ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 15 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 281 - 300 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
281 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ตำบลพระธาตุผาแดง ตำบลแม่ตาว และตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... | ทส. | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ตำบลพระธาตุผาแดง
ตำบลแม่ตาว และตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดในพื้นที่ตำบลพระธาตุผาแดง
ตำบลแม่ตาว และตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
เพื่อกำหนดมาตรการในการห้ามกระทำหรือประกอบกิจการที่มีผลต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าว
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
282 | ร่างกฎกระทรวงการแบ่งเงินค่าบริการและค่าตอบแทนในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. .... | ทส. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงการแบ่งเงินค่าบริการและค่าตอบแทนในอุทยานแห่งชาติ
วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ
ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแบ่งเงินค่าบริการและค่าตอบแทนในอุทยานแห่งชาติ
วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
เพื่อนำไปใช้ในการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงาน หรือการอนุรักษ์ บำรุงรักษา
และฟื้นฟูอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน
สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรพิจารณาทบทวนอัตราการแบ่งเงินที่เรียกเก็บได้
ภายหลังที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับไปแล้ว ๓ ปี ควรทบทวนหลักเกณฑ์
วิธีการแบ่งเงินให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
โดยพิจารณาแหล่งกำเนิดของรายได้ว่าควรจัดสรรให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นตามสัดส่วน
และพื้นที่ที่เกิดรายได้ขึ้นจริงแทนวิธีการแบ่งให้แห่งละเท่า ๆ กัน ควรมีกลไกความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
ในการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินค่าบริการและค่าตอบแทนที่แบ่งให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลให้มีความเหมาะสม
มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควร ควรพิจารณาทบทวนอัตราการแบ่งเงินที่เรียกเก็บได้
ภายหลังที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับไปแล้ว ๓ ปี
ควรกำหนดระยะเวลาในการแบ่งเงินที่เรียกเก็บได้ตามมาตรา ๒๙
แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ แก่เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล
คำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็นที่สนับสนุนภารกิจของอุทยานในลักษณะทั่วไป ควรมีกลไกความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
ในการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินค่าบริการและค่าตอบแทนที่แบ่งให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลให้มีความเหมาะสม
มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
283 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 4 ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเอง (In-person) | ทส. | 15/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
284 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | ทส. | 08/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และกระทรวงพลังงาน เช่น ที่ควรเพิ่มเติมข้อความ ข้อ ๑ (๓)
“การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ”
ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ ความรู้
และความสามารถเพิ่มขึ้น ข้อ ๓ (๑) “การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ”
เพื่อให้การลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้กับสถาบันการศึกษาเอกชน และรัฐวิสาหกิจมีความครอบคลุมยิ่งขึ้น
และเพิ่มเติมในประเด็นข้อกำหนดในข้อ ๔ (๒)
“กิจการวางโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน
กิจการวางท่อประปาเพื่อจำหน่ายให้ประชาชน
สำหรับการดำเนินการบำรุงรักษาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน”
ซึ่งควรกำหนดให้ครอบคลุมกิจการปิโตรเลียม ไปประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
285 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2564 | ทส. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๔ จำนวน ๑๐ เรื่อง
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
ระยะที่ ๓ (ครั้งที่ ๑) ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๒. โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน
เครื่องที่ ๘-๙ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ๓. โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี
ชุดที่ ๑-๒ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ๔. โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่
สายอำเภอหาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย ของกรมทางหลวง ๕. โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำญวน
จังหวัดพะเยา ของกรมชลประทาน ๖. โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนภูมิพล
แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ของกรมชลประทาน ๗.
