คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินสำหรับการจัดซื้อเครื่องบิน
แอร์บัส จำนวน 4 ลำ ที่รับมอบในปีงบประมาณ 2549 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  โดยผลการ
กู้เงินสำหรับการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส  A  340-600  ลำที่  1  และ  2   ที่กำหนดรับมอบในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2548 ดังนี้ วันที่ 29 มิถุนายน 2548 ได้เบิกจ่ายเงินกู้พร้อมรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A 340-600 ลำที่
1  วันที่ 26 กรกฎาคม 2548 ได้เบิกจ่ายเงินกู้พร้อมรับมอบเครื่องบินแอร์บัส  A 340-600  ลำที่ 2  และผล
การกู้เงินสำหรับการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A 340-500 จำนวน 1 ลำ และแอร์บัส A 340-600  จำนวน 3
ลำ ที่กำหนดรับมอบในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ดังนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เบิกจ่ายเงินกู้
เพื่อชำระค่าจัดซื้อเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว  โดยในวันที่ 5 ตุลาคม 2548 ได้เบิกจ่ายเงินกู้พร้อมรับมอบเครื่อง
บินแอร์บัส  A 340-600 ลำที่ 3  วันที่  25  ตุลาคม  2548  ได้เบิกจ่ายเงินกู้พร้อมรับมอบเครื่องบินแอร์บัส
A 340-500 ลำที่ 3 วันที่  28  พฤศจิกายน  2548 ได้เบิกจ่ายเงินกู้พร้อมรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A 340-
600 ลำที่ 4 และวันที่ 9 ธันวาคม 2548 ได้เบิกเงินกู้พร้อมรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A 340-600 ลำที่ 5

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2548  โดยผลการเบิกจ่าย
เงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ
(ประจำ/ลงทุน)  ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 312,008 ล้านบาท  หรือร้อย
ละ 22.94 ของวงเงินงบประมาณ (1,360,000 ล้านบาท) จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ 245,222 ล้านบาท
หรือร้อยละ  24.89  ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  (985,343  ล้านบาท)  และรายจ่ายลงทุน  66,786
ล้านบาท   หรือร้อยละ  17.83  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน  (374,657  ล้านบาท)  ทั้งนี้  ผลการเบิก
จ่ายเงินงบประมาณเปรียบเทียบกับแผนการใช้เงินในภาพรวมต่ำกว่า จำนวน 7,281 ล้านบาท หรือร้อยละ
2.28 ของแผนการใช้จ่ายเงิน (319,288  ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าจำนวน  21,170  ล้านบาท
หรือร้อยละ 24.07 ของแผนการใช้จ่ายเงินรายจ่ายลงทุน (87,956 ล้านบาท)

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมายฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ตามแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติ  และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
(ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  แก้ไขเพิ่มเติมให้การยกเวันภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายหน่วย
ลงทุนในกองทุนรวมไม่รวมเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่กองทุนรวม
เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาวตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้สอด
คล้องกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรตามแผนพัฒนากฎหมายของกระทรวงการคลัง และ
ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ
ที่เห็นควรนำร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ทั้ง  2  ฉบับ  รวมเป็นร่างพระราชบัญญัติแก้ไข
เพิ่มเติมประมวลรัษฎากรฉบับเดียว เนื่องจากมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขประมวลรัษฎากรเช่นเดียวกัน และเพื่อ
ความรวดเร็วในการพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติ   ไปประกอบการพิจารณา   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสาน
งานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้กรมบัญชีกลาง
พิจารณาเรื่องที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี  พ.ศ.  2547-2548 
ตามเกณฑ์การพิจารณาดังนี้ กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ให้พับไป  ยกเว้นรายการต่อไปนี้ให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อ
ไปได้ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2549 เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547 (1) รายการหรือโครงการที่อยู่ระหว่างกระบวน
การจัดซื้อจัดจ้าง   (2) รายการหรือโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณในลักษณะงานดำเนินการเอง
(3)  รายการหรือโครงการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและหรือขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน   ทั้งนี้ 
ระยะเวลาสิ้นสุดการกันเงิน ฯ  และหรือขยายระยะเวลา ฯ  ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี   (4) รายการหรือ
โครงการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและมีมติให้ดำเนินการแล้ว   ส่วนเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2548  (1) 
รายการหรือโครงการที่อยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง (2) รายการหรือโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงิน
งบประมาณในลักษณะงานดำเนินการเอง     (3)   รายการหรือโครงการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้กันเงินไว้เบิก
เหลื่อมปีและหรือขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน ทั้งนี้ ระยะเวลาสิ้นสุดการกันเงิน ฯ และหรือขยายระยะเวลาฯ ให้เป็น
ไปตามมติคณะรัฐมนตรี   (4)   รายการหรือโครงการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและมีมติให้ดำเนินการ
แล้ว    (5)  รายการหรือโครงการที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้รับจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
ประจำปี  พ.ศ. 2548   นอกจากนี้ให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาของกระทรวงการคลัง  (กรมบัญชี
กลาง) ไปใช้ในการพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้แก่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ 
ทั้งในส่วนของการจัดสรรเงินงบประมาณสำหรับส่วนที่พับไป  และการจัดสรรเงินงบประมาณในโอกาสต่อไป
ให้แก่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ   โดยคำนึงถึงความพร้อมในการดำเนินการของส่วนราชการ    เพื่อให้การ
จัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด    และให้สำนักงาน ก.พ.ร.
กำหนดให้การก่อหนี้ผูกพัน   และการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีเป็นตัวชี้วัดในการประเมินประสิทธิภาพ
การทำงานของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณต่อไป  เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราช
การสามารถสะท้อนประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินงบประมาณของส่วนราชการอีกทางหนึ่งด้วย  ทั้งนี้ 
ในการขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.  2550  ของหน่วยงานต่าง ๆ   ให้รัฐมนตรี
ทุกท่านตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดอย่างเข้มงวด ก่อนเสนอคำของบประ
มาณตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้  เห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันพิธี
สารเพื่อให้ข้อเสนอการค้าบริการด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน
มีผลบังคับใช้ และอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการให้สัตยาบันในพิธีสารดังกล่าว

