ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 21 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 401 - 420 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
401 | ขอยุติโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ 50 | ทส. | 13/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการดำเนินการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ (ระยะที่ ๑-๓) ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๗-๒๕๕๐
ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการปลูกและบำรุงป่าต่อเนื่องจนสิ้นสุดภารกิจโครงการฯ
อย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ โดยปลูกป่าในเขตพื้นที่อนุรักษ์รวม
๕,๑๒๕,๕๘๖.๗๙ ไร่ (เป้าหมายโครงการฯ ๕ ล้านไร่) และใช้งบประมาณทั้งสิ้น
๑๐,๕๑๒,๔๙๔,๓๗๐ บาท ทั้งนี้ ยังมีเงินบริจาคสมทบกองทุนโครงการฯ คงเหลืออยู่ในบัญชี
“กองทุนโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้หารือกับกรมบัญชีกลาง
โดยกรมบัญชีกลางเห็นว่า หากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ประสงค์จะยุติโครงการฯ หรือประสงค์จะใช้เงินดังกล่าวดำเนินการต่อไป
ให้เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการปิดบัญชีกองทุนโครงการฯ เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๐
และได้นำเงินกองทุนฯ จำนวน ๒๗,๙๔๑,๑๖๑.๙๗ บาท
ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
๒.
เห็นชอบให้ยุติโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์
ปีที่ ๕๐
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
402 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ครั้งที่ 2) (นางรวีวรรณ ภูริเดช) | ทส. | 13/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
นางรวีวรรณ ภูริเดช ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่
๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
403 | แผนผังแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ | ทส. | 13/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ แผนผังแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์บริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน
บริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก บริเวณฝั่งธนบุรีตรงข้ามกรุงรัตนโกสินทร์
ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณฝั่งธนบุรี และบริเวณที่ ๔
บริเวณพื้นที่ต่อเนื่องกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก
เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๑.๒ การขยายพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ จากเดิม
๓ บริเวณ (กรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน กรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก
และบริเวณฝั่งธนบุรีตรงข้ามกรุงรัตนโกสินทร์) เป็น ๔ บริเวณ
โดยเพิ่มพื้นที่ส่วนขยาย บริเวณที่ ๔ พื้นที่ต่อเนื่องบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก
ตั้งแต่แนวกึ่งกลางคลองรอบกรุง (คลองบางลำพูและคลองโอ่งอ่าง) แนวกึ่งกลางแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศเหนือและทิศใต้
และแนวคลองผดุงกรุงเกษมฝั่งตะวันออก เพื่อจะได้ปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า พ.ศ. ๒๕๕๖ ต่อไป ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงบประมาณ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น (๑)
ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในทุกมิติและจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่าย
รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
(๒) ไม่ควรพัฒนาระบบการสัญจรริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์และการรักษาความปลอดภัยของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม
สถานที่สำคัญ และหน่วยงานราชการที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระ และ (๓) แผนผังแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ได้กำหนดให้รื้อถอนอาคารของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและส่วนราชการบางแห่ง
และก่อสร้างอาคารใหม่ในพื้นที่ที่เหมาะสมนั้น
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรพิจารณาจัดหาพื้นที่จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาใหม่ทดแทนตำแหน่งเดิมที่ต้องรื้อถอน
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
404 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | ทส. | 04/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน
๔๓๕,๒๘๙,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและลดผลกระทบจากสัตว์ป่า
รวมถึงการแก้ไขปัญหาการดูแลสัตว์ป่าของกลางตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ จำนวน ๓ โครงการ
ได้แก่ โครงการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์แบบบูรณาการ
โครงการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบของลิงในชุมชน
และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัตว์ป่าของกลางและสัตว์ป่ากรณีแก้ไขปัญหาตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ในกรงเลี้ยง
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
405 | ผลการดำเนินโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า | ทส. | 04/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า
ระยะที่ ๑ ระยะเร่งด่วน (ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓)
ประกอบด้วย การดำเนินโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า ในพื้นที่เร่งด่วน
การเปิดโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า และการจัดฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา”
ตามโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
406 | โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า | ทส | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
407 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 | ทส | 08/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
408 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | ทส | 30/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๕๓ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับมาตรการที่จะกำหนดไว้ในประกาศกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมต้องมีความเข้มงวดกว่ามาตรการที่กำหนดไว้ในกฎหมายอื่น หรือเป็นมาตรการที่มีลักษณะเป็นการเฉพาะและพื้นที่ที่จะประกาศกำหนดเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมควรเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
409 | การนำเสนอพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก และพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ให้เป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียน | ทส | 30/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
410 | การส่งคืนพื้นที่สวนป่าคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เนื้อที่ 366 ไร่ 78 ตารางวา ให้กรมป่าไม้ เพื่อนำพื้นที่เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล | ทส | 23/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ส่งคืนพื้นที่สวนป่าคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ จำนวน ๗ แปลง รวมพื้นที่ ๓๖๖ ไร่ ๗๘ ตารางวา ให้กรมป่าไม้ เพื่อนำพื้นที่เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำมาตรการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์และพื้นที่สวนป่าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญกับการพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้งเคร่งครัดในการพิจารณาประเภทและคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการจัดที่ดิน ตลอดจนการปฏิบัติตามข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ในที่ดินของผู้ที่ได้รับการจัดที่ดิน เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการจัดที่ดินของรัฐในพื้นที่ที่มีราษฎรบุกรุกเข้าไปครอบครองอย่างผิดกฎหมาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. การนำพื้นที่สวนป่าคอนสารเข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินในครั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่มีที่ดินทำกินและสมควรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างแท้จริง โดยต้องบริหารจัดการและกำกับติดตามมิให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
411 | การเสนอพื้นที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ | ทส | 23/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้เสนอพื้นที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ ต่อโครงการมนุษย์และชีวมณฑล ขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ต่อไป [การเสนอเอกสารเพื่อเสนอพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ในแต่ละปี กำหนดให้ส่งไปยังฝ่ายเลขานุการของโครงการมนุษย์และชีวมณฑลของยูเนสโก ภายในสิ้นเดือนกันยายน เพื่อเข้าสู่รอบการพิจารณาของ Advisory Committee of Biosphere Reserve (ACBR) ในปีถัดไป] ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงบประมาณที่เห็นว่า การเสนอพื้นที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ ไม่เข้าข่ายเป็นการจัดทำหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เห็นควรมีการพิจารณารูปแบบในการบริหารพื้นที่สงวนชีวมวลให้มีบทบาทชัดเจนนอกเหนือจากภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีเครื่องมือ มีบุคลากรดำเนินงาน และได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเพียงพอเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการลิมา ค.ศ. ๒๐๑๖-๒๐๒๕ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
412 | การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ และขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2523 ในกรณีที่ปรากฏว่ายังมีส่วนราชการใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต | ทส | 23/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหากรณีที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต และให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการตามมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหากรณีที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๒๓ (เรื่อง การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) ในกรณีที่ปรากฏว่ายังมีส่วนราชการใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และหากปรากฏว่ายังมีส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตอีก ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งกับหน่วยงานเจ้าของโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ ในส่วนของการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ภายใน ๑๘๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ นั้น ให้หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงเป็นผู้รวบรวมคำขออนุญาตของหน่วยงานในสังกัดให้ครบถ้วนเพื่อส่งไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้) ต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่น (๑) ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ของแต่ละหน่วยงานอย่างรอบคอบและให้มีความเหมาะสม (๒) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการมาตรการที่เสนออย่างจริงจัง ไม่ควรมีการผ่อนผันอีกในอนาคต และพิจารณาดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปล่อยปละละเลยและมีส่วนเกี่ยวข้อง (๓) ให้ส่วนราชการผู้มีอำนาจอนุมัติ/อนุญาต เร่งรัดขั้นตอนการยื่นคำขอและการพิจารณาอนุมัติ/อนุญาตในการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าเป็นไปอย่างรวดเร็ว และให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (๔) ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงบประมาณได้ใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาความพร้อมของพื้นที่ดำเนินการประกอบการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี และ (๕) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรกำหนดกลไกและแผนการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณากำหนดวิธีการที่เหมาะสมและไม่ขัดต่อกฎหมายในการดำเนินการกรณีที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเข้าใช้พื้นที่ป่าไม้เพื่อทำประโยชน์ในการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและดิจิทัล กรณีที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำพื้นที่ป่าไม้ที่ได้รับอนุญาตไปให้ภาคเอกชนเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่อ/ถือกรรมสิทธิ์ในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อประกอบกิจการ เช่น ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว กรณีการตั้งสำนักสงฆ์ในพื้นที่ป่า และกรณีการนำที่ดินของเกษตรกรที่รัฐอนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่ไปให้เอกชนเช่าต่อ ๔. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการเพิ่มเติมด้วย ดังนี้ ๔.๑ วางแผนและจัดลำดับความสำคัญในการพิจารณาอนุมัติ/อนุญาตโครงการที่ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๒๓ เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่โครงการต่าง ๆ จะต้องหยุการดำเนินการเพื่อรอผลการพิจารณาอนุมัติ/อนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ๔.๒ ในระยะต่อไป ให้จัดทำแนวทางปฏิบัติในกรณีที่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนจะต้องดำเนินการเพื่อขออนุมัติ/อนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ในแต่ละประเภท ตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้มีความชัดเจน ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งกำหนดกรอบระยะเวลาของแต่ละขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติ/อนุญาตทั้งกระบวนการ รวมทั้งให้พิจารณานำระบบเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนงานด้วย ๕. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องดำเนินโครงการในพื้นที่ป่าประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป คำนึงถึงความพร้อมในการดำเนินโครงการอย่างละเอียดรอบคอบให้ถูกต้องเรียบร้อยก่อนเสนอขออนุมัติโครงการ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ (เรื่อง การเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ) เพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีการเสนอขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีใด ๆ ภายหลังจากเริ่มดำเนินโครงการไปแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
413 | ขอเพิ่มเติมองค์ประกอบในคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ | ทส | 23/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเพิ่มเติมองค์ประกอบในคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ จำนวน ๔ คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
414 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนบุคคลหรือสถาบันที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการมอบหมาย พ.ศ. .... | ทส | 23/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนบุคคลหรือสถาบันที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการมอบหมาย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเบี้ยประชุมของคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบันที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการมอบหมาย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
415 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 | ทส | 09/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและพิจารณาผลการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ เช่น (๑) รับทราบผลการดำเนินงานของ คทช. เกี่ยวกับจัดที่ดินให้ชุมชน (๒) รับทราบความคืบหน้าการเสนอร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) (๓) เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรบ้านปางมะโอ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลแม่พุง อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ (๔) เห็นชอบกับความเห็นกรณีโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการทุกประเภทในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ (๕) รับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) และ (๖) รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน (สคจ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นหลักในการจัดหาที่ดิน จัดที่ดิน หรือปฏิรูปที่ดินแล้วแต่กรณี เพื่อให้ชุมชน/ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวว่าจะต้องพิจารณาเลือกพื้นที่ให้เหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น ๆ อย่างแท้จริง เช่น ที่ดินสำหรับเกษตรกรต้องเป็นพื้นที่ที่สามารถใช้เพาะปลูกได้อย่างเหมาะสม เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
416 | ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) | ทส | 09/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) ต่อรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
