ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 15 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 281 - 300 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
281 | การเข้าร่วมประชุม The 4th Asia Ministerial Conference on Tiger Conservation ณ ประเทศมาเลเซีย ผ่านระบบการประชุมทางไกล | ทส. | 18/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการอนุรักษ์เสือโคร่ง
(Draft Kuala Lumpur Joint Statement on Tiger
Conservation) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการอนุรักษ์เสือโคร่ง
ทั้งนี้
หากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการอนุรักษ์เสือโคร่ง
(Draft Kuala Lumpur Joint Statement on Tiger Conservation)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย
ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งนี้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช) รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า ควรพิจารณาปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณมาดำเนินการเป็นอันดับแรก
สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ
ไปให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
282 | วันป่าชุมชนแห่งชาติ | ทส. | 11/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้วันที่
๒๔ พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน หน่วยงานราชการ
และภาคธุรกิจเอกชนทราบและเข้าใจในเจตนารมณ์ของการจัดให้มีวันป่าชุมชนแห่งชาติอย่างทั่วถึงต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
283 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 11/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติในหลักการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป โครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วงเงินทั้งสิ้น ๔,๐๕๕,๓๑๘,๐๐๐ บาท เสนอขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ จำนวน ๘๑๑,๐๖๓,๖๐๐ บาท
ส่วนที่เหลืออีก ๓,๒๔๔,๒๕๔,๔๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๗๐ ตามนัยมาตรา ๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำแผนการดำเนินการ และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่ พร้อมที่จะดำเนินการ รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น
ตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
284 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป (โครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่) | ทส. | 11/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป รายการค่าก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่
ระยะที่ ๑ คลองหก ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี วงเงินทั้งสิ้น ๕,๓๘๓,๘๑๗,๖๐๐ บาท เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๑,๐๗๖,๗๖๓,๖๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๔,๓๐๗,๐๕๔,๐๐๐ บาท ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดนำเสนอโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐ และจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีรายละเอียดรูปแบบรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น
ตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรดำเนินการตามขั้นตอน
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐
และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
285 | ผลการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพสมัยที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่หนึ่ง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน | ทส. | 11/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
สมัยที่ ๑๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่หนึ่ง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านระบบการประชุมทางไกล
ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย (๑)
การประชุมระดับสูง
โดยไทยได้เน้นย้ำในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูระบบนิเวศ และนำเสนอการดำเนินงานเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพในเชิงนโยบายของไทย
โดยเฉพาะการดำเนินนโยบาย BCG Model รวมทั้ง ได้มีการรับรองปฏิญญาคุนหมิงในระหว่างการกระชุมระดับรัฐมนตรี
ซึ่งได้มีการปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนตามความเห็นของประเทศภาคีอนุสัญญา
โดยไม่กระทบกับสาระสำคัญ (๒) การประชุมระดับเจ้าหน้าที่
ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานขององค์กรย่อยและคณะทำงานต่าง ๆ ภายใต้อนุสัญญาฯ
และรับรองกรอบงบประมาณ ปี ค.ศ. ๒๐๒๐ สำหรับการดำเนินงานของอนุสัญญาฯ
และพิธีสารภายใต้อนุสัญญาฯ (๓) จีนมีกำหนดประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
สมัยที่ ๑๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่สอง ระหว่างวันที่ ๒๕ เมษายน-๘
พฤษภาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาดำเนินการศึกษา
สำรวจและจัดเก็บข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ของประเทศไทย
โดยอาจบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ
และพิจารณาจ้างงานนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาเป็นผู้ดำเนินการสำรวจและเก็บข้อมูลต่าง
ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำและแก้ปัญหาการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในเบื้องต้นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
286 | ขอความเห็นชอบโครงการ Integration of Natural Capital Accounting in Public and Private Sector Policy and Decision-making for Sustainable Landscapes | ทส. | 11/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (Project Cooperation Agreement : PCA) โครงการ Integration of Natural Capital Accounting in Public
and Private Sector Policy and Decision-making for
Sustainable Landscapes เพื่อเป็นการพัฒนากรอบแนวคิดและแนวทางในการนำระบบบัญชีต้นทุนธรรมชาติมาใช้ในประเทศไทย
รวมทั้งการริเริ่มการพัฒนาระบบบัญชีต้นทุนธรรมชาติสำหรับภาคการท่องเที่ยวและภาคการจัดการน้ำในพื้นที่
จังหวัดกระบี่
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถบูรณาการข้อมูลต้นทุนธรรมชาติในพื้นที่เข้าสู่นโยบาย
แผน งบประมาณ ระดับภูมิภาคได้ และส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลดผลกระทบ
ฟื้นฟู และปกป้องระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่ชายฝั่งและทะเลต่อไป
โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global
Environment Facility : GEF) เป็นจำนวนเงิน ๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยงานดำเนินโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ร่วมสมทบงบประมาณในรูปแบบที่ไม่ใช่ตัวเงิน (in-kind) ในรูปแบบบุคลากร
มูลค่าทรัพยากรในการดำเนินงาน เป็นจำนวนเงิน ๖.๑๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นงบประมาณและทรัพยากรที่แต่ละหน่วยงานได้รับจัดสรรในทุกปีตามปกติ
ไม่ใช่การขอรับจัดสรรเพิ่มเติม และมอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือฯ ร่วมกับผู้แทนโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
(United Nations Environment Programme : UNEP) และที่ปรึกษาโครงการ(Lead Service Provider) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อตกลงความร่วมมือ (Project
