ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 27 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 521 - 540 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
521 | การสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการมรดกโลก วาระปี พ.ศ. 2562 -2566 | ทส | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้ราชอาณาจักรไทยสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัชชารัฐภาคีแห่งอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๒๒ วาระปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ๑.๒ เห็นชอบให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีสเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการสมัครคัดเลือกเป็นกรรมการในคณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัชชารัฐภาคีแห่งอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๒๒ วาระปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการขอเสียงและแลกเสียง สนับสนุนกับรัฐภาคีสมาชิกอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก และการไขว้เสียงกับอนุสัญญาอื่น ๆ ๑.๔ เห็นชอบให้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานในการรณรงค์สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการมรดกโลก ในการประชุมสมัชชารัฐภาคีแห่งอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๒๒ วาระปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัชชารัฐภาคีแห่งอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๒๒ วาระปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปดำเนินการสนับสนุนการสมัครเข้ารับการคัดเลือกดังกล่าว ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อไป เห็นควรให้จัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่าย รวมทั้งแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และประหยัด โดยพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐอย่างยั่งยืนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
522 | ร่างบันทึกความตกลงระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) | ทส | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความตกลงระหว่างโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Standard Letter of Agreement : LOA) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานตามการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๒๐ : การสร้างความยั่งยืนผ่านกลไกทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในประเทศไทย [Nationally Determined Contribution (NDC) Support Project : Delivering Sustainability through Climate Finance Actions in Thailand] และอนุมัติให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความตกลงฯ เพื่อดำเนินโครงการ NDC โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเรื่องการให้การสนับสนุนแก่โครงการ NDC เช่น สนับสนุนสำหรับความช่วยเหลือตามที่ได้กำหนดไว้ในเอกสารโครงการ NDC (ความช่วยเหลือเชิงวิชาการ การอำนวยความสะดวกในการจัดประชุมหรือการฝึกอบรม การตีพิมพ์รายงานการวิเคราะห์ ฯลฯ) และสนับสนุนการให้งบประมาณช่วยเหลือ จำนวน ๙๓๑,๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓ เป็นต้น ส่วนโครงการ NDC มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนประเทศไทยให้สามารถดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้บรรลุเป้าหมายได้ตามแนวทางการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ ๒๐ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ ความสามารถในการฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำแผนที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและแผนด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณากำหนดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกรอบที่กำหนดไว้ในเอกสารโครงการ NDC
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
523 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงานในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี) | ทส | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงานในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ มกราคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
524 | การตรากฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 | ทส | 15/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการตรากฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๙ ฉบับ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้นำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ความเห็นชอบแล้วทั้ง ๙ ฉบับ ซึ่งได้ดำเนินการตามขั้นตอนและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ๒ ฉบับ คือ ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการมอบหมายหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นปฏิบัติหน้าที่แทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการดำเนินการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการรายงานผลการปฏิบัติงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยอีก ๗ ฉบับ อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งนี้ เนื่องจากในการตรากฎหมายลำดับรองมีขั้นตอนการดำเนินงานหลายขั้นตอน โดยเฉพาะในการจัดทำกฎกระทรวง จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการก่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดการเสนอร่างกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๗ ฉบับ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
