ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 708 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 14141 - 14160 จากข้อมูลทั้งหมด 124222 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
14141 | ขอความเห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยให้กรุงเทพมหานคร | คค | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร) รายงานว่า การจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) จะส่งผลให้การบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดเส้นทางมีประสิทธิภาพ และประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเดินรถแบบต่อเนื่อง (Through Operation) อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วเห็นควรให้ รฟม. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินโครงการอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เนื่องจาก (๑) ปัจจุบัน รฟม. รับผิดชอบดำเนินโครงการอาคารจอดแล้วจรของโครงการรถไฟฟ้าอื่น ๆ อยู่แล้วหลายอาคาร ดังนั้น การให้ รฟม. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบบริหารจัดการอาคารจอดแล้วจรของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะทำให้การให้บริการที่จอดรถเป็นไปในมาตรฐานเดียวกันและประชาชนจะได้รับความสะดวกในการใช้บริการ และ (๒) กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินโครงการพัฒนาที่ดินของ รฟม. ที่ได้จากการเวนคืนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยบริเวณแนวเส้นทางรถไฟฟ้า โดย รฟม. มีแผนจะดำเนินโครงการนำร่องในการใช้พื้นที่บริเวณอาคารจอดแล้วจรของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาการนำโครงการที่ดินที่ได้จากการเวนคืนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อพิจารณาอนุมัติการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว ๒. เห็นชอบให้ รฟม. ดำเนินการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเชียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (ไม่รวมอาคารจอดแล้วจร) ตามพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๗๕ (๕) ซึ่งใช้ข้อมูลทางการเงินของโครงการฯ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ และข้อมูลประมาณการทางการเงิน ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๒ เป็นข้อมูลอ้างอิง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้กระทรวงมหาดไทย โดย กทม. รับโอนกรรมสิทธิ์และการบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ของ รฟม. ต่อไป ๓. รับทราบร่างบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจำหน่ายทรัพย์สินและโอนภาระทางการเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ของ รฟม. ให้ กทม. ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๔. ให้กระทรวงคมนาคม และ กทม. บูรณาการการเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าต่าง ๆ รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าแรกเข้าและอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรม และไม่ก่อให้เกิดภาระต่อประชาชนผู้ใช้บริการมากเกินไป และให้เร่งรัดดำเนินการเรื่องระบบตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้ กทม. พิจารณากำหนดอัตราค่าแรกเข้าและการใช้ระบบตั๋วร่วมให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ตามความเห็นของกระทรวงการคลังด้วย ๕. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม (๑) เร่งกำหนดมาตรฐานในการให้บริการระบบขนส่งทางราง ทั้งในด้านความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก และด้านอื่น ๆ รวมทั้งพิจารณาแนวทางการบูรณาการการให้บริการระบบขนส่งทางรางร่วมกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งเอกชนคู่สัญญาที่ให้บริการขนส่งสาธารณะต่อไป (๒) รับไปหารือร่วมกับ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติโดยเร็วเกี่ยวกับผู้รับผิดชอบการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงคูคต-วงแหวนตะวันออก (ลำลูกกา) และช่วงสมุทรปราการ-บางปู และ (๓) เร่งเสนอโครงการพัฒนาที่ดินของ รฟม. ที่ได้จากการเวนคืนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่บริเวณอาคารจอดแล้วจรของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ต่อคณะกรรมการพิจารณาการนำที่ดินที่ได้จากการเวนคืนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อพิจารณาโดยเร็วต่อไป ๖. ให้ กทม.พิจารณาดำเนินการ (๑) บริหารจัดการเงินรายได้และตั้งงบประมาณของ กทม. ให้เพียงพอต่อการชำระหนี้ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด รวมทั้งพิจารณากำหนดค่าโดยสารให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับค่าครองชีพของผู้ใช้บริการด้วย และ (๒) บริหารจัดการสัญญาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้มีระยะสิ้นสุดพร้อมกันทุกช่วง เพื่อให้ กทม. สามารถเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมแข่งขันประมูลการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ทั้งสาย อันจะเป็นการจูงใจให้มีเอกชนรายใหม่เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14142 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สิน และหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ | มท | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สิน และหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควร (๑) ให้กรุงเทพมหานครดำเนินการตามภาระผูกพันที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยได้ตกลงไว้กับหน่วยงานหรือบุคคลอื่นในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมทั้งภาระผูกพันอื่น ๆ ที่อาจมีขึ้นเพิ่มเติมในอนาคตอย่างเคร่งครัด และให้กรุงเทพมหานครพิจารณาดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับค่าแรกเข้าระบบและระบบตั๋วร่วมด้วย (๒) ให้กระทรวงการคลังบรรจุวงเงินกู้ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ต่อไป (๓) ให้กรุงเทพมหานครเร่งเสนอเรื่องการขยายกรอบวงเงินตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครฯ ให้สอดคล้องกับภาระทางการเงินที่ได้ตกลงกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยปัจจุบัน และ (๔) ให้กรุงเทพมหานครเร่งเสนอรูปแบบการลงทุนและบริหารจัดการเดินรถตามขั้นตอนพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14143 | ขออนุมัติการจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 2 ระยะที่ 1 | พม | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14144 | ผลการประชุมสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลก ครั้งที่ 6 และการจัดกิจกรรมวันดินโลก ปี 2561 | กษ | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลก (Global Soil Partnership Plenary Assembly : GSP PA) ครั้งที่ ๖ การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยดินแห่งภูมิภาคเอเชีย (Center of Excellence for Soil Research in Asia : CESRA) และรางวัลวันดินโลก (World Soil Day Award) โดยผลการประชุม GSP PA และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้นเมื่อ ๑๑-๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ที่ประชุม GSP PA เห็นชอบการจัดตั้งรางวัลวันดินโลก โดยจะมอบรางวัลดังกล่าวผ่านการจัดกิจกรรมเนื่องในวันดินโลก ๕ ธันวาคมของทุกปี โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization : FAO) ซึ่งรางวัลวันดินโลกดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และกระตุ้นให้ทั่วโลกมีกิจกรรมด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงอาหารและการขจัดความอดอยากหิวโหยตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การรสหประชาชาติ รวมทั้งเห็นชอบการริเริ่มการจัดตั้งศูนย์ CESRA ในประเทศไทย โดยกรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว โดยศูนย์ CESRA จะเป็นศูนย์กลางข้อมูล การวิจัย และนวัตกรรมด้านทรัพยากรดินของภูมิภาคเอเชีย เพื่อนำไปสู่การบรรลุผลสำเร็จตามกฎบัตรดินโลกที่กำหนดโดย FAO สำหรับการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การหารือกับผู้อำนวยการใหญ่ FAO เกี่ยวกับการคัดเลือกการมอบรางวัลวันดินโลกและจัดทำหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานของสหประชาชาติ และการหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรดินและน้ำของ FAO เพื่อหาแนวทางการจัดทำโครงการประเมินความเสื่อมโทรมของดินและการขยายผลการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงบประมาณที่เห็นว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อาจใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อประชาคมโลกในวันดินโลก ๕ ธันวาคมของทุกปี ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดตั้งศูนย์ CESRA และรางวัลวันดินโลก เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมพัฒนาที่ดิน) ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ตั้งรองรับไว้ในโอกาสแรก หากไม่เพียงพอให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามนัยมาตรา ๒๕ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14145 | การพิจารณาเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามเข้ามาทำงานตาม MOU เพิ่มเติม | รง | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้ปรับปรุงบันทึกข้อตกลงด้านการจ้างงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ลงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามเข้ามาทำงานตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเพิ่มเติม โดยให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามที่นำเข้าตามร่างบันทึกความเข้าใจฯ สามารถทำงานรับใช้ในบ้านและงานกรรมกรในทุกประเภทกิจการได้เช่นเดียวกับแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้กระทรวงแรงงานดำเนินการเจรจากับเวียดนามเกี่ยวกับประเภทกิจการที่จะเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามเข้ามาทำงานเพิ่มเติมให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ โอกาสในการประกอบอาชีพและวิชาชีพของคนไทย รวมถึงความต้องการแรงงานต่างด้าวที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ แล้วนำเสนอบันทึกข้อตกลงที่ปรับปรุงแล้วต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น ควรให้มีการตรวจคัดกรองสุขภาพแรงงานต่างด้าวตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว และควรมีการหารือร่วมกันกับเวียดนามในการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันการเก็บค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการจากบริษัทจัดหางานที่สูงเกินไป เพื่อป้องกันกรณีที่แรงงานอาจจะไม่เข้าสู่ระบบการจ้างงานตามบันทึกความเข้าใจฯ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14146 | ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยอัตราค่าบริการจอดรถยนต์และวิธีการจัดเก็บค่าบริการจอดรถยนต์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ พ.ศ. .... | คค | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยอัตราค่าบริการจอดรถยนต์และวิธีการจัดเก็บค่าบริการจอดรถยนต์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าบริการจอดรถยนต์และวิธีการจัดเก็บค่าบริการจอดรถยนต์ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยกำหนดอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเริ่มต้นที่ ๑๐ บาทต่อ ๒ ชั่วโมง สำหรับผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า เริ่มต้นที่ ๒๐ บาทต่อชั่วโมง อัตราค่าบริการจอดรถยนต์รายเดือนเริ่มต้นที่ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน และอัตราค่าบริการจอดรถจักรยานยนต์ เริ่มต้นที่ ๑๐ บาทต่อ ๔ ชั่วโมง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14147 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 3/2561 | กค | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑ ประกอบด้วย (๑) การปรับปรุงแนวทางการกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการของพนักงานรัฐวิสาหกิจตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐ (๒) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของรัฐวิสาหกิจ และ (๓) การแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ๖ แห่ง ได้แก่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในคราวประชุมดังกล่าวต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14148 | ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารร่วม และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารร่วม ระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน พ.