ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 24 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 461 - 480 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
461 | การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนและความตกลงการดำเนินงานโครงการ Strengthening Regional Experiences on Sustainable Peatland Management (ASEAN - REPEAT) ภายใต้โครงการการใช้ประโยชน์ป่าพรุอย่างยั่งยืนและบรรเทาหมอกควันในอาเซียน (Sustainable Use of Peatland and Haze Mitigation in ASEAN : SUPA) | ทส | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๑.๑ เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำอาเซียนกับเลขาธิการอาเซียน และอนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือตอบรับของฝ่ายอาเซียน โดยร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ระบุถึงวัตถุประสงค์ งบประมาณ และประเด็นด้านการบริหารเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการ Strengthening Regional Experiences on Sustainable Peatland Management (ASEAN-REPEAT) ภายใต้โครงการการใช้ประโยชน์ป่าพรุอย่างยั่งยืนและบรรเทาหมอกควันในอาเซียน (Sustainable Use of Peatland and Haze Mitigation in ASEAN : SUPA) และหนังสือของฝ่ายอาเซียนจะตอบรับข้อเสนอของฝ่ายเยอรมนี ทั้งนี้ โครงการ ASEAN-REPEAT จะมีผลบังคับใช้ในวันที่เลขาธิการอาเซียนลงนามในหนังสือตอบรับดังกล่าว ๑.๒ เห็นชอบร่างความตกลงการดำเนินงาน (Implementation Agreement) ระหว่างอาเซียนกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (German Society for International Cooperation : GIZ) เกี่ยวกับโครงการ Strengthening Regional Experiences on Sustainable Peatland Management (ASEAN-REPEAT) ภายใต้โครงการการใช้ประโยชน์ป่าพรุอย่างยั่งยืนและบรรเทาหมอกควันในอาเซียน (Sustainable Use of Peatland and Haze Mitigation in ASEAN : SUPA) และอนุมัติให้รองเลขาธิการอาเซียนด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงฯ ในนามของอาเซียน โดยร่างความตกลงฯ จะกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญและบุคลากร การสนับสนุนทางการเงิน การจัดหาสถานที่ และวัสดุอุปกรณ์ การบริหารจัดการ การประเมินผล รวมทั้งข้อบทเกี่ยวกับการแก้ไขและบอกเลิกความตกลงฯ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
462 | แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" | ทส | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในภาพรวมของประเทศ และในพื้นที่วิกฤต โดยการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันในทุกภาคส่วน และเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนในช่วงสถานการณ์วิกฤตปัญหาฝุ่นละอองด้วย ๓ มาตรการ ได้แก่ (๑) การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (๒) การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกำเนิด) และ (๓) การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเห็นควรที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม แล้วแต่กรณี ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของแหล่งกำเนิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยการจัดกลุ่มมาตรการในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองแต่ละประเภทแต่ละแหล่งกำเนิดให้ชัดเจน รวมทั้งการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในการป้องกันปัญหาด้านฝุ่นละอองและดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องและทั่วถึง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
463 | (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับการประชุม United Nations Climate Action Summit 2019 | ทส | 17/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและมอบหมายตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับการประชุม United Nations Climate Action Summit 2019 มีสาระสำคัญเป็นการแสดงจุดยืนร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียนในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เน้นย้ำถึงผลกระทบต่อประเทศสมาชิกอาเซียนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และให้ความสำคัญต่อการดำเนินการทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นำเสนอการดำเนินการของอาเซียนทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค รวมถึงเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงผ่านในด้านพลังงานและเป้าหมายในด้านการคมนาคม และเน้นย้ำความสำคัญของกลไกในการสนับสนุนการดำเนินงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการให้การสนับสนุนทางการเงินและความร่วมมือทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๑.๒ มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายรับรอง (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมอาเซียนฯ ร่วมกับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมในลักษณะ ad-referendum เนื่องจากการประชุม UN Climate Action Summit 2019 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๒ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อนการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๕ และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๕ ๑.๓ มอบหมายให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนประเทศไทยที่ได้รับมอบหมายนำเสนอแถลงการณ์ร่วมอาเซียนฯ ต่อที่ประชุม UN Climate Action Summit 2019 ตามความเหมาะสม ในฐานะที่ประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี ๒๕๖๒ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมอาเซียนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
464 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายทรงธรรม สุขสว่าง) | ทส | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายทรงธรรม สุขสว่าง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า (นักวิชาการป่าไม้ทรงคุณวุฒิ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
