คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธี
การปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ที่สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว  โดยมีสาระสำคัญคือ  แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการปก
ครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุตามกฎกระทรวงออกตามความในพระราช
บัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518   ให้สอดคล้องกับการแบ่งส่วนราชการของกรมธนารักษ์   กระทรวงการคลัง
และให้ดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งนางอรอนงค์ มณีกาญจน์ 
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง (นักวิชาการคลัง 10 ชช) กรมบัญชีกลาง กระทรวง
การคลัง ตั้งแต่วันที่  31  มกราคม  2549 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระ
ราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ 2549 ครั้งที่ 3 ประกอบด้วย การปรับเพิ่มแผนการบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดเชย
การขาดดุลงบประมาณ จากเดิม 260,000 ล้านบาท เป็น 265,000 ล้านบาท การปรับวิธีการบริหารหนี้
ต่างประเทศของรัฐบาล  และรัฐวิสาหกิจให้สามารถเลือกแนวทางบริหารหนี้ต่างประเทศด้วยวิธีการต่าง  ๆ
ได้แก่ การ  Prepayment  การ  Roll-over การ Refinance  และการ  Swap Arrangement  ให้สอดคล้องกับ
สภาวะตลาด โดยอยู่ภายใต้วงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแล้วที่วงเงินรวม  326,347.06  ล้านบาท และใน
การกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศของรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจ  ภายใต้แผนที่ปรับ
ปรุง ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงินวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน
และการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่
สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในไตรมาสที่ 2  ของปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549  เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐ
วิสาหกิจสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์   จึงได้กำหนดแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายจ่าย
ลงทุนให้ก่อหนี้ผูกพันภายหลังไตรมาสที่ 2 ได้จนถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 (มิถุนายน 2549)  ดังนี้ รายการที่อยู่
ระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างก่อนสิ้นเดือนเมษายน  2549  เนื่องจาก ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า
ด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ทำให้ส่วนราชการต้องดำเนินการตามระเบียบใหม่
และต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ   รายการที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการเอง  รายการที่มีปัญหา
อุปสรรค เนื่องจากปัจจัยภายนอกหรือรายการที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานอื่น และงบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) เนื่องจากเป็นรายการ
ที่ต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีจึงจะดำเนินการได้ ซึ่งที่ผ่านมาผ่อนผันให้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม แต่เนื่อง
จากขณะนี้เหลือวงเงินเพียงประมาณ  14,000  ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรียังไม่ได้อนุมัติ จึงเห็นควรผ่อนผัน
ให้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2549

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทด
รองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณา
แล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยใน
ต่างประเทศ พ.ศ. 2541  เพื่อกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศนำเงินทดรองราชการไปทดรองจ่ายเพื่อช่วย
เหลือคนไทยในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ และให้ดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหา
ริมทรัพย์ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2548 สรุปดังนี้ งานสำคัญที่ดำเนินการแล้วเสร็จ  ได้แก่  การดำเนินโครงการ
พัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลใบอนุญาตก่อสร้าง/ดัดแปลง/รื้อถอนอาคาร  ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่าน
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยได้จัดอบรมผู้ที่เกี่ยวข้องและติดตั้งโปรแกรมในเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
5 จังหวัด ปริมณฑลรวม 311 แห่ง ดำเนินการรวบรวมข้อมูลบ้านมือสองและบรรจุไว้ในเว็บไซต์บ้านมือสองที่จัด
ทำขึ้นชื่อว่า www.resalehomethai.com รวบรวมกฎหมายอสังริมทรัพย์ต่าง ๆ เกี่ยวข้องและบรรจุในเว็บไซต์ของ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ www.reic.or.th งานสำคัญที่ดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์  ดัชนีด้านอุปทาน
ได้แก่  การเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานใดจัดเก็บมาก่อนดัชนีด้านอุปสงค์  ได้แก่  ยอด
ขาย เนื่องจากยังไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลยอดขายได้มากเพียงพอ  และที่อยู่อาศัยโอนกรรมสิทธิ์  การจัดเก็บข้อ
มูลยังเป็นระบบกระดาษ และขาดบุคลากรและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการดำเนินงาน ดัชนีศักยภาพในการเป็น
เจ้าของที่พักอาศัย ดัชนีบ้านมือสอง โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ โครงการศึกษาราคาที่ดิน
ที่เปลี่ยนแปลงตามแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการศึกษาการแบ่งระดับนักประเมิน
ราคาในประเทศไทย  และโครงการศึกษาแนวทางการจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูล GIS ของเทศบาลเมืองป่าตอง
จังหวัดภูเก็ต ส่วนงานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมพิเศษและอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  ได้แก่  โครงการ
จัดงานส่งเสริมตลาดบ้านมือสอง  โครงการสำรวจพฤติกรรมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย   และโครงการสำรวจ
การเปลี่ยนแปลงอาคารขนาดใหญ่ที่ยุติการก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของ
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบ 50 ปี ฝนหลวงพระราชทาน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ  จัดทำเหรียญกษาปณ์
โลหะสีขาว  (ทองแดงผสมนิกเกิล)  ราคายี่สิบบาทหนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ 50 ปี
ฝนหลวงพระราชทาน ในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังถอนเรื่อง รายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ราชการ
กรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ คืนไปก่อน

