ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 218 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 4341 - 4360 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 4341 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. .... | กค | 01/11/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการเบิกเงินเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนด หลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ และส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับร่าง ข้อ 5 ที่ให้หัวหน้าส่วนราชการใช้ดุลพินิจในการเบิกจ่ายได้แต่มิได้ระบุหลักเกณฑ์ในการใช้ดุลพินิจดังกล่าว ทำ ให้ขาดกลไกในการตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่า ใช้จ่ายของรัฐโดยรวม และข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการประกันภัยทรัพย์ สินและค่าเช่ารถยนต์ของทางราชการในร่างข้อ 6 และร่างข้อ 7 ซึ่งกำหนดให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่ เกี่ยวข้องนั้น ควรกำหนดสาระโดยย่อของมติคณะรัฐมนตรีไว้ในระเบียบหรือจัดทำคู่มืออ้างอิงมติคณะรัฐมนตรี เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ปฏิบัติงาน สำหรับการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายตามร่างข้อ 8.4 ควรกำหนดให้ดำเนินการ ให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาตามคำบังคับของศาล มิใช่กำหนดให้ดำเนินการภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับ แจ้งคำชี้ขาดหรือคำพิพากษา ประกอบกับการกำหนดว่า หากส่วนราชการดำเนินการไม่แล้วเสร็จจะต้องสอบ หาผู้รับผิดทางละเมิด ไม่สอดคล้องกับทางปฏิบัติ เนื่องจากในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาอาจจะมีการยืด หยุ่นด้วยข้อตกลงของคู่กรณี หรือคู่ความที่จะมีการชำระล่าช้าไปบ้าง ซึ่งข้อเท็จจริงจะไม่เกิดความเสียหายแก่ ราชการ จึงไม่สมควรกำหนดหลักเกณฑ์นี้ไว้ เพราะจะเป็นการสร้างขั้นตอนที่ไม่จำเป็น รวมทั้งร่างข้อ 8.1 ที่ กำหนดให้การเบิกค่าธรรมเนียมความ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก และค่าพาหนะของ พยานในคดีแพ่ง คดีปกครอง และการบังคับคดี ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดแจ้ง นั้น เนื่องจากข้อเท็จจริงในปัจจุบันสำนักงานบังคับคดีปกครอง หรือกรมบังคับคดี แล้วแต่กรณี เป็นผู้เรียกค่า ใช้จ่ายดังกล่าว ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วยว่า เมื่อกระทรวงการคลังได้ผ่อนคลายการควบคุมการเบิกจ่ายตาม ร่างระเบียบนี้แล้ว ควรจะจัดให้มีระบบฐานข้อมูลการเบิกจ่ายเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้บริหารและผู้ ปฏิบัติของส่วนราชการสามารถตรวจสอบ เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับส่วนราชการต่าง ๆ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น เพื่อที่จะสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม และเป็นมาตรฐานเดียวกันอันจะทำให้การใช้จ่ายในภาพ รวมเป็นไปโดยประหยัดและมีประสิทธิภาพ |
|||||||||||||||||||||
| 4342 | รายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) | กค | 01/11/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลความคืบหน้าการดำเนิน
โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega project) และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับ ความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยในส่วนของความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรีเห็นว่า ในการจัดสรรวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 ให้แก่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งยังขาดอยู่อีก 41,213 ล้านบาท ให้กระทรวงเจ้าของ โครงการที่มีความต้องการที่จะใช้งบประมาณเพิ่มเติม แจ้งไปยังคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการลง ทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้สำนักงบประมาณเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดย เร็ว สำหรับแผนการลงทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2552 ที่เห็นควรให้มีการกระจายการลงทุนบางส่วน ออกไปหลังปี พ.