ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 16 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 301 - 320 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
301 | ร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2565 | ทส. | 28/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง
ปี ๒๕๖๕ กำหนดขึ้นภายใต้หลักแนวคิด “๑ สื่อสาร
๕ ป้องกัน ๓ เผชิญเหตุ” เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดและเน้นย้ำการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
โดยเฉพาะในช่วงเกิดสถานการณ์ ทั้งนี้ ๑ สื่อสาร หมายถึง
การสร้างการรับรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
และแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองล่วงหน้า ๕ ป้องกัน หมายถึง การจัดทำแผนแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองบรรจุในแผนของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด
การชิงเก็บ ลดเผา โดยใช้แอปพลิเคชันลงทะเบียนบริหารจัดการเชื้อเพลิง
การเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าภายใต้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
การสร้างเครือข่ายและอาสาสมัคร
การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกเพื่อลดปัญหา PM2.5 และ ๓ เผชิญเหตุ หมายถึง
การเพิ่มความเข้มทั้งจากยานพาหนะ ภาคอุตสาหกรรม และการควบคุมไฟป่า การกำหนดตัวชี้วัดร่วมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
และขยายหมู่บ้านคู่ขนานชายแดนภายใต้กรอบคณะกรรมการชายแดน
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง
ปี ๒๕๖๕ ต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
302 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ (๑) ของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น จุดบริการประชาชนทั่วประเทศ ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ และแจกน้ำดื่มสะอาดฟรี แจกกล้าไม้เพื่อลดโลกร้อน ๑๑ ล้านกล้า (ไม้บก ๑๐ ล้านกล้า และไม้ป่าชายเลน ๑ ล้านกล้า) เปิดอ่าวมาหยา บริการนักท่องเที่ยวในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ และยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ๑๓๓ แห่งทั่วประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่ และวันสำคัญต่าง ๆ พร้อมจัดกิจกรรมร่วมสนุกผ่าน social media ลดราคาผลิตภัณฑ์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริการตรวจสอบอัญมณีและธรณีวัตถุเบื้องต้นฟรี เป็นต้น และ (๒) ของขวัญ สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เช่น จัดที่ดินอยู่อาศัย/ทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ป่าชายเลน จัดหา พัฒนาแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภค และกองทุนสิ่งแวดล้อมสนับสนุนโคกหนองนาโมเดล วงเงิน ๕๐ ล้านบาท จำนวน ๑๐๐ โครงการ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
303 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายธัญญา เนติธรรมกุล ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | ทส. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๓ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายธัญญา เนติธรรมกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายเฉลิมชัย ปาปะทา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๓. นายรัชฎา สุริยกุล ณ
อยุธยา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
304 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 44 | ทส. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ
ครั้งที่ ๔๔ ในการประชุมทางไกลเต็มรูปแบบ ระหว่างวันที่ ๑๖-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔
เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ
มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมฯ
ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับไทย ได้แก่ (๑) รองรับรายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกพื้นที่ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
และให้ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เช่น ให้มีมาตรการบรรเทาผลกระทบและติดตามผลกระทบจากการดำเนินการภายหลังจากการก่อสร้างเขื่อนห้วยโสมงและทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
๓๐๔ และเน้นย้ำให้ยกเลิกแผนการก่อสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำภายในพื้นที่แหล่งมรดกโลกอย่างถาวร
(๒) รองรับการขึ้นทะเบียนพื้นที่แก่งกระจานเป็นมรดกโลก
และให้ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เช่น
สร้างความเข้าใจร่วมกันกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเกี่ยวกับขอบเขตพื้นที่ที่ได้รับการปรับแก้ไขตามข้อตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
305 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (นายสุกิจ จันทร์ทอง) | ทส. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุกิจ จันทร์ทอง
ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
เนื่องจากผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างต่อไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
306 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 16 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม
ครั้งที่ ๑๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไหล
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
เข้าร่วมการประชุมฯ โดยการประชุมฯ ประกอบด้วย (๑)
การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๖
โดยไทยได้เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
และให้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลด้วย
(๒) การประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
ครั้งที่ ๑๖
เพื่อหารือสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน
และ (๓) การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๑๗
เพื่อหารือความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมกับจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
307 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายอิทธิพล คุณปลื้ม) ๒.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
308 | สรุปผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 16 (CMP 16) การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 3 (CMA 3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร | ทส. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบสรุปผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๖ (COP 26)
การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๑๖ (CMP 16)
การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 3 (CMA 3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรีในการประชุมระดับผู้นำ
(World Leaders Summit) ในห้วงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๖ และมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องเร่งจัดเตรียมการดำเนินงานตามภารกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประเทศด้านการลดก๊าซเรือนกระจกและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรีในการประชุมระดับผู้นำ
(World Leaders Summit)ในห้วงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๖ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
309 | ร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก
กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอนุมัติให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงฯ
เพื่อดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจออกไปจนถึงวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ การแก้ไขปรับปรุงขอบเขตความร่วมมือตามพัฒนาการดำเนินงานให้เป็นปัจจุบัน
และการปรับปรุงข้อมูลรายละเอียดผู้ประสานงานภายใต้บันทึกความเข้าใจของทั้งสองฝ่าย
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นว่าหากมีประเด็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในร่างข้อตกลงฯ
ให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ โดยให้ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และมีการหารือสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนและบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาโครงการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวจากการปรับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และให้พิจารณาเรื่องการประเมินปริมาณการใช้ทรัพยากรน้ำทั้งภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อตกลงการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก
กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
310 | ขอเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เทศบาลนครหาดใหญ่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เทศบาลนครหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา ๑ แห่ง ภายในกรอบวงเงิน ๑๔๖,๑๒๙,๖๓๔.๒๖ บาท
โดยให้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๙๘,๙๐๐,๐๐๐ บาท เงินกองทุนสิ่งแวดล้อม จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
และเงินนอกงบประมาณที่เทศบาลนครหาดใหญ่สมทบ จำนวน ๔๗,๑๒๙,๖๓๔.๒๖ บาท และอนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๕
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
311 | การนำเสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเอกสารบัญชีรายชื่อเบื้องต้น
พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นำเสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยพื้นที่ที่นำเสนอขึ้นทะเบียนประกอบด้วย
๖ พื้นที่อุทยาน และ ๑ พื้นที่ป่าชายเลน ครอบคลุมพื้นที่ ๓ จังหวัด ได้แก่
จังหวัดระนอง (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง (อุทยานแห่งชาติแหลมสน
และป่าชายเลนจังหวัดระนอง) จังหวัดพังงา (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง) และจังหวัดภูเก็ต
(อุทยานแห่งชาติสิรินาถ) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๕ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ
ๆ ไป ให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเตรียมแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติให้มีความจำเป็นและครบถ้วน
และให้ความสำคัญกับความร่วมมือในทุกภาคส่วน
และควรมีการติดตามเสนอแหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันของเมียนมาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ซึ่งหากมีอาจส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการดำเนินการของประเทศไทย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
312 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และ 2563 ในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 21 จังหวัด | ทส. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน
ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และ ๒๕๖๓ ในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล
๒๑ จังหวัด เพื่อนำที่ดินที่เป็นป่าชายเลนเนื้อที่รวม
๔,๑๐๕-๐-๐๔
ไร่ ไปดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) ที่เห็นว่าหากมีการดำเนินการใด
ๆ ในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ทะเล หรือบนชายหาดทะเล
ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนัยพระราชบัญญัติการเดินเรือน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖
และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
กำหนดให้ชุมชนที่ได้รับอนุญาตให้ทำกินในป่าชายเลนดังกล่าวมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มากขึ้นจากที่เป็นอยู่ด้วย
เพื่อให้การใช้ประโยชน์ป่าชายเลนเป็นไปอย่างยั่งยืน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และการคัดกรองคุณสมบัติของราษฎรว่าเป็นผู้ยากไร้หรือไม่มีพื้นที่ทำกิน
รวมถึงกำหนดให้มีมาตรการป้องกันและคุ้มครองการบุกรุกพื้นที่ป่า
และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลน
รวมทั้งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๕ ว่าด้วยที่จับสัตว์น้ำ
ควรให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรา ๖๒ ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้ผิดไปจากสภาพที่เป็นอยู่
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
313 | ร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่ บางส่วน ในท้องที่ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... | ทส. | 04/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่
บางส่วน ในท้องที่ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิกถอนพื้นที่บางส่วนของป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่
ในท้องที่ตำบลสีวิเชียร
อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ออกจากการเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
314 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 4 ในรูปแบบออนไลน์ | ทส. | 25/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท
สมัยที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๑-๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ในรูปแบบออนไลน์
โดยมีอธิบดีกรมควบคุมมลพิษเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน ๒.
