ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 212 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 4221 - 4240 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 4221 | ความคืบหน้าการจัดทำแผนพัฒนาอนุภูมิภาคอันดามันที่ได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติ (กระบี่ พังงา และภูเก็ต) | กค | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง โดยคณะที่ปรึกษา รายงานความคืบหน้าการจัด
ทำแผนพัฒนาอนุภูมิภาคอันดามันที่ได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติ (จังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต) โดยจะ พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการวางแผนพัฒนาชายฝั่งทะเลอันดามัน (Andaman Coast Planning Committee- APCOM) เพื่อทำหน้าที่หลักในการประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานกลาง ระดับภูมิภาค และระดับท้อง ถิ่น เพื่อให้เกิดบูรณาการของแผนงานต่างๆ ภายใต้กรอบของแผนพัฒนาอนุภูมิภาคอันดามัน มีการกำกับให้ ดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ ลดความซ้ำซ้อนของงานและงบประมาณ รวมทั้งกำกับให้เกิดการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบที่บังคับใช้ในพื้นที่อย่างเคร่งครัด สำหรับการดำเนินงานในระยะต่อไปจะทำการศึกษาและจัดทำราย ละเอียดของแผน ฯ เชิงลึกเพิ่มเติม โดยเฉพาะในประเด็นการจัดการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องหากมีการปฏิบัติ ตามข้อเสนอแนะต่าง ๆ ภายในแผน ฯ เนื่องจากในปัจจุบันมีกรอบกฎหมายที่ปฏิบัติใช้อยู่แล้วจำนวนมาก ซึ่ง อาจต้องการการทบทวนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ หรือส่งเสริมให้มีความเข้มงวดในทางปฏิบัติมากขึ้น และ การวิเคราะห์เปรียบเทียบผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเพื่อนำเสนอประโยชน์และมูลค่าเพิ่มของการนำแผนฯ มา ปฏิบัติใช้ให้เกิดผลในระยะยาว และเมื่อแผนฯ แล้วเสร็จ กระทรวงการคลัง โดยคณะที่ปรึกษา จะทำความเข้าใจ ในสาระของแผน ฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะขอความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลภาพรวมการพัฒนาในภูมิภาคอันดามัน นำ แผน ฯ ไปประกอบการดำเนินงานของ สศช. พร้อมทั้งพิจารณาความเหมาะสมของการแต่งตั้งคณะกรรมการ วางแผนพัฒนาชายฝั่งอันดามัน (APCOM) ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ สศช. ไปใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4222 | แผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 2 (2549 - 2553) | กค | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 2
(2549-2553) ซึ่งแผนแม่บท ฯ มีสาระสำคัญเพื่อสร้างเสถียรภาพของตลาดทุน สนับสนุนความสามารถใน การแข่งขันและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยมีแนวทางหลักและมาตรการสำคัญภายใต้แต่ละแนวทาง ดังนี้ (1) ตลาดตราสารทุน : เน้นการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพทั้งทางอุปสงค์และอุปทาน (2) ตลาดตราสาร หนี้ : ขยายขนาดตลาดให้ทัดเทียมกับตลาดเงิน (3) ตราสารอนุพันธ์และนวัตกรรมอื่น ๆ : สร้างความรู้ ความเข้าใจและส่งเสริมให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการซื้อขายอนุพันธ์ และเริ่มนวัตกรรมทางการเงิน ใหม่ ๆ (4) สถาบันตัวกลาง : เน้นการสร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจตัวกลางภายใต้กลไกการแข่งขันอย่าง เสรี (5) บริษัทจดทะเบียน : สนับสนุนบริษัทจดทะเบียนให้ดำเนินการตามหลักบรรษัทภิบาล (6) ขยาย ความรู้ด้านตลาดทุน : ขยายความรู้ด้านตลาดทุนและความรู้ด้านการเงินแก่ผู้ลงทุนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และ (7) หน่วยงานกำกับดูแล : ทบทวนและปรับเปลี่ยนบทบาทหน่วยงานกำกับดูแล โดยมุ่งเน้นการกำกับ ดูแลพร้อมกับหน้าที่ในการพัฒนาควบคู่กันไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4223 | การชดเชยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) เฉพาะส่วนที่โอนไปบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย | กค | 27/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบความคืบหน้าและประมาณการความ
เสียหายจากการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ในช่วง 5 ปี ตั้ง แต่ปี พ.ศ. 2544-2548 และเห็นชอบแนวทางการชดเชยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารไทยธนาคาร ฯ เฉพาะส่วนที่โอนไปบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) โดยการจ่าย Yield Maintenance ชดเชยสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพเฉพาะส่วนที่โอนไป บสท. ให้แก่ธนาคารไทยธนาคาร ฯ ให้นำผลขาดทุนจากการโอนสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพที่โอนไป บสท. หักด้วยตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารไทยธนาคาร ฯ เป็นหนี้กองทุนเพื่อการฟื้น ฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือให้กองทุน ฯ ใช้เป็นฐานในการคำนวณ Yield Maintenance ต่อไป สำหรับการคำนวณ GainLoss Sharing สินทรัพย์ด้อยคุณภาพในส่วนที่โอนไป บสท. ให้ถือมูลค่า Recovery ตามตั๋วของ บสท. และให้ธนาคารไทยธนาคาร ฯ โอนสิทธิในการแบ่งผลกำไรจาก บสท. ให้กอง ทุน ฯ ในการนี้ ให้กระทรวงการคลังประสานและเร่งรัดการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติด ตามหนี้คงค้าง และควรพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาอาคารขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งร้างเนื่องจากการก่อสร้าง ไม่แล้วเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2546 เรื่อง การแก้ปัญหาอาคาร ที่ค้างการก่อสร้างซึ่งจะช่วยส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีขึ้นต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4224 | แนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในไตรมาสที่ 3 | กค | 27/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอ
เพิ่มเติมผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณและการคาดการณ์การเบิกจ่ายเงินปี 2549-2550 โดยภาพรวมของงบ ประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มีวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 1,360,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น รายจ่ายลงทุน จำนวน 379,506 ล้านบาท และรายจ่ายประจำ จำนวน 980,494 ล้านบาท และได้มีการเบิก จ่ายไปแล้ว (ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2549) ร้อยละ 47.21 คิดเป็นเงิน 179,149 ล้านบาท คงเหลือเงินที่ยังไม่ได้ เบิกจ่าย 200,357 ล้านบาท ได้ก่อหนี้ผูกพันไปแล้ว 135,634 ล้านบาท ยังไม่ก่อหนี้ผูกพัน 64,723 ล้านบาท ทั้งนี้ จากยอดที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกพันอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน 41,463 ล้านบาท และคาดว่าจะก่อหนี้ผูกพัน ได้ทันภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2549 จำนวน 50,490 ล้านบาท สำหรับแผนการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุน มีเป้า หมายการเบิกจ่ายคิดเป็นร้อยละ 73 (277,039 ล้านบาท) ของรายจ่ายลงทุนทั้งหมด (379,506 ล้านบาท) และที่เบิกจ่ายแล้วคิดเป็นร้อยละ 48 (179,149 ล้านบาท) ของเป้าหมาย และคาดว่าจะมีรายจ่ายลงทุนที่จะต้อง กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีหลัง 30 กันยายน 2549 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2551 คิดเป็นเงิน 102,467 ล้าน บาท และเห็นชอบให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติตามแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายจ่ายลงทุน กรณี ที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตาม ที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้รัฐมนตรีทุกท่านเร่งรัดการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการจัด จัดจ้าง เพื่อให้สามารถดำเนินการขอก่อหนี้ผูกพันให้เป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นการนำเม็ดเงินให้เข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจของประเทศได้โดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4225 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ | กค | 27/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของคณะ
กรรมการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ ดังนี้ กรณีบ้านเรือนได้รับความเสีย หาย จำแนกเป็น บ้านเสียหายทั้งหลังช่วยเหลือรายละ 10,000 บาท และบ้านเสียหายบางส่วนช่วยเหลือ รายละ 5,000 บาท รวมวงเงินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย รวม 3 จังหวัด (จังหวัด อุตรดิตถ์ สุโขทัย และแพร่) เป็นเงิน 26,970,000 บาท สำหรับกรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต มอบเงิน ช่วยเหลือรายละ 10,000 บาท ให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต จำนวน 83 ราย รวมเป็นเงิน 830,000 บาท รวมทั้ง เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย และแพร่ เพื่อเป็นเงินสำรองไว้ใช้ในการ ดำเนินการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย รวม 3 จังหวัด เป็นเงิน 1,600,000 บาท รวมเป็นเงินให้ความช่วยเหลือทั้งสิ้น 29,400,000 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4226 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนเมษายน 2549 | กค | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2549 โดยผลการเบิกจ่าย เงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำแนกตามลักษณะเศรษฐ กิจ (ประจำ/ลงทุน) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 728,804 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 53.59 ของวงเงินงบประมาณ (1,360,000 ล้านบาท) จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ 569,542 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.09 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (980,494 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน 159,262 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.97 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (379,506 ล้านบาท) ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เมื่อเปรียบเทียบกับแผนการใช้เงินในภาพรวมต่ำกว่าจำนวน 56,396 ล้าน บาท หรือร้อยละ 7.18 ของแผนการใช้จ่ายเงิน (785,200 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าจำนวน 81,565 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.87 ของแผนการใช้จ่ายเงินรายจ่ายลงทุน (240,827 ล้านบาท)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4227 | รายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (ไตรมาสที่ 1 ปี 2549) | กค | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง
ภาษีศุลกากร ประจำไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2549 ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2549 มีการนำเข้าสินค้าที่ ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม) โดยแยกเป็นรายประเทศได้ดังนี้ กัมพูชา ไม่มีมูลค่านำเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษ สปป.ลาว มูลค่านำเข้าที่ได้รับยก เว้นอากร จำนวน 110,902,086 บาท มูลค่านำเข้าที่ได้รับลดหย่อนอากร จำนวน 1,039,977 บาท รวม มูลค่านำเข้าที่ได้รับสิทธิพิเศษ 111,942,063 บาท พม่า มูลค่านำเข้าที่ได้รับยกเว้นอากร 11,252,254 บาท มูลค่านำเข้าที่ได้รับลดหย่อนอากร 799,500 บาท รวมมูลค่านำเข้าที่ได้รับสิทธิพิเศษ 12,051,745 บาท และเวียดนาม ไม่มีมูลค่านำเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4228 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. .... | กค | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วม งานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอก ชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน และผ่อน คลายความเข้มงวดในการควบคุมก่อนอนุมัติโครงการมาเป็นการควบคุมภายหลังอนุมัติโครงการ เพื่อให้เกิด ความคล่องตัว และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของ คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยใน ส่วนของประเด็นอภิปราย คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็นว่า ควรกำหนดหลักเกณฑ์ ขอบเขต และวิธีการใน การคำนวณวงเงินหรือทรัพย์สินของโครงการตามร่างมาตรา 4 ให้ชัดเจน รัดกุม และกำหนดความหมายของ คำว่า "ร่วมงานหรือการดำเนินการ" และองค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณาการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐตามร่างมาตรา 7 ให้ชัดเจน รวมทั้งกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ดังกล่าวตามร่างมาตรา 12 ให้มีอำนาจหน้าที่ในการตีความหรือวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้พระ ราชบัญญัตินี้ ส่วนการกำหนดให้มีสำนักงานบริหารจัดการการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจ การของรัฐตามร่างมาตรา 15 เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง นั้น ในระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจน ด้านปริมาณงานว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด ไม่ควรกำหนดให้มีสำนักงานดังกล่าวไว้ในพระราชบัญญัติ หรือถ้า จะกำหนดไว้ ก็ไม่ควรกำหนดอำนาจหน้าที่ของสำนักงานในพระราชบัญญัติ สำหรับอัตรากำลังให้กระทรวง การคลังพิจารณาเกลี่ยจากหน่วยงานในสังกัดก่อน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4229 | มาตรการลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อลดภาระค่าครองชีพและต้นทุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรผ่านระบบ ธ.ก.ส. | กค | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อลดภาระ
ค่าครองชีพและต้นทุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรผ่านระบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตร (ธ.ก.ส.) โดยลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ลงจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปีให้แก่เกษตรกรรายย่อยลูกค้า ธ.ก.ส. ทุกรายที่มีหนี้เงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4230 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2549 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 | กค | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
ประจำปี พ.ศ. 2549 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 โดยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2549 มีงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งปีรวมจำนวน 316,763.92 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 97.68 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งหมด ดังนี้ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีงบประมาณ จำนวน 11 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนได้ทั้งสิ้น 73,979.48 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.79 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้ เบิกจ่ายทั้งปี และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีปฏิทิน จำนวน 6 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนได้ทั้งสิ้น 34,825.19 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.97 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งปี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4231 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม) | กค | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เป็น
กรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย แทนนายชาติศิริ โสภณพนิช โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (20 มิถุนายน 2549) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4232 | รายงานผลความคืบหน้าการเบิกจ่ายของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Megaprojects) ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2549 (มกราคม - มีนาคม 2549) | กค | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลความคืบหน้าการเบิกจ่ายของโครงการ
ลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Megaprojects) ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2549 (มกราคม-มีนาคม 2549) มีแผนการเบิกจ่ายเงินลงทุนตามโครงการ 7 สาขาหลัก ประกอบด้วย สาขา Mass Transit คมนาคม ที่อยู่ อาศัย ทรัพยากรน้ำ การศึกษา สาธารณสุข และอื่นๆ รวม 65 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 289,927 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มีแผนการเบิกจ่ายเงินลงทุน 26,954 ล้านบาท มีโครงการที่เบิก จ่ายแล้วจำนวน 22 โครงการ เป็นเงิน 18,602 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 69 ของแผนการลงทุนไตรมาสที่ 2 และมีผลการเบิกจ่ายสะสมไตรมาสที่ 1 และ 2 เป็นเงิน 44,910 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 71 ของแผน การลงทุนในไตรมาสที่ 1 และ 2
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4233 | กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต | กค | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแนวทางการจัดหาเงินเพิ่มเติมให้กับกองทุน
เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) โดยโอนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 จากรายการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) บางส่วน ไปเป็นรายจ่ายรายการ กรอ. ตาม จำนวนที่จำเป็นโดยอาศัยวิธีการโอนงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มาตรา 28 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม ทั้งนี้ ให้กรมบัญชีกลางดำเนินการตามความเห็น ของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับงบประมาณ พ.ศ. 2549 ซึ่งสำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายให้ กยศ. จำนวน 25,108.924 ล้านบาท และได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังครบทั้งจำนวน แล้ว ดังนั้น หากเป็นนโยบายของรัฐบาลและมีความจำเป็นที่จะโอนงบประมาณจาก กยศ. ไปเพิ่มเติมให้ กรอ. กรมบัญชีกลางต้องเสนอขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยขอตัดโอนงบประมาณของ กยศ. ส่วนที่ยัง คงเหลือที่กรมบัญชีกลางมาจัดสรรให้ กรอ. ได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่กระทบกับการดำเนินงานปกติของ กยศ. และ ต้องไม่มีภาระผูกพันให้ต้องจัดสรรงบประมาณชดเชยให้ กยศ. ในปีต่อไป และให้กระทรวงศึกษาธิการ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการประชาสัมพันธ์ และชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนและการกู้ยืมเงินจาก กองทุนดังกล่าวให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจให้ถูกต้องโดยทั่วกันด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4234 | การปรับปรุงเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร กระทรวงกลาโหม และลูกจ้างประจำของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กค | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางการกำหนดเงินเพิ่มสำหรับ ตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ของข้าราชการทุกประเภทมีมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงการกำหนดเงินเพิ่มพิเศษให้แก่พนักงานและลูกจ้าง และ การกำหนดค่าตอบแทนอื่นนอกเหนือจากเงินเพิ่มพิเศษ แต่มีลักษณะเดียวกันกับเงินเพิ่มพิเศษตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 โดยให้รวมถึงค่าตอบแทนอื่นที่จ่ายจากเงินนอก