ศ. 2552 นั้น ให้นำเอาวิธีการค้าแบบแลกเปลี่ยน (Barter Trade) มาใช้ในการดำเนินโครง การต่าง ๆ ในแต่ละสาขา เช่น สาขาขนส่งมวลชน เป็นต้น โดยหากในการดำเนินการโครงการใดจำเป็นต้องใช้ เงินงบประมาณมาจัดซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อการจัดทำวิธีการค้าแบบแลกเปลี่ยนต่อไป ให้นำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ มาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของโครงการที่เกี่ยวข้องด้วย กับให้หน่วยงานเจ้าของโครงการติด ตามตรวจสอบหาสาเหตุของความล่าช้าของแผนการดำเนินการตามโครงการ ฯ และปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น แล้วเร่งแก้ไขโดยเร็ว หากปัญหาอุปสรรคดังกล่าวเกิดจากกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของทางราชการ ให้หน่วยงาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับไปประสานกันเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงโดยเร่งด่วน ส่วนการดำเนินโครงการใดที่มี ความยุ่งยาก และจำเป็นจะต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษในการบริหารจัดการโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จได้ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล กระทรวงหรือหน่วยงานเจ้าของโครงการควรพิจารณาจ้างที่ปรึกษาที่มี ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับเข้ามาช่วยในการดำเนินงานตามความจำเป็นเหมาะสม นอก จากนี้ ยังเห็นว่า ความล่าช้าของการดำเนินงานในสาขาที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาการเช่าที่ดินจาก ทางราชการ เช่น ที่ราชพัสดุที่ปกติจะกำหนดให้เช่าได้ไม่เกินระยะเวลา 3 ปี แต่ในข้อเท็จจริงการจัดสร้างที่อยู่ อาศัยให้ประชาชนผ่อนชำระควรมีระยะเวลาในการเช่าที่ดินนานพอที่สถาบันการเงินจะให้สินเชื่อได้ จึงขอให้ กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาแก้ไข โดยควรกำหนดระยะเวลาเช่าได้ไม่น้อยกว่า 30 ปี |
|||||||||||||||||||||
| 4343 | โครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV ในรถยนต์ราชการ | กค | 01/11/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมการใช้ NGV ในรถยนต์ราชการ ตามที่กระทรวงการ
คลังเสนอ โดยอนุมัติเป็นหลักการให้ทุกส่วนราชการที่นำรถยนต์ราชการเข้าร่วม "โครงการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ให้แก่รถยนต์ของส่วนราชการ" ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณในการผ่อนชำระคืนค่าติดตั้งอุปกรณ์ NGV ให้แก่กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับแนวทางและระยะเวลาการผ่อนชำระคืนเงินค่า ติดตั้งอุปกรณ์ ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) รับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผน พลังงาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ โดยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดทำแผนการชำระคืนค่าติดตั้งอุปกรณ์ NGV ให้ แก่กองทุน ฯ ควรกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน และให้ส่วนราชการที่นำรถยนต์ราชการเข้าร่วมโครงการ รายงานผลการใช้เชื้อเพลิงก่อนและหลังการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อใช้เป็นข้อมูล ประกอบการกำหนดนโยบายด้านพลังงานของประเทศในภาพรวมต่อไป รวมทั้งความเห็นของสำนักงบ ประมาณที่เสนอให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจสามารถติดตั้งอุปกรณ์ NGV โดยได้รับการยกเว้นการจ่าย เงินคืนกองทุน ฯ ในปีแรก สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ ให้กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและ แผนพลังงาน เป็นเจ้าภาพหลัก แทนส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในการเสนอขอตั้งงบประมาณเป็นเงิน อุดหนุนชดเชยเงินกองทุน ฯ เพื่อผูกพันงบประมาณโดยรวมไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการ ต่อไป และให้กระทรวงการคลังแจ้งแนวทางปฏิบัติดังกล่าวให้ทุกส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ทราบและสามารถถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 4344 | ขออนุมัติยุบเลิกทุนหมุนเวียน | กค | 01/11/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอขอยุบเลิกกองทุนเพื่อกระจายการผลิต
และการจ้างงานไปสู่ภูมิภาค และให้สำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิ ภาค กระทรวงมหาดไทย และกรมบัญชีกลาง เบิกจ่ายเงินกองทุน ฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เท่า ที่จ่ายจริงจนถึงวันยุบเลิกกองทุน ฯ
|
|||||||||||||||||||||
| 4345 | ร่างกฎกระทรวงตามแผนพัฒนากฎหมายของกรมสรรพสามิต รวม 7 ฉบับ | กค | 01/11/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงคลังเสนอร่างกฎกระทรวงตามแผนพัฒนากฎหมาย