465 | การขอขยายระยะเวลาบันทึกความตกลงการขยายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทะเลเอเชียตะวันออกในประเทศไทย (พ.ศ. 2558-2562) | ทส | 27/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบเอกสารการขอขยายระยะเวลาบันทึกความตกลงการขยายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทะเลเอเชียตะวันออกในประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒) โดยขยายวันสิ้นผลใช้บังคับบันทึกความตกลงฯ จากวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ และเห็นชอบให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนามในเอกสารการขอขยายระยะเวลาบันทึกความตกลงฯ ร่วมกับหุ้นส่วนเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเลในเอเชียตะวันออก (Partnerships in Environmental Management for the Seas of East Asia : PEMSEA) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเอกสารการขอขยายระยะเวลาบันทึกความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
466 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นางอัษฎาพร ไกรพานนท์ และคณะ) | ทส | 20/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นางอัษฎาพร ไกรพานนท์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ๓. นายโสภณ ทองดี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ๔. นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
467 | (ร่าง) กรอบข้อคิดเห็นของประเทศไทยต่อวาระการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 18 และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ครั้งที่ 71 และครั้งที่ 72 | ทส | 20/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของ (ร่าง) กรอบข้อคิดเห็นของประเทศไทยต่อวาระการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ ๑๘ (The 18th Meeting of the Conference of the Parties to the Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora : CITES CoP18) และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ครั้งที่ ๗๑ และครั้งที่ ๗๒ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดท่าทีและบทบาทของประเทศไทยในฐานะประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ในเรื่องการดำเนินการต่าง ๆ ที่ให้เป็นไปตามอนุสัญญา CITES เช่น การรายงานของระบบสารสนเทศการค้าช้าง การปิดตลาดการค้างาช้างภายในประเทศ การดำเนินงานตามมติที่ประชุมและข้อตัดสินใจที่เกี่ยวกับการจัดการและการป้องกันการลักลอบค้าผิดกฎหมายซึ่งสัตว์จำพวกแมวใหญ่ของเอเชีย รวมถึงท่าทีของไทยที่มีต่อข้อเสนอต่าง ๆ (Proposals) เพื่อขอเปลี่ยนแปลงสถานะของชนิดพันธุ์ตามบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน (ร่าง) กรอบข้อคิดเห็นฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
468 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 13/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ จำนวน ๒ ราย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายอิทธิพล คุณปลื้ม) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
469 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายจตุพร บุรุษพัฒน์) | ทส | 06/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
470 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1 (นางรวีวรรณ ภูริเดช) | ทส | 06/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นางวีวรรณ ภูริเดช ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
471 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) (จำนวน 2 คน 1. นายยุทธพล อังกินันทน์ ฯ) | ทส | 30/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายยุทธพล อังกินันทน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒. นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
472 | สรุปผลการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 4 | ทส | 02/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๔ (The fourth session of the United Nations Environment Assembly : UNEA 4) ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยมีนายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงไนโรบี และผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ซึ่งในที่ประชุมฯ ประเทศสมาชิกได้ร่วมกันรับรองข้อมติ (Resolutions) และข้อตัดสินใจ (Decisions) เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับประเทศสมาชิก รวมถึงได้ร่วมกันรับรองปฏิญญาระดับรัฐมนตรี (Ministerial Declaration) ซึ่งเป็นแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมการเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการบริโภคให้ยั่งยืน รวมทั้งการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการลดมลพิษ และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เห็นควร (๑) มีการจัดการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามข้อมติของการประชุมฯ และมีระบบติดตามผลการดำเนินงาน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานมีความสอดประสานและบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ (๒) ในข้อมติ L.3 Promoting sustainable practices and innovative solutions for Curbing Food Loss and Waste เกี่ยวกับการวางแนวทางหรือมาตรการแก้ไขปัญหาและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับข้อมตินี้ ควรพิจารณาการกำหนดให้การรวบรวมข้อมูลเชิงวิชาการในประเทศที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่ส่งผลต่อการสูญเสียอาหารและขยะที่เกิดจากอาหาร ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนขึ้นเป็นประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่ง เพื่อให้การวางแนวทางต่าง ๆ เหมาะสมกับบริบทของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
473 | การเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) | ทส | 18/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรธรณีรับเรื่อง การเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) ไปพิจารณาทบทวนให้ชัดเจนว่า การเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกจะมีผลกระทบหรือก่อให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าใช้ประโยชน์ บริหารจัดการ หรือดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่ดังกล่าวในอนาคตของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนเจ้าของพื้นที่หรือไม่ ประการใด โดยให้จัดทำข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ในอนาคตหากมีโครงการพัฒนาพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อโบราณสถาน ขอให้แจ้งไปยังกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง รวมทั้งควรส่งเสริมศักยภาพของชุมชนและท้องถิ่น และเพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชานในการบริหารจัดการ และการพัฒนาอุทยานธรณีโคราชให้มากขึ้น เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
