดินสูญหายหรือชำรุด ส่วนกรณีเอกสารสิทธิ์ชำรุดหรือสูญหายเนื่องจากประสบภัยจะดำเนินการตามระเบียบ ที่เกี่ยวข้องและดำเนินการออกใบแทนเอกสารสิทธิ์ให้ใหม่
|
|||||||||||||||||||||||||||
3550 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 6 มกราคม 2548) | มท | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 6 มกราคม 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 55 จังหวัด 547 อำเภอ 51 กิ่งอำเภอ 4,166 ตำบล 37,402 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,518,739 คน 2,043,542 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตร เสียหาย 11,750,518 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 9,417,267 ไร่ พืชไร่ 2,223,198 ไร่ พืชสวน 110,053 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,262,762,149 บาท การให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อ การเกษตร รวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้วรวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 296,400,420.88 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 191,867,465 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 76,985,443.88 บาท และงบประมาณ อื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 27,547,512 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3551 | สรุปสถานการณ์การเกิดเพลิงไหม้และอาคารทรุดตัวในเขตกรุงเทพมหานคร | มท | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปสถานการณ์การเกิดเพลิงไหม้และ
อาคารทรุดตัวในเขตกรุงเทพมหานคร กรณีเกิดเพลิงไหม้บริษัทยูไนเต็ด ยูเนียนพาร์ท จำกัด เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2548 และได้เกิดการทรุดตัวและพังทลาย เนื่องจากตัวอาคารได้รับความร้อนจัด ประกอบกับมีการ ฉีดน้ำเป็นเวลานาน อีกทั้งยังรับน้ำหนักจากอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ ตัวอาคารเกิดรอยร้าวและทรุดตัวลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนที่เข้าไปร่วมกันดับเพลิงบางส่วน ติดอยู่ภาย ในอาคาร และได้มีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกจากอาคาร จำนวน 6 คน และมีผู้ติดอยู่ในอาคาร จำนวน 4 คน ในขั้นต้นได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจฯ ณ จุดเกิดเหตุ เพื่ออำนวยการประสานงานเจ้าหน้าที่ เครื่องมืออุปกรณ์ ในการให้ความช่วยเหลือ รื้อซากอาคาร ตัดไฟฟ้ารอบบริเวณ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจทำให้เกิดเพลิง ไหม้ซ้ำ ตลอดจนควบคุมการจราจรและปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราช การได้ตรวจเยี่ยมที่เกิดเหตุและอำนวยการ ตลอด ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้และ อาคารได้ทรุดตัวและพังทลายลงจนทำให้เกิดความเสียหายและมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่มีการเตียมการและวางแผนในการป้อง กันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและจริงจัง และเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง การต่อเติม และการใช้ประโยชน์ของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง การแก้ไขปัญหาดัง กล่าวจำเป็นต้องวางแผนเตรียมการให้ครบถ้วนและเป็นระบบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานต้องประสานและร่วมมือกันดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทั้งการบังคับใช้กฎ หมายอย่างเข้มงวด และการดำเนินการของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ ขึ้น รวมตลอดถึงการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อให้ระงับเหตุดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความ เสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ จะต้องพัฒนาบุคคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อปลูกฝังและ สร้างวัฒนธรรมที่ถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ ที่ควรเน้นมาตรการป้องกันมากกว่ามาตรการแก้ไขเมื่อเกิด เหตุการณ์แล้ว จึงให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นเจ้าภาพรับไปประสานหารือกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในเรื่องดังกล่าวโดยให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลักก่อน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3552 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติ ของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ ตำบลคูเมือง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร พ.ศ. .... | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพ
ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลคูเมือง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพล เมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลคูเมือง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อ มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกใช้เป็นที่ทำการก่อสร้างสำนักงานขนส่งจังหวัดยโสธร สาขามหาชนะชัย และให้ส่งสำนักงาคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3553 | การดำเนินการตามโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ 8 ส่วนที่ 1 | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
