ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 49 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 961 - 980 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
961 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๑๗ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๑ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๖-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๕๔๐ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๑๒,๕๗๙ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๕ ๒. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสากิจ (การปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา) รัฐวิสาหกิจ ๒๒ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีรัฐวิสาหกิจยกเลิกนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาเพิ่มขึ้น ๑ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๖-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓) โดยมีรัฐวิสาหกิจ ๒๒ แห่ง มีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๐๐ น.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
962 | ขอเสนอชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ) | กค. | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง เนื่องจาก นายวิรไท สันติประภพ
จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
963 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 21/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ช่วงระหว่างวันที่ ๖-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๑๘ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง โดยมีรัฐวิสาหกิจ ๓๗ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๖ แห่งจากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๒๙ มิถุนายน-๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๔๖๖ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๓๑,๒๑๘ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๕ ๒. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (การปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา) รัฐวิสากิจ ๒๓ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีรัฐวิสาหกิจยกเลิกนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาเพิ่มขึ้น ๓ แห่งจากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๒๙ มิถุนายน-๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓) โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
964 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2562 | กค | 21/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญในรอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๒ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ประกอบด้วย ภาพรวมธุรกิจประกันภัยของไทยในรอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๒ ผลการดำเนินงานที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาลและภายใต้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓) การประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการและแผนการดำเนินงานปี ๒๕๖๒ ของสำนักงาน คปภ. และผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการด้านการประกันภัยกับสำนักงาน คปภ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในปี ๒๕๖๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
965 | ร่างกรอบความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการระดมทุนและการสร้างตลาดทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานไทย - สหรัฐอเมริกา | กค | 21/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
966 | รายงานผลสัมฤิทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๒๙ มิถุนายน-๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๒๔ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง โดยมีรัฐวิสาหกิจ ๓๑ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๑๕ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๕๕๘ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๑๘,๔๕๕ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๗ ๒. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสากิจ (การปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา) มีรัฐวิสาหกิจ ๒๖ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีรัฐวิสาหกิจยกเลิกนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาเพิ่มขึ้น ๖ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓) โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
967 | การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้า ในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon) | กค | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon) ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน (Concessional Loan) ทั้งจำนวน วงเงินกู้ จำนวน ๑,๔๕๘,๒๔๘,๐๐๐ บาท ๑.๒ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นรายปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ รวมระยะเวลา ๓ ปี รวมวงเงินที่จะขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณทั้งสิ้นเท่ากับ ๗๒๙,๑๒๔,๐๐๐ บาท ๑.๓ มอบหมายให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ดำเนินการกู้เงิน จำนวน ๗๒๙,๑๒๔,๐๐๐ ล้านบาท ตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด ๑.๔ กรณีเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ ขอให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ตามจำนวนที่ชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย เพื่อชำระคืนแหล่งเงินกู้ไปก่อน และเมื่อสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) สามารถเรียกเก็บหนี้ได้จะนำเงินดังกล่าวส่งคืนคลังต่อไป ๒. ในส่วนของภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ และปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) พิจารณานำเงินสะสมเหลือจ่ายจากการดำเนินโครงการอื่นมาดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้รวมถึงกรณีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