ร่างมาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะ ๘. สถานการณ์เกิดเหตุเพลิงไม้
กรณีโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท มิงตี้ เคมีคอล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ๙. การปรับปรุงค่ามาตรฐานก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากไอเสียรถยนต์ใช้งานขนาดเล็ก ๑๐. การกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากสถานประกอบการขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าหรือให้บริการบางประเภท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
286 | กรอบท่าทีไทยเอกสารผลลัพธ์การประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 5 ช่วงที่ 2 และการประชุมสมัยพิเศษ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ | ทส. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบกรอบท่าทีไทยสำหรับการประชุม UNEA 5.2 และการประชุมสมัยพิเศษ UNEP@50 ๑.๒
เห็นชอบในหลักการร่างข้อมติและข้อตัดสินใจ ๑๗ เรื่อง
เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับนานาประเทศและโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก ๑.๓
เห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยร่วมอุปถัมภ์ (Co-sponsor)
ข้อมติที่ประเทศไทยได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวอย่างโดดเด่นทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ดังนี้ (๑) Draft resolution on the Sound Management of Chemicals and
Waste (๒) Draft resolution for a Science-Policy Panel to
support action on chemicals, waste and pollution (๓) Draft
resolution on Green recovery และ (๔) Draft resolution on
Circular Economy ๑.๔ เห็นชอบในหลักการร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรี
(Ministerial Declaration) และร่างปฏิญญาทางการเมือง
(Political Declaration) ๑.๕ อนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทย หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรี
(Draft Ministerial Declaration) และร่างปฏิญญาทางการเมือง (Draft Political Declaration) ๒.
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อมติและข้อตัดสินใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
287 | ร่างพระราชบัญญัติความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... | ทส. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยกำหนดพื้นที่ในการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดให้มีแผนจัดการความหลากหลายทางชีวภาพทุก
๕ ปี เพื่อใช้บริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพในภาพรวมของประเทศ
กำหนดให้มีคณะกรรมการความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ กำหนดให้มีการสร้างสมรรถนะและแรงจูงใจในการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ
กำหนดวิธีการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ กำหนดกลไกในการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรชีวภาพรวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
กำหนดกลไกการกำกับดูแลกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (Living Modified Organisms : LMOs) กำหนดโทษทางแพ่ง
โทษทางปกครอง โทษทางอาญา และกำหนดบทเฉพาะกาล ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด
และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เช่น ควรพิจารณาความครอบคลุมของกฎหมาย
ในประเด็นการปกป้องคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศจากการใช้ประโยชน์ในรูปแบบของการเอารัดเอาเปรียบทางการค้าจากต่างชาติ
กำหนดเพิ่มเติมในอนุบัญญัติให้บุคคลที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนการเข้าถึงทรัพยากรทางชีวภาพตั้งแต่แรกสามารถยื่นคำขออนุญาตก่อนการเข้าถึงและทำข้อตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ในภายหลังได้
ควรมีความนิยามเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายการด้านเทคนิค อาทิ
รายงานการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพ (มาตรา ๔๔) บัญชีปลดปล่อยต่อสิ่งแวดล้อม
(มาตรา ๔๖) แนวทางการระมัดระวังล่วงหน้า (มาตรา ๕๑) และสิ่งมีชีวิตดัดแปลงทางพันธุกรรม
(มาตรา ๕๓) เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป
และให้แจ้งประธานรัฐสภาทราบด้วยว่าร่างพระราชบัญญัตินี้เป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด
๑๖ การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีระบบความเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กรมวิชาการเกษตร กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ครอบคลุมถึงสิ่งมีชีวิตดัดแปลงทางพันธุกรรมที่ได้มาจากการพัฒนาขึ้นทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร
และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลเกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
288 | การขยายระยะเวลาของการใช้แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ. 2560 - 2564 | ทส. | 15/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่
พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ มีผลใช้ได้จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕
เพื่อให้การบริหารจัดการแร่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนป้องกันผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจที่เกิดจากการสะดุดหยุดลงของการบริหารจัดการแร่ของประเทศ