คมนาคม พลังงาน และเทคโนโลยีสารสนเทศ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิ ภาค) เสนอโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ 8 ส่วนที่ 1 ประกอบด้วย การดำเนินการก่อ สร้างสายส่ง 115 กิโลโวลท์ ระยะทาง 756 วงจร-กิโลเมตร และก่อสร้างสถานีไฟฟ้า จำนวน 47 สถานีระยะ เวลาดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2547-2553 ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ เห็นว่า ในการจัดทำแผนการลงทุนในการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ให้คำนึงถึงขีดความสามารถ ของระบบการป้องกันปัญหาวงจรไฟฟ้าล่ม และเกิดไฟฟ้าดับทั่วเมือง โดยมีการคาดการณ์ล่วงหน้าในระยะยาว ในการวางแผนการลงทุนพัฒนาระบบไฟฟ้าในระยะเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถรองรับความต้องการใช้ ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต และให้มีการประสานการดำเนิน งานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยด้วย เพื่อให้การวางแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีความสอดคล้องและเกิดประโยชน์สูงสุด
|
|||||||||||||||||||||||||||
3554 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 ผ่อนผันให้อยู่ชั่วคราว 1 ปี ของบุคคลบนพื้นที่สูงและชุมชนบนพื้นที่สูง (ยกเลิกโดยมติ 23042/53) | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการเร่งรัดให้สถานะตามกฎหมาย
กับกลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูงและชุมชนบนพื้นที่สูง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 โดยสนับ สนุนงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 9,139,220 บาท และให้ใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาให้สัญชาติไทยกับบุตรคนต่างด้าว ตามมาตรา 7 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 สำหรับงบ ประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเร่งรัดให้สถานะตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูงและชุมชน บนพื้นที่สูง จำนวน 9,139,200 บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้กรมการปกครองขอทำความตกลงกับ สำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้รับความเห็นของสำนักงาน สภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ให้กรมการปกครองนำรายละเอียดในข้อยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะ และสิทธิของบุคคลที่ได้ผ่านการพิจารณาจากสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว ไปประกอบการดำเนินงานของ กรมการปกครอง ในเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาให้สัญชาติไทยกับบุตรคนต่างด้าว ฯลฯ ไป ประกอบการดำเนินงานด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
3555 | แผนพัฒนาระบบการออกเอกสารสิทธิในที่ดินและการบริการประชาชน | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแผนพัฒนาระบบการออกเอกสารสิทธิในที่ดินและการบริการประชาชน
โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) รับไปพิจารณาในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุก ที่ดินของรัฐ เพื่อให้เกิดการบูรณาการในภาพรวมของแนวคิด วิธีดำเนินการ ตลอดจนฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับที่ดินเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนร่วมกัน และสามารถจะจัดแบ่งภารกิจที่จะต้อง ดำเนินการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้ รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปประกอบการพิจารณาด้วยว่า การดำเนินการตามแผนพัฒนาระบบการ ออกเอกสารสิทธิในที่ดิน และการให้บริการประชาชนของกระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) ซึ่งกำหนดระยะ เวลาดำเนินการ 4 ปี (2548-2551) นั้น ควรเร่งรัดดำเนนการให้แล้วเสร็จเร็วขึ้นได้ โดยใช้บุคลากรในพื้นที่ ที่มีความรู้ และประสบการณ์เข้าร่วมดำเนินงาน และเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินทำหน้าที่ในการกำกับดูแลและ ติดตามการดำเนินงานของบุคลากรในพื้นที่นั้น ๆ อีกชั้นหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
3556 | ขอความเห็นชอบปรับเงินเดือนและเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเให้กระทรวงการคลังรับเรื่องกี่ยวกับข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย
ที่ขอปรับเงินเดือนของพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทุกระดับตำแหน่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และ เลื่อนขั้นเงินเดือนอีกคนละ 3 ขั้น โดยไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปรับเงินเดือนและเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเป็นไปด้วยความเหมาะสม สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ตลอดจนภาวะทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน รวมทั้งทำให้องค์กรมีความยั่งยืน โดยไม่ส่งผลกระทบถึงประชาชนผู้บริโภค หรือผู้ใช้บริการของรัฐวิสาหกิจ แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