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7  (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ)  ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายใน
การฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงระเบียบกระทรวง
การคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมของส่วนราชการ  พ.ศ. 2545   ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้
จ่ายในการประชุมระหว่างประเทศ  พ.ศ. 2539  และหนังสือสั่งการต่าง  ๆ   ที่เกี่ยวข้อง   โดยนำหลักเกณฑ์ใน
ระเบียบ  หนังสือสั่งการต่าง  ๆ   มารวบรวมและปรับปรุงให้อยู่ในร่างระเบียบนี้เพียงฉบับเดียว  เพื่อให้มีความ
คล่องตัว  รวดเร็ว  เหมาะสมกับการปฏิบัติงานในปัจจุบัน  โดยมอบให้กระทรวงการคลังรับร่างระเบียบ  ฯ  ดัง
กล่าวไปปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตของกระทรวงยุติธรรม สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงาน ก.พ. แล้วนำเสนอ
คณะรัฐมนตรีต่อไป     และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
ตรวจพิจารณาต่อไป   โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร.  ที่เห็นควรเพิ่มบทนิยามคำว่า  "หน่วยงานของ
รัฐ"  ในร่างข้อ  4  เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นและควรคงหลักการที่ให้ส่วนราชการผู้จัด
การฝึกอบรมประเมินผลการฝึกอบรม  และรายงานต่อหัวหน้าส่วนราชการ  ภายใน 60 วัน  นับแต่สิ้นสุดการ
ฝึกอบรมอันจะเป็นประโยชน์ต่อราชการโดยรวม และสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรปรับปรุงร่างข้อ 14 ร่างข้อ 25
(1) ร่างข้อ 28  และร่างข้อ 39  ควรเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาวัสดุที่ใช้ในการฝึกอบรม  การจ้าง
จัดฝึกอบรม การจ้างจัดงานต่าง ๆ และการจ้างจัดประชุมระหว่างประเทศ  ว่าในการซื้อหรือจ้างจะต้องดำเนิน
การตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ หรือไม่หรือจะดำเนินการอย่างไร ร่างข้อ 25 (1) ควร
เพิ่มเติมในกรณีให้บริษัททัวร์ดำเนินการเรื่องอาหาร  ที่พัก หรือยานพาหนะในการดูงานในต่างประเทศ  ส่วน
ราชการจะใช้อะไรเป็นหลักฐานในการเบิกจ่าย เช่น ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินของบริษัททัวร์  เป็นต้น   และควรปรับ
ปรุงอัตราค่าสมนาคุณวิทยากรในการฝึกอบรมให้เหมาะสมกับสภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นโดยระดับต้นและ
ระดับกลางไม่เกินชั่วโมงละ  750  บาท  ส่วนระดับสูงไม่เกินชั่วโมงล่ะ  1,000  บาท  ไปพิจารณาด้วย  แล้วให้
ดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวน
ทรัพย์สินถาวรของภารธุระอุตสาหกรรมขนาดย่อม พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญ แก้ไขการกำหนดจำนวน
ทรัพย์สินถาวรของภารธุระอุตสาหกรรมขนาดย่อม  โดยให้ทรัพย์สินถาวรในการประกอบอุตสาหกรรม
การทำหัตถกรรม หรือการประกอบกิจการอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนดโดยไม่นับรวมมูลค่าที่ดิน ซึ่ง
มีลักษณะเป็นกิจการขนาดย่อมที่บุคคลภาคเอกชนเป็นเจ้าของอันจะเป็นภารธุระอุตสาหรรมขนาดย่อม
มีจำนวนไม่เกินสองร้อยล้านบาท และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน
การต่อไปได้

