ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 211 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 4201 - 4220 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 4201 | การจำหน่ายหลักทรัพย์เพื่อนำไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) | กค | 08/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการจำหน่ายหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ที่กระทรวงการคลังถืออยู่บางส่วนให้แก่ธนาคารออมสิน เพื่อให้ได้เงินค่าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ในวงเงินงบประมาณ 3,015 ล้านบาท โดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และให้ ภาครัฐ (กระทรวงการคลัง และรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของทั้งหมด) ถือครองหุ้นใน บริษัท อสมท ฯ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท อสมท ฯ รวมทั้งให้ กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณากำหนดราคาและเงื่อนไขในการจำหน่ายหุ้นให้กับธนาคารออมสินต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4202 | การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | กค | 08/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และองค์การ
ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งประสบปัญหาการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นควรพิจารณาหาแนวทาง แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม โดยให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพดำเนินการร่วมกับกระทรวงคมนา คมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนปรับปรุงโครงสร้างกิจการ (turn around) ของรัฐวิสาหกิจ ทั้ง 2 แห่ง ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 3 เดือน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ อาจมอบหมายให้ผู้ซึ่ง เคยมีประสบการณ์ในการจัดทำแผนปรับปรุงโครงสร้างกิจการของรัฐวิสาหกิจมาแล้ว เช่น บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4203 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนมิถุนายน 2549 และผลการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 - 2549 | กค | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และผลการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐ ในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2545-2549 โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงเดือนมิถุนายน 2549 มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ (ประจำ/ลงทุน) ดังนี้ ส่วนราชการและรัฐ วิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 921,636 ล้านบาท หรือร้อยละ 67.77 ของวงเงินงบประมาณ (1,360,000 ล้านบาท) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 734,032 ล้านบาท หรือร้อยละ 74.86 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (980,494 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน 187,604 ล้านบาท หรือร้อยละ 49.43 ของงบประมาณรายจ่ายลง ทุน (379,506 ล้านบาท) ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเมื่อเปรียบเทียบกับแผนการใช้เงินในภาพรวม ต่ำกว่า จำนวน 73,716 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.41 ของแผนการใช้จ่ายเงิน (995,352 ล้านบาท) และ รายจ่ายลงทุนต่ำกว่า จำนวน 102,491 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.33 ของแผนการใช้จ่ายเงินรายจ่ายลงทุน (290,095 ล้านบาท) สำหรับผลการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐ ในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2545-2549 ซึ่งมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เป็นประธาน ทำหน้าที่ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยคณะ กรรมการ ฯ ได้จัดให้มีการประชุมโดยเชิญผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนสูงแต่มีผลการ เบิกจ่ายต่ำเข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงิน พร้อมทั้งเสนอแนว ทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการเบิกจ่ายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้อัตราการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเป็นไป ตามเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4204 | หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจัดข้าราชการเข้าพักอาศัยในที่พักของทางราชการ | กค | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ เห็นชอบในหลักการแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์และ
วิธีปฏิบัติในการจัดข้าราชการเข้าพักอาศัยในที่พักของทางราชการ โดยกำหนดหลักการเพิ่มเติมให้ผู้มีอำนาจจัด ที่พักของส่วนราชการสามารถใช้ดุลพินิจจัดให้ข้าราชการที่บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก และเดือดร้อนในเรื่องที่ อยู่อาศัยเข้าพักในที่พักของทางราชการได้ โดยจะต้องไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเพิ่มขึ้น กล่าวคือ หากส่วน ราชการใดจะใช้ดุลพินิจดังกล่าวจะต้องบริหารเงินงบประมาณที่ได้รับให้อยู่ภายในวงเงินที่ได้รับจัดสรร และแก้ไข บทบัญญัติที่อ้างอิงให้ถูกต้องสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2547 รวมทั้งปรับปรุง ถ้อยคำของหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติบางส่วนให้มีความชัดเจนและเข้าใจยิ่งขึ้น เช่น บทบัญญัติที่อ้างฐานอำนาจ ให้ออกหลักเกณฑ์ จากเดิมที่อ้างตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เปลี่ยนเป็นพระราชกฤษฎีกาค่าเช้าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2547 เป็นต้น และอนุมัติให้กระทรวงการคลังสามารถ ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการจัดข้าราชการเข้าพักอาศัยในที่พักของทางราชการ ได้ โดยไม่ต้องเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือทั้งข้าราชการบรรจุใหม่ และข้าราชการเก่าที่มีความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่ อาศัยให้เข้าพักในที่พักของทางราชการ รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับกรณีที่ส่วนราชการได้ ใช้ดุลยพินิจจัดให้ข้าราชการบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรกและเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยเข้าพักในที่พักของทาง ราชการ โดยมีค่าใช้จ่ายจะต้องใช้ในการดำเนินการเกิดขึ้น ให้ส่วนราชการบริหารงบประมาณที่ได้รับให้อยู่ภาย ในวงเงินที่ได้รับจัดสรรตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี ทั้งนี้ ตามวิธีการที่กำหนดในกฎหมายและระเบียบว่า ด้วยการงบประมาณ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 4205 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการ
ศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยว กับการศึกษาของบุตร พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 ทวิ โดยกำหนดให้ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่ง หน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศและสถานศึกษาในประเทศที่ประจำการที่บุตรเข้ารับการศึกษานั้น มีมาตร ฐานต่ำกว่าสถานศึกษาในประเทศไทยและ/หรือเป็นสถานศึกษาในประเทศหรือเมืองที่มีภาวะความเป็นอยู่ ไม่ปกติ (Hardship) ให้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร สำหรับบุตรที่ศึกษาในสถาน ศึกษานอกประเทศที่ข้าราชการผู้นั้นมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ ได้ตามหลักเกณฑ์ ประเภท หลักสูตร และ อัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้มีการแก้ไขระเบียบ กระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องให้สอดรับกับร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ เพื่อให้สามารถตอบสนองเจตนารมณ์ที่ จะขยายสิทธิสวัสดิการให้แก่ข้าราชการที่ประจำการในประเทศ หรือเมืองที่มีภาวะความเป็นอยู่ไม่ปกติ และ สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 4206 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบ 100 ปี กรมพระธรรมนูญ พ.ศ. .... | กค | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ
ของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบ 100 ปี กรมพระธรรมนูญ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะ ของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่ครบ 100 ปี กรมพระธรรมนูญ ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อ โลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคาสิบบาท หนึ่งชนิด (จำนวนผลิตไม่เกิน 3,000,000 เหรียญ) และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4207 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
รัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร และร่างพระราชกฤษฎีกาออก ตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่ง ประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นเงินได้จากการเก็บค่าต๋งหรือค่าเกมจากการพนัน การแข่งขัน หรือการเล่นต่าง ๆ และ รางวัลที่เจ้าของม้าได้จากการส่งม้าเข้าแข่ง ให้หักได้ในอัตราร้อยละ 50 และกำหนดให้เงินได้จากการทำของขาย และการรับจ้างของซึ่งยังมิได้กำหนดให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา ให้มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ในอัตรา ร้อยละ 60 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพของการประกอบกิจการของผู้มีเงินได้ในปัจจุบัน และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4208 | ขออนุมัติเงินช่วยเหลือโครงการพัฒนาถนนสาย 67 (ช่องสะงำ - อันลองเวง - เสียมราฐ) | กค | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินกู้
เงื่อนไขผ่อนปรนแก่ประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการพัฒนาถนนสาย 67 (ช่องสะงำ- อันลองเวง-เสียมราฐ) ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2546 (เรื่อง ความช่วยเหลือของรัฐบาล ไทยในการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา) วงเงิน 1,300 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณา รายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งเงินกู้ วิธีการกู้ ตลอดจนเงื่อนไขอื่น ๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงานความ ร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) ให้ได้ข้อยุติ แล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับงบประมาณ ค่าใช้จ่ายกรณีฝ่ายไทยต้องให้การสนับสนุนในส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าวให้กระทรวงการคลังพิจารณา ร่วมกับสำนักงบประมาณและ สพพ. และให้ดำเนินการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อ ไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 4209 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2549 และสถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 | กค | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้
สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และสถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 โดยผลการ ดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548-31 มีนาคม 2549 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผน ฯ เป็นจำนวนทั้ง สิ้น 469,681.37 ล้านบาท มีความก้าวหน้าไปแล้วคิดเป็นร้อยละ 46.39 ของแผน ฯ โดยในส่วนของการกู้เงิน และบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 88,631.20 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 70,925.50 ล้านบาท และไม่ค้ำประกัน จำนวน 17,705.70 ล้านบาท ซึ่งผลของการบริหารหนี้ที่ได้ดำเนินการ ทั้งในส่วนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ วงเงินรวมทั้งสิ้น 394,723.87 ล้านบาท สามารถลดยอดหนี้สาธารณะคง ค้างได้ จำนวน 21,805.92 ล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ยได้ จำนวน 1,220 ล้านบาท ลดต้นทุนการกู้ยืมเงิน ได้ จำนวน 621 ล้านบาท และปิดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในรูปอัตราลอยตัวได้อีกส่วนหนึ่ง สำหรับบริษัทมหาชนจำกัด ที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่ง ไม่นับรวมวงเงินในกรอบที่ขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้รวม 