ของกรมสรรพสามิต รวม 7 ฉบับ ดังนี้ ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการกำหนดลักษณะแสตมป์และเครื่องหมาย แสดงการเสียภาษี พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามความในพระราชบัญญัติ สุรา พ.ศ. 2493 พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดสุรา อัตราภาษีสุรา และอัตราค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตาม ความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตาม ความในพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยค่าธรรมเนียมและค่าแสตมป์ยาสูบ ตามความในพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามความในพระราชบัญญัติไพ่ พุทธศักราช 2486 พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการกำหนดค่าธรรม เนียม การประทับตราไพ่ ตามความในพระราชบัญญัติไพ่ พุทธศักราช 2486 พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ปรับปรุงอัตราภาษีและอัตราค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ถูกต้องและเป็น ปัจจุบัน รวมทั้งให้นำร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการ ตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามารวมพิจารณาด้วย พร้อมทั้งรับข้อสังเกตของสำนักเลขา ธิการคณะรัฐมนตรีกรณีร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการกำหนดลักษณะแสตมป์และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี พ.ศ. .... ได้ระบุบทอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 และพระราชบัญญัติภาษีสรรพ สามิต พ.ศ. 2527 ที่ให้ออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับลักษณะแสตมป์สรรพสามิตและสุราโดยได้กำหนดให้ยกเลิก กฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว รวม 50 ฉบับ แล้วให้นำข้อกำหนดในกฎ กระทรวงทั้ง 50 ฉบับ มากำหนดไว้ในร่างกฎกระทรวงนี้เพียงฉบับเดียว ควรพิจารณาว่าจะสามารถกระทำได้ หรือไม่ ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 4346 | การเจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย - สาธารณรัฐเกาหลี (ฉบับแก้ไข) | กค | 25/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน
ไทย-สาธารณรัฐเกาหลี (ฉบับแก้ไข) และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปดำเนินการทางการทูต และตามแบบพิธีของกฎหมายภายในเพื่อให้อนุสัญญา ฯ มีผลบังคับใช้ต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 4347 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 25/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณี ฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 ดังนี้ ให้ส่วนราชการขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติ ตามข้อกำหนดในระเบียบ ฯ ได้ ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุญาตให้ ส่วนราชการมีวงเงินทดรองราชการ และขยายวงเงินได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ ฉุกเฉินรุนแรง ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเบิกเงินทดรองราชการ เพื่อเตรียมเงินสดไว้สำรองจ่ายในกรณี ที่คาดว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นและมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินในวันหยุดราชการเพื่อสามารถให้ความช่วย เหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ รวมทั้งให้ส่วนราชการส่วนกลางสามารถโอนเงินทด รองราชการให้แก่ที่ทำการปกครองจังหวัดได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอการขอรับการสนับสนุนจากจังหวัดก่อน ตามวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติ ที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณกรณีที่กำหนดให้รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังมีอำนาจให้ส่วนราชการเบิกจ่ายเงินทดรองราชการ โดยไม่มีการกำหนดวงเงินที่แน่ นอน ควรจะมีมาตรการอื่น ๆ สนับสนุนด้วย เช่น การประกาศเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยความเห็นชอบ ของนายกรัฐมนตรี หรือเสนอขอรับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เป็นต้น ไป พิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
| 4348 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 4 ราย) | กค | 25/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคาร
เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต รอง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรี แทน นายธวัช คงเดชา นายรังสรรค์ ศรี วรศาสตร์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลัง แทน นางสาวสุธีพร ดวงโต นาย อนันต์ ภู่สิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นกรรมการผู้แทนสำนักงานการ ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แทน นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ และนายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล เป็นกรรมการอื่น ในคณะกรรมการ ธ.ก.ส. แทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (25 ตุลาคม 2548) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||