417 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 09/06/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการยืนยันขอให้คงอยู่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๔ คณะ ได้แก่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาระดับประเทศ (ฝ่ายไทย) คณะกรรมการร่วม (Joint Committee) ฝ่ายไทย และคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี ขอให้ยึดหลักการปฏิบัติงานที่เกิดประสิทธิผล เป็นรูปธรรม เป็นที่ประจักษ์ มีความรับผิดชอบ โปร่งใสและสุจริตอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
418 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... | ทส | 26/05/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๔๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยปรับปรุงองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ รวมทั้งหน้าที่และอำนาจของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า (๑) อำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติที่ปรับปรุงใหม่ได้ครอบคลุมการกำหนดและเสนอแนะนโยบาย มาตรการและแผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ ที่อาจมีความซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว และคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (๒) ควรพิจารณาเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลรองรับองค์ประกอบของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติในวาระเริ่มแรกให้ปฏิบัติหน้าที่ตามร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนี้ได้ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิตามร่างข้อ ๖ (๖) เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติมีความต่อเนื่องสามารถบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพตามแผนการปฏิรูปประเทศต่อไปได้ และ (๓) ควรปรับร่างข้อ ๑๕ ที่กำหนดบทเฉพาะกาลรองรับเฉพาะกรณีระเบียบคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการเข้าถึงทรัพยากรชีวภาพ และการได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากทรัพยากรชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อเป็นการอุดช่องว่างของกฎหมายและลดปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
419 | ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) | ทส | 15/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
420 | ผลการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 18 การประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ครั้งที่ 71 และครั้งที่ 72 | ทส | 17/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ [Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora (CITES)] ครั้งที่ ๑๘ และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ครั้งที่ ๗๑ และครั้งที่ ๗๒ ระหว่างวันที่ ๑๖-๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๒ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่อยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES เช่น ช้าง แรด สัตว์ในกลุ่มแมวใหญ่ เต่าบกและเต่าน้ำจืด ลิ่น เป็นต้น ตลอดจนการปรับเปลี่ยนบัญชีชนิดพันธุ์ และการพิจารณามาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับการบังคับใช้อนุสัญญา โดยในส่วนของประเทศไทย ที่ประชุมฯ ได้รับทราบรายงานการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบสารสนเทศการค้าช้าง (Elephant Trade Information System : ETIS Report) ว่าประเทศไทยไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการค้างาช้างผิดกฎหมายอีกต่อไป เนื่องจากประเทศไทยไม่มีคดีค้างาช้างรายใหญ่และมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ประเทศไทยในฐานะภาคีอนุสัญญา CITES ยังมีพันธกิจที่จะต้องดำเนินการตามมติที่ประชุมฯ เช่น (๑) การออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์ป่าควบคุม และประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง พืชอนุรักษ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงบัญชีชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าในการประชุมฯ (๒) การจัดทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เช่น รายงานเสือ ลิ่น การปิดตลาดการค้างาช้าง ส่งสำนักเลขาธิการ CITES ตามกำหนดเวลา (๓) การขอสงวนสิทธิ์สำหรับชนิดพันธุ์ที่พบว่ามีการค้ามากในประเทศไทยที่มีการบรรจุอยู่ในบัญชี CITES หรือปรับเลื่อนบัญชี ได้แก่ ตุ๊กแกบ้าน เต่าดาวอินเดีย เต่าแพนเค้ก และยีราฟ (๔) การขอรับจัดสรรงบประมาณในส่วนของเงินอุดหนุนการเป็นสมาชิกอนุสัญญา CITES ระยะเวลา ๓ ปีที่ถูกปรับเพิ่มขึ้น ๖,๘๑๑ ดอลลาร์สหรัฐ (๒๑๒,๗๐๗.๕๓ บาท) จากเดิม ๕๔,๙๐๑ ดอลลาร์สหรัฐ (๑,๗๑๔,๕๕๘.๒๓ บาท) เป็น ๖๑,๗๑๒ ดอลลาร์สหรัฐ (๑,๙๒๗,๒๖๕.๗๖ บาท) และ (๕) การเร่งรัดให้มีการออกพระราชบัญญัติช้าง พ.ศ. .... เพื่อจัดการและควบคุมการค้างาช้างบ้าน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใดควบคุมในส่วนดังกล่าว และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการช้างในประเทศไทยรักษามาตรฐานการดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อตกลงตามอนุสัญญา CITES และเตรียมความพร้อมในการจัดทำฐานข้อมูลการตรวจสอบรูปพรรณและขึ้นบัญชีเสือที่อยู่ในการครอบครองของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งขยายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการตัดวงจรการค้าที่ผิดกฎหมาย เพื่อเตรียมการตอบรับการเข้าตรวจสอบจากสำนักเลขาธิการ CITES เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้พิจารณาโอนหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรแล้วแต่กรณี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|