52,812.94 ล้าน บาท แบ่งเป็นการกู้เงิน จำนวน 33,345.10 ล้านบาท และการบริหารหนี้ จำนวน 19,467.84 ล้านบาท สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ จำนวน 2,908 ล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ยได้ จำนวน 590 ล้านบาท รวมทั้งปิด ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว โดยการทำ Swap เป็นเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ตามจังหวัดที่ ภาวะตลาดเอื้ออำนวย ส่วนสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 มีจำนวน 3,223,264 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.44 ของ GDP ประกอบด้วย หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน 1,915,875 ล้านบาท หนี้ของรัฐ วิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 991,015 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ระบบสถานบันการเงิน จำนวน 316,356 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4210 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้บริหาร และสำหรับหน่วยงานเพื่อจ่ายให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ
คณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 เสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้บริหาร และสำหรับหน่วยงานเพื่อจ่ายให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย ฯ ได้ตรวจพิจารณาร่างระเบียบ ฯ เสร็จแล้ว โดยได้แก้ไขเพิ่มเติมใน ส่วนของชื่อร่างระเบียบ นิยาม "ข้าราชการ" และ "ลูกจ้างประจำ" รวมทั้งหลักเกณฑ์การคำนวณเงินรางวัล (เงินเพิ่มพิเศษ) สำหรับผู้บริหาร และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4211 | การกำหนดแนวทางการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษเพิ่มจากโควตาปกติให้แก่หน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | กค | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอ
แนวทางการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษเพิ่มจากโควตาปกติประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้แก่ หน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศูนย์ประสานข่าวกรองแห่งชาติ กองอำนวยการเสริม สร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานอื่นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่) และให้ดำเนินการต่อไปได้ (หนังสือ กระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0430.7/13896 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2549) ทั้งนี้ สำหรับการพิจารณา บำเหน็จความชอบกรณีพิเศษของข้าราชการครูที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งประสาน ข้อมูลกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้รวมอยู่ในโควตาพิเศษร้อยละ 1 ของข้าราชการหน่วยงานอื่นทั้งหมดที่ปฏิบัติ งานในพื้นที่ ที่กระทรวงมหาดไทยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในภาพรวมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 4212 | ขออัตรากำลังเพิ่มเพื่อรองรับการปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | กค | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้นำเรื่อง ขออัตรากำลังเพิ่มเพื่อรองรับการปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณ
ภูมิ ของกระทรวงการคลัง เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 พิจารณา โดยให้ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาด้วย ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4213 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2549 สำหรับงวดสิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2549 | กค | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
ประจำปี พ.ศ. 2549 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 โดยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2549 มีงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งปีรวมจำนวน 315,875.97 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 97.80 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งหมด ดังนี้ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีงบประมาณ มีจำนวน 11 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนได้ทั้งสิ้น 88,147.75 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 52.30 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้ เบิกจ่ายทั้งปี และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีปฏิทิน มีจำนวน 6 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนได้ทั้งสิ้น 80,010.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.22 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งปี
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4214 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยกองทุนสำหรับพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 18/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยกองทุน
สำหรับพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับ ปรุงนิยามของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อให้มีความครอบคลุมตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนฯ ปรับปรุง ถ้อยคำเกี่ยวกับหน่วยงานผู้กำกับดูแลกองทุนฯ และปรับปรุงระยะเวลาการรายงานผลการดำเนินการและการ จัดทำงบการเงิน และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจ พิจารณา โดยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรหลีก เลี่ยงการใช้คำว่า "การแปรรูป" เพราะอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล และไม่ควรกำหนดระยะเวลา การรายงานผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ชัดเจน แต่ควรให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ที่จะกำหนดระยะเวลาการรายงาน โดยรายงานอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี และปรับลดระยะเวลาในการจัดทำงบ การเงินเพื่อส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ จาก 120 วัน เป็น 60 วัน แทน 90 