474 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2562 | ทส | 18/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ (๑) รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (รายงาน EIA) จำนวน ๑๑ โครงการ (๒) การเสนอพื้นที่แม่น้ำสงครามตอนล่างขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Site) และ (๓) มาตรฐานค่าเข้มกลิ่นของอากาศเสียที่ปล่อยทิ้งจากโรงงานผลิตยาง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
475 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล | ทส | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๔-๕ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมรับทราบลักษณะที่เป็นปัญหาข้ามพรมแดนของขยะทะเล ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคในระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงการขยายความร่วมมือกับประเทศภาคีเครือข่ายและองค์กรนานาชาติในการแก้ไขปัญหา ๒. ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ความเห็น และประสบการณ์เกี่ยวกับการดำเนินการและข้อริเริ่มต่าง ๆ ในระดับประเทศของภูมิภาคอาเซียนในการแก้ไขปัญหาขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางที่พันธมิตรจะให้การสนับสนุน หรือเสริมสร้างความร่วมมือ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม รวมทั้งหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน ๓. ประเทศไทยในฐานะประธานในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนฯ ได้ประกาศให้กลุ่มประเทศภาคีเครือข่ายและองค์กรนานาชาติทราบถึงผลการหารือและการตัดสินใจร่วมกันของรัฐมนตรีอาเซียนที่จะนำร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ ร่างปฏิญญากรุงเทพมหานครว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และร่างกรอบการปฏิบัติงานอาเซียนว่าด้วยขยะทะเล เสนอต่อที่ประชุมระดับผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๔ ในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นข้อผูกพันในการยืนยันท่าทีของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนที่จะพยายามจัดการกับปัญหาขยะทะเล
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
476 | สรุปผลการประชุมในระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสด้าน 3R ของประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 9 (The Ninth Regional 3R Forum in Asia and the Pacific) | ทส | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมในระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสด้าน 3R ของประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ ๙ (The Ninth Regional 3R Forum in Asia and the Pacific) ระหว่างวันที่ ๔-๖ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น และศูนย์พัฒนาภูมิภาคแห่งสหประชาชาติ (United Nations Centre for Regional Development : UNCRD) ในแนวคิด “3R เป็นหนทางในการก้าวไปสู่เศรษฐกิจพอเพียง-ความเกี่ยวข้องต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นเวทีสำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่จะร่วมกันแสดงความเห็นและมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยหลักการ 3R โดยที่ประชุมได้รับรองปฏิญญา 3R กรุงเทพว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากขยะพลาสติกโดยใช้หลักการ 3R และเศรษฐกิจหมุนเวียน ซี่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์ด้านนโยบายร่วมกันของผู้แทนประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อส่งเสริมการนำหลักการ 3R และเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการดำเนินงานเพื่อลดมลพิษจากขยะพลาสติก ทั้งนี้ ปฏิญญา 3R กรุงเทพฯ เป็นปฏิญญาแบบสมัครใจและไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะร่วมกันพัฒนานโยบาย 3R ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับของการรีไซเคิลพลาสติกในระบบเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มโอกาสในการนำกลับมาใช้ซ้ำและการป้องกันการรั่วไหลของขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อมชายฝั่งและทะเล รวมถึงสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนาต่าง ๆ และใช้นวัตกรรมสำหรับรูปแบบธุรกิจใหม่และยั่งยืน ซึ่งจะส่งเสริมเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทางเลือกในการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้และการออกแบบผลิตภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
477 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมป่าไม้และศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์การเกษตรนานาชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan International Research Center for Agricultural Science : JIRCAS) และร่างแผนปฏิบัติงานวนวัฒนวิธีที่มีศักยภาพเพื่อส่งเสริมการปลูกสวนป่าสัก (Work Plan Efficient silvicultural practices for promoting teak plantation) | ทส | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมป่าไม้และศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์การเกษตรนานาชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan International Research Center for Agricultural Science : JIRCAS) และร่างแผนปฏิบัติงานวนวัฒนวิธีที่มีศักยภาพเพื่อส่งเสริมการปลูกสวนป่าสัก (Work Plan Efficient silvicultural practices for promoting teak plantation) รวมทั้งอนุมัติให้อธิบดีกรมป่าไม้หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ และแผนปฏิบัติงานฯ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงานอัยการสูงสุด และข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น (๑) ในการจัดทำแผนงานภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศด้วย (๒) ควรมีข้อความกำหนดห้ามการส่งตัวอย่างชีวภาพของไม้สักภายใต้โครงการวิจัยร่วมจากประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสอดคล้องกับมติคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ และ (๓) ควรตรวจสอบกับ JIRCAS ให้ชัดเจนว่า กรณีใดจึงจะถือว่าเป็นนักวิจัยระยะยาว เนื่องจากตามร่างบันทึกความเข้าใจฯ หัวข้อการสนับสนุนทั่วไปมีข้อความกำหนดว่า “นักวิจัยแลกเปลี่ยนของ JIRCAS ตามที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานสำหรับโครงการในระยะสั้นและระยะยาว คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะทำการตกลงร่วมกันในการเสนอชื่อและนัดหมายการทำงานของนักวิจัยระยะยาวของ JIRCAS” เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปรับช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติงานฯ ให้เป็นปัจจุบันเพื่อให้การดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนเสร็จทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการ ดังนี้ ๓.