Cooperation Agreement : PCA) โครงการ Integration of Natural Capital Accounting in Public
and PrivateSector Policy and Decision-making for
Sustainable Landscapes ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (หนังสือสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่ นร
๑๔๐๓/๑๐๙๘๗ ลงวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔) และสำนักงานอัยการสูงสุด
(หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ด่วนที่สุด ที่ อส ๐๐๐๗/๑๙๖๔๗ ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม
๒๕๖๓) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำองค์ความรู้
ประสบการณ์
และข้อมูลที่ได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้นไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินโครงการ/งานอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น
การประเมินมูลค่าต้นทุนหรือผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมหรือโครงการ
การกำหนดให้ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติต้องร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติที่สูญเสียไป
เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
287 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 | ทส. | 11/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงานการเงินดังกล่าวแล้ว โดยเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
288 | การเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 | ทส. | 04/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๔๖ และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำ
(ร่าง) ข้อเสนอโครงการ รายละเอียดแผนงานและกิจกรรม
และประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนจัดส่งให้ศูนย์มรดกโลก
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำข้อมูลผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม
เพื่อแสดงความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมดังกล่าว
รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ความประหยัด และประโยชน์สูงสุด คำนึงถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการประชุมและควรมีการติดตามประเมินผลหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น
เพื่อเป็นแนวทางสำหรับความคุ้มค่าในการดำเนินการจัดประชุมระดับนานาชาติลักษณะเดียวกันในครั้งต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
289 | ร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2565 | ทส. | 28/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง
ปี ๒๕๖๕ กำหนดขึ้นภายใต้หลักแนวคิด “๑ สื่อสาร
๕ ป้องกัน ๓ เผชิญเหตุ” เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดและเน้นย้ำการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
โดยเฉพาะในช่วงเกิดสถานการณ์ ทั้งนี้ ๑ สื่อสาร หมายถึง
การสร้างการรับรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
และแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองล่วงหน้า ๕ ป้องกัน หมายถึง การจัดทำแผนแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองบรรจุในแผนของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด
การชิงเก็บ ลดเผา โดยใช้แอปพลิเคชันลงทะเบียนบริหารจัดการเชื้อเพลิง
การเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าภายใต้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
การสร้างเครือข่ายและอาสาสมัคร
การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกเพื่อลดปัญหา PM2.5 และ ๓ เผชิญเหตุ หมายถึง
การเพิ่มความเข้มทั้งจากยานพาหนะ ภาคอุตสาหกรรม และการควบคุมไฟป่า การกำหนดตัวชี้วัดร่วมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
และขยายหมู่บ้านคู่ขนานชายแดนภายใต้กรอบคณะกรรมการชายแดน
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง
ปี ๒๕๖๕ ต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
290 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ (๑) ของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น จุดบริการประชาชนทั่วประเทศ ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ และแจกน้ำดื่มสะอาดฟรี แจกกล้าไม้เพื่อลดโลกร้อน ๑๑ ล้านกล้า (ไม้บก ๑๐ ล้านกล้า และไม้ป่าชายเลน ๑ ล้านกล้า) เปิดอ่าวมาหยา บริการนักท่องเที่ยวในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ และยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ๑๓๓ แห่งทั่วประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่ และวันสำคัญต่าง ๆ พร้อมจัดกิจกรรมร่วมสนุกผ่าน social media ลดราคาผลิตภัณฑ์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริการตรวจสอบอัญมณีและธรณีวัตถุเบื้องต้นฟรี เป็นต้น และ (๒) ของขวัญ สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เช่น จัดที่ดินอยู่อาศัย/ทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ป่าชายเลน จัดหา พัฒนาแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภค และกองทุนสิ่งแวดล้อมสนับสนุนโคกหนองนาโมเดล วงเงิน ๕๐ ล้านบาท จำนวน ๑๐๐ โครงการ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
291 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายธัญญา เนติธรรมกุล ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | ทส. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๓ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายธัญญา เนติธรรมกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายเฉลิมชัย ปาปะทา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๓. นายรัชฎา สุริยกุล ณ
อยุธยา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
292 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 44 | ทส. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ
ครั้งที่ ๔๔ ในการประชุมทางไกลเต็มรูปแบบ ระหว่างวันที่ ๑๖-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔
เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ
มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมฯ
ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับไทย ได้แก่ (๑) รองรับรายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกพื้นที่ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
และให้ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เช่น ให้มีมาตรการบรรเทาผลกระทบและติดตามผลกระทบจากการดำเนินการภายหลังจากการก่อสร้างเขื่อนห้วยโสมงและทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
๓๐๔ และเน้นย้ำให้ยกเลิกแผนการก่อสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำภายในพื้นที่แหล่งมรดกโลกอย่างถาวร
(๒) รองรับการขึ้นทะเบียนพื้นที่แก่งกระจานเป็นมรดกโลก
และให้ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เช่น
สร้างความเข้าใจร่วมกันกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเกี่ยวกับขอบเขตพื้นที่ที่ได้รับการปรับแก้ไขตามข้อตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
293 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (นายสุกิจ จันทร์ทอง) | ทส. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุกิจ จันทร์ทอง
ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
เนื่องจากผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างต่อไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
294 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 16 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม
ครั้งที่ ๑๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไหล
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
เข้าร่วมการประชุมฯ โดยการประชุมฯ ประกอบด้วย (๑)
การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๖
โดยไทยได้เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
และให้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลด้วย
(๒) การประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
ครั้งที่ ๑๖
เพื่อหารือสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน
และ (๓) การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๑๗
เพื่อหารือความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมกับจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
295 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายอิทธิพล คุณปลื้ม) ๒.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
296 | สรุปผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 16 (CMP 16) การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 3 (CMA 3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร | ทส. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบสรุปผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๖ (COP 26)
การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๑๖ (CMP 16)
การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 3 (CMA 3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรีในการประชุมระดับผู้นำ
(World Leaders Summit) ในห้วงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๖ และมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องเร่งจัดเตรียมการดำเนินงานตามภารกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประเทศด้านการลดก๊าซเรือนกระจกและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรีในการประชุมระดับผู้นำ
(World Leaders Summit)ในห้วงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๖ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
297 | ร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก
กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอนุมัติให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงฯ
เพื่อดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจออกไปจนถึงวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ การแก้ไขปรับปรุงขอบเขตความร่วมมือตามพัฒนาการดำเนินงานให้เป็นปัจจุบัน
และการปรับปรุงข้อมูลรายละเอียดผู้ประสานงานภายใต้บันทึกความเข้าใจของทั้งสองฝ่าย
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นว่าหากมีประเด็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในร่างข้อตกลงฯ
ให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ โดยให้ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และมีการหารือสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนและบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาโครงการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวจากการปรับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และให้พิจารณาเรื่องการประเมินปริมาณการใช้ทรัพยากรน้ำทั้งภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก
กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
298 | ขอเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เทศบาลนครหาดใหญ่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เทศบาลนครหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา ๑ แห่ง ภายในกรอบวงเงิน ๑๔๖,๑๒๙,๖๓๔.๒๖ บาท
โดยให้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๙๘,๙๐๐,๐๐๐ บาท เงินกองทุนสิ่งแวดล้อม จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
และเงินนอกงบประมาณที่เทศบาลนครหาดใหญ่สมทบ จำนวน ๔๗,๑๒๙,๖๓๔.๒๖ บาท และอนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๕
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
299 | การนำเสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเอกสารบัญชีรายชื่อเบื้องต้น
พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นำเสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยพื้นที่ที่นำเสนอขึ้นทะเบียนประกอบด้วย
๖ พื้นที่อุทยาน และ ๑ พื้นที่ป่าชายเลน ครอบคลุมพื้นที่ ๓ จังหวัด ได้แก่
จังหวัดระนอง (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง (อุทยานแห่งชาติแหลมสน
และป่าชายเลนจังหวัดระนอง) จังหวัดพังงา (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง) และจังหวัดภูเก็ต
(อุทยานแห่งชาติสิรินาถ) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๕ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ
ๆ ไป ให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเตรียมแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติให้มีความจำเป็นและครบถ้วน
และให้ความสำคัญกับความร่วมมือในทุกภาคส่วน
และควรมีการติดตามเสนอแหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันของเมียนมาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ซึ่งหากมีอาจส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการดำเนินการของประเทศไทย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
300 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และ 2563 ในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 21 จังหวัด | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน
ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และ ๒๕๖๓ ในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล
๒๑ จังหวัด เพื่อนำที่ดินที่เป็นป่าชายเลนเนื้อที่รวม
๔,๑๐๕-๐-๐๔
ไร่ ไปดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) ที่เห็นว่าหากมีการดำเนินการใด
ๆ ในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ทะเล หรือบนชายหาดทะเล
ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนัยพระราชบัญญัติการเดินเรือน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖
และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
กำหนดให้ชุมชนที่ได้รับอนุญาตให้ทำกินในป่าชายเลนดังกล่าวมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มากขึ้นจากที่เป็นอยู่ด้วย
เพื่อให้การใช้ประโยชน์ป่าชายเลนเป็นไปอย่างยั่งยืน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และการคัดกรองคุณสมบัติของราษฎรว่าเป็นผู้ยากไร้หรือไม่มีพื้นที่ทำกิน
รวมถึงกำหนดให้มีมาตรการป้องกันและคุ้มครองการบุกรุกพื้นที่ป่า
และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลน
รวมทั้งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๕ ว่าด้วยที่จับสัตว์น้ำ
ควรให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรา ๖๒ ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้ผิดไปจากสภาพที่เป็นอยู่
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |