ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 742 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 14821 - 14840 จากข้อมูลทั้งหมด 124278 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
14821 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา บ่อแสน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา บ่อแสน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา บ่อแสน ในท้องที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน โดยเรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำสำหรับกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นที่มิใช่การเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14822 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ก้อนเชื้อเพลิงขยะ (RDF) .. ทางออกของการกำจัดขยะชุมชน ของคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ก้อนเชื้อเพลิงขยะ (RDF) .. ทางออกของการกำจัดขยะชุมชน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ สรุปผลการดำเนินงานได้ เช่น กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวงในการควบคุมและออกแบบมาตรฐานการทำงานที่ดีแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการขยะมูลฝอย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างดำเนินการยกร่างประกาศกรมควบคุมมลพิษ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณลักษณะของเชื้อเพลิงขยะที่เหมาะสมสำหรับขยะมูลฝอยชุมชน เป็นต้น นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เช่น การจัดเก็บและค่าธรรมเนียมในการจัดการขยะมูลฝอยควรมีการศึกษาในเรื่องของการใช้เครื่องมือทางด้านเศรษฐศาสตร์มาพิจารณาความเหมาะสมในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการขยะมูลฝอย เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14823 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ในที่สาธารณะ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ในที่สาธารณะ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ในที่สาธารณะ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ในที่สาธารณะ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รวบรวมผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความเห็นสอดคล้องและได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการวิสามัญฯ ไปบ้างแล้ว ได้แก่ (๑) การดูแลสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งในที่สาธารณะ สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำหนดไว้ใน (ร่าง) แผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๓) โดยกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสถานที่พักพิงให้สัตว์ที่ตกเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว (๒) การปฏิรูปกฎหมาย เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้มีบทบัญญัติให้เจ้าของสัตว์มีหน้าที่ต้องขึ้นทะเบียนสัตว์ เป็นต้น และ (๓) การจัดการเชิงนโยบาย เช่น การจัดทำมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการของสถานสงเคราะห์สัตว์ที่จดทะเบียนตามกฎหมายให้เป็นรูปธรรม เป็นต้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14824 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่น นอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนกรกฎาคม 2561 ต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ ต่อคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ มีทั้งหมดจำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้วจำนวน ๑๖ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมดจำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำจำนวน ๓ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้วจำนวน ๑๓ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ มีทั้งหมดจำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้วจำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมดจำนวน ๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำจำนวน ๗ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้วจำนวน ๑ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลา แต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ มีทั้งหมดจำนวน ๓๗ ฉบับ ได้รับการรายงานผลแล้วจำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมดจำนวน ๘๐ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้วจำนวน ๓๔ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำจำนวน ๔๖ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย มีจำนวนทั้งสิ้น ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานผลครบถ้วนแล้วทั้งจำนวน ๓๐ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ มีทั้งหมดจำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานผลครบถ้วนแล้วทั้งจำนวน ๓๘ เรื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14825 | รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ ๑๙ (Thai Festival Tokyo 2018) ณ สวนสาธารณะโยโยหงิ โดยในงานดังกล่าวมีการออกร้านของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรสาธารณกุศล ผู้ประกอบการร้านอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าไทยต่าง ๆ รวมทั้งสิ้นประมาณ ๑๘๐ คูหา โดยการจัดงานในปีนี้มุ่งแสดงถึงความหลากหลายและมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับความเป็นไทยในแคมเปญ “New Shades of Thailand” ซึ่งได้ถ่ายทอดออกมาเป็นแนวคิดหลักของงาน ๔ ด้าน คือ “Food, Fun, Friendship, Future” รวมทั้งการจัดนิทรรศการพิเศษ “Thailand 4.0-The Future is Here” เพื่อให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแผนการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาด้านนวัตกรรมและการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค ทั้งนี้ การไปร่วมงานดังกล่าวนอกจากจะเป็นการแนะนำเมืองรองของไทยให้เป็นที่รู้จักแล้ว ยังทำให้เกิดการกระจายการเดินทางและรายได้จากการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองให้มากยิ่งขึ้น และเป็นการเปิดมุมมองแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นอีกด้วย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14826 | รายงานการเดินทางเยือนประเทศโมร็อกโกของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) | ศธ | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเดินทางเยือนประเทศโมร็อกโกของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) และคณะ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการแห่งชาติ การฝึกอบรมวิชาชีพ การอุดมศึกษา และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โมร็อกโก (H.E. Mr. Mohammed Gherass) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาและการวิจัย ไทย-โมร็อกโก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการอุดมศึกษาและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และใช้เป็นกรอบการดำเนินความร่วมมือเพื่อพัฒนาการศึกษาในภาพรวมของทั้งสองประเทศ ๒. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) ได้ประชุมหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการแห่งชาติ การฝึกอบรมวิชาชีพ การอุดมศึกษา และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โมร็อกโก (H.E. Mr. Mohammed Gherass) โดยได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลโมร็อกโกที่ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี ๒๕๓๗ เป็นต้นมา ปีละ ๑๕ ทุน และได้แจ้งว่ากระทรวงศึกษาธิการยินดีที่จะมอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้แก่โมร็อกโก จำนวน ๕ ทุน รวมทั้งได้แจ้งฝ่ายโมร็อกโกว่าฝ่ายไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการศึกษา (Joint Working Group Meeting on Education) ไทย-โมร็อกโก ครั้งที่ ๑ ในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๑ ๓. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) ได้เยี่ยมชมสถาบันโมฮัมเหม็ดที่ ๖ เพื่อการฝึกอบรมอิหม่าม และได้แจ้งให้ผู้อำนวยการสถาบันฯ ทราบว่า กระทรวงศึกษาธิการมีความสนใจในการเรียนการสอนและมีความประสงค์ที่จะส่งอิหม่ามเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้พบปะนักเรียนไทยในโมร็อกโกที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต และเมืองมาราเกซ ซึ่งนักศึกษาไทยในโมร็อกโกได้เสนอประเด็นต่าง ๆ ต่อกระทรวงศึกษาธิการเพื่อทราบและพิจารณา เช่น นักศึกษามีความประสงค์จะจัดตั้งสมาคมนักศึกษาไทยในโมร็อกโก และขอให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาช่วยจัดอบรมภาษาอารบิกให้แก่ผู้สมัครรับทุนก่อนการเดินทางมาศึกษาต่อในโมร็อกโก เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14827 | การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุคืนให้แก่ผู้ยกให้ ราย นายโสภณ หงษ์ทอง และนายสุทธิรัตน์ (สทรรป) หงษ์ทอง | กค | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุแปลงโฉนดเลขที่ ๑๒๙๘๖ เลขที่ดิน ๑๔๘ ตำบลสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่ประมาณ ๒-๐-๐๐ ไร่ คืนให้แก่ นายโสภณ หงส์ทอง และนายสุทธิรัตน์ (สทรรป) หงส์ทอง ผู้ยกให้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14828 | กรมประชาสัมพันธ์ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการบริหารกิจการโครงข่ายและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกระจายเสียงและโทรทัศน์ | นร | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๑ จำนวน ๑๑๓,๘๔๔,๖๐๐ บาท ให้กรมประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการบริหารกิจการโครงข่ายและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกระจายเสียงและโทรทัศน์ โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ลักษณะค่าสาธารณูปโภค ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14829 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | วท | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยที่รัฐให้ทุนสนับสนุน โดยกำหนดให้ผู้รับทุนเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นของผู้รับทุนเอง และส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคธุรกิจกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิจัย รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดระบบบริหารจัดการและใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย เช่น ควรให้ผู้รับทุนที่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่ามีศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยฯ ทำหนังสือตกลงกับหน่วยงานให้ทุนเป็นรายหน่วยงาน และควรกำหนดให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ภาครัฐ และเอกชนร่วมสนับสนุนงบประมาณในการทำวิจัยให้กับมหาวิทยาลัยตามความต้องการของเอกชนนั้น ๆ และในหมวดที่ ๕ มาตรา ๒๕ ซึ่งอ้างถึงมาตรา ๒๒ น่าจะมีความผิดพลาดในการอ้างถึงมาตรการดังกล่าว เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ๓. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์กลางในการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เหมาะสมเพื่อมิให้เกิดปัญหาข้อขัดแย้งในภายหน้า โดยออกเป็นประกาศเพื่อปฏิบัติการตามมาตรา ๑๑ ของร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... และควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้แก่ การเร่งปรับปรุงระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อรองรับปริมาณการจดทะเบียนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น รวมทั้งการจัดทำระบบบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาที่เชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานทรัพย์สินทางปัญญาระดับประเทศกับหน่วยบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยีของสถาบันวิจัยและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน นอกจากนี้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนำร่างพระราชบัญญัติฉบับที่เสนอคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ไปรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง และให้นำเอกสารและหลักฐานการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณา ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14830 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมของคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบันที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ พ.