เห็นชอบต่อกรอบเจรจา และท่าทีของประเทศไทย สำหรับการประชุมฯ มีสาระสำคัญ (๑)
สนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นไปตามหลักการของอนุสัญญาฯ
ในการปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากการปลดปล่อยปรอทและสารประกอบปรอทสู่บรรยากาศและสู่ดินหรือน้ำ
(๒)
คำนึงถึงความต้องการของประเทศกำลังพัฒนาในการจัดการสารเคมีผ่านการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง
ๆ และ (๓) คำนึงถึงขีดความสามารถของแต่ละประเทศในการดำเนินการตามอนุสัญญาฯ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
315 | การยกเลิกการเข้าใช้พื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 | ทส. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการยกเลิกการเข้าใช้พื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม
๒๕๕๐ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๙ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์)
พิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐
พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์กรณีส่วนราชการผู้เช่าพื้นที่มีจำนวนลดลง
เช่น การปรับปรุงสถานที่เพื่อใช้ประโยชน์อื่น ๆ
ทดแทนการเช่าพื้นที่ของส่วนราชการ
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ ที่เห็นควรมอบหมายให้กรมธนารักษ์เร่งหาหน่วยงานอื่นที่มีความต้องการใช้พื้นที่มาทดแทนหน่วยงานที่ขอยกเลิกการใช้และดำเนินการจัดสรรพื้นที่ศูนย์ราชการฯ
เพื่อให้การใช้ประโยชน์พื้นที่ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
และคุ้มค่าต่อการลงทุนของภาครัฐต่อไป ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
รวมทั้งให้พิจารณาความจำเป็นและเหมาะสมในการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑
ธันวาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง
กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขออนุมัติยกเลิกการเข้าใช้พื้นที่โครงการศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร
ถนนแจ้งวัฒนะ
และกระทรวงการคลังขอพระราชทานชื่อศูนย์ราชการที่ตั้งอยู่ในที่ราชพัสดุถนนแจ้งวัฒนะ
กรุงเทพมหานคร) ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
316 | การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 16 (CMP 16) การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 3 (CMA 3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบกรอบท่าทีเจรจาของไทยในการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการเจรจาสำหรับคณะผู้แทนของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๖ (COP 26) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต
สมัยที่ ๑๖ (CMP 16) การประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ ๓
(CMA 3) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๙ ตุลาคม-๑๒
พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และรับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีฯ
โดยกรอบท่าทีเจรจาฯ
มีสาระสำคัญครอบคลุมหลักการภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความตกลงปารีสที่ประเทศไทยให้ความสำคัญบนหลักการความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่าง
โดยคำนึงถึงขีดความสามารถของแต่ละประเทศ ที่คำนึงถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
การค้าและสังคม ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ส่วนองค์ประกอบคณะผู้แทนของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีฯ ประกอบด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
รวมทั้งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ทรงคุณวุฒิ
และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดให้มีการเผยแพร่ผลการประชุมต่อสาธารณะภายหลังจากการประชุมรัฐภาคีฯ
เสร็จสิ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
317 | (ร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศไทย (Thailand's Long-Term Low Greenhouse Gas Emission Development Strategy) | ทส. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบ
(ร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศไทย (Thailand’s Long-Term Low Greenhouse Gas Emission
Development Strategy) และเห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแงดล้อม
โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยประสานงานกลางของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
จัดส่ง (ร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวฯ
ต่อสำนักเลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดย
(ร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อเป็นกรอบดำเนินงานของประเทศไทยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยกำหนดเป้าหมายที่จะมีระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดในปี ค.ศ. ๒๐๓๐
มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero GHG emissions) โดยเร็วที่สุดภายในครึ่งหลังของศตวรรษนี้ และมีความพยายามในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
(carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. ๒๐๖๕ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน (ร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า
เพื่อให้การดำเนินงานภายใต้ (ร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวฯ เกิดประสิทธิผลสูงสุด
ควรมีการเสริมสร้างขีดความสามารถและความตระหนักรู้ให้กับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ
(ร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวฯ รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการเตรียมการและการกำหนดมาตรการเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว
นอกจากนี้ ประเทศพัฒนาแล้วกำลังพัฒนาส่วนใหญ่มุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี
ค.ศ. ๒๐๕๐ การที่ประเทศไทยกำหนดเป้าหมายไว้ในปี ค.ศ. ๒๐๖๕
อาจทำให้ได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบทางการค้าใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นก่อนปี ค.ศ. ๒๐๕๐
และอาจทำให้ประเทศไทยพัฒนาไม่ทันประเทศอื่น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
318 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายการชนิดพันธุ์ไม้หวงห้ามเพิ่มเติมอีก
๒ ชนิด ได้แก่ (๑) เพิ่มไม้กฤษณาเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไม้หวงห้ามธรรมดา และ (๒)
เพิ่มไม้เทียนทะเลเป็นไม้หวงห้ามประเภท ข. ไม้หวงห้ามพิเศษ
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ดังกล่าวที่ขึ้นตามธรรมชาติ และปกปักษ์รักษาไม้ดังกล่าวให้คงอยู่ต่อไป
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจข้อบังคับทางกฎหมาย
ตลอดจนให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถยกระดับการดูแลรักษาพันธุ์ไม้ทั้งสองชนิดให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
319 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (1. นายวิจารย์ สิมาฉายา ฯลฯ รวม 6 คน) | ทส. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รวม ๖ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายวิจารย์ สิมาฉายา ประธานกรรมการ ๒. นายสมชาย รังษีธนานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจ ๓. นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงาน ๔. นายสุธา ขาวเธียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕. นายขวัญชัย ดวงสถาพร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านป่าไม้ ๖ นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
320 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 | ทส. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ จำนวน ๑๒ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
สรุปได้ ดังนี้ ๑. ขอถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
(EIA) ได้แก่
โครงการทางรถไฟเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น ๔ ช่องทางจราจร
(ระยะที่ ) ๒ ทางหลวงหมายเลข ๑๒ ตอน อ.หล่มสัก-แยก อ.คอนสาร ของกรมทางหลวง ๒. ร่างรายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย
ปี ๒๕๖๓ ๓. โครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ๔. โครงการสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซแบบลอยน้ำ
(Floating Storage and
Regasification Unit : FSRU) พื้นที่อ่าวไทยตอนบนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ๕. โครงการท่าเทียบเรือ FSRU ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ๖. โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่สายทางเลี่ยงเมืองพนัสนิคม
ของกรมทางหลวง ๗. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกที่
อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ของกรมทางหลวง ๘. โครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทย
พื้นที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย ของกองบัญชาการกองทัพไทย ๙. โครงการจัดตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก
(ที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร) ของที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร ๑๐.
รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สำหรับโครงการกิจการหรือการดำเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ
คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง
โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ของกรมชลประทาน ๑๑.
การปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำทะเล ๑๒.
การปรับปรุงมาตรฐานการระบายค่าควันดำจากรถยนต์ใช้งานที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด
|