525 | การเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกของไทยในองค์กร Asian Forest Cooperation Organization (AFoCO) | ทส | 08/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกองค์กร Asian Forest Cooperation Organization (AFoCO) โดยกรมป่าไม้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน และเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำภาคยานุวัติสารและดำเนินการมอบภาคยานุวัติสารให้แก่รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีในฐานะผู้เก็บรักษาหรือผู้อำนวยการบริหารของสำนักเลขาธิการฯ (Executive Director of the Secretariat) แล้วแต่กรณี ตามนัยข้อ ๑๘ ของข้อตกลงว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรความร่วมมือด้านป่าไม้แห่งเอเชีย (AFoCO) รวมทั้งอนุมัติในหลักการจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนรายปีให้แก่กรมป่าไม้ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กร AFoCO ปีละประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตลอดระยะเวลาที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณที่เป็นเงินอุดหนุนรายปีในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กร AFoCO โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ กรมป่าไม้ได้รับการจัดสรรงบประมาณรองรับไว้แล้ว จำนวน ๑,๐๒๒,๐๐๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป กรมป่าไม้ควรจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมทั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามนัยกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกองค์กร AFoCO ทั้งโครงการทางวิชาการด้านการป่าไม้และการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และกำหนดกรอบประเด็นความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ของประเทศไทยให้ชัดเจน การประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชนได้ทราบและสามารถขอรับการสนับสนุนได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงมากขึ้น ตลอดจนการจัดการองค์ความรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและสาธารณะอย่างกว้างขวาง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
526 | รายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ. 2560 | ทส | 02/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบด้วย (๑) ปัจจัยขับเคลื่อน (Drivers) ทิศทางการพัฒนา นโยบาย และแผนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ (๒) ภาวะกดดัน (Pressures) : สถานการณ์การใช้ประโยชน์พื้นที่ชายฝั่งและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (๓) สถานภาพทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (States) (๔) สถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่ง (๕) สถานการณ์ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งในระดับจังหวัด (๖) การวิเคราะห์สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศ (๗) การตอบสนอง (Responses) ต่อสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ (๘) ข้อเสนอแนะการปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
527 | ร่างเอกสารยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมล้านช้าง - แม่โขง พ.ศ. 2561 - 2565 | ทส | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างเอกสารยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมล้านช้าง-แม่โขง พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้ความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขงให้มีความชัดเจนขึ้น การสนับสนุนทางการเงินที่จำเป็นให้กับประเทศสมาชิกควบคู่ไปกับการพัฒนาและขยายตัวของเศรษฐกิจและโครงการการพัฒนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอนุภูมิภาค การส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น และลดช่องว่างการพัฒนาเพื่อสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน รวมถึงการส่งเสริมการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ โดยมีขอบเขตการดำเนินงาน เช่น การจัดทำนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวและการลดผลกระทบอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ๒. อนุมัติให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองเอกสารและลงนามในหนังสือรับรองร่างเอกสารยุทธศาสตร์ฯ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
528 | ร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... | ทส | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเป็นเรื่องด่วน แล้วให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
529 | สรุปผลการดำเนินงานโครงการประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ปี พ.ศ. 2561 | ทส | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินงานโครงการประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ (ระหว่างวันที่ ๒๓ พฤษภาคม-๓๐ กันยายน ๒๕๖๑) ในพื้นที่ ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ มีการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ รวมทั้งสิ้น ๓,๐๑๗,๕๒๒ ต้น เนื้อที่รวมทั้งสิ้น ๒๑,๔๙๘ ไร่ โดยจังหวัดที่มีการปลูกต้นไม้มากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเลย (๙๒๓,๐๙๙ ต้น) ชัยภูมิ (๔๓๔,๘๘๑ ต้น) และเชียงใหม่ (๑๔๗,๓๑๐ ต้น) ตามลำดับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงวิธีการปลูกป่าและเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ของการปลูกป่าในแต่ละพื้นที่ให้เกิดประโยชน์และมีความยั่งยืน เช่น การปลูกป่าเพื่อขยายพื้นที่ป่าให้มากขึ้น การปลูกป่าในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม (เขาหัวโล้น) เพื่อลดความแห้งแล้งและให้มีร่มเงา และปลูกป่าในพื้นที่ชุมชนเพื่อให้ประชาชนร่วมกันดูแล เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
530 | การพิจารณากำหนดเงินผลประโยชน์ตอบแทนผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ | ทส | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดค่าตอบแทนของผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในอัตราคงที่เดือนละ ๒๕๐,๐๐๐ บาท (ตามมติคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ในการประชุมครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) ส่วนค่าตอบแทนพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