๑ พิจารณากำหนดแนวทางในการบริหารจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะองค์ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรพันธุกรรมของประเทศไทย เพื่อให้เกิดการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบครอบคลุมทุกมิติ ๓.๒ พิจารณาความจำเป็นและเหมาะสมในการจัดทำกฎหมายกลางที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อให้การบริหารจัดการระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เกิดการบูรณาการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อให้เกิดการแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่ชุมชนหรือประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดทรัพยากรชีวภาพ ในกรณีที่ประเทศอื่นหรือบริษัทข้ามชาติจะนำองค์ความรู้จากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพในชุมชนไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า หรือนำองค์ประกอบทางพันธุกรรมหรือทางชีวเคมี หรือการใช้เทคโนโลยีชีวภาพต่อทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทยไปศึกษา วิจัย และนำมาผลิตเป็นสินค้าต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
478 | การเข้าร่วมเป็นสมาชิก The Asia Protected Areas Partnership (APAP) | ทส | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมเป็นสมาชิก The Asia Protected Areas Partnership (APAP) ซึ่งเป็นเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการดูแลพื้นที่คุ้มครอง (เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตอนุรักษ์ต่าง ๆ) และหน่วยงานอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น การเข้าร่วมเป็นสมาชิก APAP หากมีค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น ควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว และ/หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณดำเนินการเป็นลำดับแรก สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ขอให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป และภายหลังการสมัครเป็นสมาชิก APAP แล้ว ควรมีกระบวนการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการสนับสนุนกระบวนการหรือโครงการต่าง ๆ ที่กำหนดโดยเครือข่ายสมาชิก APAP เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
479 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าลุ่มน้ำปาย บางส่วน ในท้องที่ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... | ทส | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าลุ่มน้ำปาย บางส่วน ในท้องที่ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าลุ่มน้ำปาย บางส่วน ในท้องที่ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกจากการเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อก่อสร้างโครงการชลประทานขนาดกลางอ่างเก็บน้ำห้วยม่วงก๋อน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมชลประทานดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ และดำเนินการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน โดยไม่ดำเนินการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม หรือส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
480 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน | ทส | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ ประเทศญี่ปุ่น และอนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยให้การรับรองร่างเอกสารดังกล่าว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างแถลงการณ์ Communique (Global Environment) มีสาระสำคัญเป็นการยอมรับการปรับปรุงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพผ่านทางนโยบายและวิธีการต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจหมุนเวียน การจัดการวัสดุอย่างยั่งยืน และหลักการ 3Rs และการทำให้ขยะมีมูลค่า การดำเนินการในเรื่องขยะพลาสติกในทะเลเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติอย่างเร่งด่วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตลอดจนการยอมรับความสำคัญของการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการปรับตัวที่ครอบคลุมและการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในทุกระดับ รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่นต่อเหตุการณ์สภาพอากาศและภัยพิบัติที่เลวร้าย ๑.๒ G20 Implementation Framework for Actions on Marine Plastic Litter เป็นภาคผนวกของร่างแถลงการณ์ Communique (Global Environment) มีสาระสำคัญเป็นการอำนวยความสะดวกในการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพของแผนปฏิบัติการ G20 ว่าด้วยขยะทะเลผ่านปฏิบัติการสนับสนุนจากสมาชิก G20 และการทำงานร่วมกันและขยายผลการดำเนินการของแผนปฏิบัติการฯ ๑.๓ ร่างแถลงการณ์ G20 Communique Joint part (Energy and Environment) มีสาระสำคัญในการยอมรับความสำคัญของการเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านพลังงานเพื่อที่จะตระหนักในเรื่อง “3E+S” (ความมั่นคงทางพลังงาน ความพอเพียงทางเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย) และการจัดการประเด็นความท้าทายหลักระดับโลกต่าง ๆ ซี่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ทรัพยากรที่ไม่ยั่งยืน มลพิษทางน้ำและอากาศ และประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ตลอดจนการสร้างความมั่นใจในความมั่นคงด้านพลังงาน การลดก๊าซเรือนกระจกและการปล่อยก๊าซอื่น ๆ และการปรับปรุงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....