คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ
ไปถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  แผนงานพัฒนาเมือง  โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเทศบาลนครหาดใหญ่เร่ง
ด่วน หน่วยดำเนินการเทศบาลนครหาดใหญ่  ประกอบด้วย  รายการปรับปรุงบึงเก็บกักน้ำ  (แก้มลิง)  พื้นที่
คลองเตย  จากวงเงิน  80,000,000  บาท  ปรับลดเป็นเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547  จำนวน 29,920,000
บาท และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2548 จำนวน 50,080,000 บาท  และรายการก่อสร้างคันกั้นน้ำคลองอู่
ตะเภาฝั่งซ้าย จากวงเงิน 157,000,000 บาท  ปรับลดเป็นงบประมาณ ปี พ.ศ. 2547  จำนวน 99,814,000
บาท และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2548  จำนวน  57,186,000  บาท  โดยให้ตกลงในรายละเอียดการเบิก
จ่ายงบประมาณกับสำนักงบประมาณต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วม
กันพับนกกระดาษตามโครงการ "พับนก ส่งใจ ไปแดนใต้" โดย  ณ  วันที่ 22 พฤศจิกายน 2547 มีประชาชน
ร่วมกันพับนกกระดาษและรวบรวมอยู่ที่จังหวัดและกรุงเทพมหานคร มีจำนวนทั้งสิ้น 20,395,206 ตัว

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานสถานการณ์ความแห้งแล้งและการให้ความช่วยเหลือ โดยสถาน
การณ์ความแห้งแล้งจากจังหวัดที่ประสบภัย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่  18  พฤศจิกายน  2547 มีจังหวัด
ที่ประสบภัย 52 จังหวัด  503  อำเภอ  45  กิ่งอำเภอ  3,346  ตำบล  31,597  หมู่บ้าน  ราษฎรเดือดร้อน
5,872,178 คน 1,605,015 ครัวเรือน  พื้นที่การเกษตรที่ประสบความเสียหาย 8,660,193 ไร่ จำแนกเป็น
นาข้าว 7,118,646 ไร่ พืชไร่ 1,472,751 ไร่ และพืชสวน  68,796  ไร่ สำหรับการให้ความช่วยเหลือในส่วน
ของกระทรวงมหาดไทย  ได้จัดตั้งศูนย์แจกจ่ายน้ำประปาหมู่บ้านให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยไว้อุปโภค/บริโภค
รวมทั้งวางแผนการจัดสรรน้ำ การผันน้ำ  และควบคุมการใช้น้ำระหว่างจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเพื่อให้มีปริมาณ
น้ำเพียงพอแก่การเกษตร  นอกจากนี้ ได้จัดโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพระยะสั้น และสร้างอาชีพเสริมให้
ประชาชนที่ประสบภัย แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและป้องกันโรคที่เกิดในช่วงฤดูแล้ง  กำหนดแผนงาน
และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามโจรผู้ร้ายในช่วงฤดูแล้ง ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการ
ขุดเจาะบ่อบาดาลตามลำดับความรุนแรงของหมู่บ้านที่ประสบความแห้งแล้ง    พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการ
บริหารจัดสรรน้ำในระดับจังหวัดเพื่อให้การบริหารจัดสรรน้ำ/ควบคุมการใช้น้ำในพื้นที่จังหวัดเป็นไปอย่างมี
เอกภาพ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายประเสริฐ เชื้อพานิช เป็นผู้ว่า
การการประปาส่วนภูมิภาค โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรกเดือนละ 172,000 บาท  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่
คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 พฤศจิกายน 2547) เป็นต้นไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นางลีนา เจริญศรี เป็นกรรมการ
อื่น(ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(23 พฤศจิกายน 2547) เป็นต้นไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายสมภพ บัณฑรวิพากษ์ (ผู้แทนกระทรวง
การคลัง) เป็นกรรมการในคณะกรรมการองค์การตลาด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 พฤศจิกายน 2547)
เป็นต้นไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายการ
จัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย  ระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545-ตุลาคม 2547  สรุปดังนี้  โดย
ที่พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509  ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน และมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะ
สมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน จึงได้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ  โดยพระราชบัญญัติสถานบริการ
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546  ได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  13  มกราคม  2547
และได้กำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวมถึงการบังคับใช้พระราชบัญญัติ
สถานบริการ พ.ศ. 2509  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ  กระทรวงมหาดไทยได้
สั่งให้ทุกจังหวัด  อำเภอ  กิ่งอำเภอ   และประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ถือปฏิบัติในการกวดขันสถาน
บริการ  ในการนี้  คณะทำงานการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย  ได้ตรวจสถานบริการทั้งในพื้นที่
กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพ ฯ ได้ดำเนินการตรวจสถานบริการ จำนวน 156 แห่ง และใน
จังหวัดอื่น ๆ จำนวน 139 แห่ง  กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ใช้มาตรการทางปกครองโดยสถานบริการ
ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย  โดยการพักใช้ใบอนุญาต  เพิกถอนใบอนุญาต   สั่งหยุดกิจการ   สถานบริการทุกประเภท
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545-30 มิถุนายน 2547 รวมจำนวน 251 แห่ง  ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ใช้มาตรการทาง
ปกครองสั่งลงโทษสถานบริการ โดยการพักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาต  สั่งหยุดกิจการ  สถานบริการ
ทุกประเภท ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545-30 กันยายน  2547 รวมจำนวน 386 แห่ง นอกจากนี้ ได้ดำเนินการ
ให้ความรู้ทางกฎหมาย โดยฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รัฐและผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการในจังหวัดที่มีสถานบริการ
เป็นจำนวนมาก  รวมทั้งสร้างจิตสำนึกให้กับเด็ก  เยาวชน  ผู้ปกครอง  ผู้ประกอบกิจการ  สถานบริการ  และ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ   ทั้งนี้  ให้ถือว่านโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้อง
ให้การสนับสนุนและร่วมมือในการดำเนินการด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ  พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดหลัก
เกณฑ์  วิธีการ  และแนวทางปฏิบัติในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ  โดยมีคณะกรรมการกำกับดูแลเอก
สารสิทธิในที่ดินของรัฐ การจัดทำหลักฐานแผนที่ การจำลองและการเขียนรูปแผนที่ การลงรูปแผนที่ในระวาง
แผนที่ และการจัดเก็บหลักฐานแผนที่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย   แล้วดำเนินการต่อ
ไปได้  และให้กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงกลาโหม  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์   และหน่วยงานอื่นทีเกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการในส่วน
ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การจัดทำแผนที่เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการรังวัด  (มาตราส่วน 1: 4,000)  นั้น ให้เร่ง
รัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายตามความ
จำเป็น และเพื่อให้การรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิในที่ดินดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว  สมควรจัด
แบ่งพื้นที่ดำเนินการ และกำหนดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนและให้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน  และ
สมควรให้มีการจ้างแรงงานในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการจ้างงานซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้แก่ราษฎรในท้องถิ่น  นอก
จากนี้  ให้ทุกหน่วยงานที่จะดำเนินในเรื่องนี้ เสนอเรื่องให้รองนายกรัฐมนตรี  (พลเอก ชวลิต  ยงใจยุทธ)  ใน
ฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดหาที่ดินของรัฐด้านอุปทาน (supply  side) ให้ประชาชนทำกิน เป็นผู้พิจารณา