531 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2561 | ทส | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๗ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. การดำเนินคดีหมายเลขดำที่ อ.๖๐๔/๒๕๕๖ ระหว่างสมาคมสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ ๑ กับพวก รวม ๓ คน ผู้ฟ้องคดีกับคณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี กรณีใช้อำนาจไม่ถูกต้องในการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๐ ๒. การทบทวนมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติกรณีรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ๓. ร่างกฎกระทรวงการขอ และการออกใบอนุญาต เป็นผู้มีสิทธิทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม [กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๕๑/๔] ๔. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การแต่งตั้ง การพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ การประชุมและวิธีพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบความผิด [กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๑๑๐/๑] ๕. แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๖. กลไกการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญารอตเตอร์ดัมว่าด้วยกระบวนการแจ้งข้อมูลสารเคมีล่วงหน้าสำหรับสารเคมีอันตรายและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ ๗. ร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM25 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
532 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย - ลาว | ทส | 04/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย-ลาว มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองฝ่าย และเพื่อให้เป็นไปตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการดำเนินการจัดทำโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย-ลาว ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในเขตโรงเรียนมัธยมสมบูนนาซอน บ้านนาซอน เมืองปากงึม นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๑.๒ อนุมัติให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Joint Cabinet Retreat : JCR) ครั้งที่ ๓ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
533 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2562 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 04/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดทำข้อเสนอ “ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน” ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น (๑) ยกเว้นค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ จำนวน ๓ แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี พิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ และศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จังหวัดขอนแก่น (๒) การประกาศอุทยานธรณีโคราช เป็นอุทยานธรณีระดับประเทศ แห่งที่ ๒ ของประเทศไทย (๓) กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ต้นแบบวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (๔) ห้องสมุดความหลากหลายทางชีวภาพในรูปแบบดิจิทัล (Biodiversity Digital Library) และ (๕) จัดงาน Botanic Festival 2019 “ผักสวนครัว รั้วดอกไม้” (Home Garden) เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
534 | ร่างปฏิญญาที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 24 ณ เมืองคาโตวีเซ สาธารณรัฐโปแลนด์ | ทส | 26/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๔ ณ เมืองคาโตวีเซ สาธารณรัฐโปแลนด์ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. ให้รับรองร่างปฏิญญาซิเลเซียว่าด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม (Solidarity and Just Transition Silesia Declaration) สำหรับการประชุมระดับผู้นำ โดยมอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานกระทรวงการต่างประเทศทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงคณะผู้แทนถาวรโปแลนด์ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เพื่อแจ้งชื่อนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ไว้ในรายชื่อผู้สนับสนุน (List of supporters) ของร่างปฏิญญาฯ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งการรับรองร่างปฏิญญาคาโตวีเซระดับรัฐมนตรีว่าด้วยป่าไม้เพื่อสภาพภูมิอากาศ (The Ministerial Katowice Declaration on Forests for the Climate) สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรี ไปยังสาธารณรัฐโปแลนด์ผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิสก์ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
535 | ขออนุมัติกรอบการหารือสำหรับการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 25 | ทส | 26/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติกรอบการหารือสำหรับการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒๕ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖-๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ จังหวัด Ha Long สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยกรอบการหารือฯ มีสาระสำคัญที่เกี่ยวกับการดำเนินงานและความร่วมมือของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ภายใต้พันธกรณีของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. ๒๕๓๘ ในประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ (๑) แผนปฏิบัติการประจำปี ๒๕๖๒ (ค.ศ. ๒๐๑๙) ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (๒) การเพิ่มพูนความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจา (จีน-เมียนมา) หุ้นส่วนการพัฒนาและความร่วมมือในภูมิภาค (๓) การดำเนินงานตามระเบียบปฏิบัติด้านการใช้น้ำและการปรึกษาหารือล่วงหน้ากรณีโครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากลายของ สปป.ลาว และ (๔) การคัดเลือกหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง วาระปี ๒๕๖๒-๒๕๖๔ ๑.