งบประมาณด้วย โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา กับเห็นชอบการกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่ง ที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการทหาร กระทรวงกลาโหม และลูกจ้างประจำของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณากำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุ พิเศษของหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีการปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกัน เช่น ข้าราชการตำรวจ พร้อมไปในคราวเดียว กันด้วย ทั้งนี้ การกำหนดเงินเพิ่มดังกล่าวให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2549 และให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 (เรื่อง ขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร) เฉพาะในส่วนที่มอบหมายให้กระทรวง การคลังถือเป็นหลักปฏิบัติว่า การกำหนดเงินเพิ่มพิเศษ เงินเพิ่ม เงินนำจับ เงินสินบนนำจับ เงินที่เป็นรายได้ หรือค่าตอบแทนพิเศษหรือเงินในลักษณะดังกล่าวที่เรียกชื่ออย่างอื่นของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ที่กฎหมาย กำหนดให้เป็นอำนาจของกระทรวงการคลัง นั้น เมื่อกระทรวงการคลังได้พิจารณาเป็นประการใดแล้ว ให้นำ เรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4235 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2549 สำหรับงวดสิ้นสุด วันที่ 30 เมษายน 2549 | กค | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
ประจำปี พ.ศ. 2549 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2549 โดยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2549 มีงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งปีรวมจำนวน 313,776.42 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 96.77 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งหมด ดังนี้ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีงบประมาณ จำนวน 11 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนได้ทั้งสิ้น 70,390.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43.40 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้ เบิกจ่ายทั้งปี และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีปฏิทิน จำนวน 6 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนได้ทั้งสิ้น 20,549.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.56 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งปี โดยมีรัฐวิสาหกิจเพียง 2 แห่ง ที่เบิกจ่ายงบ ลงทุนได้สูงกว่าแผนที่รัฐวิสาหกิจกำหนดไว้ ในขณะที่รัฐวิสาหกิจที่เหลืออีก 15 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนได้ต่ำ กว่าแผนที่รัฐวิสาหกิจกำหนดไว้ และเห็นชอบให้กระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจเร่งรัดติดตามการเบิกจ่าย งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4236 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ปี 2549 | กค | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ปี 2549 ในส่วนของมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะ กิจได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออม สินธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อ การส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม ขนาดย่อม บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด และบรรษัท บริหารสินทรัพย์ไทย ส่วนมาตรการด้านภาษีและค่าธรรมเนียม ได้แก่ กรมสรรพากร และกรมสรรสามิต สำหรับมาตรการด้านอื่น ๆ ได้แก่ กรมธนารักษ์ และกรมบัญชีกลาง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4237 | การวิจัยเชิงสำรวจลำดับความสำคัญที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ลูกจ้างที่รับเงินเดือนในภาคเอกชน | กค | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการวิจัยเชิงสำรวจลำดับความ
สำคัญที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ที่รับเงินเดือนในภาคเอกชน โดยมหาวิทยา ลัยราชภัฏสวนดุสิต จากผลการสำรวจความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากที่สุด ร้อยละ 51.45 รายจ่ายสูงขึ้นเนื่องจากราคาสินค้าสูงขึ้น ภาระหนี้เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ร้อยละ 26.25 รายได้ไม่ เพียงพอเนื่องจากถูกลดสวัสดิการหรือค่าตอบแทน เปลี่ยนงานเพราะรายได้ลดลง และรายได้เท่าเดิมไม่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.70 ขาดโอกาสในการประกอบอาชีพเนื่องจากขาดโอกาสในการเปลี่ยนงานยากขึ้น ขอสินเชื้อเพื่อ ประกอบธุรกิจไม่ได้ และต้องการอาชีพเสริม และร้อยละ 6.55 ความเดือดร้อนอื่นๆ เนื่องจากราคาน้ำมันที่แพง ขึ้น รายรับเท่าเดิมแต่มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น และค่าครองชีพสูงขึ้น ส่วนสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือหรือดูแลให้ เป็นพิเศษ ร้อยละ 73.63 ลดค่าโดยสารขนส่งมวลชน ร้อยละ 73.00 เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 68.13 ลด ภาษีเพื่อบรรเทาครองชีพ ร้อยละ 66.75 จัดขายสินค้าราคาพิเศษ ร้อยละ 63.13 ไม่เพิ่มอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 61.88 หาแหล่งเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ และร้อยละ 58.63 ต้องการอาชีพเสริมอื่น ๆ เช่น ลดราคาน้ำมัน ควบคุมราคาสินค้า และเพิ่มเงินเดือน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4238 | รายงานความคืบหน้าในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 | กค | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าในการปฏิบัติตามระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 โดยคณะกรรมการว่าด้วยการ พัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ได้ผ่อนผันเป็นหลักการดังนี้ กรณีหน่วยงานที่ประกาศจัดซื้อจัด จ้างก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2549 และมีมูลค่าต่ำกว่า 500 ล้านบาท สามารถดำเนินการต่อไปตามข้อกำหนด เดิมที่ประกาศไว้ สำหรับวงเงินจัดหาที่มีมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป แม้มีการประกาศเชิญชวนไปแล้วหรือ ตรวจสอบคุณสมบัติและข้อเสนอทางเทคนิคแล้ว หากยังมิได้เริ่มต้นเสนอราคาในขั้นตอนต่อไป ให้ดำเนินการ ตามระเบียบฯ เท่าที่จะทำได้ ส่วนกรณีราคาของผู้เสนอราคารายที่คณะกรรมการประกวดราคาเห็นสมควรซื้อ และจ้างสูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ให้เรียกผู้เสนอราคารายนั้นมาต่อรองราคาให้ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ หากผู้ เสนอราคารายนั้นยอมลดราคาแล้วราคาที่เสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ไม่เกินร้อย ละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ให้เสนอซื้อหรือจ้างจากผู้เสนอราคารายนั้น หากดำเนินการแล้วไม่ได้ผล ให้ คณะกรรมการ ฯ เสนอความเห็นต่อหัวหน้าส่วนราชการเพื่อประกอบการใช้ดุลยพินิจว่า สมควรขอเงินเพิ่มเติม หรือยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการแข่งขันอย่างเป็นธรรมด้วย และกรณีเมื่อกระบวนการ เสนอราคาสิ้นสุดลง ระเบียบ ฯ ข้อ 10(4) กำหนดให้คณะกรรมการประกวดราคาพิจารณาแล้วรายงานให้หัว หน้าหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุพิจารณาภายในวันทำการถัดไป สำหรับการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้าง หากข้อเท็จจริงปรากฎว่า ต้องมีรายละเอียดประกอบการพิจารณา เช่น การประเมินราคา เป็นต้น ให้คณะ กรรมการ ฯ รวบรวมรายละเอียด และพิจารณาแจ้งรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุพิจารณาอีก ครั้งภายใน 5 วันทำการถัดไปนับจากวันที่ได้รายงานครั้งแรก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4239 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดสิทธิในการรับเงินประจำตำแหน่งทั้งประเภทผู้บริหารและประเภทวิชาการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา) | กค | 09/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลัก
เกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราช การ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดสิทธิในการได้รับเงินประจำตำแหน่งทั้งประเภทผู้ บริหาร และประเภทวิชาการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับพระราช บัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4240 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี ฯ กรมพระจักรพรรดิพงศ์ ในโอกาสที่วันประสูติครบ 150 ปี พ.ศ. .... | กค | 09/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของ
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี ฯ กรมพระจักรพรรดิ พงศ์ ในโอกาสที่วันประสูติครบ 150 ปี พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ จัดทำเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาว และสีทอง) ชนิดราคา 10 บาท ประเภทธรรมดาออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าบรม วงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมีฯ กรมพระจักรพรรดิพงศ์ ในโอกาสที่วันประสูติครบ 150 ปี ในวันที่ 13 มกราคม 2549 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับข้อสังเกตของสำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการระบุรายละเอียดของแบบเหรียญดังกล่าวโดยให้แก้ไขคำบรรยายใหม่เป็น "ด้านหน้ากลางเหรียญมีพระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี ฯ กรมพระจักรพรรดิพงศ์ทรง ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบผู้บังคับการทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทรงสายสะพาย และประดับดารา เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ และสายสร้อยจุลจอมเกล้า" ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