| 4349 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนสิงหาคม 2548 | กค | 18/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2548 โดยผลการเบิกจ่าย เงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศ ในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำแนกตามลักษณะเศรษฐ กิจ (ประจำ/ลงทุน) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 1,008,316 ล้านบาท หรือร้อย ละ 84.03 ของวงเงินงบประมาณ (1,200,000 ล้านบาท) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 820,590 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.10 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (900,754 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน 187,726 ล้านบาท หรือร้อยละ 62.73 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (299,246 ล้านบาท) สำหรับงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพิ่มเติมจำนวน 50,000 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 9,402 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.80 ของวงเงินงบประมาณ 50,000 ล้าบาท จำแนกเป็นรายการค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ จำนวน 402 ล้านบาท และรายการค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านหรือชุมชน จำนวน 9,000 ล้านบาท ส่วนผลการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งมี หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 20 แห่ง วงเงินประมาณ 218,927 ล้านบาท นั้น ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2548 หน่วยงานในกลุ่มนี้มีการ เบิกจ่ายรายจ่ายลงทุน 154,046 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 70.36 ของวงเงินงประมาณรายจ่ายลงทุน
|
|||||||||||||||||||||
| 4350 | ร่างพระราชบัญญัติไพ่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 18/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติไพ่ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... โดยสาระสำคัญคือ ยกเลิกความในมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติไพ่ พุทธศักราช 2486 ซึ่งเป็นบท บัญญัติให้อำนาจในการตรวจค้นเคหสถานแก่เจ้าหน้าที่ไว้อย่างกว้างขวางกินสมควร ร่างพระราชบัญญัติยา สูบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ (1) เพิ่มบทนิยามคำว่า "ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ" (2) แก้ไขเพิ่มเติมหลักการในการประกาศมูลค่ายาเส้น หรือยาสูบ เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี ทั้ง กรณียาเส้น หรือยาสูบที่ทำในราชอาณาจักรและยาเส้น หรือยาสูบที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร และ (3) แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจในการประกาศราคาขายยาสูบให้สามารถประกาศราคาขั้นต่ำ และราคาขั้นสูงได้ และ ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ (1) เพิ่มบทนิยามคำว่า "ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม" และ (2) แก้ไขเพิ่มเติมหลักการในการประกาศมูลค่าสินค้า เพื่อถือเป็น เกณฑ์ในการคำนวณภาษี ทั้งในกรณีสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร และสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน ราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 4351 | รายงานสรุปความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการ CFO | กค | 18/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปความคืบหน้าการดำเนินงานการปรับ
บทบาทและภารกิจคลังจังหวัดเป็นนักบริหารเศรษฐกิจการคลังจังหวัด (Chief Financial Officer : CFO) สรุปได้ ว่า คลังจังหวัดมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่นักบริหารเศรษฐกิจการคลังจังหวัด (CFO) เพื่อสนับสนุนการ ดำเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยได้วิเคราะห์ เสนอแนะ และให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดในด้าน การคลัง ด้านงบประมาณ ด้านเศรษฐกิจ ด้านบัญชี ตลอดจนประสานงานหน่วยงาน และธนาคารในสังกัด กระทรวงการคลัง เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนในจังหวัด รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาและฝึกอบรมหน่วยงาน ภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในเรื่องบัญชี ตรวจสอบภายใน กฎหมายและระเบียบการเงิน การคลัง และการพัสดุ นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์ข้อมูลด้านการเงิน การคลัง การบัญชี เศรษฐกิจ และหนี้สินภาค ประชาชนในจังหวัด ทั้งนี้ ให้หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน และผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความร่วมมือใน การดำเนินงานและสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น ข้อมูลด้านการเงิน การคลัง การบัญชี เศรษฐกิจ และ หนี้สินภาคประชาชนในจังหวัด เป็นต้น ให้กับคลังจังหวัดในฐานะนักบริหารเศรษฐกิจการคลังจังหวัด (CFO) เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 4352 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามความในพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 พ.