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังถอนเรื่อง รายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ราชการ
กรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ (เพิ่มเติม) คืนไปก่อน

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2549 โดยผลการเบิกจ่าย
เงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ
(ประจำ/ลงทุน) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 422,098 ล้านบาท  หรือร้อย
ละ 31.04 ของวงเงินงบประมาณ (1,360,000 ล้านบาท) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 334,990 ล้านบาท
หรือร้อยละ  34.00  ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  (985,343  ล้านบาท)  และรายจ่ายลงทุน 87,108
ล้านบาท หรือร้อยละ 23.25 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (374,657  ล้านบาท) ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่าย
เงินงบประมาณเปรียบเทียบกับแผนการใช้เงินในภาพรวมต่ำกว่า จำนวน  10,168  ล้านบาท  หรือร้อยละ
2.35 ของแผนการใช้จ่ายเงิน (432,266 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าจำนวน  32,062  ล้านบาท
หรือร้อยละ 26.90 ของแผนการใช้จ่ายเงินรายจ่ายลงทุน (119,170 ล้านบาท)

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลความคืบหน้าการเบิกจ่ายของโครงการ
ลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ  (Megaprojects)  ไตรมาสที่ 1  ปีงบประมาณ 2549  (ตุลาคม-ธันวาคม 2548)
มีแผนการเบิกจ่ายเงินลงทุนตามโครงการ  7  สาขาหลัก  ประกอบด้วย  สาขา  Mass Transit  คมนาคม  ที่อยู่
อาศัย ทรัพยากรน้ำ การศึกษา สาธารณสุข และอื่นๆ รวม 65 โครงการ  วงเงินลงทุนรวม 289,928 ล้านบาท
โดยในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มีแผนการเบิกจ่ายเงินลงทุน 36,059 ล้านบาท  ผลการเบิกจ่าย
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2548 มีโครงการที่เบิกจ่ายแล้วจำนวน 18 โครงการ เป็นเงิน 26,074 ล้านบาท  หรือคิด
เป็นร้อยละ 9 ของแผนการลงทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในไตรมาสแรก
ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2548  โดยสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มี
มูลค่านำเข้ารวม  265.509  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  8.83
ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 3.44  ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยดังกล่าวเทียบกับมูลค่านำเข้ารวม
ของสินค้าทุกชนิดในช่วงไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549  (29,134.53  ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  มีสัด
ส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.91 ของมูลค่านำเข้ารวม  และเมื่อเทียบกับมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในช่วงไตรมาสแรก
ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549  กับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจำนวน 10
รายการ โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก  ได้แก่  สูท  เสื้อ  กระโปรง  กางเกง ฯ,
ไฟแช็คและอุปกรณ์, ดอกไม้, กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง และเครื่องแก้ว ฯ  ซึ่งมีอัตราการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ
79.73, 73.72, 38.45, 34.49 และ 27.08 ตามลำดับ

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการติดตามมาตรการ
ควบคุมการบริโภคสุราเพื่อสังคม  ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในการออกใบอนุญาต  (ใบอนุญาตขายสุรา
ประเภทที่ 3 ถึงประเภทที่ 7) ประจำปี พ.ศ. 2548 ก่อนมีมาตรการควบคุมการบริโภคสุรา ปรากฏว่า มีผู้
ได้รับใบอนุญาตขายปลีกสุรา จำนวน 588,326 ราย  และหลังจากออกกฎกระทรวงออกตามความในพระ
ราชบัญญัติสุรา  พ.ศ. 2493  จำนวน  2  ฉบับ  ได้แก่  กฎกระทรวงกำหนดเวลาขายสุราสำหรับผู้ได้รับใบ
อนุญาตขายสุราประเภทที่ 3 และประเภทที่ 4 พ.ศ. 2548  และกฎกระทรวงว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับการ
ออกใบอนุญาตขายสุราและการขายสุรา สำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทที่  3  ถึงประเภทที่  7
พ.ศ. 2548 แล้ว ปรากฏว่า มีการออกใบอนุญาตขายปลีกสุรา ประจำปี พ.ศ. 2549 ไป จำนวน 236,350
ราย  ซึ่งลดลงจากเดิม จำนวน 351,976 ราย  เนื่องจากกฎกระทรวงกำหนดห้ามมิให้ออกใบอนุญาตขาย
สุราในสถานศึกษา  ศาสนสถาน  สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง  และบริเวณต่อเนื่องติดกับสถานที่ดังกล่าว
และบางรายอยู่ระหว่างการติดต่อขอใบอนุญาต

               สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผลการสำรวจความพึง
พอใจของประชาชนและผู้ให้บริการต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี พ.ศ. 2548  จัดทำโดยสำนักงาน
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติร่วมกับสำนักวิจัยเอแบค-เคเอสซี อินเตอร์เนตโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดย
ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ  15  ปีขึ้นไป  ที่มีบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) จาก 13
จังหวัดทั่วประเทศ  ซึ่งผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการต่อบริการของแพทย์  พยาบาล  คุณภาพยา
คุณภาพเครื่องมืออุปกรณ์ ความสะดวกในการใช้บริการ  ความสะดวกในการเดินทาง  และผลการรักษา  ผู้ใช้
บริการมีความพึงพอใจมากขึ้น โดยยกเว้นเรื่องความสะดวกในการเดินทาง ทั้งนี้ ความพึงพอใจโดยรวมต่อการ
ดำเนินงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปี พ.ศ. 2548   เทียบกับผลการสำรวจปีที่ผ่านมาพบว่า   ไม่แตกต่าง
กัน คือ  ปี พ.ศ. 2548  เท่ากับ 7.83  ปี พ.ศ. 2547  เท่ากับ 7.88  สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ใช้บริการที่เห็น
ควรปรับปรุงโครงการ 30 บาท คือ  เรื่องการรอตรวจ  รอรับยา  ซึ่งใช้เวลานาน  ปรับปรุงคุณภาพการรักษา
พยาบาล คุณภาพยา อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ และเปิดโอกาสให้ใช้บริการได้ทุกสถานพยาบาล

            คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบแผนการลงทุนและแผนการดำเนินงาน
ของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ประจำปี พ.ศ. 2549 สาขาที่อยู่อาศัย สาขาทรัพยากรน้ำ สาขาการ
ศึกษา และสาขาสาธารณสุข และเห็นชอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และการเคหะ
แห่งชาติ จัดทำแผนการลงทุนและแผนการเบิกจ่ายเงินของโครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ 4  และ 5  ตามแนว
ทางการดำเนินการใหม่และหลักการที่กระทรวงการคลังเสนอ  และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติใน
ส่วนการจัดสรรเงินอุดหนุน และการกู้เงินเพื่อทดแทนเงินอุดหนุนตามขั้นตอนต่อไป   รวมทั้งเห็นชอบแนวทาง
การจัดสรรงบประมาณงบกลาง (รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง) สำหรับปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2549   และมอบหมายให้สำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณา  และดำเนินการจัดสรรงบประมาณ
จากงบกลางในสาขาที่อยู่อาศัย  สาขาทรัพยากรน้ำ  และสาขาการศึกษา   ตามขั้นตอนต่อไป   โดยในชั้นนี้ให้
หน่วยงานเจ้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่เตรียมการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ล่วงหน้า เช่น การจัดทำแผน
การดำเนินการ การใช้จ่ายเงิน การกู้เงิน และการลงทุน  เป็นต้น  เพื่อให้พร้อมและสามารถดำเนินการหรือลง
นามในสัญญาต่าง ๆ  ต่อไปได้ทันที เมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้พิจารณาเรื่องนี้แล้ว  โดยรับความเห็นของส่วน
ราชการที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย   และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งรัดและประสานกับปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการตามขั้นตอนของ
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549
เพื่อจัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ (กนค.)  โดยเร็ว
เพื่อพิจารณาเปลี่ยนแปลงกำหนดระยะเวลาการจัดส่งเอกสารข้อเสนอทางวิชาการ (Technical Proposal) ของ
ภาคเอกชนจากเดิมให้เหมาะสมต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง
ศุลกากร ประจำไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2548 ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2548 มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับ
สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน (กัมพูชา  สปป.ลาว  พม่า  และเวียดนาม) โดย
แยกเป็นรายประเทศได้ดังนี้ กัมพูชา มูลค่านำเข้าที่ได้รับยกเว้นอากร  31,363,309  บาท ไม่มีการนำเข้าที่
ได้รับลดหย่อนอากร  รวมมูลค่านำเข้าที่ได้รับสิทธิพิเศษ 31,363,309 บาท  สปป.ลาว มูลค่านำเข้าที่ได้รับ
ยกเว้นอากร 189,021,803 บาท มูลค่านำเข้าที่ได้รับลดหย่อนอากร 796,890 บาท  รวมมูลค่านำเข้าที่ได้
รับสิทธิพิเศษ 189,818,693 บาท  พม่า  มูลค่านำเข้าที่ได้รับยกเว้นอากร 23,534,372 บาท มูลค่านำเข้า
ที่ได้รับลดหย่อนอากร 1,814,505 บาท รวมมูลค่านำเข้าที่ได้รับสิทธิพิเศษ  25,348,877  บาท  และเวียด
นาม มูลค่านำเข้าที่ได้รับยกเว้นอากร 33,114,777 บาท  ไม่มีการนำเข้าที่ได้รับลดหย่อนอากร  รวมมูลค่า
นำเข้าที่ได้รับสิทธิพิเศษ 33,114,777 บาท