วัน เพื่อให้ กองทุนฯ สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับธุรกิจเอกชน เนื่องจากการดำเนินการและ ธุรกรรมของกองทุนฯ ในแต่ละปีมีรายละเอียดไม่มากนัก และความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรแก้ไข นิยามคำว่า "การแปรรูป" เป็น "การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ " หมายความว่า การจำหน่ายกิจการหรือหุ้นของ รัฐวิสาหกิจให้แก่บุคคล นิติบุคคลภาคเอกชน หรือการดำเนินการอื่นใดที่มีผลทำให้พ้นสภาพจากการเป็นรัฐ วิสาหกิจ และให้หมายความรวมถึงการยุบเลิกกิจการของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งควรอ้างกฎหมายแม่บทไว้ในร่าง ระเบียบนี้ด้วยว่า อาศัยกฎหมายใดในการออกใช้บังคับ ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4215 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนพฤษภาคม 2549 | กค | 18/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2549 โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบ ประมาณในภาพรวมทั้งประเทศในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ (ประจำ /ลงทุน) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้วจำนวน 810,986 ล้านบาท หรือร้อยละ 59.63 ของวงเงินงบประมาณ (1,360,000 ล้านบาท) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำจำนวน 638,513 ล้านบาท หรือร้อยละ 65.12 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (980,494 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุนจำนวน 172,473 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.45 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (379,506 ล้านบาท) ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงิน งบประมาณเมื่อเปรียบเทียบกับแผนการใช้เงินในภาพรวมต่ำกว่าจำนวน 86,156 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.60 ของแผนการใช้จ่ายเงิน (897,142 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าจำนวน 94,787 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.47 ของแผนการใช้จ่ายเงินรายจ่ายลงทุน (267,260 ล้านบาท)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4216 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล งบกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 | กค | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานกิจการประจำปี งบดุล กำไรและขาดทุน
ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 โดยฐานะการเงินของ ธสน. ประจำปี พ.ศ. 2548 ประกอบด้วย สินทรัพย์ 70,498.89 ล้านบาท หนี้สิน 62,170.38 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 457 ล้านบาท น้อยกว่าปี พ.ศ. 2547 จำนวน 20 ล้านบาท โดยมีสาเหตุ สำคัญจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้น 65 ล้าน บาท และค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท ตามการขยายกิจกรรมสนับสนุนการส่งออกและการ เปิดสาขาเพิ่ม 2 แห่ง อย่างไรก็ตาม ธสน. มีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 64 ล้านบาท และราย ได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 27 ล้านบาท และให้ส่งไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงาน เลขาธิการวุฒิสภา เพื่อนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่และวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4217 | การต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE | กค | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT
LINE ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วงเงิน 9,000 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขเดิม ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2549 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4218 | แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (นายนนทพล นิ่มสมบุญ และ นายวสันต์ เทียนหอม) | กค | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งนายนนทพล นิ่มสมบุญ เป็นกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบัญชี และนายวสันต์ เทียนหอม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ต่อไปอีกวาระหนึ่ง ในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (4 กรกฎาคม 2549) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4219 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารและเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการและจังหวัด พ.ศ. .... | กค | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่า
ด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารและเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการและจังหวัด พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ ยกเลิกหลักเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้บริหารที่เดิมกำหนดให้จ่ายเฉพาะผู้บริหารของกลุ่มท้า ทายและกลุ่มนำร่อง โดยกำหนดให้ผู้บริหารทุกส่วนราชการที่ทำข้อตกลงว่าด้วยการปฏิบัติราชการมีสิทธิได้รับ เงินเพิ่มพิเศษตามหลักเกณฑ์และอัตราที่ ก.พ.ร. กำหนด รวมทั้งนำหลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายที่เดิมกำหนด ไว้เป็นหนังสือกระทรวงการคลังมากำหนดไว้ในระเบียบนี้ และส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่าง อนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4220 | การเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 | กค | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอขอผ่อนคลายการปฏิบัติตามระเบียบสำนัก
นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์ การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในสังกัด การบังคับบัญชาหรือการกำกับดูแลของฝ่ายบริหารตาม กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือกฎหมายจัดตั้งหน่วยงาน (หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วน ที่สุด ที่ กค 0408.3/12432 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2549)
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