ศ. .... | ทส | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเบี้ยประชุมของคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบันที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเบี้ยประชุมของคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบันที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการเป็นการเฉพาะ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ควรกำหนดให้ครอบคลุมหลักเกณฑ์การได้รับสิทธิ เงื่อนไขการจ่าย วิธีการจ่าย อัตราการจ่าย ตลอดจนหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เหมาะสม และสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง และควรกำหนดบทนิยาม “คณะกรรมการผู้ชำนาญการ” ให้ชัดเจน รวมทั้งควรกำหนดเบี้ยประชุมที่เหมาะสมสำหรับกรรมการซึ่งเป็นผู้ชำนาญการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งจากบุคคลภายนอก ส่วนฝ่ายเลขานุการ ควรกำหนดให้ได้รับเบี้ยประชุมตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานกับกระทรวงการคลังพิจารณาความเหมาะสมของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจ่ายค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบันซึ่งมีความเชี่ยวชาญที่มาช่วยปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการมอบหมาย นอกจากนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้อ้างบทอาศัยอำนาจ “มาตรา ๕๑/๗ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑” ซึ่งน่าจะไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง จึงควรแก้ไขการอ้างบทอาศัยอำนาจเป็น “มาตรา ๕๑/๗ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑” และควรกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนโดยคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็นของโครงการเป็นสำคัญ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14831 | ร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. .... และร่างกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 6 ฉบับ | นร09 | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ รวม ๖ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดการเลือกตั้ง การได้มาซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง รวมทั้งกำหนดวิธีการดำเนินการตรวจสอบการเลือกตั้งเพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสามารถดำเนินการตรวจสอบการเลือกตั้งได้ในเชิงรุก และปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นดังกล่าว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติในข้อ ๑.๑ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ และที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติในข้อ ๑.๒ ถึงข้อ ๑.๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฯ ทั้ง ๖ ฉบับ โดยคำนึงถึงการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามนัยมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กรณีตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคต รวมถึงความคุ้มค่า ต้นทุน และประโยชน์ของภาครัฐและประชาชนที่จะได้รับ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14832 | ร่างพระราชบัญญัติเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... | นร04 | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาเสนอไปตรวจพิจารณา โดยให้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีซึ่งให้รับฟังและนำความเห็นจากภายนอกมาพิจารณาด้วย เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และให้รับความเห็นของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เช่น การนำหลักการของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไปกำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ประเด็นความสอดคล้องและการมีส่วนร่วมของหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง และประเด็นการสนับสนุนให้มีการพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษาที่สามารถนำไปใช้ได้ในทุกพื้นที่ การกำหนดให้มีตัวชี้วัด ระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานและสมรรถนะ และการปรับระบบการบริหารงานภายในที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการบริหารเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาต้องมีการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ (เรื่อง การขอจัดตั้งหน่วยงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ) รวมทั้งมีบทบัญญัติที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อนเสนอกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้พิจารณาความเชื่อมโยงเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษากับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาเร่งรัดดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติ (Checklist) และนำรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไปเปิดเผยต่อประชาชน รวมทั้งจัดทำแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว แล้วส่งผลการดำเนินการไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน ก.พ. และสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14833 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ | นร09 | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ จากวงเงินเดิม ๑๐๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๑๐๘,๓๘๒,๐๐๐ บาท สำหรับวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น จำนวน ๕,๓๘๒,๐๐๐ บาท เห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป และเนื่องจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าวมีระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดได้อนุมัติไว้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องเสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๗ (๒) รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมาตรา ๓๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของราชการเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14834 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสุรีพร ศิริขันตยกุล) | กค | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสุรีพร ศิริขันตยกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบบัญชี (นักบัญชีทรงคุณวุฒิ) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14835 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยปรับปรุงโครงสร้าง หน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และคณะกรรมการลุ่มน้ำ และกำหนดให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการลุ่มน้ำ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติให้ครอบคลุมถึงการป้องกันสาธารณภัย และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดโครงสร้าง หน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและคณะกรรมการลุ่มน้ำควรสอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14836 | ท่าทีไทยสำหรับการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ 7 | พณ | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ ๗ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๕-๖ กันยายน ๒๕๖๑ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการหารือการส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนและแนวทางจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกันหรือเอื้อประโยชน์ต่อกัน ได้แก่ (๑) แนวทางผลักดันให้มูลค่าการค้าไทย-สปป.