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย พลังงาน ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอหลัก
เกณฑ์และอัตราค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการและบุคลากรในระดับต่าง  ๆ   ของสำนักงาน
บริหารโครงการปฏิรูประบบการเงินเพื่อการอุดมศึกษา และให้ดำเนินการต่อไปได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการ
เบิกจ่ายเงินงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย
เงินงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ  และส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติ
ที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา  โดยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ  เกี่ยวกับข้อ
ปฏิบัติในการเบิกจ่ายเงินที่หน่วยงานต้องปฏิบัติในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ควรพิจารณานำบทอาศัย
อำนาจของมาตรา  21(2)  ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502  หรือมาตรา 11(8)  ของ
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534  และข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทยว่า ควร
ระบุหน่วยงานภายในจังหวัดเป็นเจ้าของงบประมาณซึ่งอาจเป็นหน่วยงานหลักหรือหน่วยงานรอง เพื่อให้
ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจจัดการในเรื่องทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากการจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการนั้นๆ และ
การกำหนดผู้มีอำนาจอนุมัติเงินยืมให้หน่วยงานรองหรือบุคคลต่างสังกัดควรกำหนดให้ชัดเจนเพื่อให้การ
ปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ไปพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของ
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)  ไตรมาสที่ 1  และไตรมาสที่ 2  ปี พ.ศ. 2548  โดยสรุปดังนี้  ผลการ
ดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 1 บสท. ได้รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ณ วันที่  31  มีนาคม  2548  จำนวน  
15,314 ราย มูลค่าทางบัญชีประมาณ 778,283 ล้านบาท ซึ่ง บสท. ได้บริหารจัดการสินทรัพย์ดังกล่าวจน
ได้ข้อยุติจำนวน  14,803  ราย มูลค่าทางบัญชีประมาณ  769,236  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกัน
ของปี พ.ศ. 2547  ประมาณ  25,172  ล้านบาท   ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 2  บสท.  ได้รับ
โอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ  ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548  จำนวน  15,302  ราย  มูลค่าทางบัญชีประมาณ
778,121  ล้านบาท  โดยได้บริหารจัดการสินทรัพย์ดังกล่าวจนได้ข้อยุติจำนวน  15,284  ราย  มูลค่าทาง
บัญชีประมาณ  772,418  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วประมาณ  19,097  ล้านบาท  และรับทราบ
รายงานกิจการงบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของ บสท. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 ประกอบด้วยสินทรัพย์
ประมาณ  269,998.44  ล้านบาท   ลดลงจาก ณ วันที่  31  ธันวาคม  2547  ประมาณ  3,743.32  ล้าน
บาท  หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น  และรายรับ  (รายจ่าย)  สุทธิรอปันส่วนไปยังสินทรัพย์รับโอนประมาณ
269,998.44 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 ประมาณ 3,743.32 ล้านบาท

              คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ อนุมัติการขยายกรอบวงเงินกู้ในประเทศเพื่อ
ลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549  จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้  50,000  ล้านบาท
เป็น 100,000 ล้านบาท และอนุมัติปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
ครั้งที่ 2  ประกอบด้วย  แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ จากวงเงิน 139,498.26
ล้านบาท เป็น 176,870.83 ล้านบาท  (การปรับเพิ่มแผนเงินกู้เพื่อลงทุน จากวงเงิน 39,343.05 ล้านบาท
เป็น  72,229.62  ล้านบาท   และการปรับเพิ่มแผนเงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและอื่น  ๆ   จากวงเงิน
32,355.33 ล้านบาท เป็น 36,841.33 ล้านบาท)  และแผนการบริหารหนี้ต่างประเทศของรัฐบาล จำนวน
2,311  ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือเทียบเท่า  90,601.83  ล้านบาท  รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินในประเทศของรัฐ
วิสาหกิจ  โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของ
การกู้เงิน   และหรือการค้ำประกันเงินกู้ภายใต้แผนที่ปรับปรุงในแต่ละครั้ง ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
กับให้กระทรวงการคลัง  โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ   ดำเนินธุรกรรมเพื่อการบริหารความเสี่ยงหนี้
ต่างประเทศของรัฐบาลตามที่เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้