ให้ความเห็นชอบก่อนทุกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป    สำหรับกรณีที่ราษฎรได้บุกรุกหรือไม่มีเอกสารสิทธิการ
ถือครองที่ดิน  แต่ได้อาศัยที่ดินนั้นประกอบอาชีพโดยสุจริตมาเป็นเวลานานแล้ว  สมควรผ่อนผันให้ราษฎรดัง
กล่าวอยู่ในพื้นที่ไปก่อน จนกว่าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของรัฐที่รองนายกรัฐมนตรี  (พลเอก ชวลิต  ยงใจ
ยุทธ)  ดำเนินการอยู่จะแล้วเสร็จ  แต่หากเป็นกรณีการบุกรุกใหม่หรือเป็นการบุกรุกของนายทุนเพื่อแสวงหา
ประโยชน์มิชอบก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้งจากจังหวัด
ที่ประสบภัยและการให้ความช่วยเหลือที่ได้ดำเนินการแล้ว  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม  ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2547
โดยสถานการณ์ความแห้งแล้งมีจังหวัดที่ประสบภัย จำนวน 51 จังหวัด 479 อำเภอ 40 กิ่งอำเภอ 3,218 ตำบล 
27,921 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรที่ประสบความแห้งแล้ง 12,120,251 ไร่ ประกอบด้วย นาข้าว 8,573,229 ไร่
พืชไร่ 3,392,362 ไร่ พืชสวน 154,660 ไร่ ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ  4,044,494,263  บาท  ส่วนพื้นที่
การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 13,653,583 ไร่ ประกอบด้วย  นาข้าว 10,979,760 ไร่  พืชไร่  1,970,668  ไร่
พืชสวน 703,155 ไร่ ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ  5,558,995,077  บาท  สำหรับการให้ความช่วยเหลือใน
ส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้ประชุมซักซ้อมการปฏิบัติเพื่อให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบนโยบาย
ขั้นตอนแนวทางการปฏิบัติและระบบการรายงานผลการดำเนินการงานแก้ไขปัญหาผ่านทาง  VDO  Conference
ณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  และได้แจ้งให้จังหวัดที่ประสบภัยตรวจสอบพื้นที่การเกษตรที่ได้รับ
ความเสียหายไปแล้ว  พร้อมกับเร่งให้การช่วยเหลือ  รวมทั้งให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรังและพืชอื่น ๆ  ในพื้นที่
ห้ามเพาะปลูก โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยและสร้างอาชีพเสริมเพื่อให้มีรายได้ทดแทน เป็นต้น

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี  (พลเอก ชวลิต  ยงใจยุทธ)  เสนอ
ดังนี้ รับทราบผลการประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการกับผู้ประกอบ
ธุรกิจการค้าที่มีลักษณะเป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชน  ครั้งที่  1/2547   เมื่อวันที่  12  พฤศจิกายน  2547
ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการกำหนดยุทธศาสตร์ และวางระบบการป้อง
กันควบคุมและปราบปรามธุรกิจการค้าอันเป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชนในลักษณะของการจัดระเบียบสังคม
แนวใหม่  (New  Social  Order)  เพื่อให้เป็นสังคมที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน และเห็นชอบให้รองนายก
รัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินงานการรับเรื่องร้องเรียน/
ร้องทุกข์ของประชาชนใน 75 จังหวัด ระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2547 จังหวัดต่าง ๆ ได้รับเรื่องร้องเรียน
จากประชาชนผ่านตู้นายก ฯ ทักษิณ ที่ตั้งบริเวณบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด  543  เรื่อง  โดยจังหวัดได้ให้ความ
ช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 109 เรื่อง  อยู่ระหว่างการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา  428  เรื่อง  และส่งเรื่องให้ส่วนกลาง
พิจารณาดำเนินการ 6 เรื่อง  ส่วนการร้องเรียนผ่านตู้นายก ฯ  ทักษิณ  หน้าบ้านพิษณุโลก  กรุงเทพ ฯ  จังหวัด
ต่าง  ๆ  ได้รับเรื่องร้องเรียนที่กระทรวงมหาดไทยรับจาก คตส.นรม.  (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) 1,631
เรื่อง โดยจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 858 เรื่อง  อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา