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่
ฉบับที่ ๒ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าระยะเวลาของแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ฉบับต่อไปควรกำหนดให้ชัดเจนว่าให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบ
ไปประกอบการพิจารณาด้วย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
รวมทั้งกำหนดแผนการทำงานในการจัดทำแผนแม่บทให้ชัดเจน
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ฉบับต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
289 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่เกาะราชาใหญ่ เกาะราชาน้อย ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... | ทส. | 15/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่เกาะราชาใหญ่
เกาะราชาน้อย ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่เกาะราชาใหญ่
เกาะราชาน้อย ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อประโยชน์
หรือสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงกลาโหมและกระทรวงพลังงาน โดยเพิ่มข้อความ
“ประกาศฉบับนี้มิให้ใช้บังคับแก่การดำเนินการเพื่อประโยชน์ในราชการของกองทัพเรือ”
เพื่อยกเว้นกับการใช้บังคับกับกองทัพเรือในกรณีที่มีการจำเป็นต้องดำเนินการใด ๆ
เกี่ยวกับกิจการด้านความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ
และกิจกรรมด้านพลังงานใดที่ต้องห้ามตามประกาศนี้
ถ้าได้รับอนุญาตก่อนวันประกาศนี้ให้ใช้บังคับในการดำเนินการต่อไป และการต่ออายุใบอนุญาตให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
โดยให้อนุญาตตามที่พื้นที่ที่ได้อนุญาตไว้เดิม ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ควรมีกระบวนการหารือกับภาคธุรกิจและภาคประชาชนในพื้นที่
เพื่อสร้างความเข้าใจและการรับรู้ร่วมกัน ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานในสังกัด
ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายให้ชัดเจนถึงอำนาจและหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ
กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
และสร้างการรับรู้ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึงทั้งประชาชน ชุมชน และภาคเอกชนที่ประกอบการด้านท่องเที่ยวและประมงในพื้นที่ให้เข้าใจแนวทางปฏิบัติ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
290 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry: MMRF5) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี พ.ศ. 2565 | ทส. | 08/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้
เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๕ (The Fifth APEC Meeting of Ministers
Responsible for Forestry : MMRF5)
และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี
พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งมีกำหนดจัดการประชุมระหว่างวันที่ ๑๔-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ในรูปแบบ Virtual
Meeting ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กรมป่าไม้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
งบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ หรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร
แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ในโอกาสแรกก่อน
โดยคำนึงถึงความประหยัดและประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
291 | ผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 4 ในรูปแบบออนไลน์ | ทส. | 01/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท
สมัยที่ ๔ ในรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ ๑-๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ซึ่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยมีอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมฯ
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) สาระสำคัญที่ผ่านการรับรองในการประชุมฯ รูปแบบออนไลน์
ได้แก่ การกำหนดการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะฯ สมัยที่ ๔
ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ เมืองบาหลี
อินโดนีเซีย การเห็นชอบแผนงานและงบประมาณของสำนักเลขาธิการของอนุสัญญามินามาตะฯ
เฉพาะปี ค.ศ. ๒๐๒๒ โดยไทยต้องจ่ายค่าภาคีประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เข้าสู่กองทุน General trust fund จำนวน ๘,๘๖๒ ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในส่วนของแผนงานและงบประมาณของสำนักเลขาธิการฯ
ปี ค.ศ. ๒๐๒๓ ยังไม่ได้ข้อสรุปและจะนำไปหารือในการประชุมฯ
ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเองต่อไป (๒)
สาระสำคัญที่มีความก้าวหน้าและจะนำไปหารือต่อในการประชุมฯ
ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเอง ได้แก่
กรอบการดำเนินงานสำหรับการประเมินความมีประสิทธิผลของอนุสัญญามินามาตะฯ
และร่างคำแนะนำสำหรับการกรอกรายการระดับชาติที่ช่วยสนับสนุนการจัดทำรายงานระดับชาติฉบับสมบูรณ์
รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามลพิษด้านสารเคมีของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก
ในรอบที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕-๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๙ (๓)
อินโดนีเซียจะนำเสนอปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการต่อต้านการค้าปรอทอย่างผิดกฎหมายทั่วโลก