968 | การขอขยายระยะเวลาการชำระค่าเช่า ค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่า และลงนามในสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ราย กิจการร่วมค้า ไอซีบีแอนด์จี ตาก อินดัสเทรียล พาร์ก | กค | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขอขยายระยะเวลาการชำระค่าเช่า ค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่า (ผลประโยชน์ตอบแทนการเช่า) และลงนามในสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ราย กิจการร่วมค้า ไอซีบีแอนด์จี ตาก อินดัสเทรียล พาร์ก ออกไปอีก ๓๐ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด ๒. หากส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐจะเสนอเรื่องเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษในกรณีไม่เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ให้รอนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเมื่อร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ มีผลใช้บังคับต่อไป ๓. เพื่อให้การช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในภาพรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั่วถึงและเป็นธรรม ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดจัดทำหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนและการบริหารสัญญาระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐในการดำเนินโครงการ/กิจการต่าง ๆ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๓ [เรื่อง หลักเกณฑ์การบริหารสัญญาระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)] ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
969 | หนังสือข้อตกลงรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากธนาคารโลก สำหรับโครงการลดและเลิกใช้สารไฮโดรคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน ระยะที่ 2 (HCFC Phase Out Project Stage 2) | กค | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
970 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธำรงค์ ทองตัน) | กค | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธำรงค์ ทองตัน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
971 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกิจประกันชีวิตในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียบสำหรับธุรกิจประกันวินาศภัยในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) พ.ศ .... รวม 2 ฉบับ | กค | 08/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอขอเลื่อนการพิจารณาร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกิจประกันชีวิตในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกิจประกันวินาศภัยในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) พ.ศ .... รวม ๒ ฉบับ ไปในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
972 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 08/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ช่วงระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๓๙ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง โดยมีรัฐวิสาหกิจ ๑๖ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๒ แห่งจากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑๕-๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๕๔๐ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๓๑,๐๓๒ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๑ ๒. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (การปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา) รัฐวิสากิจ ๓๒ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีรัฐวิสาหกิจยกเลิกนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาเพิ่มขึ้น ๑ แห่งจากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๓) โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
973 | การปรับปรุงกฎกระทรวงเกี่ยวกับการอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ รวม 3 ฉบับ | กค | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นนายหน้าระหว่างผู้ค้าหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่ให้บริการเป็นตัวกลางด้านหน่วยลงทุน เพื่อให้สามารถบริการภายใต้การจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวม (บลจ.) บริษัทหนึ่งบริษัทใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจัดการโดย บลจ. หลายบริษัท และแก้ไขเพิ่มเติมการกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทที่รัฐมนตรีกำหนดเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
974 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๑๕-๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๔๑ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง และมีรัฐวิสาหกิจ ๑๔ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๔ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๘-๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๕๔๘ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๓๒,๑๖๒ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๒ ๒. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสากิจ มีรัฐวิสาหกิจ ๓๓ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา และมีรัฐวิสาหกิจยกเลิกนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาเพิ่มขึ้น ๑ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๘-๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๓) โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
975 | การปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ๔ แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จากเดิมอัตราร้อยละ ๐.๒๕ ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน เป็นอัตราร้อยละ ๐.๑๒๕ ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน เป็นระยะเวลา ๒ ปี สำหรับการนำส่งเงินในปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจควรบริหารสภาพคล่องอันเนื่องมาจากการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยเป็นไปเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือดำเนินการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเตรียมรองรับมาตรการของรัฐที่อาจมีเพิ่มเติมในระยะถัดไป และกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจควรดำเนินการตามขั้นตอนและข้อกำหนด รวมถึงบริหารผลกระทบที่มีต่อสภาพคล่องของกองทุน เพื่อมิให้กระทบต่อหน้าที่ในการพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะ ให้มั่นคง ยั่งยืน และมีเสถียรภาพ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
976 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) | กค | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
977 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑๒) เกี่ยวกับการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันว่ามีบทบัญญัติของกฎหมายใดที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังในการออกระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายในลักษณะเดียวกันกับมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ หรือไม่ อย่างไร ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้อำนาจในการออกระเบียบในลักษณะดังกล่าวได้ จึงสมควรพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีอำนาจกระทำได้ ไปพิจารณาต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