753 เรื่อง และเรื่องที่จังหวัดส่งให้ส่วนกลางพิจารณา 20 เรื่อง

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษีกาให้มีการเลือก
ตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตดินแดง เขตเลือกตั้งที่ 1  ขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2547  โดยมีสาระ
สำคัญคือ กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตดินแดง เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่
ว่าง โดยกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2548  เป็นวันเลือกตั้ง  รวมทั้งกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง
ตั้งแต่วันอังคารที่  7  ธันวาคม  พ.ศ. 2547  ถึงวันพฤหัสบดีที่  9  ธันวาคม  พ.ศ. 2547  ตั้งแต่เวลา  08.30
-16.30 น. รวม 3 วัน  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน  แล้วดำเนิน
การต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผัง
เมืองรวมเมืองระยอง พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ  ให้ใช้บังคับผังเมือง  ในท้องที่ตำบลหนองตะพาน  ตำบล
ตาขัน อำเภอบ้านค่าย และตำบลน้ำคอก  ตำบลทับมา  ตำบลเชิงเนิน  ตำบลนาตาขวัญ  ตำบลบ้านแลง
ตำบลเนินพระ ตำบลท่าประดู่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง  จังหวัดระยอง  และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้าม
ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลบางพระ
ตำบลปากพนัง ตำบลหูล่อง และตำบลบ้านเพิง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ....  โดยมีสาระ
สำคัญคือ กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง  ดัดแปลง  หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท  ในพื้น
ที่บางส่วนในท้องที่ตำบลบางพระ ตำบลปากพนัง  ตำบลหูล่อง  และตำบลบ้านเพิง  อำเภอปากพนัง  จังหวัด
นครศรีธรรมราช  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อ
ไปได้   โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการให้มีการประกาศใช้บังคับร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้  ภายในวันที่
14 มกราคม 2548 ตามที่กฎหมายกำหนด

                  คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1.1 (ฝ่ายความั่นคง)
ที่มีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทย  เสนอ   ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ....
โดยมีสาระสำคัญ  คือ  ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นและข้อ
สังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ  ที่เห็นควรให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นผู้สนับสนุนการปฏิบัติงานของผู้ว่า
ราชการจังหวัดในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัด       รวมทั้งไม่ควรจัดตั้งกองทุนป้องกันและบรรเทา
 สาธารณภัย เนื่องจากงบประมาณในการดำเนินการโดยหลักแล้วเป็นหน้าที่ของภาครัฐในการจัดสรรงบประมาณ หากภาค
เอกชนหรือองค์กรใดจะร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ ก็สามารถดำเนินการได้ โดยมีระเบียบของกระทรวงการคลังรองรับอย่าง
ถูกต้องและเหมาะสมอยู่แล้ว ประกอบกับการ ดำเนินการของกองทุนฯ จะต้องปฏิบัติตามระเบียบของกองทุนในการใช้จ่ายเงิน
ที่ได้รับบริจาคอันอาจจะส่งผล ให้เกิดปัญหาข้อจำกัดของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ไปพิจารณาดำเนินการ ก่อนส่งให้สำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาในรายละเอียดต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่  7
(ฝ่ายกฎหมาย ฯ) ที่มีมติเกี่ยวกับการขอคงเงินประจำตำแหน่งของหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดที่
ถูกผลกระทบจากการปฏิรูประบบราชการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  โดยเห็นชอบให้ขยายเวลา
มาตรการรับเงินประจำตำแหน่งในช่วงปรับโครงสร้างกระทรวง  ทบวง  กรมใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี
(17 กันยายน 2545) ออกไปอีก  6  เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547  ถึงวันที่  31  มีนาคม  2548
ทั้งนี้  ให้สำนักงาน ก.พ. ประสานกับส่วนราชการที่มีปัญหากรณีข้าราชการที่ยังไม่ได้รับบรรจุให้ดำรง
ตำแหน่งที่มีเงินประจำตำแหน่ง เพื่อจัดทำแผนและกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการดำเนินการแต่งตั้งให้แก่ข้า
ราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างให้ชัดเจนเช่น ในกรณีที่มีตำแหน่งในส่วนราชการนั้น
ว่าง ให้แต่งตั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรกหรือในกรณีที่มีตำแหน่งว่างในกระทรวงเดียวกันขอให้
พิจารณาผู้ที่ได้รับผลกระทบที่มีคุณสมบัติเหมาะสมด้วย รวมไปถึงตำแหน่งที่สามารถพิจารณากำหนด
ให้เป็นตำแหน่งทางวิชาการ หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่มีเงินประจำตำแหน่ง เช่น ตำแหน่งวิศวกร  สถาป
นิก หรือตำแหน่งอื่นๆ ให้พิจารณากำหนดตำแหน่งนั้นให้เป็นตำแหน่งเฉพาะตัวต่อไปเพื่อให้มีสิทธิรับ
เงินประจำตำแหน่ง หากพ้นวันที่ 13 มีนาคม 2548 ที่ขยายเวลาไปแล้วยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไข
ปัญหาให้เสร็จสิ้นได้  ให้สำนักงาน ก.พ. รายงานข้อเท็จจริง เหตุผล ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนิน
การที่ไม่อาจดำเนินการได้เป็นรายตำแหน่งตลอดจนแนวทางแก้ไขปัญหาต่อคณะกรรมการข้าราชการ
พลเรือนและคณะรัฐมนตรีต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแผนและแนวทางการดำเนินการเกี่ยว
กับห้องน้ำสาธารณะ ประกอบด้วย แผนระยะแรก คือ การปรับปรุงห้องน้ำสาธารณะที่มีอยู่แล้วในสถานที่
ต่าง ๆและให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น บริษัท ฯ  ห้างร้านเอกชน  วัดวาอารามที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว  ดูแลรักษาความสะอาดห้องน้ำ  และมีสิ่ง
อำนวยความสะดวกใช้งานได้ตลอดเวลา และมีความปลอดภัย ในส่วนของค่าใช้จ่ายให้ใช้งบประมาณของแต่
ละองค์กร ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน  และแผนระยะกลาง คือ การก่อสร้างห้องน้ำสาธารณะขึ้นใหม่ใน
บริเวณแหล่งท่องเที่ยว ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี  ทั้งนี้  ให้กระทรวงมหาดไทยประสานการดำเนินการใน
ส่วนของห้องน้ำสาธารณะในบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย และมอบ
ให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ)  ติดตามดูแลการดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย  โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยา
เสพติดกระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานผลการดำเนินงานปฏิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาดล้าง
ยาเสพติด  ครั้งที่ 2  ระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2547  ดังนี้  ด้านการปฏิบัติการในพื้นที่
ชุมชนเมือง ได้ดำเนินการสำรวจสภาพปัญหาและประเมินความเข้มแข็งของชุมชน  Re-X-ray  หาผู้เสพ/
ผู้ติด รวม  31,543  ครั้ง พบผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด  3,430  ราย  และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
36,352 ครั้ง  ด้านการปฏิบัติการควบคุมแหล่งแพร่ระบาด ได้ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมการแพร่
ระบาดในสถานบริการ  สถานบันเทิง 13,549 ครั้ง  สถานประกอบการ  9,191  ครั้ง  หอพัก  คอนโด
มิเนียม บ้านเช่า 3,609 ครั้ง  แหล่งมั่วสุมในชุมชน  7,490 ครั้ง  และเฝ้าระวังแหล่งแพร่ระบาด 13,827
ครั้ง ด้านปฏิบัติการในสถานศึกษา ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมทางเลือก สร้างสรรค์ 10,526 ครั้ง จัดฝึก
อาชีพ หางาน รายได้พิเศษช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน 56,669 ราย เฝ้าระวังยาเสพติดในสถานศึกษาและ
ชุมชนรอบสถานศึกษา 86,256 ครั้ง และจัดชุดครู อาจารย์ กำกับ ดูแลกลุ่มเสี่ยง 7,518 ครั้ง  ด้านการ
ดำเนินการกับผู้ค้า/ผู้ผลิต ได้ดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีกับผู้ค้า/ผู้ผลิต รวม 1,655 ราย