ในการประชุมฯ ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเอง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
292 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการจ้างเหมาพนักงานปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | ทส. | 01/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการจ้างเหมาพนักงานปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวน ๑ โครงการ วงเงินงบประมาณ
๒๕๑,๙๓๗,๐๐๐ บาท โดยมีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เป็นหน่วยงานดำเนินการ และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน ๒๕๑,๙๓๗,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจ้างเหมาพนักงานปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวน ๑ โครงการ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงาน
ก.พ. ที่ควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล โครงการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และควรจัดเตรียมแผนการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ด้านงบประมาณที่อาจเกิดขึ้นในระยะต่อไป
เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการจัดการทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มีความต่อเนื่องและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
293 | การเข้าร่วมประชุม The 4th Asia Ministerial Conference on Tiger Conservation ณ ประเทศมาเลเซีย ผ่านระบบการประชุมทางไกล | ทส. | 18/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการอนุรักษ์เสือโคร่ง
(Draft Kuala Lumpur Joint Statement on Tiger
Conservation) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการอนุรักษ์เสือโคร่ง
ทั้งนี้
หากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการอนุรักษ์เสือโคร่ง
(Draft Kuala Lumpur Joint Statement on Tiger Conservation)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย
ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งนี้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช) รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า ควรพิจารณาปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณมาดำเนินการเป็นอันดับแรก
สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ
ไปให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
294 | วันป่าชุมชนแห่งชาติ | ทส. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้วันที่
๒๔ พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน หน่วยงานราชการ
และภาคธุรกิจเอกชนทราบและเข้าใจในเจตนารมณ์ของการจัดให้มีวันป่าชุมชนแห่งชาติอย่างทั่วถึงต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
295 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติในหลักการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป โครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วงเงินทั้งสิ้น ๔,๐๕๕,๓๑๘,๐๐๐ บาท เสนอขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ จำนวน ๘๑๑,๐๖๓,๖๐๐ บาท
ส่วนที่เหลืออีก ๓,๒๔๔,๒๕๔,๔๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๗๐ ตามนัยมาตรา ๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำแผนการดำเนินการ และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่ พร้อมที่จะดำเนินการ รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น
ตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
296 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป (โครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่) | ทส. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป รายการค่าก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่
ระยะที่ ๑ คลองหก ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี วงเงินทั้งสิ้น ๕,๓๘๓,๘๑๗,๖๐๐ บาท เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๑,๐๗๖,๗๖๓,๖๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๔,๓๐๗,๐๕๔,๐๐๐ บาท ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดนำเสนอโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐ และจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีรายละเอียดรูปแบบรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น
ตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรดำเนินการตามขั้นตอน
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐
และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
297 | ผลการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพสมัยที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่หนึ่ง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน | ทส. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
สมัยที่ ๑๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่หนึ่ง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านระบบการประชุมทางไกล
ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย (๑)
การประชุมระดับสูง
โดยไทยได้เน้นย้ำในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูระบบนิเวศ และนำเสนอการดำเนินงานเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพในเชิงนโยบายของไทย
โดยเฉพาะการดำเนินนโยบาย BCG Model รวมทั้ง ได้มีการรับรองปฏิญญาคุนหมิงในระหว่างการกระชุมระดับรัฐมนตรี
ซึ่งได้มีการปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนตามความเห็นของประเทศภาคีอนุสัญญา