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  แก้ไขเพิ่มเติม
ความในช่องรายการของประเภท 11 ในภาค 4 ของที่ได้รับยกเว้นอากร  เพื่อยกเว้นอากรขาเข้าให้แก่ของ
ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรหรือของที่กฎหมายให้ถือว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งนำไปช่วยเหลือแก่ผู้
ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ  และเพิ่มเติมความในช่องรายการของประเภท 19 ในภาค 4 ของที่ได้รับยก
เว้นอากร เพื่อให้ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศมีสิทธิซื้อของที่ร้านค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยาน  หรือ
ด่านพรมแดน  ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร  ตามหลักเกณฑ์  เงื่อนไข  ที่อธิบดีกรมศุลกากรกำหนด
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมายฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญ
กษาปณ์ที่ระลึกพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พ.ศ. ....
โดยมีสาระสำคัญคือ จัดทำเหรียญกษาปณ์เงิน ราคา  600  บาท ประเภทขัดเงา และประเภทธรรมดา และ
เหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ชนิดราคา 10 บาท ประเภทธรรมดา  ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึก
พระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในวันที่  17  มิถุนายน
2548 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 
4(5)  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548  ประกอบกับมติ
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2548

            คณะรัฐมตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอขอยุติการดำเนินการร่างประกาศกระทรวง
การคลัง เรื่อง ยกเลิกการยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) ซึ่งมีสาระสำคัญคือ  ยกเลิกการยกเว้นภาษี
น้ำมันเตาและน้ำมันที่คล้ายกันที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันและผลิตน้ำมันในโรงกลั่นน้ำมัน

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายสุริยน วรวิทยา
นนท์  ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบาย
และแผน  10  ชช) กรมมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง  ตั้งแต่วันที่  6  ตุลาคม  2548  ซึ่งเป็นวันที่มีคุณ
สมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม
คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน  2548  โดยผลการ
เบิกจ่ายเงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจำแนกตามลักษณะ
เศรษฐกิจ  (ประจำ/ลงทุน)  ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว  228,564  ล้าน
บาท  หรือร้อยละ  16.81  ของวงเงินงบประมาณ  (1,360,000 ล้านบาท)  จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ
178,588 ล้านบาท  หรือร้อยละ 18.07 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (988,136 ล้านบาท) และราย
จ่ายลงทุน 49,976 ล้านบาท  หรือร้อยละ 13.44 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (371,864 ล้านบาท)
ทั้งนี้  ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเปรียบเทียบกับแผนการใช้เงินในภาพรวมสูงกว่า จำนวน  19,669
ล้านบาท  หรือร้อยละ  9.42  ของแผนการใช้จ่ายเงิน  (208,895 ล้านบาท)  และรายจ่ายลงทุนสูงกว่า
จำนวน 6,067 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.82 ของแผนการใช้จ่ายเงินรายจ่ายลงทุน (43,909 ล้านบาท)