ลาว บรรลุ ๑๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๔ (๒) แนวทางการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน (๓) แนวทางการเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษของทั้งสองประเทศ (๔) ความร่วมมือในการสร้างความเชื่อมโยงเส้นทางและการขนส่งระหว่างสองประเทศและในภูมิภาค (๕) แนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร (๖) ความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (๗) แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนพบปะหารือ จัดกิจกรรมร่วมกัน และเจรจาจับคู่ธุรกิจ และ (๘) ความร่วมมือด้านอื่น ๆ เช่น ความร่วมมือด้านการเงินการธนาคาร ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาคและในภูมิภาค และความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น ๑.๒ หากในการประชุมแผนความร่วมมือฯ มีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากประเด็นในท่าทีของไทยอันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าสองฝ่ายระหว่างไทยกับ สปป.ลาว โดยไม่มีการจัดทำเป็นความตกลงหรือหนังสือสัญญาขึ้นมา ให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมแผนความร่วมมือฯ สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๑.๓ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองผลการประชุมแผนความร่วมมือฯ รวมถึงเอกสารอื่น ๆ ที่เป็นผลจากการหารือขยายความร่วมมือเฉพาะด้าน (หากมี) ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดหลักการการเจรจาที่ได้รับผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน โดยใช้หลักการต่างตอบแทน และอาจจะหยิบยกประเด็นการลงทุนหรือการให้ความช่วยเหลือของไทยในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เช่น การลงทุนหรือให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ มาใช้ในการหารือเพื่อให้ไทยได้รับประโยชน์จากการประชุมแผนความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ ตามนัยข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14837 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี 2560/61 | กษ | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี ๒๕๖๐/๖๑ จำนวน ๓ โครงการ ได้แก่ (๑) โครงการปลูกพืชปุ๋ยสด ฤดูนาปรัง ปี ๒๕๖๑ (๒) โครงการขยายการปลูกพืชปุ๋ยสด ฤดูนาปรัง ปี ๒๕๖๑ และ (๓) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชอาหารสัตว์ ฤดูนาปรัง ปี ๒๕๖๑ จากสิ้นสุดเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ เป็นสิ้นสุดในวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดติดตามให้การจ่ายเงินอุดหนุนเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาเร่งรัดการจ่ายเงินให้เกษตรกรโดยเร่งด่วน และเร่งรัดดำเนินโครงการในส่วนที่เหลือและกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า ประหยัด และทันต่อสถานการณ์ โดยพิจารณาเป้าหมายและประโยชน์ที่ได้รับตามที่กำหนดอย่างรอบคอบ รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน ตลอดจนประเมินผลการดำเนินการโครงการและรายงานให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวและคณะรัฐมนตรีทราบ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ในการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในระยะต่อไป ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำผลการประเมินการดำเนินโครงการที่ผ่านมาเพื่อประกอบการปรับปรุงโครงการและกำหนดเงื่อนไขของโครงการให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายของโครงการอย่างแท้จริงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14838 | การใช้เงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การใช้เงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามความในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้แก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อให้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ดำเนินโครงการพัฒนาฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง จำนวน ๓๑.๑ ล้านบาท ๑.๒ การใช้เงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามความในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้แก่มูลนิธิเพื่อพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อดำเนินโครงการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน (Institute for Financial Innovation and Technology : InFinIT) จำนวน ๖๕๐ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งข้อสังเกตของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรให้มีการติดตามและประเมินผลก่อนจะขอรับเงินสนับสนุนในแต่ละงวด เพื่อแสดงถึงความพร้อมและศักยภาพในการใช้จ่ายเพื่อดำเนินโครงการฯ อย่างเหมาะสม และควรกำหนดบทบาทหน้าที่ให้มีความชัดเจนเพื่อลดความซ้ำซ้อนกับกลไกที่มีอยู่เดิม รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการและประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน (Financial Technology : FinTech) และสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ให้สถาบันการเงินอื่นที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการฯ มีส่วนร่วมในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในระยะต่อไปด้วย นอกจากนี้ ควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สอดคล้องกับการเริ่มดำเนินโครงการฯ รวมทั้งให้กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานโครงการฯ เป็นระยะ ๆ เพื่อให้การบริหารจัดการของสถาบัน InFinIT บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14839 | การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 7/2561 | นร04 | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ ๗/๒๕๖๑ และตรวจราชการ ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๑ (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) และพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๑ (พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก สุโขทัย และอุตรดิตถ์) โดยนายกรัฐมนตรีตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14840 | การแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางสาวจารุวรรณ เฮงตระกูล) | นร09 | 04/09/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวจารุวรรณ เฮงตระกูล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
.....