978 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ) | กค | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บุคคลธรรมดา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรให้แก่มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัติยราชนารี ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน สำหรับใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังของประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว นอกจากนี้ ตามประกาศของกระทรวงการคลังกำหนดให้นำรายจ่ายบริจาคให้องค์กรสาธารณกุศลอื่น ๆ ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร มาหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้เท่าที่บริจาคจริง แต่ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
979 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๘-๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๔๕ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง และมีรัฐวิสาหกิจ ๑๐ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๑ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑-๕ มิถุนายน ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๔๙๐ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๔๐,๖๖๖ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๕ ๑.๒ การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ มีรัฐวิสาหกิจ ๓๔ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น. เท่ากับสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑-๕ มิถุนายน ๒๕๖๓) ๒. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๙ มิถุนายน ๒๕๖๓) ให้ทุกรัฐวิสาหกิจพิจารณาแนวทางการดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและลักษณะงานขององค์กร รวมทั้งให้นำมาตรการเหลื่อมเวลาในการปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งไปดำเนินการให้เกิดผลอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาการคับคั่งของการจราจรด้วย นั้น ให้ทุกรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการพิจารณากำหนดแนวทางการเหลื่อมเวลาการทำงานของหน่วยงานให้สอดคล้องกับการเหลื่อมเวลาของสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีกำหนดการเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
980 | ผลการดำเนินงานโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน : มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 | กค | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบสถานะการดำเนินโครงการ และการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ ๒ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ๑.๒ ให้กระทรวงต้นสังกัดเร่งรัดและติดตามผลการดำเนินโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จที่ประสงค์จะดำเนินการต่อโดยใช้เงินจากแหล่งอื่นดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์และเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว รวมทั้งกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินงานตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการอย่างเคร่งครัด และขอให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานความก้าวหน้าของงาน แผนการใช้จ่ายเงิน และผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจากแหล่งอื่นให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) ทราบภายในวันที่ ๗ ของเดือนถัดไปจนกว่าจะดำเนินโครงการแล้วเสร็จ ๑.๓ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการส่งคืนเงินคงเหลือจากการดำเนินโครงการในกรณีเบิกเงินจากคลังไปแล้ว แต่ไม่ได้จ่าย หรือจ่ายไม่หมด หรือได้รับคืน เข้าบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง ชื่อบัญชี “เงินฝากเงินกู้สำหรับโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน” ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ พร้อมแนบเอกสารหลักฐานการส่งคืนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) ด้วย เพื่อให้กระทรวงการคลังนำเงินที่เหลือในบัญชีส่งคืนคลังและดำเนินการปิดบัญชีดังกล่าวตามระเบียบต่อไป ทั้งนี้ หน่วยงานเจ้าของโครงการไม่สามารถส่งคืนเงินคงเหลือภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการนำเงินนั้นส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินเองตามระเบียบการนำเงินส่งคลังที่เกี่ยวข้อง และรายงานกระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) ทราบต่อไป ๑.๔ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งดำเนินการส่งคืนกรอบวงเงินเหลือจ่ายจากการจัดสรรไปที่สำนักงบประมาณ และแจ้งผลการส่งคืนเงินเหลือจ่ายที่เสร็จสิ้นแล้วให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) ทราบภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ด้วย ๑.๕ ให้กรมทรัพยากรน้ำที่มีโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการยกเลิกโครงการและยกเลิกการใช้เงินกู้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการพัสดุ รวมถึงกฎหมายและระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดโดยเร็ว และเสนอขอความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีต้นสังกัดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีขออนุมัติยกเลิกโครงการและยกเลิกการใช้เงินกู้ต่อไป ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเงินคงเหลือของโครงการ ขอให้ส่งคืนเข้าบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๘ ข้อ ๒๐ ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ พร้อมแนบเอกสารหลักฐานการส่งคืนเงินนั้นให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) ทราบด้วย และหากไม่สามารถส่งคืนเงินคงเหลือภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้กรมทรัพยากรน้ำนำเงินนั้นส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินเองตามระเบียบการนำเงินส่งคลังที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติที่เห็นควร (๑) ให้กระทรวงเจ้าสังกัดของหน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งรัดดำเนินโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเคร่งครัด (๒) มีการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์โครงการของหน่วยงานที่ดำเนินการภายใต้โครงการเงินกู้ฯ และ (๓) โครงการที่ดำเนินการและเบิกจ่ายไม่ทันวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ และประสงค์จะดำเนินการต่อโดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จากโครงการ/รายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว และมีงบประมาณเหลือจ่าย และ/หรือหมดความจำเป็น ไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป โดยให้รายงานความก้าวหน้าของงาน แผนการใช้จ่ายเงิน และผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ทราบตามขั้นตอนจนกว่าโครงการจะดำเนินการแล้วเสร็จ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
.....