๒ เห็นชอบให้คณะผู้แทนไทยหารือกับประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงตามประเด็นในกรอบการหารือฯ เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานและความร่วมมือเป็นไปตามพันธกรณีของความตกลงฯ ๒. ในการเจรจาหารือในกรอบการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง และการประชุมต่าง ๆ เกี่ยวกับความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขงในทุก ๆ ครั้ง ให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดหลักการ ๓ ข้อ ได้แก่ ๒.๑ หลักการได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียมกันของประเทศสมาชิก ๒.๒ หลักการได้รับความเห็นชอบร่วมกันของประเทศสมาชิก โดยควรต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาด้วย ๒.๓ ในส่วนของการเจรจาซื้อขายไฟฟ้าของไทยกับประเทศคู่เจรจาใด ๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจำเป็น เหมาะสม ตามความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของไทย โดยคำนึงถึงสัดส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้าในประเทศและจากต่างประเทศ รวมทั้งความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศในภาพรวมเป็นสำคัญ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
536 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 5 ราย 1. นายสมหมาย เตชวาล ฯลฯ) | ทส | 26/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายสมหมาย เตชวาล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ๒. นายอรรถพล เจริญชันษา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ ๓. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายโสภณ ทองดี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
537 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2561 | ทส | 26/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. รายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐ ๒. การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ (ภายใต้โครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟฟ้าทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าฯ) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ๓. การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุข และทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร (ภายใต้โครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรมเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมและออกแบบรายละเอียดโครงข่ายทางเชื่อมฯ) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ๔. กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๔๘ ๕. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีจัดทำรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้ดำเนินการ หรือผู้ขออนุญาตจะต้องจัดทำเมื่อได้รับอนุญาตให้ดำเนินโครงการหรือกิจการแล้ว [กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๕๑/๕] ๖. แนวทางการขับเคลื่อนการจัดทำพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
538 | พื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) | ทส | 26/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
539 | การปรับปรุงคำอธิบายประกอบขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าปัตตานี | ทส | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงคำอธิบายประกอบขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าปัตตานี โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปัตตานีในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าปัตตานีมีหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าปัตตานีเกี่ยวกับการปรับปรุงคำอธิบายขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าปัตตานี เพื่อให้มีความครบถ้วน โดยยังคงขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าปัตตานีบริเวณเดิม ซึ่งคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า [รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธานกรรมการ] ได้มีมติเห็นชอบรายละเอียดข้อมูลคำอธิบายขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าปัตตานีด้วยแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
540 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 เรื่อง ขอความเห็นชอบส่งคืนพื้นที่สวนป่าสมเด็จ เนื้อที่ 900 ไร่ ให้กรมป่าไม้ เพื่อนำพื้นที่เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล | ทส | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ส่งคืนพื้นที่สวนป่าสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ แปลงปลูกปี ๒๕๒๒ และแปลงปลูกปี ๒๕๒๖ ตามที่สำรวจรังวัดได้จริง จำนวน ๗๕๖-๐-๙๖ ไร่ ให้กรมป่าไม้เพื่อนำพื้นที่เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า เมื่อส่งมอบพื้นที่สวนป่าสมเด็จให้กรมป่าไม้เพื่อนำพื้นที่เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ รวมถึงการคัดกรองคุณสมบัติของราษฎรว่าเป็นผู้ยากไร้หรือไม่มีที่ดินทำกิน เพื่อจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ดินตามหลักเกณฑ์การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเห็นชอบอย่างเคร่งครัด สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นภายหลังที่กรมป่าไม้ได้รับมอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. สำหรับแปลงปลูกปี ๒๕๒๒ และแปลงปลูกปี ๒๕๒๖ เนื้อที่รวม ๑๓๔-๓-๐๔ ไร่ ที่จะนำมาสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินเพิ่มเติม ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตรวจสอบความพร้อมในด้านต่าง ๆ อย่างละเอียดรอบคอบ เช่น สภาพพื้นที่ การพิสูจน์สิทธิ์ร่องรอยและการเข้าทำประโยชน์ การตรวจสอบคุณสมบัติของราษฎรตามหลักเกณฑ์การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นต้น รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีราษฎรเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ได้ข้อยุติก่อน และเมื่อมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ แล้ว จึงให้นำพื้นที่ดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
.....