3557 | ขอความเห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนของพนักงานการไฟฟ้านครหลวง | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังรับเรื่องการปรับอัตราเงินเดือนของ
พนักงานการไฟฟ้านครหลวง ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปรับอัตราเงินเดือนของพนักงานเป็นไปด้วยความเหมาะสม สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ตลอดจนภาวะทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน รวมทั้งทำให้ องค์กรมีความยั่งยืนโดยไม่ส่งผลกระทบถึงประชาชนผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ของรัฐวิสาหกิจ แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
3558 | รายงานการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก
เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ โดยการดำเนินการค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดค้างในพื้นที่วิกฤต ได้มี การระดมสรรพกำลังจากทุกฝ่ายทั้งภาคราชการ เอกชน มูลนิธิ อาสาสมัคร ให้การช่วยเหลือและค้นหาผู้รอด ชีวิต และให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ติดค้างอยู่ตามเกาะต่าง ๆ ในทะเลอันดามัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้ให้ความช่วยเหลือส่งกลับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศโดยประสานงานกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินอื่น ๆ ตลอดจนเครื่องบินของกองทัพอากาศลำเลียงขนส่ง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจากจังหวัดภูเก็ตไปส่งกรุงเทพ ฯ เพื่อกลับภูมิลำเนา สำหรับการเก็บ กู้ศพ ได้สั่งการให้นำเครื่องจักรกลทั้งของทางราชการและภาคเอกชนเข้าปฏิบัติงานในบ้านเข้าหลัก เกาะคอเขา บ้านน้ำเค็ม วัดบางม่วง ฯลฯ อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา และเกาะพีพี อำเภอ เมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ อปพร. สมาชิก อส. อาสาสมัครมูลนิธิต่าง ๆ เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาและเก็บกู้ศพด้วย ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวัน ที่ 3 มกราคม 2548 จัดเก็บศพได้ทั้งสิ้น 5,187 คน แยกเป็นชาวไทย 2,362 คน ชาวต่างชาติ 2,463 คน ไม่ สามารถระบุสัญชาติได้ 362 คน ในส่วนของการพิสูจน์บุคคลจากศพ ได้ระดมแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัคร จากชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมปฏิบัติงานโดยนำศพที่ค้นพบแล้วนำไปเก็บเพื่อพิสูจน์ทราบจากบุคคล และ เก็บหลักฐานต่างๆ บันทึกภาพ คัดแยกเชื้อชาติ แยกเพศ นำศพใส่ถุงพร้อมทั้งจัดทำบัญชีหมายเลขกำกับ บรรจุ ใส่ตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็น เพื่อรอญาติมารับและนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาและประเพณี ส่วนผลการดำเนิน งานในด้านอื่น ๆ อาทิเช่น การฟื้นฟูบูรณะบริเวณชายหาดแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่ได้รับความเสียหาย และ การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
3559 | รายงานผลการปฏิบัติงานมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2548 | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ผู้อำนวยการศูนย์
อำนวยการความปลอดภัยทางถนน รายงานผลการปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทาง ถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2548 ของจังหวัดและกรุงเทพ ฯ ในห้วงระยะเวลาปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2547 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2548 รวม 5 วัน มีผู้เสียชีวิต 367 คน เปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2547 (520 คน) น้อยกว่า 153 คน หรือลดลง 29.42% โดยอายุผู้เสียชีวิตสะสม เด็ก (น้อยกว่า 15 ปี) มี 4.24% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด วัยรุ่น (15-25 ปี) มี 37.86% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด และวัย แรงงาน (26-40 ปี) มี 57.89% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิด อุบัติเหตุสูงสุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย เมาสุรา และขับรถเร็ว ตามลำดับ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3560 | ขออนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวและค่าปรับ | มท | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการขออยู่ต่อในราช
อาณาจักร และการชำระค่าปรับกรณีอยู่ในราชอาณาจักร สำหรับคนต่างด้าวที่ประสบอุทกภัยอันเนื่องจาก แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิใน 6 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย (จังหวัดพังงา ภูเก็ต ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล) เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในด้านมนุษยธรรม
|
.....