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็น
กรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (10
มกราคม 2549) เป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายพงษ์ภาณุ เศวต
รุนทร์  ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง (เศรษฐกร 10 ชช) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่  15  กันยายน  2548  ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้  ตาม
มาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรอง
เลี้ยงชีพ  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  เพิ่มเติมบทบัญญัติให้เงินหรือทรัพย์สินของกองทุนบำ
เหน็จบำนาญข้าราชการโอนย้ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  เพิ่มเติมบทบัญญัติให้กองทุนมีนโยบายการลง
ทุนหลากหลายให้สมาชิกได้เลือกตามความต้องการ และเพิ่มเติมบทบัญญัติให้ลูกจ้างที่สิ้นสมาชิกภาพเนื่อง
จากเกษียณอายุมีสิทธิขอรับเงินจากกองทุนเป็นงวด  ๆ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงแรงงานไปพิจารณาด้วย ดังนี้ ควรกำหนดให้มีกระบวนการให้คำ
ปรึกษาแนะนำการลงทุนให้แก่ลูกจ้างและให้มีมาตรการคุ้มครองหรือเยียวยาลูกจ้างซึ่งได้รับผลกระทบจาก
การลงทุนที่ตนเลือก เพื่อเป็นมาตรการป้องกันมิให้เกิดปัญหาสังคมในอนาคต   ส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการ
ในการจ่ายเงินจากกองทุนในกรณีที่ลูกจ้างสิ้นสมาชิกภาพเพราะเหตุอื่นซึ่งมิใช่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไม่ให้
นำกรณีลูกจ้างสิ้นสมาชิกภาพเพราะกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดมาเป็นเกณฑ์ในการไม่จ่ายเงินสมทบ
รวมไปถึงผลประโยชน์ของเงินสมทบทั้งหมดให้แก่ลูกจ้าง   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน
ราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายสุริยน วรวิทยา
นนท์  ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบาย
และแผน  10  ชช) กรมมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง  ตั้งแต่วันที่  6  ตุลาคม  2548  ซึ่งเป็นวันที่มีคุณ
สมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม
คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการกู้เงินภายใต้ ECP Programme
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  ดังนี้  กระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้ดำเนินการกู้
เงินภายใต้ ECP Programme รวม  6  ครั้ง  จำนวนรวม  1,920,100,000  เหรียญสหรัฐ  (นับรวมวงเงินที่ใช้
สำหรับการ Rollover เงินกู้เดิม) เพื่อ Rollover เงินกู้เดิมที่ใช้ในการทำ Refinance  เงินกู้ธนาคารโลก (IBRD)
และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ตามแผนการบริหารหนี้เงินกู้ต่างประเทศภาครัฐ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545
-พ.ศ. 2546 เพื่อ Rollover เงินกู้เดิมที่ใช้ในการทำ Refinance เงินกู้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ
แห่งญี่ปุ่น (JBIC) ของกระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจอีก 3 แห่ง  ที่กู้ต่อจากกระทรวงคลัง ได้แก่ การท่าเรือ
แห่งประเทศไทย การประปาส่วนภูมิภาค และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยตามแผนการบริหารหนี้
เงินกู้ต่างประเทศภาครัฐ  ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545-พ.ศ. 2546    และเพื่อ  Refinance  เงินกู้ตามแผนการ
บริหารและจัดการหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  โดยได้กู้เงินในรูป  Samurai Bond  วงเงิน
48,000 ล้านเยน ชำระคืนเงินกู้ ECP วงเงิน 445.1 ล้านเหรียญสหรัฐ  เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2548  และได้
ออกพันธบัตรเงินบาท วงเงินรวม 27,500 ล้านบาท  ชำระคืนเงินกู้ ECP  วงเงิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ และ
285 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548  ผลของการกู้เงินและการทำ  Swap  เพื่อ Refinance ทำ
ให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ เป็นเงินรวม  50,706,443  เยน และ  13,578,105.08  เหรียญสหรัฐ  รวม
เป็นเงินเทียบเท่า  574,972,009.85  บาท  ส่วนการชำระคืนเงินกู้ ECP  รวมถึงการใช้งบชำระหนี้ ฯ  สมทบ
การชำระคืนเงินกู้เดิมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  ของกระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจอีก  2  แห่ง   ทำให้
กระทรวงการคลังและหน่วยงานดังกล่าว  สามารถลดยอดหนี้คงค้าง    รวมทั้งลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้
จำนวนรวมทั้งสิ้น 16,046 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นส่วนของกระทรวงการคลัง จำนวน 15,586 ล้านบาท และ
รัฐวิสาหกิจจำนวน 460 ล้านบาท  ยอดเงินกู้คงค้างภายใต้  ECP Programme  ณ  วันที่ 30 กันยายน 2548
เป็นเงินรวม 390,000,000 เหรียญสหรัฐ  ดังนั้น  จึงยังคงเหลือวงเงินกู้ภายใต้ ECP Programme ที่สามารถ
เบิกใช้ได้อีก จำนวน 1,610,000,000 เหรียญสหรัฐ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งนายวินัย วิทวัสการ
เวช ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี  (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช)  กรม
สรรพากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่  1  ตุลาคม  2548  ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่ง
ดังกล่าว  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี
พ.ศ. 2548

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งนายวินัย วิทวัสการ
เวช ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี  (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช)  กรม
สรรพากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่  1  ตุลาคม  2548  ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่ง
ดังกล่าว  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี
พ.ศ. 2548