ศ. .... | กค | 18/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไข ตามความในพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ยกเลิกกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน รวม 21 ฉบับ และนำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงดังกล่าวมารวบรวมและจัด หมวดหมู่ไว้ในฉบับเดียวกัน ยกเว้นกฎกระทรวง ฉบับที่ 34 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ว่าด้วยบริการที่ผู้ประกอบกิจการสถานบริการมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษี ที่ กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการประเภทสนามแข่งม้า และสนามกอล์ฟ มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษี สำหรับบริการในสถานบริการดังกล่าว กระทรวงการคลังได้ยกเลิกไป โดยไม่นำมากำหนดไว้ในร่างกฎ กระทรวงนี้อีก เนื่องจากมีการขอยกเว้นภาษีโดยใช้สิทธิในการบริจาคให้แก่องค์การสาธารณกุศลจำนวน มาก และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 4353 | สัญญาความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศไทย - สาธารณรัฐเกาหลี | กค | 18/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างสัญญาความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลก
เปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี ฉบับใหม่ โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงิน กู้ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้จัดทำความเห็นทางกฎหมายประกอบสัญญา BSA เมื่อมีการกู้ ยืมจริง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในร่างสัญญา BSA ดังกล่าวโดยไม่มีนัยสำคัญให้กระทรวงการคลังสามารถ ดำเนินการได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และมอบหมายให้ผู้ว่าการธนาคาร แห่งประเทศไทยหรือผู้แทนลงนามในสัญญาความตกลง ฯ ดังกล่าว แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
| 4354 | มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน | กค | 18/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน
เพื่อบรรเทาภาระหนี้แก่ลูกหนี้ในสถาบันการเงินที่กำลังเดือดร้อนและยังมิได้รับความช่วยเหลือ ดังนี้ ในกรณี ลูกหนี้สามารถชำระหนี้แก่สถาบันการเงินเจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ 50 ของยอดเงินต้นคงค้างได้ครบถ้วนภาย ในวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ให้ลูกหนี้ที่มีความประสงค์ตามมาตรการนี้ติดต่อสถาบันการเงิน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2548 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 โดยให้ลูกหนี้ชำระหนี้ในอัตราร้อยละ 50 ของเงินต้นแก่ สถาบันการเงินเจ้าหนี้เพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2549 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ลูกหนี้จะได้ รับยกเว้นภาระหนี้เงินต้นที่เหลือและดอกเบี้ยค้างรับทั้งจำนวน เมื่อลูกหนี้ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาปรับ โครงสร้างหนี้ครบถ้วนแล้ว หากลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ สัญญาปรับ โครงสร้างหนี้ดังกล่าวเป็นอันเลิกไป โดยภาระหนี้ทั้งหมดย้อนกลับไปยังมูลหนี้เดิมก่อนการปรับโครงสร้าง หนี้ กรณีลูกหนี้มีความสามารถในการชำระหนี้แก่สถาบันการเงินเจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ 50 ของยอดเงินต้น คงค้างเกินกว่าวันที่ 30 มิถุนายน 2549 แต่ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ให้ลูกหนี้ที่มีความประสงค์ตาม มาตรการนี้ติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2548 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2549 โดย ให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ โดยความยินยอมของลูกหนี้จัดส่งแบบฟอร์มข้อมูลลูกหนี้ ตามที่ธนาคารออมสิน กำหนดให้แก่ธนาคารออมสินภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 ธนาคารออมสินจะดำเนินการตรวจสอบข้อ เท็จจริงของลูกหนี้แต่ละราย โดยจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเฉพาะกรณีที่ลูกหนี้มีความสามารถในการชำระหนี้ อย่างแท้จริง และข้อมูลลูกหนี้ถูกต้องโดยจะแจ้งผลการพิจารณาแก่ลูกหนี้และสถาบันการเงินเจ้าหนี้ ภายใน วันที่ 31 พฤษภาคม 2549 หากลูกหนี้ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว ธนาคารออมสินจะอำนวยสินเชื่อเป็นจำนวน ร้อยละ 50 ของมูลค่าเงินต้นคงค้างที่มีต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้แก่ลูกหนี้เพื่อดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ต่อไป และสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจะมีเงื่อนไขให้ลูกหนี้ในอัตราร้อยละ 50 ของเงินต้นเพียงครั้งเดียว ลูกหนี้จะได้รับยกเว้นภาระหนี้เงินต้นที่เหลือและดอกเบี้ยค้างรับทั้งจำนวน เมื่อลูกหนี้ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ลูกหนี้จะต้องผ่อนชำระสินเชื่อใหม่ให้ครบถ้วน แก่ธนาคารออมสินตามระยะเวลาการกู้ที่จะตกลงกัน ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2552 โดยมีอัตราดอก เบี้ยตามที่ธนาคารออมสินกำหนด และให้ประสานขอความร่วมมือสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการ ฯ ดังกล่าว ให้ประชาชนทราบอย่างถูกต้อง โดยทั่วกัน
|
|||||||||||||||||||||
| 4355 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ) | กค | 11/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ลดระยะเวลาการถือหุ้นในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมลง และยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลให้แก่บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยสำหรับเงินปันผลซึ่งได้รับจากการ ถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ รวมทั้งยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโรงงานพร้อมที่ดิน และได้ย้ายสถานประกอบ การเข้าไปอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ภายในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553 และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 4356 | รายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2548 | กค | 11/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริม
ทรัพย์ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2548 โดยได้มอบหมายให้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จัดทำดัชนีชี้วัดที่อยู่อาศัย 7 ตัว สามารถจัดได้ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ดัชนีด้านอุปทาน ด้านอุปสงค์ การตลาด และด้านสินเชื่อ ในส่วนของงาน ที่ดำเนินการเสร็จแล้ว ดัชนีด้านอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ได้แก่ ที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาต จัดสรรที่ดิน ที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง และที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียน รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ อีก 5 ประเภท ได้แก่ อาคารสำนักงาน โรงแรม นิคมอุตสาหกรรม สนามกอล์ฟครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และ 11 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ดัชนีด้านอุปสงค์ของอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย โรงแรม นิคมอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั่วประเทศ ดัชนีการตลาด ได้แก่ ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยของประเภทที่อยู่อาศัยใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยใช้ข้อมูลราคาประเมินที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นโครงการ นำร่อง ก่อนขยายให้ครอบคลุมข้อมูลราคาประเมินของธนาคารพาณิชย์ต่อไป และดัชนีด้านสินเชื่อ ได้แก่ สินเชื่อ ผู้ประกอบการ สินเชื่อรายย่อยและหุ้นกู้ ของอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นอก จากนี้ยังมีงานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติม ได้แก่ โครงการจัดงานส่งเสริมการตลาดเรื่องบ้านมือสอง โครงการฐาน ข้อมูลบ้านมือสองแห่งชาติ คาดว่า จะแล้วเสร็จปลายปี 2548 โครงการสำรวจพฤติกรรมและความต้องการซื้อที่ อยู่อาศัย คาดว่า จะแล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2548 โครงการสำรวจการเปลี่ยนแปลงอาคารขนาดใหญ่ที่ยุติ การก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานคร คาดว่า จะแล้วเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2549 และโครงการรับส่งข้อมูลการ ขออนุญาตก่อสร้าง ต่อเติม ดัดแปลง รื้อถอนอาคารทั่วประเทศ แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ เทศบาล 62 แห่ง และองค์ การบริหารส่วนตำบล 253 แห่ง ในปริมณฑลภายในเดือนธันวาคม 2548 และเทศบาล 980 แห่ง และองค์ การบริหารส่วนตำบล 6744 แห่ง ทั่วประเทศที่เหลือภายในเดือนธันวาคม 2549
|
|||||||||||||||||||||
| 4357 | รายงานการสอบบัญชีของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการประจำปี 2547 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก | กค | 11/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการสอบบัญชีของกองทุนบำเหน็จ