ศ. .... | คค | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารร่วม และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารร่วม ระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารร่วม และกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารร่วม ระหว่างรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการเรื่องระบบตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ถูกต้องครบถ้วนเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างข้อบังคับดังกล่าว และประโยชน์ของกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับในโอกาสแรกด้วย และควรเสนอร่างข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการปรับอัตราค่าโดยสารของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในคราวเดียวกัน เพื่อให้สามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ประชาชนทราบก่อนวันใช้บังคับไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน นอกจากนี้ ควรจัดทำประมาณการภาระทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วมระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14149 | ร่างปฏิญญาที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 24 ณ เมืองคาโตวีเซ สาธารณรัฐโปแลนด์ | ทส | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๔ ณ เมืองคาโตวีเซ สาธารณรัฐโปแลนด์ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. ให้รับรองร่างปฏิญญาซิเลเซียว่าด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม (Solidarity and Just Transition Silesia Declaration) สำหรับการประชุมระดับผู้นำ โดยมอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานกระทรวงการต่างประเทศทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงคณะผู้แทนถาวรโปแลนด์ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เพื่อแจ้งชื่อนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ไว้ในรายชื่อผู้สนับสนุน (List of supporters) ของร่างปฏิญญาฯ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งการรับรองร่างปฏิญญาคาโตวีเซระดับรัฐมนตรีว่าด้วยป่าไม้เพื่อสภาพภูมิอากาศ (The Ministerial Katowice Declaration on Forests for the Climate) สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรี ไปยังสาธารณรัฐโปแลนด์ผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิสก์ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14150 | ขออนุมัติกรอบการหารือสำหรับการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 25 | ทส | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติกรอบการหารือสำหรับการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒๕ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖-๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ จังหวัด Ha Long สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยกรอบการหารือฯ มีสาระสำคัญที่เกี่ยวกับการดำเนินงานและความร่วมมือของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ภายใต้พันธกรณีของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. ๒๕๓๘ ในประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ (๑) แผนปฏิบัติการประจำปี ๒๕๖๒ (ค.ศ. ๒๐๑๙) ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (๒) การเพิ่มพูนความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจา (จีน-เมียนมา) หุ้นส่วนการพัฒนาและความร่วมมือในภูมิภาค (๓) การดำเนินงานตามระเบียบปฏิบัติด้านการใช้น้ำและการปรึกษาหารือล่วงหน้ากรณีโครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากลายของ สปป.ลาว และ (๔) การคัดเลือกหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง วาระปี ๒๕๖๒-๒๕๖๔ ๑.๒ เห็นชอบให้คณะผู้แทนไทยหารือกับประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงตามประเด็นในกรอบการหารือฯ เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานและความร่วมมือเป็นไปตามพันธกรณีของความตกลงฯ ๒. ในการเจรจาหารือในกรอบการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง และการประชุมต่าง ๆ เกี่ยวกับความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขงในทุก ๆ ครั้ง ให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดหลักการ ๓ ข้อ ได้แก่ ๒.๑ หลักการได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียมกันของประเทศสมาชิก ๒.๒ หลักการได้รับความเห็นชอบร่วมกันของประเทศสมาชิก โดยควรต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาด้วย ๒.๓ ในส่วนของการเจรจาซื้อขายไฟฟ้าของไทยกับประเทศคู่เจรจาใด ๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจำเป็น เหมาะสม ตามความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของไทย โดยคำนึงถึงสัดส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้าในประเทศและจากต่างประเทศ รวมทั้งความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศในภาพรวมเป็นสำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14151 | ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีต่อร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ (TOR) รัฐมนตรีแรงงานอาเซียน (ALMM) | รง | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ (TOR) รัฐมนตรีแรงงานอาเซียน (ALMM) ที่จะมีการรับรองในที่ประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ ๒๕ (The 25th ASEAN Labour Minister Meeting : ALMM) ในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยร่างขอบเขตฯ มีสาระสำคัญเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่ส่งเสริมการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน (ALMM) ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่างรับรองขอบเขตฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างขอบเขตฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14152 | ขอความเห็นชอบร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ | วท | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรี (Ministerial Declaration) สำหรับการประชุมว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ มีสาระสำคัญ ได้แก่ (๑) การตระหนักถึงบทบาทของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน (๒) การตระหนักถึงบทบาทของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ที่จะช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติและการสร้างความร่วมมือระหว่าง IAEA และรัฐสมาชิกเพื่อผลักดันการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง (๓) การส่งเสริมบทบาทสตรีในด้านวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ และการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมระหว่างสตรีและบุรุษในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ (๔) การตระหนักถึงความสำคัญของกระบวนการวิจัยและพัฒนา และการส่งเสริมการศึกษาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ และ (๕) การสนับสนุนความร่วมมือระหว่างรัฐสมาชิกและภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อผลักดันการดำเนินการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้ก้าวหน้าต่อไป ๑.๒ ให้อุปทูตรักษาราชการ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา หรือผู้แทน ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ ในช่วงระหว่างการประชุม Ministerial Conference on Nuclear Science and Technology ตั้งแต่วันที่ ๒๘-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ๑.๓ ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้ โดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14153 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เพิ่มเติม | นร07 | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กรมการปกครองก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เพิ่มเติม จำนวน ๑ รายการ ในแผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน โครงการสนับสนุนการบูรณาการงานในพื้นที่เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการ งบลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รายการค่าก่อสร้างอาคารที่พักผู้เดินทางและอเนกประสงค์ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร จำนวน ๑ แห่ง วงเงิน ๑๔๓.๖ ล้านบาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓ ประกอบด้วย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๒๘.๗ ล้านบาท ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๑๑๔.๙ ล้านบาท เงินสำรองจ่ายเผื่อเหลือเผื่อขาด จำนวน ๗.๒ ล้านบาท รวมวงเงินภาระผูกพัน ๑๕๐.๘ ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รัยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14154 | การแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นายโกมล จิรชัยสุทธิกุล) | นร09 | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายโกมล จิรชัยสุทธิกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาราชการแทนในตำแหน่งดังกล่าว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14155 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 5 ราย 1. นายสมหมาย เตชวาล ฯลฯ) | ทส | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายสมหมาย เตชวาล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ๒. นายอรรถพล เจริญชันษา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ ๓. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายโสภณ ทองดี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14156 | แต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (นายอนันต์ สุวรรณรัตน์) | กษ | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร แทน นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกษียณอายุราชการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14157 | ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ (จำนวน 3 ราย 1.หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ฯลฯ) | นร04 | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งหนึ่งปี ในวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๑ จำนวน ๓ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) ๒. นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์) ๓. พลเอก ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี [อยู่ในบังคับบัญชารองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ)]
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14158 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางพัชรี อาระยะกุล และนางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์) | พม | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. นางพัชรี อาระยะกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14159 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายขจิต สุขุม และนายภูเวียง ประคำมินทร์) | ดศ | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้
๑. นายขจิต สุขุม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายภูเวียง ประคำมินทร์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14160 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561) | นร | 26/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันพุธที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
.....