และดำเนินการด้านทรัพย์สิน 21 ราย รวม 18.125 ล้านบาท  ด้านการปฏิบัติการในพื้นที่ชายแดน ได้
สกัดกั้นช่องทางเข้า-ออก รวม  2,203  ครั้ง  สกัดกั้นทางคมนาคมสำคัญ รวม  8,324  ครั้ง  และเสริม
สร้างความเข้มแข็งหมู่บ้านชายแดน 563 ครั้ง นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแนวทางในการ
ดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ทั้งในด้านการปราบปราม ตรวจ
สอบพื้นที่ในแต่ละจังหวัด   การสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชนเอาชนะปัญหายาเสพติด    สร้างเครือ
ข่ายด้านการข่าวในกลุ่มผู้เสพ/ผู้ติดที่ผ่านการบำบัดรักษา  กลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่ผ่านโครงการทำความดี
เพื่อแผ่นดิน เป็นต้น

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการที่
จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่  4  พฤศจิกายน  2547  เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของ
รัฐบาลและนโยบายของกระทรวงมหาดไทย  พร้อมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคจากการดำเนินงานตาม
นโยบาย  ซึ่งภาพรวมการปฏิบัติราชการครั้งนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายและแนว
ทางการปฏิบัติราชการของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ  นายอำเภอ  ผู้บริหาร
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  และได้กล่าวถึงสภาวะของประเทศช่วงก่อนที่รัฐบาลจะ
เข้ามาบริหารประเทศ ผลงานของรัฐบาลในช่วง  4  ปีที่ผ่านมา รวมทั้งทิศทางที่จะนำพาประเทศในอนาคต
เพื่อให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี  นอกจากนี้ ยังได้มอบแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญเพื่อถือปฏิบัติ ดังนี้
ในการดำเนินงานต่าง  ๆ  ขอให้ทำงานแบบบูรณาการ   ลดความเป็นเจ้าของ   เพิ่มความเป็นเจ้าภาพ   ให้
ปรึกษาหารือแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง  กับให้ยึดแนวทางการบริหารจัดการสมัย
ใหม่ คือ รวมศูนย์ข้อมูล รวมศูนย์ความคิด รวมศูนย์การบริหารจัดการ  แต่กระจายการทำงาน  โดยยึดยุทธ
ศาสตร์ของประเทศ   และยุทธศาสตร์จังหวัดเป็นทิศทางในการทำงาน    และขอความร่วมมือให้รณรงค์ให้พี่
น้องประชาชนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น  รวมถึงการใช้จ่ายเกินฐานะเพื่อรักษาหน้าตา ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหนี้
สินนอกระบบตามมา

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง  ระหว่างวันที่  1  ตุลาคม - 8
พฤศจิกายน 2547 มีจังหวัดที่ประสบภัย 39 จังหวัด 384 อำเภอ 27 กิ่งอำเภอ 2,399 ตำบล 22,238 หมู่
บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,000,571 ครัวเรือน 5,947,411 คน แยกเป็น  ภาคเหนือ  8  จังหวัด  ภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือ  17  จังหวัด  ภาคกลาง  7  จังหวัด  และภาคตะวันออก 7 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย
6,465,254 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 5,922,419 ไร่ พืชไร่ 432,523 ไร่ พืชสวน 110,312 ไร่  มูลค่าความเสีย
หายประมาณ 2,564,718,213 บาท  การให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งแจก
จ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค   นอกจากนี้   กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการแจ้งไปยังจังหวัดที่ประสบความแห้งแล้ง
โดยประกาศพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติความแห้งแล้ง  ตามระเบียบกระทรวง
การคลัง  ว่าด้วยเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน  พ.ศ. 2546  สำรวจแหล่งน้ำ  ลำน้ำ   ลำห้วย   สระ 
หนอง บึง และแหล่งน้ำอื่น ๆ ในพื้นที่ ตำบล  หมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งหรือในพื้นที่ใกล้เคียง  และให้จังหวัด
ระดมสรรพกำลัง และบูรณาการเครื่องมือ อุปกรณ์ ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ ท่อส่งน้ำ รถยนต์บรรทุกน้ำ  ตลอด
จนขอความร่วมมือภาคเอกชนส่งเข้าไปช่วยเหลือและให้จังหวัดรายงานผลการดำเนินงานให้ทราบเป็นระยะ