โดยไม่กระทบกับสาระสำคัญ (๒) การประชุมระดับเจ้าหน้าที่
ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานขององค์กรย่อยและคณะทำงานต่าง ๆ ภายใต้อนุสัญญาฯ
และรับรองกรอบงบประมาณ ปี ค.ศ. ๒๐๒๐ สำหรับการดำเนินงานของอนุสัญญาฯ
และพิธีสารภายใต้อนุสัญญาฯ (๓) จีนมีกำหนดประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
สมัยที่ ๑๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่สอง ระหว่างวันที่ ๒๕ เมษายน-๘
พฤษภาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาดำเนินการศึกษา
สำรวจและจัดเก็บข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ของประเทศไทย
โดยอาจบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ
และพิจารณาจ้างงานนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาเป็นผู้ดำเนินการสำรวจและเก็บข้อมูลต่าง
ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำและแก้ปัญหาการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในเบื้องต้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
298 | ขอความเห็นชอบโครงการ Integration of Natural Capital Accounting in Public and Private Sector Policy and Decision-making for Sustainable Landscapes | ทส. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (Project Cooperation Agreement : PCA) โครงการ Integration of Natural Capital Accounting in Public
and Private Sector Policy and Decision-making for
Sustainable Landscapes เพื่อเป็นการพัฒนากรอบแนวคิดและแนวทางในการนำระบบบัญชีต้นทุนธรรมชาติมาใช้ในประเทศไทย
รวมทั้งการริเริ่มการพัฒนาระบบบัญชีต้นทุนธรรมชาติสำหรับภาคการท่องเที่ยวและภาคการจัดการน้ำในพื้นที่
จังหวัดกระบี่
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถบูรณาการข้อมูลต้นทุนธรรมชาติในพื้นที่เข้าสู่นโยบาย
แผน งบประมาณ ระดับภูมิภาคได้ และส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลดผลกระทบ
ฟื้นฟู และปกป้องระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่ชายฝั่งและทะเลต่อไป
โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global
Environment Facility : GEF) เป็นจำนวนเงิน ๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยงานดำเนินโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ร่วมสมทบงบประมาณในรูปแบบที่ไม่ใช่ตัวเงิน (in-kind) ในรูปแบบบุคลากร
มูลค่าทรัพยากรในการดำเนินงาน เป็นจำนวนเงิน ๖.๑๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นงบประมาณและทรัพยากรที่แต่ละหน่วยงานได้รับจัดสรรในทุกปีตามปกติ
ไม่ใช่การขอรับจัดสรรเพิ่มเติม และมอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือฯ ร่วมกับผู้แทนโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
(United Nations Environment Programme : UNEP) และที่ปรึกษาโครงการ(Lead Service Provider) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อตกลงความร่วมมือ (Project
Cooperation Agreement : PCA) โครงการ Integration of Natural Capital Accounting in Public
and PrivateSector Policy and Decision-making for
Sustainable Landscapes ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (หนังสือสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่ นร
๑๔๐๓/๑๐๙๘๗ ลงวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔) และสำนักงานอัยการสูงสุด
(หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ด่วนที่สุด ที่ อส ๐๐๐๗/๑๙๖๔๗ ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม
๒๕๖๓) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำองค์ความรู้
ประสบการณ์
และข้อมูลที่ได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้นไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินโครงการ/งานอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น
การประเมินมูลค่าต้นทุนหรือผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมหรือโครงการ
การกำหนดให้ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติต้องร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติที่สูญเสียไป
เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
299 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 | ทส. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงานการเงินดังกล่าวแล้ว โดยเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
300 | การเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 | ทส. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๔๖ และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำ
(ร่าง) ข้อเสนอโครงการ รายละเอียดแผนงานและกิจกรรม
และประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนจัดส่งให้ศูนย์มรดกโลก
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำข้อมูลผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม
เพื่อแสดงความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมดังกล่าว
รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ความประหยัด และประโยชน์สูงสุด คำนึงถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการประชุมและควรมีการติดตามประเมินผลหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น
เพื่อเป็นแนวทางสำหรับความคุ้มค่าในการดำเนินการจัดประชุมระดับนานาชาติลักษณะเดียวกันในครั้งต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|