บำนาญข้าราชการประจำปี 2547 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี 2548 เมื่อ วันที่ 27 มิถุนายน 2548 โดยในส่วนของรายงานการสอบบัญชีปี 2547 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นได้ ตรวจสอบและรับรองโดยไม่มีเงื่อนไขว่า "งบการเงินของ กบข. แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 และ 2546 ผลการดำเนินงาน การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิและกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวัน เดียวกันของแต่ละปีของ กบข. โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป" และที่ประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ฯ ได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงาน โดยให้ กบข. จัดสวัสดิการให้สมาชิกเพิ่มขึ้น การประชาสัมพันธ์ควรเป็นไปอย่างทั่วถึงโดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เกิด ขึ้นและควรปรับปรุงรูปแบบการจัดประชุมใหญ่
|
|||||||||||||||||||||
| 4358 | ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2518 พ.ศ. .... | กค | 04/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอให้กระทรวงการคลังถอน
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตาม งบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2518 พ.ศ. .... ออกจากแผนพัฒนากฎหมายของกระทรวงการคลัง และให้ ถอนออกจากแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติ รวมทั้งแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการใน ส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 4359 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2549 | กค | 04/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรม
การนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอดังนี้ (1) แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 ประกอบด้วย 6 แผนย่อย ได้แก่ การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบ ประมาณ วงเงิน 180,000 ล้านบาท การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้ FIDF วงเงิน 215,000 ล้านบาท การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน การ บริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ วงเงิน 136,653.24 ล้านบาท การกู้เงินตามแผนการ ก่อหนี้จากต่างประเทศ วงเงิน 29,300.63 ล้านบาท การบริหารหนี้ต่างประเทศ วงเงิน 235,745.22 ล้านบาท (2) การกู้เงินในประเทศของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจภายใต้กรอบวงเงินการบริหารและจัดการ เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ภายในวงเงินไม่เกิน 180,000 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน และจัด การเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ภายในวงเงินไม่เกิน 50,000 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อชดใช้ควาเมสียหายให้กับกองทุนเพื่อการ ฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง ฯ ระยะที่สอง พ.ศ. 2549 ภายในวงเงินไม่เกิน 125,000 ล้านบาท การกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศของรัฐ วิสาหกิจตามแผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ รวม 136,653.24 ล้านบาท (3) การกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้จากต่างประเทศของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจภายใต้กรอบวงเงิน ประกอบ ด้วย การกู้เงินตามแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ภายในวงเงินเทียบ เท่าไม่เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การกู้เงินตามแผนการบริหารหนี้ต่างประเทศเฉพาะในส่วนที่จะทำ Refinance วงเงินรวม 94,296.18 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้ เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและ จำเป็นภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และรายงานให้คณะรัฐมนตรี ทราบเป็นระยะ ๆ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบ หมายเป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงิน หรือการค้ำประกันเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้คณะกรรม การนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะพิจารณาปรับปรุง แก้ไข และทบทวนแผนการบริหารหนี้ สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2549 เป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสมและจำเป็น
|
|||||||||||||||||||||
| 4360 | แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช) | กค | 04/10/2548 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้แต่งตั้งนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็น
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะ รัฐมนตรีมีมติ (30 กันยายน 2548) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการ เสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 |
|||||||||||||||||||||
.....
